คชศาสตร์
บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่หน้าอภิปราย
|
คชศาสตร์ เป็นวิชาหนึ่งในวิชาไตรเทพของศาสนาพราหมณ์ เป็นศาสตร์เกี่ยวกับช้าง แบ่งออกเป็น 2 ตำรา คือ
- ตำราคชลักษณ์ กล่าวถึงรูปพรรณสัณฐานของช้าง ทั้งดีและชั่ว
- ตำราคชกรรม กล่าวถึงตำราที่รวบรวมเวทมนตร์คาถา กระบวนการจับช้าง รักษาช้าง และการบำบัดเสนียดจัญไรต่าง ๆ ของช้าง
ตำราพระคชศาสตร์ และตำรานารายณ์ประทมสินธุ์ ได้กล่าวถึงการกำเนิดช้างมงคลว่า พระนารายณ์บรรทมบนเกษียรสมุทร บังเกิดดอกบัวจากพระอุทรมี 8 กลีบ 173 เกสร จึงนำไปถวายพระอิศวร ที่เขาไกรลาศ พระอิศวรแบ่งเกสรดอกบัวนั้นประทานแก่ พระองค์เอง พระอิศวร รับเกสรไว้ 8 เกสร ประทานแก่ พระพรหม จำนวน 24 เกสร ประทานแก่ พระวิษณุ หรือพระนารายณ์ จำนวน 8 เกสร และประทานแก่พระอัคคีหรือพระเพลิง จำนวน 135 เกสร
พระอิศวร พระพรหม พระวิษณุ และพระเพลิง เทวดา 4 ต่างสร้างช้างเผือกตระกูลต่าง ๆ 4 ตระกูล จากดอกบัวนั้นดอกบัวให้เป็นโลก พระพรหม พระอิศวร พระวิษณุและพระอัคนี มหาเทพทั้ง 4 ทรงเนรมิตช้างจากกลีบและเกสรบัว ที่พระนารายณ์ประทาน และสามารถแบ่งช้างมงคลเป็น 4 ตระกูล ตามนามแห่งเทพผู้ให้กำเนิด คือ ช้างตระกูลพรหมพงศ์, ช้างตระกูลอิศวรพงศ์, ช้างตระกูลวิษณุพงศ์ และ ช้างตระกูลอัคนีพงศ์
ช้างตระกูลพรหมพงศ์
แก้ช้างตระกูลพรหมพงศ์ สร้างขึ้นโดย พระพรหม อันพระพรหมให้บังเกิดด้วยเกสรประทุมชาติ์ ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีย่อมให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางวัตถุและวิทยาการต่าง ๆ
พระพรหมได้สร้างช้างประจำทิศทั้ง 8 ด้วยเกสรดอกบัวทั้ง 8 คือ เกสรที่
- ช้างไอยราพต อยู่ทิศบูรพา เกสรหนึ่งทิ้งออกไปข้างทิศบูรพา เกิดเป็นช้างชื่อไอยราพต สมบูรณ์ด้วยลักษณะ 15 ประการ สีกายดุจสีเมฆเมื่อคลุ้มฝน เท้าทั้ง 4 เท้ากลมดังกงฉัตร เล็บเสมอ หน้าสูงท้ายต่ำอย่างสิงห์ ตัวใหญ่กว่าช้างทั้งปวง ตาใหญ่ดังดาวประกายพฤกษ งายาวขึ้นขวางวงดังภุชงค์นาค หลังราบดังคันธนูปลายหูปรบหน้า หลัง ถึงกัน โขมดทั้ง ๒ สูง เสียงดุจเสียงสังข์ หาง บังคลองต้องด้วยลักษณะ 15 ประการ
- ช้างบุณฑริก อยู่ทิศอาคเนย์ เกสรหนึ่งทิ้งไปข้างทิศอาคเนย์ บังเกิดเป็นช้างชื่อบุณฑริกมีลักษณะ 5 ประการ สีกายดังดอกบัวขาว งาใหญ่สั้นสีดังสังข์ เล็บงามคือทอง ท้องมัวดังฝนคร่ำ กลิ่นหอมดังดอกสัตบงกช พร้อมด้วยลักษณะ
