บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: Gulf Development Public Company Limited; ชื่อย่อ: GULF) เป็นบริษัทมหาชนจำกัดรูปแบบบริษัทผู้ถือหุ้น โดยประกอบธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม คือ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค และธุรกิจดิจิทัล

บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
ประเภทบริษัทมหาชนจำกัด
การซื้อขาย
SET:GULF
อุตสาหกรรมทรัพยากร พลังงานและสาธารณูปโภค
ก่อนหน้ากัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์
อินทัช โฮลดิ้งส์
ก่อตั้ง19 สิงหาคม พ.ศ. 2554; 13 ปีก่อน (2554-08-19) (ในชื่อ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์)
1 เมษายน พ.ศ. 2568; 3 เดือนก่อน (2568-04-01) (ในชื่อ กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์)
ผู้ก่อตั้งสารัชถ์ รัตนาวะดี
สำนักงานใหญ่87 อาคาร เอ็มไทย ทาวเวอร์ ออล ซีซั่นส์ เพลส ชั้น 11 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
บุคลากรหลัก
เว็บไซต์www.gulf.co.th

กัลฟ์จัดตั้งขึ้นในชื่อ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554 โดยต่อยอดการประกอบธุรกิจมาจาก บริษัท กัลฟ์อิเล็คตริก จำกัด (ปัจจุบันคือ บริษัท เจเนอเรติ้ง อิเล็คตริก จำกัด (มหาชน)) และ บริษัท กัลฟ์ โฮลดิ้ง จำกัด (ปัจจุบันคือ บริษัท แลนด์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2560 จากนั้นในปี พ.ศ. 2564 ได้เข้าลงทุนในบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (INTUCH) ก่อนควบรวมกิจการเป็นกัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2568

ปัจจุบันกัลฟ์มีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักด้านพลังงานอย่างมีนัยสำคัญจำนวน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ เอสอาร์ซี จำกัด (GSRC) และบริษัท กัลฟ์ พีดี จำกัด (GPD) นอกจากนี้ยังมีบริษัทย่อยอื่น ๆ อีกหลายแห่ง โดยหากรวมโรงงานจากทุกบริษัทย่อยแล้ว มีโรงไฟฟ้า 28 โครงการ และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งที่เปิดดำเนินการแล้วรวม 13,491 เมกะวัตต์ นับเป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้ารายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ

กัลฟ์เคยสนับสนุนสโมสรฟุตบอลมากกว่า 6 ทีม เช่น อยุธยา เอฟซี, ปลวกแดง, ระยอง พังงา จามจุรียูไนเต็ด และทีมฟุตบอลกัลฟ์สระบุรี รวมไปถึงได้ซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย มาออกอากาศในประเทศไทย จำนวน 200 ล้านบาท

ประวัติ

แก้

กัลฟ์อิเล็คตริก และกัลฟ์ โฮลดิ้ง

แก้

กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 ที่รัฐบาลในขณะนั้นมีนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรมพลังงาน โดยเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าและจำหน่ายไฟฟ้าเองทั้งหมด มาเป็นการเปิดให้เอกชนเข้าร่วมประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าให้ กฟผ. รับซื้อไฟฟ้าทั้งจากผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระรายใหญ่ (Independent Power Producer - IPP) และผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Power Producer - SPP) เพื่อให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอโดยที่ภาครัฐมีต้นทุนไม่มากนัก[1]

สารัชถ์ รัตนาวะดี จึงก่อตั้ง บริษัท กัลฟ์ อิเล็คตริก จำกัด (อังกฤษ: Gulf Electric Co., Ltd.; ปัจจุบันคือ บริษัท เจเนอเรติ้ง อิเล็คตริก จำกัด (มหาชน)) ขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2537 โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน), บริษัท อิเล็คทริค พาวเวอร์ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท มิตรพาวเวอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในสัดส่วน 50:49:1 เพื่อเข้าประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้า[2] โดยชนะการประมูล IPP 2 โครงการในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คือ โรงไฟฟ้าถ่านหินบ้านกรูด อำเภอบางสะพาน มีกำลังการผลิตติดตั้ง 1,400 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าถ่านหินบ่อนอก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีกำลังการผลิตติดตั้ง 700 เมกะวัตต์ ตามลำดับ รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 2,100 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 โครงการถูกประชาชนคัดค้านอย่างหนัก กัลฟ์ อิเล็คตริก จึงย้ายไปสร้างโรงไฟฟ้าที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ในชื่อ โรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 มีกำลังการผลิต 1,468 เมกะวัตต์ และปรับมาใช้แก๊สธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงแทนถ่านหินที่สร้างมลพิษสูง[3] สอดคล้องกับแผนของ ปตท. ในการหาโรงไฟฟ้าที่รองรับแก๊สธรรมชาติที่นำเข้าจากประเทศพม่า

