กระบี่แสง

(เปลี่ยนทางจาก ไลท์เซเบอร์)

กระบี่แสง ดาบเลเซอร์ หรือ ไลท์เซเบอร์ (อังกฤษ: Lightsaber) เป็นอาวุธในเนื้อเรื่องที่แต่งขึ้นและทรงอานุภาพของอัศวินเจไดในจักรวาล สตาร์ วอร์ส มีลักษณะเป็นดาบ (แต่ตามชื่อภาษาอังกฤษ เซเบอร์ แปลว่า กระบี่หรือดาบโค้ง ซึ่งสะพายโดยทหารสมัยก่อนในยุโรปและอเมริกา) แต่แทนที่จะมีใบเป็นโลหะอย่างทั่วไป ใบดาบของกระบี่แสงจะเป็นเลเซอร์พลังสูง ซึ่งสามารถทะลุทะลวงโลหะแข็งได้โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก กระบี่แสงมีบทบาทสำคัญมากใน สตาร์ วอร์ส ทุกภาค ทั้งในภาพยนตร์ เกม และนวนิยาย

Lightsaber
Lightsaber with blue beam
A lightsaber
Plot element from the Star Wars franchise
Production companyLucasfilm
First appearanceStar Wars (1977)
Created byGeorge Lucas
GenreScience fiction
In-story information
TypeEnergy sword
FunctionFencing
Stabbing
Cutting
Slashing
Welding
Melting
Heating
Deflecting
Shielding
Fighting
Burning
Lighting
Throwing
AffiliationJedi
Sith
Knights of Ren

ประวัติ แก้

ตามหลักแล้วเจไดจะใช้เวลาหลายเดือนในการสร้างอาวุธที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาสักชิ้น ซึ่งเขาหรือเธอจะใช้และดูแลมันไปตลอดชีวิตของพวกเขา เมื่อท่านสร้างมันขึ้นมา กระบี่แสงจะกลายมาเป็นสหาย เครื่องมือของท่าน และนั่นหมายถึงท่านมีสิ่งป้องกันแล้ว

— ลุค สกายวอล์คเกอร์, Young Jedi Knights: Lightsabers

ตั้งแต่การก่อตัวของไทธอน เจไดหลังจากสงครามพลังในช่วง 25,000 ปีก่อนยุทธการยาวินได้มีการสร้างอาวุธทางพิธีกรรมขึ้นมาในนิกาย ต่อมาด้วยการผสมผสานของเทคโนโลยีจากต่างดาวและพิธีกรรมเจไดได้เรียนรู้ที่จะทำการ "แช่แข็ง" ลำแสงเลเซอร์ มันเป็นเทคโนโลยีที่ต่อมาจะนำเจไดสู่การออกแบบกระบี่แสง

ในช่วงการขัดแย้งดุยนวกวูน (Duinuogwuin Contention) เมื่อประมาณ 15,500 ปีก่อนยุทธการยาวิน การศึกษาของนิกายเจไดเริ่มนำไปสู่ความสำเร็จของเทคโนโนยีดังกล่าว พวกเขาได้สร้างการเน้นลำแสงพลังงานซึ่งเคลื่อนที่เป็นเส้นโค้งตามเส้นรอบลงกลับไปที่แหล่งกำเนิดของมัน เป็นการสร้างใบมีดพลังงานสูงครั้งแรก กระบี่แสงขั้นต้นเหล่านี้ไม่เสถียรอย่างมากและใช้พลังอย่างไม่มีประสิทธิภาพ พวกมันสามารถใช้ได้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้นก่อนที่จะมันจะร้อนเกินไป ด้วยข้อด้อยเหล่านี้กระบี่แสงในช่วงแรกจึงไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าสิ่งของทางพิธีกรรม

ปัญหาเรื่องความเสถียรของแบบแรก ๆ นั้นเริ่มถูกแก้ไขตลอดหลายปี ดังนั้นในช่วงร้อยปีแห่งความมืดมนในปีที่ 7,000 ก่อนยุทธการยาวิน อาวุธที่อุ้ยอ้ายนั้นก็ต้องหลีกทางให้กับกระบี่แสงที่ดีกว่า แม้ว่าความเสถียรของพวกมัน อย่างไรก็ตามพลังที่ออกมานั้นคือสิ่งที่สำคัญ พวกมันยังคงต้องการสายพลังงานเพื่อการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง สายพลังงานที่เชื่อมต่อกับใบมีดทำให้เจไดเคลื่อนที่ได้ลำบากและไม่สามารถทำการขว้างดาบได้ อย่างไรก็ตามใบมีดแบบใหม่ทำให้พวกมันได้เปรียบกว่าในการต่อสู้แบบตัวต่อตัวกับศัตรูที่สวมเกราะหนัก

กระบี่แสงแบบแรกยังไม่ถูกออกแบบจนถึงสงครามไฮเปอร์สเปซครั้งใหญ่ สายพลังงานที่สร้างข้อจำกัดและแพ็คพลังงานในแบบเก่านั้นถูกแทนที่ด้วยตัวจ่ายพลังงานภายในเมื่อ 4,800 ปีก่อนยุทธการยาวิน ตัวนำพลังงานที่เพิ่งเริ่มใช้กันนั้นจะย้ายพลังงานที่ห้วนกลับจากการไหลของด้านลบกลับเข้าไปในเซลล์พลังงานภายใน ด้วยการดัดแปลงนี้เซลล์พลังงานจะขยายพลังเมื่อบ่วงพลังแตก มันคือการแก้ไขปัญหาแหล่งพลังงานในแบบแรก

หลังจากการการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่ กระบี่แสงกลายเป็นของหายากที่มีราคาสูงต่อนักสะสมบางคน ในช่วงจักรวรรดิกาแลกติกของพัลพาทีนกระบี่แสงบางเล่มตกไปอยู่ในตลาดมืดและถูกขายไปเป็นจำนวนมาก พวกมันปรากฏตัวอีกครั้งแค่ตอนที่นิกายเจไดใหม่เริ่มต้นขึ้น ต้องขอบคุณการสอนของลุค สกายวอล์คเกอร์และการสอนที่หายไปเมื่อครั้งการกวาดล้าง