- ช้างพราหมณ์โลหิต อยู่ทิศทักษิณ เกสรหนึ่งไปประดิษฐานอยู่ทิศทักษิณ บังเกิดเป็นช้างชื่อพราหมณโลหิต มีลักษณะ 5 ประการ สีกายดังสีโลหิต งาใหญ่คอกลม เสียงดุจเสียงแตรแตร้น พร้อมด้วยลักษณะ
- ช้างกมุท อยู่ทิศหรดี เกสรหนึ่งทิ้งไปข้างทิศหรดี ให้บังเกิดเป็นช้างชื่อกมุท มีลักษณะ 5 ประการ สีดังดอกกมุท ตัวสูงโสตรยาวกลมหูอ่อน เสียงดุจเสียงแตรงอน งางอนขึ้นขวาดังพระจันทร์ เมื่อขึ้น 3 ค่ำ พร้อมด้วยลักษณะ
- ช้างอัญชัน อยู่ทิศประจิม เกสรหนึ่งทิ้งไปข้างทิศประจิม ให้บังเกิดเป็นช้างชื่ออัญชัน มีลักษณะ 5 ประการ สีดังอัญชันงาใหญ่ตรง คอใหญ่เสียงดังลมพัดในปล้องไม้ไผ่ พร้อมด้วยลักษณะ 5 ประการ
- ช้างบุษปทันต์ อยู่ทิศพายัพ เกสรหนึ่งทิ้งไปข้างทิศพายัพ บังเกิดเป็นช้างชื่อบุษปทันต์ มีลักษณะ 7 ประการ สีดังหมากสุกผิวเนื้อละเอียด มีกระหน้าตัวใหญ่งามงาน้อยขึ้นขวา เสียงดังเสียงเมฆ พร้อมด้วยลักษณะ
- ช้างเสาวโภค อยู่ทิศอุดร เกสรหนึ่งทิ้งไปข้างทิศอุดร บังเกิดเป็นช้างชื่อเสาวโภม มีลักษณะ 5 ประการ สีดังตองแก่ สูงสัณฐานดังใส่เสื้อ เท้าทั้ง 4 ดังตองอ่อน ตัวกลมหน้าใหญ่งาน้อยยาว เสียงดังเสียงนกกเรียนพร้อมด้วยลักษณะ
- ช้างสุประดิษฐ์ อยู่ทิศอิสาน เกสรหนึ่งทิ้งไปข้างทิศอิสาน บังเกิดเป็นช้างสุปรดิษฐ์ มีลักษณะ 9 ประการ สีเนื้อดังสีเมฆเมื่อสนธยา ผนฎท้องดังผนฎท้องงู งาซื่อสีขาวบริสุทธิ์ดังผ้าขาวที่เนื้ออ่อนดังสีบัวแดง ขนปากยาว อัณฑโกษอ่อน เต้ามันอ่อน ร้องเสียงดังเสียงฟ้า พร้อมด้วยลักษณะ 9 ประการ
นอกจากนี้พระพรหมยังได้สร้างช้างอีก 10 หมู่ คือ
- ฉัททันต์หัตถี กายสีขาว หางเท้าสันหลังสีแดง งาเป็นแขนง เป็นพญาช้าง มีกำลังสูงสุดเหาะไปในอากาศได้ เดินรวดเร็วมาก
- อุโบสถหัตถี กายดั่งสีทองนพคุณ เดินได้รวดเร็ว เหาะไปในอากาศได้ อยู่บริเวณป่ากรรณิการ์ ส่วนหนึ่งของป่าหิมพานต์ มีนางช้าง ปีตวรรณ เป็นบริวาร
- เหมหัตถี กายดั่งสีรัศมีทอง มีกำลังมาก
- มงคลหัตถี สีผิว สีตา และสีเล็บ เป็นสีม่วงเหมือนสีดอกอัญชัน มีงางอนขึ้นไปด้านขวา
- คันธหัตถี เป็นช้างที่มีร่างสูงใหญ่ ผิวตัวดังไม้กฤษณา กลิ่นตัวและมูตรคูตหอมหวนชื่นใจ
- บิงคัลหัตถี หรือ ปิงคล กาย สีตาและเล็บ เป็นสีเหลืองเหลือบน้ำตาล ดั่งสีตาแมว
- ตามพหัตถี หรือ ดามพหัตถี กายสีดั่งทองแดง ขนหางคล้ายดอกบัวแดง ลักษณะสูงใหญ่ มีอานุภาพห้าวหาญในการศึก
- บัณฑรหัตถี หรือ นาคันธรหัตถี กายสีดั่งรัศมีเงิน มีอีกชื่อหนึ่งว่า นาคันธร ห้าวหาญองอาจในการสงคราม
- คังไคยหัตถี กายดั่งสีน้ำไหล (สีเขียวน้ำทะเล) มีลักษณะสูงใหญ่ สมบูรณ์งดงาม เกิดบริเวณลุ่มน้ำคงคา
