ไทป์ 69 และไทป์ 79 เป็นรถถังหลักที่พัฒนามาจากไทป์ 59 (ซึ่งมีพื้นฐานมาจากที-54เอของโซเวียต) และเป็นรถถังหลักแบบแรกที่จีนพัฒนาเพียงลำพัง[2] การพัฒนานั้นมีทั้งเครื่องยนต์ คอมพิวเตอร์ และเลเซอร์หาระยะ ไทป์ 79 ที่ก้าวหน้ากว่าจะมีปืนใหญ่ขนาด 105 ม.ม.[1] ซึ่งต่อมาไทป์ 88 ก็ใช้เช่นเดียวกัน

ไทป์ 69-2
บทบาทรถถังหลัก
สัญชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน
สงครามสงครามอิรัก-อิหร่าน สงครามอ่าว สงครามอิรัก
น้ำหนัก36.7 ตัน[1]
ความยาว6.24 เมตร[1]
ความกว้าง3.3 เมตร[1]
ความสูง2.80 เมตร
ลูกเรือ4 นาย
เกราะ203 ม.ม.
อาวุธหลักปืนใหญ่รถถังขนาด 100/105 ม.ม.
อาวุธรองปืนกลรองและปืนกลขนาด 7.62 ม.ม. ปืนกลต่อต้านอากาศยาน 12.7 ม.ม.
เครื่องยนต์ดีเซล ให้กำลัง 580 แรงม้า[1]
ระบบช่วงล่างทอชั่น-บาร์
พิสัย440 กิโลเมตรต่อชั่วโมง[1]
ความเร็ว50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง[1]

ประวัติการใช้งาน แก้

หลังจากการแตกแยกระหว่างจีนกับโซเวียต สหภาพโซเวียตก็ถอนเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคออกจากอุตสาหกรรมของกองทัพจีน โรงงาน 617 ของจีนได้รับมอบหมายให้พัฒนาการออกแบบที-54เอ (ไทป์ 59) ในปีพ.ศ. 2506 ซึ่งกลายมาเป็นไทป์ 69 การพัฒนานั้นมีทั้งปืนขนาด 100 ม.ม. เครื่องยนต์ใหม่ที่ให้กำลัง 580 แรงม้า และไฟค้นหาอินฟราเรด อย่างไรก็ตามกองทัพก็ยังไม่พอใจและไม่ได้นำมันเข้าสู่การผลิต นักประเมินชาวตะวันตกบางคนมักเข้าใจผิดว่าไทป์ 69 เป็นการเลียนแบบที-55 ของโซเวียต ซึ่งจริงๆ แล้วไทป์ 69 เป็นการลอกแบบมาจากที-54เอ

ในความขัดแย้งที่ชายแดนจีน-โซเวียต กองทัพจีนนั้นสามารถยึดที-62 ของโซเวียตมาได้หนึ่งคัน มันถูกตรวจสอบและชิ้นส่วนบางชิ้นก็ถูกเลียนแบบเพื่อนำไปใช้กับไทป์ 69 ทั้งไทป์ 69 และ 79 ได้กลายมาเป็นรถถังหลักแบบแรกที่พัฒนาขึ้นเองโดยจีน [3] อย่างไรก็ตามไทป์ 69 ก็ไม่ได้เข้าประจำการจนถึงปีพ.ศ. 2525 และจากนั้นมันก็มีจำนวนที่จำกัด กองทัพจีนไม่พอใจกับการทำงานของไทป์ 69 แต่มันก็กลายมาเป็นหนึ่งในรถถังที่ดีที่สุดในการส่งออกของจีน มีรถถังมากกว่า 2 พันคันถูกขายไปทั่วโลกในทศวรรษที่ 2523

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับตะวันตกเริ่มดีขึ้นในทศวรรษที่ 2523 และจีนก็สามารถนำเข้าเทคโนโลยีจากตะวันตกเข้ามาเพื่อพัฒนาระบบอาวุธ ไทป์ 69 ถูกพัฒนาด้วยระบบอย่างบริติช มาร์โคนี เอฟซีเอสและปืนขนาด 105 ม.ม. มันได้รับชื่อใหม่ว่าไทป์ 79

ด้วยความเรียบง่าย ทนทาน และราคาต่ำให้มันน่าสนใจในการตลาด จีนจึงขายมันได้มากมายในสงครามอิรัก-อิหร่าน (Gelbart 1996:18) มีพวกมันจำนวนมากที่ต่อมาถูกใช้โดยซัมดัม ฮุสเซนในสงครามอ่าวและสงครามอิรักเมื่อปีพ.ศ. 2546