หลังจากที่พัลพาทีนพ่ายแพ้และเจไดรวมตัวกันอีกครั้ง ผู้ใช้พลังกลุ่มอื่นอย่างพวกรีบอร์นของดีซานน์และผู้รับใช้แรกนอสได้สร้างกระบี่แสงขึ้นมาเป็นจำนวนมากเพื่อติดอาวุธให้กับกองทัพของตนเอง นิกายเจไดใหม่ยังคงดำเนินวิถีทางเก่าด้วยการใช้การเชื่อมโยงกับพลังของพวกเขาในการสร้างกระบี่แสงของตนเอง ในปีที่ 137 ปีหลังยุทธการยาวิน อัศวินจักรวรรดิได้สร้างกระบี่แสงขึ้นมาเอง กระบี่แสงเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของอัศวินแต่ละคนของจักรวรรดิ

กระบี่แสงของซิธ แก้

กระบี่แสงของซิธส่วนใหญ่จะเป็นสีแดงเพราะสีแดงบ่งบอกถึงเลือด หรือความกระหาย คริสตัลของไลท์เซเบอร์ของซิธเป็นคริสตัลสีแดงสังเคราะห์ที่หาได้ง่ายแต่มีอายุการใช้งานน้อย และยักย้ายได้น้อยกว่าคริสตัลตามธรรมชาติ แม้ว่าจะน้อยมากที่คริสตัลสังเคราะห์จะทำให้ดาบแบบธรรมดาขาดได้ แต่ก็มีบ้างที่มันเกิดขึ้น

การสร้าง แก้

คริสตัลคือหัวใจของดาบ หัวใจของคริสตัลคือเจได เจไดคือคริสตัลของพลัง พลังคือดาบของหัวใจ ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกัน คริสตัล ดาบ เจได เจ้าคือหนึ่งเดียว

พิธีการสร้างกระบี่แสงของตนเองนั้นเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกเจไดและเกี่ยวข้องกับทักษะทางด้านเทคโนโลยีและการเข้าถึงพลัง ในสมัยสาธารณรัฐเก่าถ้ำน้ำแข็งบนดาวอิลัมถูกใช้เป็นสถานที่ที่พาดาวันจะทำการสร้างกระบี่แสงเล่มแรกของตนขึ้นมา ทั้งที่นี่และที่ที่คล้ายกันเจไดจะเลือกคริสตัลที่ดีที่สุดด้วยการนั่งสมาธิและการมีส่วนร่วมของพลัง และจากนั้นก็เริ่มการประกอบกระบี่แสงของตน

ตามธรรมเนียมแล้วการสร้างกระบี่แสงจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน[1] สิ่งนี้ยังรวมทั้งการประกอบชิ้นส่วนด้วยมือและพลัง และการนั่งสมาธิเพื่อหาคริสตัล เจไดมักใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการรวมมันเข้าด้วยกัน ทำให้แน่ใจว่าทุกชิ้นส่วนทำงานได้สมบูรณ์ และยังรวมทั้งการเลือกความยาว สี ความถี่ของดาบ ถึงกระนั้นในช่วงที่สงครามโคลนดุเดือดมีการรายงานว่ามีคนที่สามารถสร้างกระบี่แสงได้ภายในสองวันเท่านั้น

ด้ามกระบี่แสงประกอบด้วยกระบอกอัลลอยที่โดยทั่วไปจะยาว 25-30 เซนติเมตร อย่างไรก็ดีการออกแบบและเส้นผ่านศูนย์กลางของด้ามดาบจะแตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้ที่สร้างมันขึ้นมา ด้ามดาบจะบรรจุชิ้นส่วนที่ซับซ้อนซึ่งสร้างและทำให้เกิดใบมีดที่แตกต่างกันไป พลังงานระดับสูงจะถูกปล่อยออกมาผ่านทางขั้วบวกที่เป็นเลนส์เน้นแสงและตัวสร้างพลังงาน มันจะแสดงลำแสงพลังงานที่ขยายออกมาจากฐานไปตามความยาว จากนั้นจะเคลื่อนที่โค้งกลับไปที่ขั้วลบ ตัวนำไฟฟ้าจะทำให้ห่วงพลังสมบูรณ์ด้วยการป้อนพลังงานกลับไปที่เซลล์พลังงานภายใน ที่ที่ซึ่งห่วงพลังงานจะเริ่มก่อตัวใหม่อีกครั้ง

ไม่ว่าจะเป็นพาดาวันหรืออาจารย์เจได การสร้างกระบี่แสงนั้นเริ่มด้วยการหาชิ้นส่วนที่เหมาะสมเพื่อการสร้างอาวุธ กระบี่แสงทั้งหมดจะบรรจุชิ้นส่วนหลัก ๆ ดังนี้

  • ด้ามจับ
  • แผ่นกระตุ้น
  • เซฟสวิตช์
  • ตัวกำเนิด
  • เลนส์รวมแสง
  • เซลล์พลังงาน
  • ท่อพลัง
  • เบ้ารีชาร์จ
  • ที่ยึดกับเข็มขัด
  • คริสตัล 1-3 อัน

กระบี่แสงมากมายจะมีเซ็นเซอร์อยู่ที่ด้ามจับเพื่อที่ว่าเมื่อปล่อยมือเมื่อใดมันก็จะหยุดทำงานทันที กระบี่แสงอื่นนั้นอาจไม่มีเซ็นเซอร์หรือระบบกลไกใด ๆ ก็ตามที่หยุดการทำงานของดาบเมื่อปล่อยมือหรือหลุดมือ

