โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยของรัฐบาลระดับตติยภูมิขั้นสูง (Super tertiary care) ในเขตภาคเหนือตอนล่าง สังกัดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร เลขที่ 99 หมู่ 9 ถนนพิษณุโลก - นครสวรรค์ ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 65000
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร Naresuan University Hospital | |
---|---|
![]() | |
ภูมิศาสตร์ | |
ที่ตั้ง | 99 หมู่ 9 ถนนพิษณุโลก-นครสวรรค์ ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก 65000 |
พิกัด | 16°44′56″N 100°11′20″E / 16.748921°N 100.189018°E |
หน่วยงาน | |
ประเภท | โรงพยาบาลเพื่อการเรียนการสอน |
สังกัด | คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร |
บริการสุขภาพ | |
แผนกฉุกเฉิน | มี |
จำนวนเตียง | 362[1] |
ประวัติ | |
เปิดให้บริการ | 26 มีนาคม พ.ศ. 2548 |
ลิงก์ | |
เว็บไซต์ | www.med.nu.ac.th/nuh/ |
ประวัติ
แก้เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2537 คณะรัฐมนตรีมีมติให้มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ขึ้น และในคราวเดียวกันก็ได้อนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างอาคารวิทยาศาสตร์การแพทย์ (ปัจจุบันคืออาคารคณะแพทยศาสตร์และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์) เพื่อรองรับการจัดการเรียนการสอนนิสิตแพทย์ในระดับชั้นพรีคลินิก (ชั้นปี 2-3) รวมทั้งโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมุ่งหวังให้เป็นสถานศึกษาสำหรับการเรียนการสอนในกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพของมหาวิทยาลัยนเรศวรในส่วนที่เกี่ยวกับการฝึกภาคปฏิบัติการ และเป็นสถานที่พักอาศัยของนิสิตแพทย์ และนิสิตกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพอื่น ๆ ที่เรียนภาคปฏิบัติด้วย นอกจากนี้ยังมุ่งหวังให้เป็นศูนย์วิจัยทางการแพทย์และการสาธารณสุขของประเทศในเขตภาคเหนือตอนล่าง รวมทั้งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียงได้มากยื่งขึ้น
การก่อสร้างศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2539 จนแล้วเสร็จและเริ่มเปิดให้บริการแก่ประชาชนทั่วไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2543 สภามหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีมติให้เปลี่ยนชื่อศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพฯ เป็น "สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร" โดยให้มีสถานะเทียบเท่าคณะและอยู่ภายใต้การควบคุมของสำนักงานอธิการบดี เพื่อความคล่องตัวในการบริหาร โดยมีแนวความคิดว่าจะให้มีศูนย์วิจัยทางการแพทย์เฉพาะทางต่างๆ ในอนาคต ซึ่งสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นหน่วยงานในการสนับสนุนการเรียนการสอน การบริการสุขภาพชั้นสูง และผลิตงานวิจัยเพื่อตอบสนองต่อปัญหาสุขภาพของประชาชนตลอดมา
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2546 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อประดิษฐานหน้าอาคารสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพฯ[2]
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2546 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในการเปิดอาคารสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพฯ และพระราชานุสาวรีย์ โดยพระองค์ได้พระราชทานนาม "อาคารสิรินธร" แก่สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพฯ และโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญอักษรพระนามาภิไธย "ส.ธ." ประดิษฐานเหนืออาคาร[2]
ปี พ.ศ. 2548 สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยนเรศวร ครั้งที่ 118 (2/2548) เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2548 โดยมีมติให้ใช้ชื่อ "โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร" และต่อมาในการประชุมสภามหาวิทยาลัยนเรศวร ครั้งที่ 119 (3/2548) เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 มีมติให้รวมสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าเป็นส่วนหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2548[3] เพื่อดำเนินการเป็นโรงพยาบาลหลักสำหรับการเรียนการสอนนิสิตแพทย์ระดับชั้นคลินิก (ชั้นปี 4-6) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป
ปัจจุบันโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง โดยเป็นแหล่งปฏิบัติงานรวมทั้งเป็นแหล่งทำการเรียนการสอนนิสิตแพทย์ระดับชั้นคลินิก และนิสิตสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพของมหาวิทยาลัยนเรศวร ทั้งคณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะสหเวชศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรมีโครงการเพิ่มศักยภาพและพัฒนาระบบบริการของโรงพยาบาลโดยเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยเป็น 400 เตียง หลังได้รับอนุมัติวงเงินงบประมาณในการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมภายใต้โครงการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555[4]
ทำเนียบผู้อำนวยการ
แก้ตั้งแต่การก่อตั้งจากศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร จนถึงโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร มีรายนามผู้อำนวยการดังนี้[2]
ศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร | |
รายนามผู้อำนวยการ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
---|---|
1. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ทองจันทร์ หงศ์ลดารมภ์ | 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 – 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542 |
2. ศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์สุจินต์ อึ้งถาวร | 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542 – 21 ธันวาคม พ.ศ. 2542 |
3. รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ภูดิท เตชาติวัฒน์ | 22 ธันวาคม พ.ศ. 2542 – 18 สิงหาคม พ.ศ. 2543 |
สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยนเรศวร | |
รายนามผู้อำนวยการ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
1. รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ภูดิท เตชาติวัฒน์ | 19 สิงหาคม พ.ศ. 2543 – 15 มกราคม พ.ศ. 2547 |
2. อาจารย์ นายแพทย์องอาจ เลิศขจรสิน | 16 มกราคม พ.ศ. 2547 – 25 มีนาคม พ.ศ. 2548 |
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร | |
รายนามผู้อำนวยการ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
1. อาจารย์ นายแพทย์องอาจ เลิศขจรสิน | 26 มีนาคม พ.ศ. 2548 – 15 มีนาคม พ.ศ. 2550 |
2. ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ศุภสิทธิ์ พรรณารุโณทัย | 16 มีนาคม พ.ศ. 2550 – 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 |
3. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงพิริยา นฤขัตรพิชัย | 1 สิงหาคม พ.ศ. 2550 – 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 |
4. ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ศิริเกษม ศิริลักษณ์ | 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557 – 31 สิงหาคม พ.ศ. 2565 |
5.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงพิริยา นฤขัตรพิชัย | 1 กันยายน พ.ศ. 2565 - ปัจจุบัน |
หน่วยงาน
แก้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มีการแบ่งหน่วยงานต่างๆ ดังต่อไปนี้[5]
1. ฝ่ายการพยาบาล
2. ฝ่ายพยาธิวิทยาคลินิก
|
3. ฝ่ายเภสัชกรรม
4. ฝ่ายเลขานุการโรงพยาบาล
5. ฝ่ายสนับสนุนบริการสุขภาพ
6. ฝ่ายศูนย์โรคเฉพาะทาง
|
อ้างอิง
แก้- ↑ http://gishealth.moph.go.th/healthmap/infoequip.php?maincode=14972&id=130903[ลิงก์เสีย]
- ↑ 2.0 2.1 2.2 "ประวัติความเป็นมา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-07-23. สืบค้นเมื่อ 2014-12-08.
- ↑ รายงานประจำปี 2548 โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
- ↑ "โครงการพัฒนาระบบบริการระดับตติยภูมิ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-19. สืบค้นเมื่อ 2009-11-26.
- ↑ "โครงสร้างองค์กรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-10-20. สืบค้นเมื่อ 2014-09-19.