ทั้งไทป์ 69 และ 79 มีส่วนตัวถังและป้อมปืนที่คล้ายกับไทป์ 59 ความแตกต่างเดียวคือทั้งสองแบบนั้นได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีที่ดีกว่าซึ่งซื้อมาจากตะวันตก (Gelbart 1996:17-19) ไทป์ 59 69 และ 79 ของจีนจึงดูเหมือนกันมาก มันเป็นตระกุลรถถังที่พัฒนาเหมือนกับที-54 -55 และ -62 ของโซเวียต จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2523 ที่จีนเริ่มทำการทดลองเพื่อสร้างรถถังรุ่นใหม่ขึ้นมา เป็นการออกแบบที่ไม่ได้แตกต่างไปจากไทป์ 59/69/79 และในปีพ.ศ. 2531 จีนจึงเริ่มสร้างรถถังยุคใหม่ของตนอย่างแท้จริง (Gelbart 1996:20-24)

ปัจจุบันมีไทป์ 69 และ 79 เพียงไม่กี่ร้อยคันในคลังแสงของกองทัพจีน ส่วนใหญ่ถูกใช้เพื่อการฝึกหรือกำลังสำรอง ไทป์ 69 และ 79 นั้นกำลังถูกแทนที่โดยไทป์ 96 และไทป์ 99 ที่ใหม่กว่า

ในอิรัก แก้

 
ไทป์ 69-คิวเอ็มที่ถูกทิ้งไว้ใกล้กับโรงพยาบาลนาซิริยาห์ หลังจากที่มันยิงเข้าใส่กองร้อยชาร์ลีของนาวิกโยธินสหรัฐ

ในปีพ.ศ. 2543 จีนได้รายงานว่าตนได้ขายไทป์ 59 และ 69 ไปหลายร้อยคันให้กับอิรัก ในสงครามอ่าวมื่อปีพ.ศ. 2534 นักประเมินชาวตะวันตกอ้างว่าอิรักได้พัฒนาไทป์ 69 ให้มีปืนขนาด 105 ม.ม. ปินครกขนาด 160 ม.ม. และ ปืนขนาด 125 ม.ม. ทั้งหมดมีกำลังเสริมเป็นเกราะแผ่นกลาซิส [4] มันมีชื่อใหม่ว่าไทป์ 69-คิวเอ็ม ในสงครามอ่าวมีการรายงานว่าไทป์ 69 ของอิรักนั้นทำงานหนักกว่ารีพับลิกันการ์ดที่ใช้ที-72 เสียอีก อีกคำอธิบายหนึ่งคือซัดดัมได้สั่งให้กองกำลังป้องกันสาธารณรัฐของเขาคงความแข็งแกร่งเอาไว้ ในขณะที่ส่งกองทัพที่เหลือที่มีไทป์ 69 เข้าสู่แนวหน้า

จากการรายงานในการบุกอิรักเมื่อปีพ.ศ. 2546 ไทป์ 69-คิวเอ็มถูกใช้โดยกองทัพบกอิรักเพื่อป้องกันเมื่อนาซิรายาห์ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2546 พวกมันส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นรังปืนใหญ่ พวกมันยังเป็นกุญแจสำคัญในการโจมตีซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับกองร้อยซ่อมบำรุงที่ 507 ของกองทัพบกและกองร้อยชาร์ลีของนาวิกโยธินสหรัฐ ก่อนที่เอเอช-1 คอบราจะเข้ามาทำลายพวกมัน ไทป์ 69 สองคันได้ทำลายพาหนะของกองร้อยที่ 507 ไปอย่างน้อยสี่คัน นอกจากนนี้ยังมีไทป์ 69 ประมาณสี่คันที่ซ่อนอยู่ในตกและกระหน่ำยิงเข้าใส่เอเอวีหลายคันของกองร้อยชาร์ลีอีกด้วย[5] ไทป์ 59 และ 69 บางคันที่ไม่สามารถทำงานได้ถูกนำมาใช้เป็นเป้าล่อหรือเครื่องกัดขวาง

รุ่นต่างๆ แก้

ต้นแบบ แก้

  • ไทป์ 69 เป็นต้นแบบที่มีพื้นฐานมาจากไทป์ 59 โดยใส่เครื่องยนต์ใหม่เข้าไปซึ่งให้กำลัง 580 แรงม้า มีปืนขนาด 100 ม.ม. ไฟตรวจหาอินฟราเรด และเลเซอร์หาระยะ
  • ไทป์ 69-I เป็นต้นแบบที่ใช้เทคโนโลยีของที-62 ของโซเวียต อย่าง ไฟตรวจหาอินฟราเรดแบบลูนาร์และการป้องกันอาวุธเคมีชีวภาพที่ดีขึ้น -

แบบผลิต แก้

  • ไทป์ 69-IIเอ เป็นรุ่นแรกที่เข้าสู่การผลิตเมื่อปีพ.ศ. 2525 มันมี
    • ปืนขนาด 100 ม.ม. ของไทป์ 69-II
    • ระบบต่อสู้ในอนาคตที่ประกอบด้วย
      • ตัวสร้างความเสถียรให้กับปืน
      • เป้าเล็งของพลปืนจากไทป์ 70
      • เลเซอร์หาระยะ
      • คอมพิวเตอร์
    • วิทยุไทป์ 889
    • ขอบตีนตะขาบที่เป็นยาง
    • ชึ้นเก็บของบนป้อมปืน
    • เครื่องยิงลูกระเบิดควัน