คริสตัลคือสิ่งสำคัญของอาวุธและมันให้ทั้งพลังและสี มันเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดและต้องใช้การไตร่ตรองอย่างละเอียดในการเลือกใช้ทำกระบี่แสง

เมื่อมีทุกชิ้นส่วนครบแล้วเจไดจะเริ่มทำการประกอบ เนื่องจากว่าความสลับซับซ้อนของเทคโนโลยี พลังจึงถูกใช้เพื่อทำการประกอบชิ้นส่วนทั้งหลายในระดับโมเลกุล การปรับให้เหมาะสมในระดับไมโครนั้นอาจทำให้ดาบทำงานได้เกือบจะสมบูรณ์ที่สุด

เพราะว่าเจไดแต่ละคนนั้นย่อมไม่เหมือนกันพวกเขาหรือเธอจึงสร้างอาวุธที่ไม่เคยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นสองเล่มก็ตาม พาดาวันบางคนสร้างกระบี่แสงเพื่อแสดงถึงความเคารพต่ออาจารย์ของพวกเขา

ความรู้เกี่ยวกับการสร้างกระบี่แสงหายไปแทบจะสาบสูญหลังจากคำสั่งที่ 66 แต่ลุค สกายวอล์คเกอร์ได้พบบันทึกและวัตถุดิบที่เขาต้องการในการสร้างกระบี่แสงของเขาเองในกระท่อมของโอบีวัน เคโนบีบนทาทูอีน[2]

คริสตัลแบบต่าง ๆ แก้

สี ชนิด และจำนวนของคริสตัลมีมากมายในกระบี่แสง สีของคริสตัลใช้เป็นสีของใบมีด คริสตัลอดีแกนยังมีอีกชื่อหนึ่งว่าคริสตัลอิลัม มันเป็นคริสตัลอย่างหนึ่งที่นิยมกันมากในกระบี่แสง คริสตัลเหล่านี้สามารถดูดซับพลัง ช่วยให้เจไดกลายเป็นหนึ่งกับกระบี่แสง สัญญาณพลังอ่อน ๆ จากคริสตัลชนิดนี้สามารถรับรู้ได้โดยเจไดแม้ว่ามันจะอยู่ห่างออกไป

หลังจากที่มีการค้นพบคริสตัลไคเบอร์บนดาวมิมแบน ลุค สกายวอล์คเกอร์ได้เพื่อส่วนหนึ่งของมันเข้าไปในกระบี่แสงของเขา เศษของคริสตัลทำให้ใบมีดทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับของเลอา ออร์กานา โซโลและลูมิยา

คริสตัลอื่น ๆ อย่างเน็กซ์เตอร์และดาไมนด์ส สามารถพบได้ทั่วกาแลคซี่ และสามารถใช้ในการออกแบบรูปของคมดาบได้อีกด้วย

มุกหรือแท่งโลหะบางชนิดสามารถนำมาใช้แทนคริสตัลได้ แม้ว่ามันจะเป็นศาสตร์โบราณที่ย้อนกลับไปตั้งแต่ยุทธการรูซาน ในช่วงที่เรแวนเดินทางบนทาริสเขาได้ค้นพบว่ามุกของมังกรไครท์ที่สามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของกระบี่แสงได้และเพิ่มพลังให้อย่างมาก

ด้ามแบบต่าง ๆ แก้

ด้ามกระบี่แสงส่วนใหญ่นั้นจะมีความยาว 20-35 เซนติเมตร ด้วยการใช้คริสตัลหนึ่งหรือสองอันและใช้มือทั้งสองข้าง มันเป็นเอกลักษณ์ของเจไดและซิธ ในช่วงนิกายเจไดใหม่มีด้ามจับหลากหลายมากมาย

กระบี่แสงโบราณ แก้

กระบี่แสงโบราณ หรือ โปรโตเซเบอร์ (protosabers) เป็นแบบเก่าสุดของกระบี่แสง มันประกอบด้วยด้ามจับที่มักเป็นดูเรเนียมแข็ง มันคือคริสตัลที่อยู่ในด้ามจับ แพ็คพลังงานที่รัดด้วยเข็มขัด มันเหมือนกับกระบี่แสงในเวลาต่อมาที่คริสตัลของพวกมันอยู่ข้างในด้ามซึ่งเป็นแหล่งของพลังงาน ความแตกต่างระหว่างกระบี่แสงเก่าและใหม่คือด้ามจะเชื่อมติดกับสายของแพ็คพลังงานด้านนอกที่จะหิ้วโดยผู้ใช้ไว้ที่หลังของพวกเขา การนำเซลล์พลังงานที่มีขนาดเล็กกว่ามาใช้ทำให้มันสามารถใส่เข้าไปในด้ามดาบได้และให้อิสระมากกว่าและทำให้กระบี่แสงแบบเก่าตกยุคไป ผู้ใช้ส่วนมากจะอยู่ในช่วงสงครามซิธครั้งใหญ่

โลหะผสมทองกับเงิน แก้

โลหะผสมทองกับเงิน คือกระบี่แสงที่มีด้ามหลอมมาจากทองที่มักเรียกว่ากระบี่แสงอิเลคตรัม (electrum) โลหะผสมนี้ทำให้กระบี่แสงดูสง่างาม ในวันสุดท้ายของนิกายเจไดเก่ากระบี่แสงอิเลคตรัมจะถูกใช้โดยสมาชิกอาวุโสในสภาเจได กระบี่แสงของเมซ วินดูและดาร์ธ ซีเดียสเป็นกระบี่แสงประเภทนี้

กระบี่แสงด้ามโค้ง แก้

กระบี่แสงด้ามโค้ง เป็นการออกแบบพื้นฐานสำหรับการต่อสู้ด้วยกระบี่แสงในรูปแบบที่ 2 มาคาชิ ด้ามที่โค้งทำให้เกิดการเคลื่อนที่ที่แม่นยำตามความยืดหยุ่นในการต่อสู้ มันยังยากที่จะป้องกันมันเพราะว่าผู้ใช้อาจโจมตีได้หลายมุมมากกว่าด้ามแบบปกติ ด้ามที่โค้งยังซับซ้อนกว่าและให้ความท้าทายในการเลือกใช้คริสตัลมากกว่า ด้ามแบบนี้เคาท์ ดูกูมีในครอบครอง[3] ศิษย์ของเขาโคมาริ โวซา[4] และอซาจจ์ เวนเทรสส์[5] ก่อนยุทธการรูซานอาจารย์ซิธนาดาซใช้กระบี่แสงด้ามโค้ง ศิษย์ของเขาคาสอิมใช้อาวุธต่อจากเขาหลังจากที่สังหารอาจารย์ของตน และต่อมาก็ตกไปอยู่ในมือของดาร์ธ เบน[6]

การ์ดโชโต แก้

การ์ดโชโต (Guard Shoto) เป็นแบบที่หายาก พวกมันด้ามจับที่เป็นเส้นตั้งฉาก มีเพียงแค่มาริส บรูดและชินยาเท่านั้นที่ใช้มัน

ใบมีดแบบต่าง ๆ แก้

กระบี่แสงสำหรับฝึกหัด แก้

กระบี่แสงสำหรับฝึกหัด เป็นกระบี่แสงที่ใช้โดยเจไดเด็กเพื่อซ้อมการต่อสู้ด้วยกระบี่แสง ในขณะที่มันไม่ทรงพลังนักแต่การสัมผัสคมดาบก็สามารถทำให้เกิดรอยไหม้ได้ กระบี่แสงชนิดนี้มักใช้ร่วมกับรูปแบบที่ 1 อันเป็นพื้นฐานของการใช้กระบี่แสง มันยังถูกใช้โดยพาดาวันและดรอยด์ฝึกในเจไดแพรกซุมของนิกายเจไดใหม่อีกด้วย [3]

ใบมีดสองระยะ แก้

ใบมีดสองระยะ (dual-phase) กระบี่แสงแบบนี้จะผสมผสานคริสตัลเพื่อสร้างใบมีดที่สามารถยืดขึ้นเป็นสองเท่าของความยาวปกติ มันไม่เหมือนกับกระบี่แสงแบบปกติซึ่งมีตัวปรับด้วยมือสำหรับการลดความยาวของใบมีด ใบมีดสองระยะนั้นสามารถพุ่งออกมาในทันทีทำให้ฝ่ายตรงข้ามประหลาดใจได้ นอกจากนี้แล้วมันยังมีตัวปรับความกว้างของใบมีดอีกด้วย

บันทึกเมื่อ 400 ปีกอ่นยุทธการยาวินอ้างว่าไคเรน ฮัลไซออนได้สร้างกระบี่แสงสองระยะพิเศษขึ้นมาที่สามารถยาวได้จาก 1.3 เมตรไปเป็นสามเมตร กระบี่แสงแบบนี้ส่วนใหญ่แล้วมาจากสงครามกลางเมืองเจได เมื่อการดวลกระบี่แสงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยและซิธมีอำนาจมากในตอนนั้น เมื่อเริ่มมีการตระหนักถึงทักษะการต่อสู้ของเจไดและเจไดเองก็ต่อสู้อย่างหนักเพื่อยุติความขัดแย้งโดยไม่ใช้อาวุธ การดวลก็ลดน้อยลงและกระบี่แสงสองระยะก็หมดยุคของมัน

โชโต แก้

กระบี่แสงสั้น หรือ โชโต (shoto) เป็นกระบี่แสงที่ใช้ใบมีดที่สั้นกว่าแบบปกติ ใบมีดขนาดเล็กทำให้มันง่ายในการต่อสู้โดยเจไดที่มีร่างเล็ก อย่าง อาจารย์โยดา เอฟเวน พิเอลล์ ยาดเดิล และซุย ชอย ในบางครั้งโชโตใช้กับรูปแบบไนแมนโดยผู้ที่มีร่างกายปกติ อย่าง อาจารย์คาวาร์[3] ผู้ที่ไม่มีความรู้สึกในพลังสามารถใช้กระบี่แสงชนิดนี้ได้เพราะมันมีใบมีดที่สั้น

ใบมีดสำหรับการใช้ใต้น้ำ แก้

กระบี่แสงใต้น้ำ ในขณะที่กระบี่แสงส่วนมากจะสั้นลงเมื่อสัมผัสกับน้ำ กระบี่แสงชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำงานใต้น้ำได้เพราะมันมีคริสตัลสองอันที่ใช้การจุดติดแบบพิเศษ[7] โดยทั่วไปแล้วมีเพียงเจไดที่มาจากดาวที่เป็นน้ำเท่านั้นที่จะใช้ดาบชนิดนี้ อย่างไรก็ตามมีผู้ใช้หลายคนที่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ในน้ำด้วยการดัดแปลงอาวุธของพวกเขา

สีของใบมีด แก้

สีของกระบี่แสงมาจากคริสตัลที่ใช้สร้างมัน เจไดจะสะสมคริสตัลไปหลายชนิดจากธรรมชาติ ในขณะที่ซิธใช้คริสตัลสังเคราะห์ที่มักมีสีแดงอยู่แล้ว หลังจากการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่คริสตัลสังเคราะห์ก็ถูกใช้โดยเจไดในบางครั้ง

ก่อนที่จะถึงยุทธการรูซานครั้งที่ 7 เจไดโบราณใช้ใบมีดที่มีสีหลากหลาย เจไดบางคนยังใช้สีแดงด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าทางนิกายมักหลีกเลี่ยงที่จะใช้สีที่เหมือนกับซิธ สีแดงยังถูกหลีกเลี่ยงเพราะว่ามันสื่อถึงเลือดและความรุนแรง หลังจากความขัดแย้งรูซานเจไดหันมาใช้คริสตัลอดีแกนมากขึ้นซึ่งมักเป็นสีฟ้าหรือสีเขียว สีอื่น ๆ นั้นก็มีเช่นกันแต่น้อย กระบี่แสงสีดำก็มีเช่นกัน