ต่อมาสารัชถ์ได้ก่อตั้ง บริษัท กัลฟ์ โฮลดิ้ง จำกัด (อังกฤษ: Gulf Holding Co., Ltd.; ปัจจุบันคือ บริษัท แลนด์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) ขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 และร่วมทุนกับบริษัท เจพาวเวอร์ โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ในเครืออิเล็คทริค พาวเวอร์ ดีเวลล็อปเมนท์ ก่อตั้งบริษัท กัลฟ์ เจพี จำกัด (อังกฤษ: Gulf JP Co., Ltd.) ขึ้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ปีเดียวกัน เพื่อเข้าร่วมการประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่รอบที่ 2 โดยครั้งนี้ กัลฟ์ เจพี ชนะการประมูลอีก 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าหนองแซง อำเภอหนองแซง จังหวัดสระบุรี และโรงไฟฟ้าเสม็ดใต้ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งโครงการละ 1,600 เมกะวัตต์ รวม 3,200 เมกะวัตต์[3]

กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์

แก้

ต่อมาสารัชถ์ได้ก่อตั้ง บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (อังกฤษ: Gulf Energy Development Co., Ltd.) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554 และรับโอนหุ้นสามัญของกัลฟ์ เจพี จากกัลฟ์ โฮลดิ้ง ต่อมาได้ร่วมทุนกับกลุ่มมิตซุย แอนด์ โค จากประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน จัดตั้งบริษัทร่วมทุน 2 แห่ง สำหรับดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าแก๊สธรรมชาติ ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ เอ็มพี จำกัด (อังกฤษ: Gulf MP Co., Ltd.) สำหรับดำเนินโครงกาารโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ซึ่งชนะการประมูล 2 แห่ง และบริษัท อินดิเพนเดนท์ เพาเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (อังกฤษ: Independent Power Development Co., Ltd.; IPD) สำหรับดำเนินโครงกาารโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งชนะการประมูลอีก 12 แห่ง[4]

ขยายธุรกิจและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

แก้

ต่อมาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดในชื่อ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: Gulf Energy Development Public Co., Ltd.) เพื่อดำเนินกระบวนการระดมทุนสาธารณะในรูปแบบการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่สาธารณชน และเข้าจดทะเบียนซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ในชื่อย่อหลักทรัพย์ GULF โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนทั้งหมด 533,300,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25%[5] ในราคาเสนอขายสุดท้ายที่หุ้นละ 45 บาท รวมมูลค่าเสนอขายทั้งหมด 23,998,500,000 บาท[6] และเริ่มการซื้อขายเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560[7]

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2562 กัลฟ์ขยายสู่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคทั่วประเทศ ได้แก่ โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด เฟส 3, การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 (ท่าเทียบเรือ F), โครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6), โครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) รวมถึงมีโครงการร่วมทุนเพื่อลงทุนและดำเนินงานระบบจำหน่ายไฟฟ้าและระบบทำความเย็นสำหรับโครงการ วัน แบงค็อก[8]

ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2563 กัลฟ์เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (INTUCH) และขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยในขณะนั้นอยู่ในอันดับที่ 4 ในสัดส่วน 4.59% เพื่อบริหารเงินสดและกระจายความเสี่ยง ต่อมาคณะกรรมการของกัลฟ์มีมติให้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในอินทัชอีก 6 ครั้งเป็นไม่เกิน 19% โดยครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2564 กัลฟ์ถือหุ้นในอินทัชในสัดส่วน 18.93%[9] จนกระทั่งสองวันถัดมา (18 เมษายน) คณะกรรมการของกัลฟ์ได้อนุมัติให้บริษัทลงทุนในหุ้นสามัญทั้งหมดของอินทัชจำนวน 2,599,631,112 หุ้น คิดเป็น 81.07% ด้วยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนทำคำเสนอซื้อ[10] โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมสมัยใหม่ เช่น 5 จี มาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาระบบพลังงานอัจฉริยะของกัลฟ์[11] ทั้งนี้ กัลฟ์ยังทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS หรือ ADVANC) ตามหลักเกณฑ์ Chain Principle อีกด้วย[10]

