ตำบลในเมือง (อำเภอเวียงเก่า)
ในเมือง เป็นตำบลในอำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น ครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 58 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 36,250 ไร่ โดยมีพื้นที่สาธารณประโยชน์ตามหลักฐาน นสล. 19,003 ไร่ นอกนั้นเป็นพื้นที่อาศัยและทำการเกษตรประมาณ 17,247 ไร่
ตำบลในเมือง | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Tambon Nai Mueang |
พิกัด: 16°40′39.3″N 102°17′29.1″E / 16.677583°N 102.291417°E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | ขอนแก่น |
อำเภอ | เวียงเก่า |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 58 ตร.กม. (22 ตร.ไมล์) |
ประชากร | |
• ทั้งหมด | 8,971 คน |
• ความหนาแน่น | 154.67 คน/ตร.กม. (400.6 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 40150 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 402901 |
เทศบาลตำบลในเมือง | |
---|---|
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | ขอนแก่น |
อำเภอ | เวียงเก่า |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี | นิพนธ์ ภาโนชิต |
รหัส อปท. | 06402601 |
ที่อยู่ สำนักงาน | เลขที่ 111 หมู่ที่ 1 ถนนหนองคา–อุทยานแห่งชาติภูเวียง ตำบลในเมือง อำเภอเวียงเก่า จังหวัดขอนแก่น |
โทรศัพท์ | 0 4343 8037 |
โทรสาร | 0 4343 8252 |
เว็บไซต์ | www |
ประวัติ
แก้เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2539 กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศจัดตั้งสภาตำบลในเมืองเป็น องค์การบริหารส่วนตำบลในเมือง อำเภอภูเวียง[1] จนกระทั่งได้จัดตั้งเป็นเทศบาลตำบลเมื่อ พ.ศ. 2552
ที่ตั้งและอาณาเขต
แก้ตำบลในเมืองมีอาณาเขตติดต่อกับตำบลอื่น ๆ ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลกุดธาตุ (อำเภอหนองนาคำ)
- ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลเมืองเก่าพัฒนา
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลเขาน้อย, ตำบลกุดธาตุ (อำเภอหนองนาคำ)
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลนาจาน, ตำบลวังเพิ่ม (อำเภอสีชมพู)
ภูมิประเทศ
แก้ตำบลในเมืองเป็นที่ราบในหุบเขา มีเขาภูเวียงล้อมรอบ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารต่าง ๆ มีลำห้วยขนาดเล็กหลายสายและพื้นที่บางส่วนเป็นเขตป่าสงวนภูเขาเขตอุทยานแห่งชาติภูเวียง มีหนองน้ำขนาดใหญ่อยู่ใจกลางเป็นที่กักเก็บน้ำ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น
- อุทยานแห่งชาติภูเวียง มีเนื้อที่ประมาณ 200,000 ไร่ เป็นภูเขาโค้งเป็นวงล้อมรอบที่ภายในหุบเขาประกอบด้วย ป่าไม้นานาพรรณ สัตว์ป่านานาชนิด และน้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง เป็นแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์ตั้งอยู่ในท้องที่ของอำเภอภูเวียง อำเภอเวียงเก่า อำเภอหนองนาคำ อำเภอสีชมพู และอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูง มีลักษณะเป็นวงแหวน 2 ชั้น ตรงกลางเป็นแอ่งขนาดใหญ่คล้ายแอ่งกระทะ เมื่อประมาณ
ปี พ.ศ. 2519 ได้มีการค้นพบรอยเท้าและซากกระดูกไดโนเสาร์ และสัตว์โลกดึกดำบรรพ์อายุเกือบ 200 ล้านปี
- ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง ฟอสซิลไดโนเสาร์ชิ้นแรกของไทยพบที่อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ในปี 2519 โดยนายสุธรรม แย้มนิยม อดีตนักธรณีวิทยาของกรมทรัพยากรธรณี ขณะสำรวจแร่ยูเรเนียม ในหมวดหินเสาขัว ที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง บริเวณห้วยประตูตีหมา กระดูกชิ้นนี้มีความกว้างยาวประมาณ 1 ฟุต จากการเปรียบเทียบพบว่ามีลักษณะใกล้เคียงกับไดโนเสาร์ซอโรพอด ซึ่งมีขนาดใหญ่ยาวประมาณ 15 เมตร และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นส่วนปลายล่างสุดของกระดูกต้นขาของไดโนเสาร์จำพวกกินพืช การสำรวจไดโนเสาร์ที่ภูเวียงได้เริ่มต้นอย่างจริงจังในปี 2524 โดยนายเชิงชาย ไกรคง นักธรณีวิทยาจากกรมทรัพยากรธรณี ได้พาคณะสำรวจโบราณชีววิทยาไทย และฝรั่งเศสขึ้นไปสำรวจกระดูกไดโนเสาร์บริเวณยอดห้วยประตูตีหมา อำเภอภูเวียงคณะสำรวจพบกระดูกไดโนเสาร์ชนิดกินพืชขนาดใหญ่ รวมทั้งฟันจระเข้ กระดองเต่า ฟันและเกล็ดปลาโบราณ และจากการสำรวจในเวลาต่อมาได้พบกระดูกไดโนเสาร์อีกหลายชนิด ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงจัดตั้งขึ้น โดยความร่วมมือของกรมทรัพยากรธรณี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และจังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าของนักวิชาการ สำหรับให้การศึกษาแก่เยาวชน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น
การประกอบอาชีพ
แก้ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร ประมาณร้อยละ 70 รองลงมา คือ อาชีพรับจ้างร้อยละ 20 อาชีพค้าขาย และรับราชการ ร้อยละ 10 รายได้เฉลี่ย 23,000 บาท/ปี
อ้างอิง
แก้- ↑ "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล.PDF เก็บถาวร 2012-01-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนราชกิจจานุเบกษา 113 (พิเศษ52 ง) :32. 25 ธันวาคม 2539