ในยุคสงครามกลางเมืองเจไดสีดาบของเจไดมักจะแสดงถึงวิถีที่เจไดผู้นั้นเลือกเดิน ถึงแม้ว่าเจไดไม่จำเป็นต้องใช้สีดาบที่ระบุชั้นของเขา ดาบสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของเจไดกงสุล สีฟ้าคือเจไดผู้พิทักษ์ สีเหลืองคือเจไดเฝ้ายาม สำหรับความแข็งแกร่งของกระบี่แสงคริสตัลเหล่านี้ก็ให้ผลเท่าเหมือนกันหมด มีเพียงสีเท่านั้นที่แตกต่าง

หลังจากการกวาดล้างเจไดครั้งใหญ่ จักรพรรดิพัลพาทีนได้รื้อถอนสถานที่ขุดหาคริสตัลจำนวนมาก เพื่อทำให้การหาคริสตัลยากขึ้น หลังจากที่นิกายเจไดใหม่ถือกำเนิดการค้นพบแหล่งคริสตัลและการใช้คริสตัลสังเคราะห์ก็ทำให้กระบี่แสงที่หลากสีกลับมาอีกครั้ง

มีกระบี่แสงเพียงเล่มแรก และเล่มเดียวเท่านั้น ที่มีใบดาบเป็นลำแสงสีดำ นั่นคือ ดาร์คเซเบอร์ ของอาจารย์เจไดชาวแมนดาลอร์ ทาร์ วิซล่า ภายหลังดาร์คเซเบอร์นี้ ได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของชาวแมนดาลอร์ โดยเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกฐานะผู้นำของแมนดาลอเรียน ซึ่งการเปลี่ยนมือเจ้าของทำได้โดยการดวลเท่านั้น

แบบที่ไม่ธรรมดา แก้

กระบี่แสงสองใบมีด แก้

กระบี่แสงสองใบมีด เป็นกระบี่แสงที่สามารถปล่อยพลังงานออกมาได้ทั้งสองด้าน ใบมีดแต่ละใบสามารถทำงานได้แยกกันหรือพร้อมกัน กระบี่แสงชนิดนี้สามารถใช้กับแบบด้ามเดียวหรือสองด้ามเข้ามาต่อกัน อาวุธนี้มักอันตรายต่อผู้ใช้มากกว่าฝ่ายตรงข้าม มันกลายมาเป็นที่รู้จักกันในชื่อของ"กระบี่แสงซิธ"เพราะว่ามันถูกใช้โดยซิธ ในขณะที่เอกซาร์ คุนได้รับว่าเป็นคนแรกที่ใช้อาวุธชนิดนี้ ในโฮโลครอนเทดรีนกล่าวว่าเขาได้เรียนรู้เทคนิกดังกล่าวมาจากโฮโลครอนของซิธที่สร้างขึ้นโดยผู้ที่ถูกเนรเทศตั้งแต่สมัยร้อยปีแห่งความมืดมน[8]

กระบองแสง แก้

กระบองแสง เป็นกระบี่แสงหายากที่ใช้คริสตัลและระบบพลังที่จะฉายพลังงานออกมามากถึง 3 เมตร กระบี่แสงขนาดใหญ่เหล่านี้มักใช้โดยผู้ที่มีร่างใหญ่ กอร์กผู้ที่เป็นเจไดมืดชาวกามอร์รีนกลายพันธุ์ใช้กระบี่แสงชนิดนี้

แส้แสง แก้

แส้แสง เป็นแบบที่น่าตื่นตาของกระบี่แสงที่มีเพียงผู้ใช้ที่ฝึกมาอย่างดีเท่านั้นที่จะใช้มันได้ มันอาจเป็นได้ทั้งแก่นแข็งหรือพลังงานล้วน ๆ เช่นเดียวกับกระบี่แสงที่มันจะปล่อยพลังงานออกมา แต่ไม่เหมือนตรงที่มันยาวและยืดหยุ่น ผู้ใช้ได้แก่ ลูมิยา กิธานี ซิลริ เวียนนา ดโพว์ และคิท ฟิสโต

กระบองแสงแฝด แก้

กระบองแสงแฝด เป็นรูปแบบหนึ่งของกระบี่แสงสองใบมีดเพียงแต่ว่าด้ามนั้นเป็นแบบกระบองแฝด มันยากที่จะควบคุมมากกว่ากระบี่แสงสองใบมีด กระบองแสงนี้จะทำให้ผู้ใช้ได้เปรียบในการทำมุมโจมตีที่คาดเดาได้ยาก อซาจจ์ เวนเทรสส์เป็นผู้ที่ใช้อาวุธชนิดนี้บางครั้ง[9]

หลาวแสง แก้

หลาวแสง เป็นหลาวพลังที่ดัดแปลงด้วยการเพิ่มตัวกำเนิดของกระบี่แสงเข้าไป มันทำให้มีใบมีดพุ่งออกมาจากปลายหลาว มันอาจถูกใช้โดยใครก็ตามที่เคยใช้หลาวพลังมาก่อนและถูกใช้โดยองครักษ์มืดของจักรพรรดิที่ใช้มันได้อย่างเก่งกาจ

คราดแสง แก้

คราดแสง เป็นกระบี่แสงที่มีสองใบมีดพร้อมกับตัวกำเนิดพลังอันที่สองซึ่งจะยื่นออกมาจากด้ามหลักทำมุม 45 องศา นอกจากนี้มันยังเป็นกระบี่แสงที่ประหลาดที่สุดและหากยากที่สุด ด้ามจับยังโค้งอีกด้วย มีเจไดเพียงคนเดียวที่พบว่าใช้กระบี่แสงชนิดนี้คือโรบลิโอ ดาร์เต้