ดังนั้น กัลฟ์จึงยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้ง 2 บริษัทข้างต้นเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน โดยรับซื้อหุ้นอินทัชที่ราคาเสนอซื้อหุ้นละ 65 บาท ในช่วงวันที่ 29 มิถุนายน – 4 สิงหาคม และรับซื้อหุ้น ADVANC ที่ราคาเสนอซื้อหุ้นละ 120.93 บาท ในช่วงวันที่ 29 มิถุนายน – 13 สิงหาคม และหลังจากเสร็จสิ้นการรับซื้อหลักทรัพย์แล้ว มีผู้ที่ขายหุ้นอินทัชให้กัลฟ์เพิ่มอีกจำนวน 747,874,638 หุ้น คิดเป็น 23.32% ทำให้กัลฟ์ถือหุ้นอินทัชจำนวน 1,354,752,952 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 42.25% และขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดไปโดยปริยาย[12] ส่วน ADVANC มีผู้ที่ขายหุ้นให้กัลฟ์เพียงเล็กน้อยอย่างไม่มีนัยยะสำคัญ เนื่องจากสิงเทล บริษัทย่อยของเทมาเส็กโฮลดิงส์ จากประเทศสิงคโปร์ มิได้ตอบรับการขายหุ้นให้กัลฟ์ด้วย[13]

หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม อินทัชได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่จำนวน 8 คน แทนกรรมการที่ลาออกจำนวน 7 คน ในจำนวนนี้มีกรรมการตัวแทนของกัลฟ์จำนวน 4 คน[14] ปลายปีเดียวกัน กัลฟ์ได้จัดตั้งบริษัท กัลฟ์ อินโนวา จำกัด และให้บริษัทดังกล่าวร่วมลงทุนแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ไบแนนซ์ (Binance) ด้วยการจัดตั้งบริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด (Gulf Binance) เพื่อร่วมลงทุนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2565[8]

กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์

แก้

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 คณะกรรมการของกัลฟ์และอินทัชประกาศควบรวมกิจการทั้งสองบริษัท โดยอนุมัติให้เข้าทำสัญญาการควบบริษัทของทั้ง 2 บริษัท พร้อมทั้งบรรจุวาระข้างต้นให้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัทพิจารณา[15] และเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทั้ง 2 บริษัทมีมติอนุมัติการควบรวมกิจการดังกล่าว โดยผู้ถือหุ้นของกัลฟ์ยังอนุมัติแผนการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดในบริษัทย่อยของอินทัชทั้ง 2 บริษัท คือ แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ทำคำเสนอซื้อโดยกัลฟ์, อินทัช, สิงเทล และสารัชถ์ และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (THCOM) ทำคำเสนอซื้อโดยกัลฟ์, บริษัท กัลฟ์ เอดจ์ จำกัด (บริษัทย่อยของกัลฟ์), อินทัช และสารัชถ์ ด้วยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนทำคำเสนอซื้อ ตามหลักเกณฑ์ Chain Principle อีกด้วย[16] หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม สารัชถ์ได้แสดงความประสงค์ที่จะรับซื้อหุ้นทั้ง 2 บริษัทจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านที่ราคาหลังปิดการซื้อขายหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม โดยรับซื้อหุ้นกัลฟ์ที่ราคาหุ้นละ 56.50 บาท และรับซื้อหุ้นอินทัชที่ราคาหุ้นละ 91.00 บาท ในช่วงวันที่ 17–30 ตุลาคม[17] อย่างไรก็ตามไม่มีผู้ถือหุ้นฝ่ายคัดค้านที่ขายหุ้นให้สารัชถ์[18]

จากนั้น ผู้ทำคำเสนอซื้อได้ยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์แอดวานซ์และไทยคมเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2567 โดยรับซื้อหุ้นแอดวานซ์ที่ราคาเสนอซื้อหุ้นละ 211.43 บาท ในช่วงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2567 – 31 มกราคม พ.ศ. 2568 และรับซื้อหุ้นไทยคมที่ราคาเสนอซื้อหุ้นละ 11 บาท/หุ้น ในช่วงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2567 – 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568[19] และหลังจากเสร็จสิ้นการรับซื้อหลักทรัพย์แล้ว มีผู้ถือหุ้นจากทั้ง 2 บริษัทขายหุ้นให้ผู้ทำคำเสนอซื้อเพียงเล็กน้อยอย่างไม่มีนัยยะสำคัญ มีเพียงผู้ที่ขายหุ้นแอดวานซ์ให้สิงเทลจำนวน 140,944 หุ้น[20] และผู้ที่ขายหุ้นไทยคมให้กัลฟ์ เอดจ์ อีกจำนวน 1,060,200 หุ้น[21]