- กาลวกะหัตถี กายสีดำ และสีเล็บเป็นสีดำดั่งสีปีกกา ดามพหัตถี กายสีดั่งทองแดง มีขนหางคลายดอกบัวแดง ลักษณะสูงใหญ่ เหมหัตถี กายดั่งรัศมีทอง มีกำลังมาก
ช้างตระกูลอิศวรพงศ์
แก้ช้างตระกูลอิศวรพงศ์ สร้างขึ้นโดย พระอิศวร อันพระอิศวรให้บังเกิดด้วยเกสรประทุมชาติ์ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีบ้านเมืองจะมีความเจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์และอำนาจ พระอิศวรสร้างช้าง 8 ตระกูล คือ
- 1. อ้อมจักรวาฬ หนังเนื้อดำสนิท ผิวพรรณละเอียด เกลี้ยง หน้าใหญ่ โขมดสูง น้ำเต้ากรม งวงเรียว ปลายงางอนขึ้นเสมอกันปากรูปหอยสังข์ คอกลม เมื่อยามย่างยกอยู่ดูเป็นสง่า หน้าสูงกว่าท้าย ทรวงอกผึ่งผายใหญ่กว่าแสดงกำลัง เท้าใหญ่ท้ายเป็นสุกรชาติ หลังราวคันธนูศรผนฏท้องเป็นไปตามวงหลัง ขาหน้าทั้งสองอ่อนประหนึ่งท้าวแขน บาทและข้อหน้าหลังเรียวดังดอกบัวกลม หางเป็นข้อห่วง สนับงาแลเห็นเป็นสองชั้นขมับเต็มมิได้พร่อง หูใหญ่ ช่อม่วงข้างขวายาว ใบหูอ่อนนุ่มสรรพด้วยขนขึ้นมากกว่าข้างซ้าย
- 2. คชกรรณหัสดี ช้างหนึ่งชื่อว่า คชกรรณหัสดี งาขวาโอบงวงบน งาซ้ายอ้อมขึ้นไพรปาก งาซ้ายโอบงวงไปใต้งาขวา ปลายงาขึ้นไพรปากเสมอกัน ชนช้างดีมีอานุภาพมาก
- 3. เอกทันต์ ช้างหนึ่งชื่อว่า เอกทันต์ งางอกแต่เพดาน งางอนขึ้นขวา ยกงวงช้างขวางงาอยู่ซ้าย ยกงวงไปซ้ายงาอยู่ขวา มีกำลังมาก พันช้างจึงจะสู้เอกทันต์ตัวเดียวได้ แทงเงาตาย เป็นพาหนะแห่งพระอินทร์ เทพคชนาคไปรักษาไว้ป่าพ้นคนเห็น
- 4. กาฬทันต์ ช้างหนึ่งชื่อว่า กาฬทันต์หัษดี มีกาย งา เล็บ ตา ดำทั่วสารพางค์
- 5. จัตุศก ช้างหนึ่งชื่อว่า จัตุศก โขมดสูงงาทั้ง 2 ช้าง แต่ละข้างนั้น ต้นกลมกล่อมดีปลายเป็น 2 งาทั้งซ้าย ขวา เป็น 4 งา
- 6. โรมทันต์ ช้างหนึ่งชื่อว่า โรมทันต์ ต้นงาขวาทับต้นงาซ้าย มีกำลังมาก ถ้าพระยาองค์ใดได้ขี่ปราบศัตรู ๆ แลเห็นก็พ่ายแพ้
- 7. สิงหชงฆ์ ช้างหนึ่งชื่อว่า สิงหชงฆ์ เท้าหลังดำดุจสิงหราช
- 8. จุมปราสาท ช้างหนึ่งชื่อว่า จุมปราสาท ปลายงามีรัศมีอันแดง
ช้างตระกูลวิษณุพงศ์
แก้ช้างตระกูลวิษณุพงศ์ สร้างขึ้นโดย พระวิษณุพระนารายณ์ อันพระนารายณ์ให้บังเกิดด้วยเกสรประทุมชาติ์ ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีย่อมมีชัยชนะแก่ศัตรู ฝนจะตกต้องตามฤดูกาล ผลาหารธัญญาหารจะบริบูรณ์ เป็นช้างในวรรณะ พระนารายณ์ได้สร้างช้าง 8 ตระกูลด้วยเกสร คือ