พลังในการตัด แก้

ใบมีดของกระบี่แสงเป็นรูปแบบที่ไร้สสารซึ่งไม่แผ่ความร้อนและขยายพลังงานจนกว่ามันจะเข้าสัมผัสกับของแข็ง พลังของใบมีดมีมหาศาลจนมันสามารถตัดผ่านทุกอย่าง แม้ว่าความเร็วนั้นจะขึ้นอยู่กับปลายทางและวัตถุ สิ่งหนึ่งที่สำคัญของการบาดเจ็บจากกระบี่แสงคือมันจะไม่มีเลือดถึงแม้ว่าแขนขาจะถูกตัดก็ตาม นี่ก็เพราะว่าพลังงานจากใบมีดทำให้แผลไหม้และดังนั้นแผลที่เกิดจากการตัดจะไม่มีเลือดไหลไม่ว่าจะสาหัสเท่าใดก็ตาม

เมื่อตัดผ่านสิ่งที่อัดแน่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นโดยการสร้างแนวโค้งทำให้จะทำเกิดแรงต้านทาน สิ่งนี้ทำให้ใบมีดรู้สึกเหมือนเป็นของแข็งเมื่อกระทบกับวัตถุที่อัดแน่น น้อยครั้งมากที่วัตถุแข็งจะผ่านทะลุสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและทำให้แนวโค้งขาด สนามพลังแม่เหล็กไฟฟ้าและพลังงานที่พุ่งออกมายังสามารถปัดป้องได้โดยแนวโค้งของกระบี่แสง สิ่งเหล่านี้ยังรวมทั้งสนามพลัง กระสุนบลาสเตอร์ และใบมีดของกระบี่แสงด้วยกัน

สิ่งที่ต้านทานกระบี่แสง แก้

นอกจากกระบี่แสงอีกเล่มแล้วสิ่งที่ต้านทานกระบี่แสงได้นั้นมีน้อยมาก แต่ก็มีบ้างดังนี้

  • คอร์โตซิส แม้ว่าจะหายากและมีราคาแพง เหล็กชนิดนี้มักเป็นเครื่องป้องกันที่ดีต่อกระบี่แสง เหตุผลหนึ่งที่มันมีราคาแพงนั้นก็เพราะว่ามันต้องการการสกัด คอร์โตซิสที่บริสุทธิ์และยังไม่ทำการสกัดจะทำให้ผู้ที่สัมผัสมันตายในทันทีโดยไม่ทราบสาเหตุ มีวิธีการใช้คอร์โตซิสสามวิธีด้วยกันซึ่งจะทรงผลต่างกันไปดังนี้
    • วิธีแรกคือการทำเกราะหรืออาวุธจากคอร์โตซิสที่ถักทอเอา ซึ่งมันจะใช้แร่เป็นวัสดุหลัก เมื่อสัมผัสกับกระบี่แสงใยคอร์โตฟิสจะตัดพลังานของใบมีด กระบี่แสงอาจทำงานใหม่เองในทันที แต่มันก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้เปรียบ
    • วิธีที่ธรรมดาและถูกที่สุดในช่วงสงครามกลางเมืองเจไดคือนำคอร์โตซิสมาเป็นเหล็กผสมที่จะต้านทานตัวกระบี่แสงเอง แม้ว่ามันจะไม่ทำให้กระบี่แสงหยุดทำงานก็ตาม สิ่งนี้ทำให้ทหารราบต่อสู้กับเจไดหรือซิธได้
    • วิธีที่หายากที่สุดในการใช้คอร์โตซิสคือเหล็กสกัด ดังนั้นการสกัดไม่ได้ทำให้มันอ่อนแอลงและมันยังคงสามารถทำให้พลังงานของใบมีดหยุดได้ ส่วนมากแล้ววิธีนี้ใช้กับการทำเกราะ
  • ฟอยล์แสง (Lightfoil) เป็นดาบพลังงานขนาดเล็กที่มีพื้นฐานมาจากกระบี่แสง พวกมันเป็นที่นิยมกันมากในเขตทาพานี ฟอยล์แสงอ่อนแอกว่ากระบี่แสงเพราะว่าคริสตัลที่ไร้คุณภาพของพวกมันที่ใช้ในการผลิตและทักษะของผู้สร้างที่ต่ำเมื่อเทียบกับเจได พวกมันไม่ต้องการการเชื่อมโยงกับพลังเพื่อที่จะสร้างมันขึ้นมา และใช้ได้ง่ายโดยผู้ที่ไม่มีสัมผัสถึงพลัง
  • ฟริค (Phrik) เป็นเหล็กหายากที่สามารถทนทานต่อกระบี่แสงได้ ถึงแม้ว่าไม่เหมือนกับเหล็กก่อนหน้า ฟริคไม่มีความสามารถที่จะลดพลังงานของใบมีด ฟริคนั้นมักถูกใช้ในการสร้างกระบอกไฟฟ้าที่ใช้โดยแมกน่าการ์ดของนายพลกรีวัส อีกสิ่งหนึ่งคือเกราะของดาร์คทรูปเปอร์และกระบี่แสงของพัลพาทีน
  • ดาบมืด เป็นดาบโบราณจากวัสดุพิเศษซึ่งสามารถปัดป้องกระบี่แสงได้ ไม่เหมือนกันคอร์โตซิสที่มันไม่สามารถหยุดการทำงานของกระบี่แสงเมื่อทำการสัมผัส
  • เกราะถัก เป็นเสื้อผ้าที่กล่าวกันว่าให้การต้านทานจ่อกระบี่แสงได้ ถึงแม้ว่าการป้องกันนั้นจะมีจำกัด
  • ศาสตร์เล่นแร่แปรธาตุของซิธ เป็นสิ่งที่ใช้กันในสมัยจักรวรรดิซิธด้วยการเพิ่มพลังให้กับเหล็กจนมันสามารถปะทะกับกระบี่แสงได้ ซิธยังใช้ธาตุอย่างคอร์โตซิสในการหลอมดาบซิธขึ้นมา หลังจากจักรวรรดิซิธเดิมการใช้วิธีนี้ก็ถูกนำไปใช้ในการสร้างเกราะของดาร์ธ เวเดอร์
  • เหล็กแมนดาลอเรียน เป็นเหล็กที่ใช้โดยนักรบชาวแมนดาลอเรียน
  • อาวุธพลัง เป็นอาวุธที่รวมกับพลังที่สามารถปัดป้องกระบี่แสงได้
  • น้ำ กระบี่แสงทุกชนิดยกเว้นแบบพิเศษ[7] จะสั้นลงเมื่อสัมผัสกับน้ำหรือจมอยู่ในน้ำ เพราะว่ากระบวนการลูกโซ่และน้ำจะทำให้ใบมีดหยุดทำงาน ท่ามกลางฝนกระบี่แสงจะก่อให้เกิดไอน้ำแต่จะไม่สั้นลง[10]แบบพิเศษที่รู้จักกันดีก็คือกระบี่แสงเล่มที่ 2 ของอนาคิน สกายวอล์คเกอร์