จากนั้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 คณะกรรมการของกัลฟ์และอินทัชได้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นร่วม และบรรจุวาระการอนุมัติชื่อบริษัทใหม่อย่างเป็นทางการ โดยใช้ชื่อว่า บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: Gulf Development Public Co., Ltd.)[22] จนกระทั่งวันที่ 21 มีนาคม ทั้งกัลฟ์และอินทัชก็ได้ขึ้นเครื่องหมาย SP หยุดการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อเตรียมการจัดสรรหุ้นสามัญของบริษัทใหม่ ในระหว่างนี้ กัลฟ์ได้เปลี่ยนแปลงชื่อย่อหลักทรัพย์เป็น GULFI[23] เพื่อเข้าสู่กระบวนการแลกหุ้น GULFI เป็น GULF ในสัดส่วน 1:1.02974[24] จากนั้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมของกัลฟ์และอินทัชได้อนุมัติชื่อบริษัทใหม่ดังกล่าว พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัทใหม่ทั้งหมด[25] กระบวนการควบรวมบริษัทเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 1 เมษายน โดยคณะกรรมการของกัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ ได้จดทะเบียนควบรวมบริษัทระหว่างกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ กับอินทัช โฮลดิ้งส์ แก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นที่เรียบร้อย ส่งผลให้กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ สิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลพร้อมกับอินทัช โฮลดิ้งส์[26] ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจึงเพิกถอนหลักทรัพย์ GULFI และ INTUCH ออก และนำหุ้น GULF (ใหม่) เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนแทนในวันเดียวกัน[27] และเริ่มซื้อขายเมื่อวันที่ 3 เมษายน[28]

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

แก้
  • ข้อมูล ณ วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2568[29]
ลำดับที่ รายชื่อผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้นสามัญ สัดส่วนการถือหุ้น
1 นาย สารัชถ์ รัตนาวะดี 4,360,559,178 29.19%
2 UBS AG SINGAPORE BRANCH 1,514,424,523 10.14%
3 GULF CAPITAL HOLDINGS LIMITED 1,194,942,592 8.00%
4 SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD. 1,155,441,235 7.73%
5 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 621,366,981 4.16%

ธุรกิจ

แก้

จากข้อมูลการถือหุ้นในรายงานหลังการควบรวม โครงสร้างธุรกิจของกัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ แบ่งออกเป็น 3 ธุรกิจหลัก คือ

ดูเพิ่ม

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. "อาณาจักรแสนล้าน "สารัชถ์ รัตนาวะดี" นายทุนพลังงาน "GULF"". ไทยพีบีเอส. 13 มิถุนายน 2023. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.
  2. "รู้จักกัลฟ์อิเล็คตริกและโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2". ประชาไท. 11 ตุลาคม 2006. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.
  3. 3.0 3.1 "การคอรัปชั่นเชิงนโนบายกับสายสัมพันธ์โรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่". ประชาไท. 18 มิถุนายน 2009. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.
  4. "ถอดรหัส ธุรกิจไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 'กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์'". Marketeer. 21 พฤศจิกายน 2017. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.
  5. ""กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี" เคาะช่วงราคา IPO ที่ 40.0-45.0 บาทต่อหุ้น เตรียมเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในโรงไฟฟ้าเป็น 70% หรือ 5,300 MW". ผู้จัดการออนไลน์. 10 พฤศจิกายน 2017. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.
  6. "GULF เคาะราคาไอพีโอ 45 บาท สถาบันแห่ซื้อยอดล้น18 เท่า". ฐานเศรษฐกิจ. 22 พฤศจิกายน 2017. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  7. "GULF เปิดเทรดวันแรกที่ 57.50 บาท สูงกว่าราคาขายไอพีโอ 27.78%". ผู้จัดการออนไลน์. 6 ธันวาคม 2017. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.
  8. 8.0 8.1 "ผ่าแนวคิด 'สารัชถ์ รัตนาวะดี' ลุยดิจิทัลเต็มรูปแบบ". ฐานเศรษฐกิจ.
  9. "ย้อนเส้นทาง 'กลุ่มกัลฟ์' ไล่เทกฯ 'อินทัช-เอไอเอส' ก่อน 'สิงเทล' ปฏิเสธขายหุ้น". สำนักข่าวอิศรา. 3 สิงหาคม 2021. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.
  10. 10.0 10.1 "GULF ตั้งโต๊ะซื้อหุ้นทั้งหมด "INTUCH-ADVANC"". ผู้จัดการออนไลน์. 19 เมษายน 2021. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.
  11. "กัลฟ์ ซื้อ INTUCH ดึง 5G ต่อยอดพลังงานอนาคต". ประชาชาติธุรกิจ. 17 มิถุนายน 2021. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.
  12. จันกิเสน, ถนัดกิจ (5 สิงหาคม 2021). "ปิดจ็อบ! GULF ใช้เงิน 4.86 หมื่นล้านบาท เข้าซื้อหุ้น 23.32% ของ INTUCH ขึ้นแทน 'ผู้ถือหุ้นใหญ่' ด้วยสัดส่วน 42.25%". เดอะสแตนดาร์ด. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.
  13. แสงทองคำ, วิรัตน์ (1 กันยายน 2021). "GULF-INTUCH". วิรัตน์ แสงทองคำ. มติชนสุดสัปดาห์. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  14. "ผู้ถือหุ้นใหญ่มาแล้ว! 'สารัชถ์ รัตนาวะดี' นำทีม GULF นั่งบอร์ด INTUCH 1 ต.ค.นี้". Brand Buffet. 6 กันยายน 2021. สืบค้นเมื่อ 3 เมษายน 2025.
  15. "GULF และ INTUCH ประกาศควบรวมกิจการ". ประชาชาติธุรกิจ. 16 กรกฎาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 17 กรกฎาคม 2024.
  16. "GULF-INTUCH กอดคอวิ่ง! ดีลควบรวมฉลุย โบรกชี้ "มาร์เก็ตแคป" บริษัทใหม่ทะลุ 1 ล้านลบ". ข่าวหุ้นธุรกิจ. 4 ตุลาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  17. "GULF-INTUCH ควบรวมกิจการ ดันมาร์เก็ตแคปทะยาน 8.7 แสนล้าน". ฐานเศรษฐกิจ. 9 ตุลาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  18. "GULF-INTUCH แจ้งหมดระยะเวลา 'รับซื้อหุ้นคืน' ไร้ผู้ถือหุ้นคัดค้านควบรวม". กรุงเทพธุรกิจ. 31 ตุลาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  19. "GULF-INTUCH ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ "ADVANC-THCOM" ดีเดย์พรุ่งนี้". ข่าวหุ้นธุรกิจ. 24 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  20. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์; สารัชถ์, รัตนาวะดี; อินทัช โฮลดิ้งส์; Singtel Strategic Investments (3 กุมภาพันธ์ 2025). ขอนำส่งแบบรายงานผลการซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จ ากัด (มหาชน) (แบบ 256-2) (PDF) (Report). สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  21. ""GULF-INTUCH" ปิดดีลเทนเดอร์ "THCOM" ผู้ถือหุ้นรายย่อยขายแค่ 1.06 ล้านหุ้น". ข่าวหุ้นธุรกิจ. 7 กุมภาพันธ์ 2025. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  22. "Gulf Development บริษัทใหม่ หลัง GULF ควบรวม INTUCH". Marketeer. 11 กุมภาพันธ์ 2025. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  23. "ตลท.ขึ้น SP หุ้น GULF-INTUCH ใช้ชื่อย่อ GULFI 21 มี.ค.-2 เม.ย.68 นี้". ฐานเศรษฐกิจ. 18 มีนาคม 2025. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  24. "กรณีการควบรวมบริษัทระหว่าง GULF-INTUCH จะส่งผลต่อ Futures อย่างไร". ทันหุ้น. 19 มีนาคม 2025. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  25. "ผู้ถือหุ้น GULF-INTUCH เคาะชื่อบริษัทใหม่ ลุยธุรกิจแห่งอนาคต". โพสต์ทูเดย์. 25 มีนาคม 2025. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  26. "ควบรวมแล้วเสร็จ GULFI แจ้งจดทะเบียนบริษัทใหม่เรียบร้อย ใช้ชื่อ"บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)"". สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย. 1 เมษายน 2025. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  27. "ตลท. เปิดรับ GULF เทรด 3 เม.ย.นี้ หลังเพิกถอน GULFI-INTUCH ออกจากตลาดหลักทรัพย์". ข่าวหุ้นธุรกิจ. 1 เมษายน 2025. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  28. "ปิดจบซื้อขายวันแรก! GULF ราคาปิดที่ 48.75 บาท จากสูงสุด 50.5 บาท". ฐานเศรษฐกิจ. 3 เมษายน 2025. สืบค้นเมื่อ 4 เมษายน 2025.
  29. "ข้อมูลผู้ถือหุ้น บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)". ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. 17 เมษายน 2025. สืบค้นเมื่อ 17 เมษายน 2025.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้