ในรุ่นนี้ได้รับการส่งออกอย่างกว้างขวางและผลิตโดยบริษัทของปากีสถานภายใต้ใบอนุญาต ไทป์ 69-II ถูกเรียกว่าไทป์ 30 ในกองทัพบกไทย[6]

  • ไทป์ 69-IIบี/ซี เป็นรุ่นบัญชาการที่มีอุปกรณ์สื่อสารเพิ่มเติมและแพ็คพลังงานสำรอง จุดเด่นของมันคือเสาอากาศวิทยุระยะไกลและกล่องบรรทุกสองกล่องที่ด้านหลัง บรรจุสายเคเบิลและโทรศัทพ์สนาม
  • ไทป์ 69-III (ไทป์79) เป็นไทป์ 69-II ที่ได้รับการพัฒนาโดยเทคโนโลยีจากฝั่งตะวันตก มันเข้าประจำการในกองทัพบกจีนด้วยชื่อไทป์ 79 การพัฒนานั้นได้แก่
    • ตีนตะขาบแบบใหม่
    • ฝาครอบที่ทำการปิดอัตโนมัติเมื่อตรวจจับอาวุธเคมีชีวภาพได้
    • ปืนขนาด 105 ม.ม.ของไทป์ 83-I
    • ระบบมองอินฟราเรดหรือตราจหาความร้อน
    • ระบบที่มาจากของบริติช มาร์โคนีได้แก่
      • เลเซอร์หาระยะ
      • คอมพิวเตอร์
      • เป้าเล็งของพลปืน
    • เครื่องยนต์ดีเซลระบายความร้อนด้วยของเหลวของไทป์ 79

รุ่นส่งของต่างประเทศ แก้

อิรัก แก้

  • ไทป์ 69-คิวเอ็ม หรือที-55บีของกองทัพอิรัก เป็นไทป์ 69-II ที่มีปืนขนาด 100 ม.ม. เกราะโครงที่ส่วนหน้า และปืนครกขนาด 160 ม.ม. ในคันบัญชาการจะติดตั้งเกราะช่องว่างที่คล้ายคลึงกับอิรัก ที-55 ผลิตตั้งแต่ปีพ.ศ. 2529-2531
  • ไทป์ 69-คิวเอ็ม1 เป็นไทป์ 69-II ที่พัฒนาด้วยปืนขนาด 105 ม.ม.แบบนาโต้และเลเซอร์หาระยะ ผลิตตั้งแต่ปีพ.ศ. 2527-2531
  • ไทป์ 69-คิวเอ็ม2 เป็นไทป์ 69-II ที่พัฒนาด้วยปืนขนาด 125 ม.ม.แบบสนธิสัญญาวอร์ซอและเลเซอร์หาระยะ ผลิตตั้งแต่ปีพ.ศ. 2529-2534

บังกลาเทศ แก้

  • ไทป์ 69-IIจี เป็นรุ่นพัฒนาของบังกลาเทศโดยมีการดัดแปลงดังนี้
    • ปืนขนาด 120 ม.ม.ที่เทียบได้กับของนาโต้ ใช้การบรรจุกระสุนแบบกึ่งอัตโนมัติ
    • ระบควบคุมการยิงแบบใหม่ เลเซอร์หาระยะ กล้องจับความร้อน ระบบเชื่อมโยงข้อมูล เครื่องเตือนเลเซอร์จับเป้า
    • เครื่องยนต์ดีเซลที่ให้กำลัง 1,200 แรงม้า
    • เกราะระเบิดปฏิกิริยา ระบบลดแรงถีบของปืน ชุดป้องกันอาวุธเคมีชีวภาพ
    • อุปกรณ์สื่อสารและนำร่องแบบใหม่ รวมทั้งระบบจีพีเอส

การใช้งานที่ไม่ใช้ของกองทัพ แก้

ไทป์ 69 และ 79 ของพลเรือนถูกใช้เพื่อพัฒนารถถังดับเพลิงของจีน ปัจจุบันมีเพียง 3 คันเท่านั้นในจีน

ประเทศผู้ใช้งาน แก้

ปัจจุบัน แก้

อดีต แก้

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 1.6 Gelbart, Marsh (1996). Tanks main battle and light tanks. Brassey’s UK Ltd. pp. 18–19. ISBN 185753168X.
  2. http://www.sinodefence.com/army/tank/type69.asp
  3. http://www.sinodefence.com/army/tank/type69.asp
  4. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-02-11. สืบค้นเมื่อ 2009-11-01.
  5. http://www.jsonline.com/news/gen/mar03/128022.asp
  6. Jane's Armour and Artillery 1997-98 ISBN 0-7106-1542-6
  7. http://www.bdmilitary.com/index.php?option=com_content&view=article&id=126&Itemid=97[ลิงก์เสีย]

ดูเพิ่ม แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้