โซเฟีย คอปโปลา

(เปลี่ยนทางจาก Sofia Coppola)

โซเฟีย คาร์มินา คอปโปลา (อังกฤษ: Sofia Carmina Coppola) เป็นนักเขียนบท ผู้กำกับ และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกัน เป็นอดีตนักแสดง เป็นผู้กำกับภาพยนตร์สตรีคนที่สาม และสตรีชาวอเมริกันคนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเรื่อง Lost in Translation (2003) ต่อจากลินา เวิร์ทมูลเลอร์ (ชาวอิตาเลียน-สวิส ปี 1975 จากเรื่อง Seven Beauties) และเจน แคมเปียน (ชาวนิวซีแลนด์ ปี 1993 จากเรื่อง The Piano)

โซเฟีย คอปโปลา
เกิดโซเฟีย คาร์มินา คอปโปลา
(1971-05-14) 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1971 (52 ปี)
นครนิวยอร์ก สหรัฐ
ชื่ออื่นโดมิโน คอปโปลา
อาชีพ
  • ผู้ผลิตภาพยนตร์
  • นักแสดง
ปีปฏิบัติงาน1972–ปัจจุบัน
มีชื่อเสียงจากThe Virgin Suicides (1999)
หลง/เหงา/รัก (2003)
Marie Antoinette (2006)
Somewhere (2010)
The Bling Ring (2013)
The Beguiled (2017)
On the Rocks (2020)
คู่สมรส
บุตร2
บุพการี
ญาติ
ครอบครัวคอปโปลา
รางวัลรายชื่อทั้งหมด

โซเฟีย คอปโปลาเกิดที่นิวยอร์ก เป็นบุตรคนสุดท้องของฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา และเอเลนอร์ คอปโปลา จบการศึกษาด้านการออกแบบเสื้อผ้า และเคยเปิดบริษัทผลิตเสื้อผ้า "Milkfed" วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น[1]

ผลงานแสดง แก้

โซเฟียปรากฏตัวในภาพยนตร์หลายเรื่องของบิดาตั้งแต่เด็ก โดยในเรื่อง เดอะก็อดฟาเธอร์ (1972) ขณะยังเป็นทารก รับบทเป็นแอนโทนี ลูกชายของไมเคิล คอร์เลโอเน (อัล ปาชิโน) ในฉากรับศีลจุ่ม ในเรื่อง Peggy Sue Got Married (1986) รับบทเป็นน้องสาวของเพ็กกี ซู (แคทลีน เทอร์เนอร์) [2]

ในปี 1990 เธอรับบทเป็น มาเรีย คอร์เลโอเน ตัวเอกใน เดอะก็อดฟาเธอร์ ภาค 3 โดยรับบทนี้แทนวิโนนา ไรเดอร์ ที่ต้องถอนตัวเนื่องจากอาการป่วย เนื่องจากบทนี้เป็นบทสำคัญ และเธอขาดประสบการณ์ด้านแสดง ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้อ่อนด้อย [2] และได้รับรางวัลราสเบอร์รี สาขานักแสดงประกอบหญิงยอดแย่ และสาขานักแสดงหน้าใหม่ยอดแย่ ประจำปี 1990 [3]

นอกเหนือจากผลงานที่บิดาเป็นผู้กำกับแล้ว เธอยังรับบทเล็ก ในภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เช่น Frankenweenie (1984) ของทิม เบอร์ตัน, Inside Monkey Zetterland (1992), Star Wars Episode I (1999) ของจอร์จ ลูคัส และในมิวสิกวิดีโอหลายเรื่องที่กำกับโดยสไปค์ จอนซ์ อดีตสามี

ผลงานเขียนบทและกำกับภาพยนตร์ แก้

โซเฟีย คอปโปลาเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง New York Stories (1989) เป็นภาพยนตร์สั้นสามเรื่องที่กำกับโดยวูดดี อัลเลน มาร์ติน สกอร์เซซี และฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา โดยเธอเป็นผู้เขียนบทตอน "Life Without Zoe" ร่วมกับบิดา

เธอมีผลงานเขียนบทและกำกับภาพยนตร์มาแล้ว 5 เรื่อง ได้แก่ Lick the Star (1998), The Virgin Suicides (1999), Lost in Translation (2003), Marie Antoinette (2006) และ Somewhere (2010) [4] โดยเรื่อง Lost in Translation นำแสดงโดยบิล เมอร์เรย์และสกาเล็ต โยแฮนสัน เนื้อเรื่องเกี่ยวกับชาวอเมริกันที่ใช้ชีวิตอยู่ในโตเกียว และพบกับความแปลกแยกทางวัฒนธรรม ภาษา และอุปสรรคในติดต่อสื่อสาร เธอเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้จากประสบการณ์จริง ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในญี่ปุ่นคนเดียวหลังจากเรียนจบ [2] ภาพยนตร์ได้รับคำชื่นชม ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 17 รางวัล จากสามสถาบันหลัก คือรางวัลออสการ์ รางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลบาฟตา [5]

อ้างอิง แก้

  1. Lee, Helen (November 5, 2007). "Did you know Sofia Coppola has a fashion line called MilkFed?". Sassybella.com. สืบค้นเมื่อ July 29, 2009.
  2. 2.0 2.1 2.2 http://www.film.com/celebrities/sofia-coppola/biography/15034328[ลิงก์เสีย]
  3. Eleventh Annual RAZZIE® Awards (for 1990)[ลิงก์เสีย]
  4. The Coppola Smart Mob
  5. http://www.imdb.com/title/tt0335266/awards

แหล่งข้อมูลอื่น แก้