วัสดุอื่น ๆ ในกาแลคซี่อย่างโล่พลังงานก็ใช้ได้เช่นกัน สัตว์บางชนิดอย่างมังกรลาวามีเกราะตามธรรมชาติที่ป้องกันมันจากกระบี่แสงได้เช่นเดียวกับกระสุนบลาสเตอร์ วัสดุนำไฟฟ้าจะมีองศาในการต้านทานกระบี่แสง สนามพลังงานของกระบี่แสงจะทำปฏิกิริยากับสนามพลังของวัตถุนำไฟฟ้า และพลังงานจากใบมีดจะผ่านวัตถุไปอย่างสม่ำเสมอ ในที่สุดจะทำให้มันละลายหากพลังงานที่มากพอถูกย้าย

ศาสตร์การต่อสู้ด้วยกระบี่แสง แก้

ความสอดคล้องของความภักดี แก้

อาจารย์อีธ คอธ ข้ามีของบางสิ่งจะคืนท่าน มันเป็นสิ่งประดิษฐ์จากมือท่านที่ครั้งหนึ่งท่านเคยมอบให้ข้า ด้วยการคืนกระบี่แสงด้ามนี้ให้ท่าน แสดงถึงความเชื่อมั่นที่ข้ามีต่อท่านเช่นกัน

— อาจารย์วินดู

ประเพณีของเจไดในการมอบดาบให้สมาชิกเจไดท่านอื่นนั้นเรียกว่า “ ความสอดคล้องของความภักดี” (Concordance of Fealty) การแลกเปลี่ยนนี้แสดงถึงความเคารพระหว่างเพื่อนแห่งพลัง และแสดงถึงว่าจะช่วยเหลือกันในการต่อสู้ มารยาทที่ดีในเหล่าเจไดนั้นคือการให้ความเคารพแก่กัน

เบื้องหลัง แก้

ไฟล์:ST Lightsaber.jpg
สตาร์ วอร์สในตอนแรกนั้นกระบี่แสงคืออาวุธที่ใช้กันทั่วไป

สตาร์ วอร์สในตอนเริ่มแรกนั้นกระบี่แสงไม่ได้เป็นอาวุธที่ใช้เฉพาะเจไดกับซิธ อันที่จริงแล้วพวกมันเป็นเพียงอาวุธธรรมดาที่ใช้โดยทหารฝ่ายกบฏและจักรวรรดิ หลังจากนั้นจอร์จ ลูคัสได้จำกัดอาวุธนี้ให้ใช้เพียงเจไดและซิธเท่านั้นเพื่อเพิ่มความรู้สึกให้มันเป็นอาวุธที่ไม่ธรรมดา

ในแบบร่างของสตาร์ วอร์สเมื่อปีพ.ศ. 2517 กระบี่แสงถูกเรียกว่า"ดาบเลเซอร์" (lasersword)

คริสตัลปรากฏตัวครั้งแรกในสตาร์ วอร์สด้วยการเป็นของประดับด้ามดาบกระบี่แสงใน ความหวังใหม่ ฉบับนวนิยาย นอกจากนั้นก็ไม่มีการกล่าวถึงคริสตัลเลยทั้งในภาพยนตร์และนวนิยาย

กระบี่แสงของอนาคินกับลุคทำมาจากไฟแฟลชกล้องกราฟเฟล็กซ์ ในขณะที่ของดาร์ธ เวเดอร์ทำมาจากไฟแฟลชของไมโคร พรีซิชั่น โปรดักส์ในไตรภาคเดิม ด้ามจับทำมาจากขอบยางติดกระจกรถยนต์ และแหวนตัวดีถูกติดเข้าไปเพื่อให้มันสวมใส่กับเข็มขัดได้ กระบี่แสงของโอบีวันในไตรภาคเดิมเป็นอันที่ซับซ้อนที่สุดในตอนนั้น มันทำมาจากชิ้นส่วนของปืนกลเอเอ็นเอ็ม2 บราวน์นิ่ง ปืนยิงระเบิดมาร์ค 1 ของอังกฤษ และท่อเครื่องยนต์ไอพ่นของโรลส์-รอยซ์

ในแบบแรกของการกลับมาของเจได กระบี่แสงของลุคนั้นเป็นสีฟ้า แต่เมื่อต้องเจอกับท้องฟ้าของทะเลทรายจึงมีการเปลี่ยนให้มันเป็นสีเขียวเพื่อให้มองเห็นได้ชัดขึ้น

ใน กองทัพโคลนส์จู่โจม แซมมวล แอล. แจ็กสันขอให้กระบี่แสงของตัวละครของเขา เมซ วินดู เป็นสีม่วง ในที่สุดลูคัสก็ให้เมซ วินดูใช้กระบี่แสงสีม่วง มันเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์สตาร์ วอร์สที่มีกระบี่แสงสีอื่นที่ไม่ใช่สีแดง ฟ้า หรือเขียว

