พัลพาทีน
ชีฟว์ พัลพาทีน (อังกฤษ: Sheev Palpatine) หรือที่รู้จักกันในชื่อของซิธคือ ดาร์ธ ซิเดียส (อังกฤษ: Darth Sidious) (ชื่อที่รู้จักต่อสาธารณชนคือ วุฒิสมาชิกพัลพาทีน ต่อมาเป็น สมุหนายกพัลพาทีน และสุดท้ายเป็น จักรพรรดิพัลพาทีน) คือตัวละครฝ่ายร้ายตัวหนึ่งในมหากาพย์ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ชุดสตาร์ วอร์ส (Star Wars) แสดงโดยเอียน แมคเดียร์มิด เขาคือลอร์ดมืดแห่งซิธผู้มีจิตใจเต็มไปด้วยความชั่วร้าย มีพลังพิเศษคือการปล่อยพลังสายฟ้า (Force Lightning) ใส่สิ่งต่างๆ ได้ และการใช้ดาบไลท์เซเบอร์สีแดงที่เต็มไปด้วยพลังด้านมืด มีบทบาทสำคัญในภาพยนตร์ทั้งหมดเก้าภาคของภาพยนตร์ชุดนี้และเนื้อหาในจักรวาลขยายอีกจำนวนมาก
ชีฟว์ พัลพาทีน ดาร์ธ ซิเดียส | |
---|---|
ตัวละครใน สตาร์ วอร์ส | |
![]() | |
ปรากฏครั้งแรก | จักรวรรดิเอมไพร์โต้กลับ (1980) |
ปรากฏครั้งสุดท้าย | กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์ (2019) |
สร้างโดย | จอร์จ ลูคัส |
แสดงโดย |
|
ให้เสียงโดย |
|
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง | |
ชื่อเต็ม | ชีฟว์ พัลพาทีน |
เพศ | ชาย |
อาชีพ | |
สังกัด |
|
ครอบครัว | ไม่มีชื่อ (ลูกชาย) เรย์ (หลานสาว) |
ศาสนา | นิกายแห่งซิธลอร์ด |
Homeworld | นาบู |
ชีฟว์ พัลพาทีน หรือ ดาร์ธ ซิเดียส เป็นอดีตวุฒิสมาชิกแห่งนาบู สมุหนายกคนสุดท้ายของสาธารณรัฐกาแลกติก (ปีที่ 32 ก่อนยุทธการยาวินถึงปีที่ 19 ก่อนยุทธการยาวิน) และผู้แต่งตั้งตนเองเป็นจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิกาแลกติก (ปีที่ 19 ก่อนยุทธการยาวินถึงปีที่ 4 หลังยุทธการยาวิน) เขาเป็นผู้ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระดับกาแลกซีอย่างสงครามโคลนเพื่อที่จะกุมอำนาจจากสาธารณะรัฐโดยใช้กฎอัยการศึกที่ประกาศโดยสภากาแลกติก
ในระหว่างสงครามโคลน พัลพาทีนเป็นผู้นำที่แท้จริงของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในฐานะของซิธลอร์ด ดาร์ธ ซิเดียส ทั้งยังเป็นผู้นำตามกฎหมายของฝ่ายสาธารณรัฐอีกด้วย ทำให้เขาสามารถวางแผนความเป็นไปของสงครามทั้งหมดได้ ยังผลให้พัลพาทีนได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่คือการถือกำเนิดขึ้นของจักรวรรดิกาแลกติกภายใต้สาธารณะรัฐกาแลกติก โดยแต่งตั้งตนเองเป็นจักรพรรดิปกครอง และให้ซิธครอบครองกาแลกซี สร้างความหวาดกลัวไปทั่วทั้งกาแลกซี
นอกจากพัลพาทีนจะถูกถือว่าเป็นลอร์ดมืดแห่งซิธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิกายซิธแล้ว พัลพาทีนยังเชื่อว่าตนเป็นซิธลอร์ดเพียงหนึ่งเดียวในรอบหลายพันปีที่สามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดของซิธได้ นั่นก็คือการทำลายล้างนิกายเจไดทั้งหมด และทำให้ซิธได้ปกครองทั่วทั้งกาแลกซี
อย่างไรก็ดี ความแข็งแกร่งที่ทำให้พัลพาทีนเป็นซิธที่สามารถแก้แค้นให้กับนิกายของตนได้เป็นผลสำเร็จนั้นไม่ได้มาจากความสามารถในด้านมืดของพลังที่ร้ายกาจแต่อย่างใด ทว่าเป็นการที่เขาสามารถทำให้กาแลกซีทั้งกาแลกซีตกอยู่ภายใต้การควบคุมของตนเองได้ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว นั่นคือตามที่อาจารย์โยดาเคยกล่าวไว้ว่า "ด้านมืดบดบังทุกสิ่ง"
