ดาบิด บิยา
{{Infobox football biography
| name = ดาบิด บิยา
| image =
| caption = บิยากับนิวยอร์กซิตีในปี ค.ศ. 2015
| fullname = ดาบิด บิยา ซันเชซ[1]
| height = 1.75 เมตร (5 ฟุต 8.9 นิ้ว)[2]
| birth_date = 3 ธันวาคม ค.ศ. 1981 (38 ปี)[1]
| birth_place = ลังเกรโอ ประเทศสเปน
| currentclub = วิสเซล โคเบะ
| clubnumber = 7
| position = กองหน้า
| youthyears1 = 1991–1999 | youthclubs1 = ลังเกรโอ
| youthyears2 = 1999–2000 | youthclubs2 = สปอร์ติงเดฆิฆอน
| years1 = 2000–2001 | clubs1 = สปอร์ติงเดฆิฆอน เบ | caps1 =36 |goals1 = 14
| years2 = 2001–2003 | clubs2 = สปอร์ติงเดฆิฆอน | caps2 = 80 |goals2 = 38
| years3 = 2003–2005 | clubs3 = เรอัลซาราโกซา | caps3 = 73 |goals3 = 32
| years4 = 2005–2010 | clubs4 = บาเลนเซีย | caps4 = 166 |goals4 = 107
| years5 = 2010–2013 | clubs5 = บาร์เซโลนา | caps5 = 77 |goals5 = 48
| years6 = 2013–2014 | clubs6 = อัตเลติโกเดมาดริด | caps6 = 36 |goals6 = 13
| years7 = 2014–2018 | clubs7 = นิวยอร์กซิตี | caps7 = 24 |goals7 = 15
| years8 = 2018 | clubs8 = → เมลเบิร์นซิติ(ยืมตัว) | caps8 = 4 | goals8 = 2
| nationalyears1 = 2000–2003 | nationalteam1 = สเปน อายุไม่เกิน 21 ปี | nationalcaps1 = 7 |nationalgoals1 = 0
| nationalyears2 = 2005– | nationalteam2 = สเปน | nationalcaps2 = 97 |nationalgoals2 = 59
| nationalyears3 = 2001–2002 | nationalteam3 = อัสตูเรียส | nationalcaps3 = 2 |nationalgoals3 = 1
| pcupdate = 29 สิงหาคม 2015
| ntupdate =
|clubs9=วิสเซล โคเบะ|caps9=6|goals=|goals9=3|year9=|years9=2019-2019}
ดาบิด บิยา ซันเชซ (สเปน: David Villa Sánchez) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 1981 ที่เมืองลังเกรโอ แคว้นอัสตูเรียส บิยาเป็นเจ้าของฉายา "เอลกัวเฆ" (ในภาษาอัสตูเรียสแปลว่าเจ้าหนูน้อย)[3] ปัจจุบันเล่นให้กับวิสเซล โคเบะและทีมชาติสเปน ได้รับการยกย่องจากแฟนบอลว่าเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าระดับแนวหน้าของโลกในปัจจุบัน มีชื่อเสียงมากในเรื่องความแม่นยำในการยิงประตูหน้ากรอบเขตโทษ
บิยาเริ่มต้นการเล่นอาชีพเมื่อปี 1991 กับอูเป ลังเกรโอ ซึ่งเป็นทีมในบ้านเกิด ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทีมสปอร์ติ้ง กิฆอน ในปี 1999 และประเดิมเกมในระดับลีกา 2 ในฤดูกาล 2000-01 จากนั้น เรอัลซาราโกซาก็ได้หยิบยื่นโอกาสให้เขาได้สัมผัสประสบการณ์ในเกมระดับลาลิกาเป็นครั้งแรกในปี 2003
ระหว่างที่ค้าแข้งกับซาราโกซาเป็นเวลา 2 ฤดูกาล บิยาก็สามารถพาทีมคว้าแชมป์โคปาเดลเรย์ด้วยการเฉือนเรอัลมาดริด และสแปนิชซูเปอร์คัพในปี 2004 ด้วยการเอาชนะบาเลนเซีย เจ้าของแชมป์ลาลิกาไปได้อย่างพลิกความคาดหมาย
ด้วยฟอร์มการถล่มประตูที่เฉียบขาด ทำให้ "เจ้าค้างคาว" ยอมทุ่มเงิน 12 ล้านยูโร (ประมาณ 540 ล้านบาท) เพื่อดึงตัวบิยามาร่วมทีมในปี 2005
ในฤดูกาล 2004-05 บิยาก็ตอบแทนค่าตัวได้คุ้มค่าทุกเซนต์เมื่อทำผลงานได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยการทำ 25 ประตูจากการลงสนาม 35 นัดในลีก จะเป็นรองก็แค่ ซามูเอล เอโต ดาวยิงของบาร์เซโลนา ที่คว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดลาลิกาเพียงคนเดียวเท่านั้น โดยเขาสร้างความฮือฮาด้วยการกดแฮตทริกแรกให้บาเลนเซีย ด้วยการใช้เวลาเพียง 5 นาที ในเกมที่บุกไปเอาชนะอัตเลติกเดบิลบาโอ 3-0 เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา
จากการทำประตูที่คงเส้นคงวาทำให้มีหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปจ้องที่จะคว้าตัวหัวหอกวัย 25 ปีไปล่าตาข่าย ซึ่งรวมถึงเชลซี แชมป์พรีเมียร์ชิพ 2 สมัย แต่บาเลนเซียก็ไม่คิดที่จะปล่อยเสาหลักของทีมรายนี้ไปง่าย ๆ จึงได้จับต่อสัญญาอยู่โยงในถิ่นเมสตายาสเตเดียมไปจนถึงปี 2010 แต่บาร์เซโลนาก็มาซื้อตัวดาบิด บิยา ไปด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร จนถึงปี 2013-2014 ก็ย้ายไปอัตเลติโกเดมาดริดด้วยค่าตัว 5.1 ล้านยูโร
ในส่วนของทีมชาติ บิยาก็มีผลงานที่น่าประทับใจเช่นเดียวกัน โดยอดีตนักเตะตัวหลักของทีมชาติสเปนชุดยู-21 เลื่อนขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเกมที่พบกับซานมารีโนเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2005 นอกจากนั้น ยังช่วยยิงประตูในเกมเพลย์ออฟฟุตบอลโลกที่พบกับสโลวาเกียด้วย
หลังจากที่ช่วยพาทีมกระทิงดุผ่านเข้ามาร่วมฟาดแข้งในรอบสุดท้ายที่ประเทศเยอรมนีแล้ว บิยา ดาวยิงตัวเก่งของบาเลนเซีย ก็ยิงได้ 2 ประตูในนัดที่พบกับยูเครน และยิงจุดโทษในเกมที่พ่ายฝรั่งเศส 1-3 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนจะปิดฉากฟุตบอลโลกครั้งแรกด้วยการทำ 3 ประตู
ในฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล สเปนในฐานะแชมป์เก่าต้องตกรอบแรกโดยสองนัดแรกเป็นฝ่ายแพ้ต่อทั้งเนเธอร์แลนด์และชิลี ในนัดที่สามที่พบกับออสเตรเลีย ซึ่งไม่มีผลอะไรแล้วต่อการเข้ารอบ ดาบิด บิยา ได้ประกาศว่านี่เป็นการลงเล่นให้กับทีมชาติเป็นนัดสุดท้าย และบิยาก็เป็นผู้ยิงประตูแรกให้กับสเปนได้ แต่เมื่อขึ้นครึ่งหลังได้ไม่นาน บิเซนเต เดล โบสเก ผู้จัดการทีมสเปนก็ได้เปลี่ยนตัวบิยาออก ทำให้บิยาถึงกับร้องไห้ออกมา เมื่อเสร็จการแข่งขันแล้วเดล โบสเก อ้างว่าไม่ทราบว่านี่คือการเล่นให้กับทีมชาติเป็นนัดสุดท้ายของบิยา[4][5]
ดาบิด บิยา ถือได้ว่าเป็นนักฟุตบอลทีมชาติสเปนที่ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกติดต่อกันถึง 3 สมัย คือ ฟุตบอลโลก 2006, ฟุตบอลโลก 2010 และฟุตบอลโลก 2014 และคว้าแชมป์โลกมาได้หนึ่งสมัย คือ ฟุตบอลโลก 2010 และเป็นเจ้าของสถิติผู้ทำประตูสูงสุดของทีมชาติสเปน คือ 59 ประตู ทำลายสถิติเดิมของราอูล กอนซาเลซ และเป็นนักฟุตบอลสเปนที่ยิงในฟุตบอลโลกมากที่สุด คือ 9 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 12 นัด[6]
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ 1.0 1.1 "David Villa". UEFA. สืบค้นเมื่อ 2010-06-19.
- ↑ "Biography for David Villa".
- ↑ http://www.academiadelallingua.com/diccionariu/index.php?cod=27770
- ↑ "แฟนสเปนรุมจวกเดลบอสเก้ถอดบีย่าเกมทุบออสเตรเลีย". สยามสปอร์ต. 24 June 2014. สืบค้นเมื่อ 25 June 2014.
- ↑ "เดล บอสเก้ อ้างไม่รู้ บีญ่า รับใช้กระทิงดุเกมสุดท้าย". สนุกดอตคอม. 25 June 2014. สืบค้นเมื่อ 25 June 2014.
- ↑ "บีญ่า กับประตูส่งท้ายทีมชาติ". ไทยพีบีเอส. 24 June 2014. สืบค้นเมื่อ 25 June 2014.
http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic_cache.php?table_id=1&cate_id=177&post_id=52755