ในไตรภาคเดิมใบมีดทำมาจากคาร์บอนและแตกหักได้ง่ายมาก ในภัยซ่อนเร้นและกองทัพโคลนส์จู่โจมใบมีดกระบี่แสงทำมาจากเรซินและเหล็กทำให้มันทนทานขึ้นมาก แต่ก็คดงอได้ในตอนที่ต่อสู้กัน อย่างไรก็ตามกระบี่แสงที่ใช้ใน ซิธชำระแค้น ทำมาจากท่อไฟเบอร์ที่ประกอบด้วยไฟเบอร์กลาสสามชั้น สองชั้นเป็นคาร์บอนและอีกชั้นเป็นเทซาเลียม

กระบี่แสงมักจะมีปลายที่โค้งมน ในการต่อสู้ระหว่างโยดากับเคาท์ ดูกูใน กองทัพโคลนส์จู่โจม นั้นเป็นครั้งแรกที่กระบี่แสงมีปลายที่แหลม ปลายที่แหลมยังถูกใช้อย่างมากใน ซิธชำระแค้น

กระบี่แสงถูกแสดงออกมาอย่างไม่กลมกลืนนักในภาพยนตร์สตาร์ วอร์สด้วยการที่แสงจากใบมีดนั้นจะส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม กระบี่แสงไม่ได้เป็นแหล่งกำเนิดแสงในไตรภาคเดิม ถึงแม้ว่าพวกมันจะส่องแสงแต่พวกมันก็ไม่ได้ทำให้สิ่งรอบข้างสว่างขึ้น ในไตรภาคใหม่พวกมันทำเช่นนั้นได้ ความไม่กลมกลืนนี้มาจากเทคนิคพิเศษของไตรภาคเดิม

บางครั้งมีการตั้งสันนิษฐานว่ากระบี่แสงไม่ส่งความร้อนออกมา การอยู่ใกล้ใบมีดจะไม่ส่งผลใด ๆ จนกระทั่งไปสัมผัสมันเข้าซึ่งเป็นส่วนที่มีพลังงานและความร้อนสูง นวนิยายลีเจซี่ ออฟ เดอะ ฟอร์ซทั้งสามเล่มกล่าวว่ากระบี่แสงมีความร้อนออกมาจากใบมีด แต่ในนวนิยายเฟท ออฟ เดอะ เจไดได้กล่าวว่ากระบี่แสงมีสนามพลังรอบ ๆ ใบมีดทำให้ความร้อนไม่สามารถแผ่ออกมาได้ เพราะว่าผู้แต่งสตาร์ วอร์สฉบับแรก ๆ บอกว่ากระบี่แสงนั้นมีการแผ่ความร้อน นี่จึงอาจเป็นได้ว่ามันคือการพยายามที่จะใช้เหตุผลเดียวกันนี้ต่อไป

ช่องฮิสตอรี่ แชนแนลได้มีภาคพิเศษของรายการโมเดิร์น มาเวลส์โดยใช้ชื่อว่าเทคโนโลยีของสตาร์ วอร์ส ในภาคนี้นักวิทยาศาสตร์เห็นด้วยว่าใบมีดของกระบี่แสงหากสร้างได้ขึ้นจริง มันคนเป็นการผสมพลาสม่าเข้าไปภายในสนามแม่เหล็กไฟฟ้า อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่เห็นด้วยที่ว่ากระบี่แสงนั้นไม่แผ่ความร้อนทั้ง ๆ ที่มันสามารถตัดผ่านวัตถุต่าง ๆ ได้ นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าเพื่อที่จะให้พลาสม่าตัดผ่านวัตถุที่เป็นเหล็กหรือเนื้อนั้น อย่างที่ใบมีดของกระบี่แสงทำได้ พลาสม่าจะต้องร้อนเป็นสิบเท่าของทุกสิ่งที่อยู่บนโลก หรือประมาณ 2 ล้านองศา สิ่งนี้อาจทำให้กระบี่แสงเป็นอาวุธที่ไม่สามารถนำมาใช้งานได้โดยบุคคล[11].

ในนวนิยาย ไลท์เซเบอร์ส เทเนล คารู้สึกว่าแขนของเธอเย็นเฉียบเมื่อถูกตัดอย่างอุบัติเหตุโดยจาเซน โซโล ไม่ว่ามันจะเป็นเพราะตัวบุคคลหรืออะไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่มีใครทราบ

เสียงของดาบนั้นจะถูกเพิ่มเข้าไปในภายหลังโดยทีมเอฟเฟคทางด้านเสียง แต่ยวน แมกเกรเกอร์นั้นให้เสียงกระบี่แสงของตนเองในเอพพิโซด I ซึ่งเลียม นีสันและเฮย์เดน คริสเตนเซ่นก็ให้เสียงเองด้วยเช่นกันเสียงของกระบี่แสงนั้นเป็นเสียงผสมระหว่างลำแสงของเครื่องโปรเจกต์เตอร์และเสียงสัญญาณรบกวนจากโทรทัศน์ที่ใช้ระบบเคเบิลที่ไม่ได้ป้องกันเสียงรบกวน[ต้องการอ้างอิง]

อ้างอิง แก้

  1. Jedi vs. Sith: The Essential Guide to the Force
  2. Shadows of the Empire (ฉบับนวนิยาย)
  3. 3.0 3.1 3.2 Star Wars Episode II: Attack of the Clones
  4. Star Wars: Bounty Hunter
  5. สตาร์ วอร์ส : สงครามโคลน
  6. Darth Bane: Path of Destruction
  7. 7.0 7.1 Clone Wars Chapter 5
  8. Jedi vs. Sith: The Essential Guide to the Force
  9. Clone Wars Chapter 18
  10. Clone Wars Chapter 19
  11. Star Wars Tech

แหล่งข้อมูลอื่น แก้