ในฐานะของอัจฉริยะจอมโฉด พัลพาทีนไม่ได้สามารถชำระแค้นให้กับซิธด้วยเพียงความเก่งกาจทางการเมืองและความเชี่ยวชาญในพลังแห่งด้านมืดเท่านั้น แต่ยังด้วยความช่วยเหลือของผู้ฝึกฝนที่เก่งกาจจำนวนมาก ซึ่งรวมไปถึง "อนาคิน สกายวอล์คเกอร์" อัศวินเจไดผู้ถูกพัลพาทีนชักนำเข้าสู่ด้านมืดและกลายเป็นซิธลอร์ดนาม "ดาร์ธ เวเดอร์"
ที่สำคัญพัลพาทีนเป็นบุคคลสำคัญในการวางแผนคำสั่งที่ 66 ซึ่งทำให้เจไดเกือบทั้งหมดถูกสังหารโดยกองทัพซิธ และเขาเป็นผู้คุมกองทัพซิธทั้งหมดไว้ในมือ เพื่อให้ฝ่ายตนชนะฝ่ายสาธารณะรัฐและเป็นผลให้จักรวรรดิกาแลกติกถูกก่อตั้งขึ้นภายใต้สาธารณรัฐและทำให้กองทัพซิธได้ปกครองทั้งกาแลกซีตามแผนการชั่วร้ายของพัลพาทีน
หลายคนเชื่อว่าเขาเป็นผู้ที่ทรงพลังอย่างมาก จากที่เขาสามารถทำนายความรุ่งเรืองและความเป็นไปทั้งหมดของชีวิตของเขาได้ทะลุปรุโปร่ง ยกเว้นเพียงแต่ความตายทั้งสองครั้งของตัวเขาเองเท่านั้น
บทภาพยนตร์ฉบับแรกสุดของลูคัสนั้นกำหนดให้พัลพาทีนเป็นนักการเมืองผู้มีความสามารถ แต่อ่อนแอและตกอยู่ใต้อำนาจของลูกน้องของเขาเอง ทว่าในการกลับมาของเจได ไตรภาคต้น และนิยายจำนวนมากนั้น ตัวละครนี้ถูกแสดงออกมาในภาพลักษณ์ของความชั่วร้ายและผู้ที่กุมอำนาจทุกอย่างไว้ได้เบ็ดเสร็จ จนกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความชั่วร้ายอันดับต้นๆ ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์
หลังจากที่พัลพาทีนพยายามสังหารลุค สกายวอล์คเกอร์ ลูกชายของดาร์ธ เวเดอร์ เนื่องจากลุคเลือกทำตามวิถีแห่งเจได พัลพาทีนก็เสียชีวิตลงด้วยการกลับเข้าสู่ด้านสว่างของดาร์ธ เวเดอร์ โดยเขาทุ่มพัลพาทีนลงไปยังเตาปฏิกรณ์ของดาวมรณะดวงที่ 2 เพื่อช่วยชีวิต แต่ก็ฟื้นคืนชีพอีกครั้งเพื่อแก้แค้นสาธารณรัฐใหม่ แอบสร้างปฐมภาคีและปัจฉิมภาคีจากเศษซากของจักรวรรดิกาแลกติก และวางแผนยึดครองกาแลกซีอีกครั้ง โดยชักจูง "เบน โซโล" ลูกชายของฮาน โซโลและเจ้าหญิงเลอา ให้เข้าสู่ด้านมืดกลายเป็น "ไคโล เร็น" ซึ่งทรยศหักหลังนิกายเจไดใหม่ มีเพียงฝ่ายต่อต้านเท่านั้นที่ยืนหยัดสู้กับปฐมภาคีและปัจฉิมภาคี แม้จะสร้างความหวาดกลัวไปทั่วกาแลกซีแต่ในที่สุดทั้งกาแลกซีก็ร่วมมือกันต่อต้านพัลพาทีน
เมื่อพัลพาทีนพบกับ "เรย์" อัศวินเจไดคนสุดท้าย และหลานสาวแท้ๆ ของตน เขาก็พยายามสังหารเรย์ด้วยพลังสายฟ้า เพื่อกำจัดนิกายเจไดใหม่ให้หมดสิ้นด้วยตนเอง เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดของซิธอีกครั้ง แต่เรย์ได้ป้องกันตัวด้วยกระบี่แสงของลุคและเลอา อดีตอาจารย์เจไดของเรย์ผู้เสียชีวิตไปแล้ว ทำให้สายฟ้าพุ่งย้อนกลับไปหาพัลพาทีนจนสิ้นชีวิตอีกครั้ง ปิดตำนานซิธคนสุดท้ายและปิดฉากมหาสงครามระดับกาแลกซีที่ยืดเยื้อมานานกว่าหลายปี หลังจากสงครามครั้งนั้น เรย์ได้เปลี่ยนนามสกุล จาก "เรย์ พัลพาทีน" เป็น "เรย์ สกายวอล์คเกอร์" เพื่อสืบสายตระกูลสกายวอล์คเกอร์ต่อไป และเพื่อมิให้ตนเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลซิธลอร์ดผู้ชั่วร้าย
แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข
บทความเกี่ยวกับสตาร์ วอร์สนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |
- ↑ 2004 DVD and subsequent releases of แอพพิโซด 5
- ↑ Gourley, Matt. "I Was There Too". earwolf.com. Earwolf. สืบค้นเมื่อ 10 November 2016.
- ↑ @pablohidalgo (October 26, 2016). "Okay here's what I've got. It is not Elaine Baker in the movie. @PhilTippett sculpted the piece and Rick applied it" (ทวีต) – โดยทาง ทวิตเตอร์.