ตำรารักทะลุจอ (อังกฤษ: 3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy, 3D Sex and Zen, จีนตัวย่อ: 3D肉蒲团之极乐宝鉴; จีนตัวเต็ม: 3D肉蒲團之極樂寶鑑; พินอิน: Sān D Ròupútuán zhi Jílè Bǎojiàn) เป็นภาพยนตร์สัญชาติฮ่องกงในแนวอีโรติกในรูปแบบภาพยนตร์สามมิติ เข้าฉายในกลางปี พ.ศ. 2554

ตำรารักทะลุจอ
กำกับคริสโตเฟอร์ ซุน
เขียนบทหลียู่
อำนวยการสร้างสตีเฟ่น ชิว
นักแสดงนำฮิโร ฮายามา
หลัน เหยียน
ซาโอริ ฮะระ
ชูโอะ ยูกิโกะ
วอนนี่ ลู
กำกับภาพจิมมี่ หว่อง
ผู้จัดจำหน่ายเอ็มพิคเจอร์ส (ในประเทศไทย)
วันฉายฮ่องกง ฮ่องกง:
14 เมษายน พ.ศ. 2554
ไทย ไทย:
9 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ความยาว128 นาที
125 นาที (ในประเทศไทย)
ประเทศฮ่องกง
ภาษาจีนกวางตุ้ง
ทุนสร้าง105 ล้านบาท (3.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ก่อนหน้านี้Sex and Zen III (1998)
ข้อมูลจาก IMDb
ข้อมูลจากสยามโซน

เรื่องย่อ

แก้

ในยุคราชวงศ์หมิง คุณชายทายาทเพียงหนึ่งเดียวของสกุลเหว่ย เหว่ยหยางเช็ง (ฮิโร ฮายามา) แต่งงานกับ ตี้หยูเซียง (หลัน เหยียน) คุณหนูทายาทเพียงหนึ่งเดียวของสกุลตี้ ทั้งคู่เมื่อแรกพบกันก็ชอบกันทันที แต่ทั้งคู่แม้พยายามมีเพศสัมพันธ์กันตลอด แต่เธอก็ไม่อาจให้ความสุขแก่เขาได้อย่างเต็มที่ วันหนึ่งเหว่ยหยางเช็งติดตามเพื่อนไปยังหอเลิศล้ำ ที่ซึ่ง องค์ชายหนิง (เหอ หัวเฉา) เก็บรักษาสมบัติมีค่าหายากมากมาย ทั้ง ภาพเขียนโบราณ, อักษรภาพแบบโบราณ รวมทั้งเป็นสถานที่ที่ชายหนุ่มอย่างเขามาร่วมรักด้วยท่าทางแปลก ๆ กับหญิงสาวสุดสวยอย่างหลุดโลก อย่าง หลิวซื่อ (ซาโอริ ฮะระ) หรือ ตงเหม่ย (ชูโอะ ยูกิโกะ) นางสนมขององค์ชายหนิง เหว่ยหยางเช็งรู้สึกว่าขนาดขององคชาตตนเองนั้นยาวไม่เพียงพอ จึงขอผ่าตัดเพื่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยที่หารู้ไม่เลยว่า นั่นคือ กับดักที่รอเขาอยู่

เบื้องหลังและการเข้าฉาย

แก้

3D Sex and Zen: Extreme Ecstasy หรือเรียกสั้น ๆ ว่า 3D Sex and Zen เป็นภาพยนตร์ที่ถือเป็นภาคต่อของภาพยนตร์ในแนวอีโรติกก่อนหน้านั้น 3 ภาค คือ Sex and Zen (ในชื่อภาษาไทย อาบรักกระบี่คม) ในยุคทศวรรษที่ 90 ที่มีชื่อเสียงของฮ่องกง โดยดัดแปลงมาจากบทประพันธ์ในชื่อ The Central Preyer Mat (บัณฑิตหลังเที่ยงคืน) โดย หลียู่

ในภาคนี้เป็นการร่วมทุนสร้างกันระหว่างฮ่องกง, ญี่ปุ่น และจีนแผ่นดินใหญ่ ด้วยทุนกว่า 105 ล้านบาท ด้วยนักแสดงชื่อดังในแบบภาพยนตร์อีโรติกและเอวีของทั้ง 3 ชาติ เช่น ซาโอริ ฮะระ

และถือเป็นภาพยนตร์อีโรติกเรื่องแรกของโลกด้วยที่ฉายในระบบสามมิติ โดยแฝงความคิดด้วยปรัชญาแบบเซนในตอนท้ายเรื่อง เมื่อผู้สร้างประกาศว่าจะสร้างและออกฉาย ปรากฏเป็นข่าวโด่งดังได้รับความสนใจอย่างมาก และเมื่อเข้าฉายแล้ว ปรากฏว่าที่ฮ่องกงสามารถทำรายได้เหนือกว่า Avatar ภาพยนตร์ในแนวไซไฟฟอร์มใหญ่ของฮอลลีวู้ดเสียอีก [1][2]

สำหรับในประเทศไทยในตอนแรกคาดว่าจะไม่ได้ถูกนำเข้ามาฉาย แต่ว่าได้มีการนำเข้ามาฉาย แต่ได้เข้าฉายเพียง 7 วันเท่านั้น[3]แต่เมื่อได้ฉายจริง ผลตอบรับออกมาดีมาก จึงขยายเวลาฉายออกไปอีกและเพิ่มโรงฉาย โดยฉายในโรงแบบธรรมดาด้วย[4] โดยได้รับการจัดเรตเป็น ฉ.20 คือ ห้ามผู้ชมอายุต่ำกว่า 20 ปี และถูกตัดฉากออกไป 3 ฉาก ได้แก่ ฉากที่หลวงจีนมีเพศสัมพันธ์กับหลิวซื่อ หลังจากที่โดนหลิวซื่อลอบมายั่วยวนให้หลวงจีนตบะแตกเพื่อแก้แค้น, ฉากที่องค์ชายหนิงมีเพศสัมพันธ์กับตงเหม่ยจนขาดใจตาย และฉากที่ตี้หยูเซียงโดนองค์ชายหนิงทรมานเพื่อแก้แค้นโดยให้นั่งทับอยู่บนเครื่องทรมานที่ติดอยู่บนหลังม้า รวมเป็นเวลาราว 3 นาที[5]

อ้างอิง

แก้

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้