เขตเชงเกน หรือ พื้นที่เชงเกน (อังกฤษ: Schengen Area) เป็นพื้นที่ที่ประกอบด้วย 29 รัฐในทวีปยุโรปซึ่งตกลงร่วมกันอย่างเป็นทางการเพื่อยกเลิกการใช้หนังสือเดินทางและการควบคุมบริเวณพรมแดนทุกประเภท โดยมีนโยบายการตรวจลงตรา (วีซ่า) ร่วมกันสำหรับการเดินทางระหว่างรัฐภาคี ตั้งชื่อตามความตกลงเชงเกนเมื่อปี 1985 ที่ลงนามที่เมืองเชงเกน ประเทศลักเซมเบิร์ก

เขตเชงเกน
The Schengen Area
แผนที่ทวีปยุโรป
  รัฐสมาชิก
  รัฐสมาชิก (เฉพาะทางอากาศและทางทะเล)
  รัฐที่เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่โดยพฤตินัย
   รัฐที่มีสิทธิเข้าร่วมพื้นที่นี้ในอนาคต
มาตรการของ สหภาพยุโรป
ประเภทOpen borders area
ก่อตั้ง26 มีนาคม 1995
สมาชิก
พื้นที่4,595,131 km2
ประชากร453,324,255
ความหนาแน่น98.7/km2
GDP (ราคาตลาด)US$19 ล้านล้าน[1]

จากรัฐสมาชิกสหภาพยุโรป 29 รัฐ ยี่สิบเจ็ดรัฐเข้าร่วมเป็นภาคีของเขตเชงเกน โดยบัลแกเรียและโรมาเนียเข้าร่วมเฉพาะทางอากาศและทางทะเล ในส่วนของ 2 รัฐสมาชิกสหภาพยุโรปที่ยังไม่ได้เข้าร่วม ไซปรัสมีสิทธิและประสงค์ที่จะเข้าร่วมพื้นที่นี้ในอนาคต แต่อีกหนึ่งรัฐที่เหลือ คือ ไอร์แลนด์ เลือกที่จะไม่เข้าร่วมเขตเชงเกน (opt-outs)

ในขณะเดียวกัน สี่ประเทศสมาชิกสมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) (ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์) ที่แม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป แต่ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อเป็นภาคีสมาชิกเขตฯ นอกจากนี้ รัฐขนาดเล็กในยุโรปอีกสามรัฐที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (โมนาโก ซานมาริโน และนครวาติกัน) แต่ถูกล้อมรอบหรือกึ่งล้อมรอบโดยประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปก็จัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่เชงเกนโดยพฤตินัย

เขตเชงเกนมีประชากรราว 450 ล้านคน ครบคลุมพื้นที่ 4,595,131 ตารางกิโลเมตร (1,774,190 ตารางไมล์)[2] ประชาชนประมาณ 1.7 ล้านคน เดินทางข้ามพรมแดนภายในของยุโรปในแต่ละวันเพื่อไปทำงาน บางแห่งนับเป็นหนึ่งในสามของจำนวนแรงงานทั้งหมดในพื้นที่นั้น ๆ ในแต่ละปีมีการข้ามพรมแดนเชงเกนทั้งหมด 1.3 พันล้านครั้ง โดยการข้ามพรมแดน 57 ล้านครั้งเกิดจากการขนส่งสินค้าทางถนน ที่มีมูลค่าปีละกว่า 2.8 ล้านล้านยูโร[3][4][5]

อ้างอิง

แก้
  1. "IMF World Economic Outlook (WEO), April 2016 - knoema.com". Knoema.
  2. The Schengen Area (PDF). European Commission. 12 December 2008. doi:10.2758/45874. ISBN 978-92-79-15835-3. สืบค้นเมื่อ 13 April 2013.
  3. European Parliamentary Research Service (March 2016). "The economic impact of suspending Schengen" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2017-06-15.
  4. European Council on Foreign Relations (2016). "The Future of Schengen". สืบค้นเมื่อ 2017-06-15.
  5. "Schengen's economic impact: Putting up barriers". The Economist. 2016-02-06. สืบค้นเมื่อ 2017-06-15.