- 1. สังขทันต์ ช้างหนึ่งชื่อสังขทันต์ มีลักษณ 4 ประการ สีดังสีทอง งา น้อยงอนเสมอ เวลาเช้าเสียงดังเสียงเสือ เสียงดังเสียงไก่เมื่อเวลาสายัณห ยืนอยู่กลางทิศมีลักษณ 4 ประการ
- 2. พะหัสดิน ช้างหนึ่งชื่อตามพหัษดินทร์ สีกายดุจทองแดงอันหม่น
- 3. ชมลบ ช้างหนึ่งชื่อว่าชมลบ หูปรบเบื้องหน้าพอจรดกัน
- 4. ลบชม ช้างหนึ่งชื่อว่าลบชม หูปรบเบื้องหลังถึงกัน
- 5. ครบกระจอก ช้างหนึ่งชื่อว่าครบกระจอก มีเล็บเท้าละ 5 เล็บ
- 6. พลุกสดำ ช้างหนึ่งชื่อว่าพลุกสดำ งางอนขึ้นขวา
- 7. สังขทันต์ (อีกจำพวกหนึ่ง) ช้างหนึ่งชื่อว่าสังขทันต์ งาขาวดังสีสังข์ สีกายดำบริสุทธิ์ ไม่มีขาวระคน
- 8. ช้างโคบุตร ช้างหนึ่งชื่อโคบุตร มีพรรณผิวเหลืองดังหนังโค เปนบุตรนางโค เสียงดุจเสียงโค ขนหางขึ้นรอบดุจหางโค งางอนน้อย คุ้มโทษอันตรายทั้งปวงได้
ช้างตระกูลอัคนีพงศ์
แก้ช้างตระกูลอัคนีพงศ์ สร้างขึ้นโดย พระอัคนี อันพระเพลิงให้บังเกิดด้วยเกสรประทุมชาติ์ ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีบ้านเมืองจะเจริญด้วยมังสาหารและมีผลในทางระงับศึก อันพึงจะเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นแล้ว ทั้งมีผลในทางระงับความอุบาทว์ทั้งปวง อันเกิดแก่บ้านเมืองและราชบัลลังก์ พระเพลิงสร้างช้าง 51 จำพวก เช่น ประพัทจักรวาฬ เศวตพระพร ปทุมหัสดี เศวตาคชราช ประทุมทันต์ ประทุมทนต์ ประทุมทันต์มณีจักร เป็นต้น จากนั้นกล่าวถึงช้างชาติอำนวยพงศ์ต่าง ๆ นามของช้างพัง และลักษณะของช้างที่ให้โทษ 80 ประการ
ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- http://vajirayana.org/คำฉันท์ดุษฎีสังเวย-คำฉันท์กล่อมช้าง-ครั้งกรุงเก่า-และ-คำฉันท์คชกรรมประยูร/ภาคผนวก/ตำรานารายน์ประทมสินธุ์-ว่าด้วยลักษณะช้าง
- http://phramerumas.finearts.go.th/item.php?itemID=65 เก็บถาวร 2020-08-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- http://www.sac.or.th/databases/thailitdir/detail.php?meta_id=345
- http://vajirayana.org/คำฉันท์ดุษฎีสังเวย-คำฉันท์กล่อมช้าง-ครั้งกรุงเก่า-และ-คำฉันท์คชกรรมประยูร/ภาคผนวก/ตำรานารายน์ประทมสินธุ์-ว่าด้วยลักษณะช้าง
- คชลักษณ์ www.Surin.net เก็บถาวร 2006-04-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- สถาบันคชบาลแห่งชาติ เก็บถาวร 2009-10-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ตำราช้าง นิตยสารสกุลไทย เก็บถาวร 2008-01-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน