เอ็ม1918 ปืนไรเฟิลอัตโนมัติบราวนิง
ปืนไรเฟิลอัตโนมัติบราวนิง (Browning Automatic Rifle-BAR) เป็นตระกูลของปืนไรเฟิลอัตโนมัติและปืนกลสัญชาติอเมริกันที่ถูกใช้งานโดยสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ มากมายในช่วงศตวรรษที่ 20 รูปแบบหลักของปืน BAR คือ เอ็ม1918 ลำกล้องปืนสำหรับกระสุนปืนไรเฟิลขนาด .30-06 สปริงฟิลด์ และออกแบบโดยจอห์น บราวนิงในปี ค.ศ. 1917 สำหรับกองกำลังรบนอกประเทศอเมริกันในทวีปยุโรปเพื่อใช้แทนปืน Chauchat และ ปืนกลเอ็ม1909 Benét–Mercié ที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นมา เมื่อกองทัพสหรัฐได้ประสบปัญหามาก่อนหน้านี้
ปืนไรเฟิล, คาลิเบอร์ .30, อัตโนมัติ, บราวนิง, เอ็ม1918 | |
---|---|
เอ็ม1918เอ2 BAR | |
ชนิด | |
แหล่งกำเนิด | สหรัฐอเมริกา |
บทบาท | |
ประจำการ | 1918–ต้นปี ค.ศ. 1970s (U.S.) |
ผู้ใช้งาน | See Users |
สงคราม |
|
ประวัติการผลิต | |
ผู้ออกแบบ | จอหน์ บราวนิง |
ช่วงการออกแบบ | 1917 |
บริษัทผู้ผลิต | |
มูลค่าต่อหน่วย | $319 |
ช่วงการผลิต | 1917–1945 |
จำนวนที่ผลิต | 351,679
|
แบบอื่น | See Variants |
ข้อมูลจำเพาะ | |
มวล |
approx. 11 kg (24 lb) (M1922)
|
ความยาว |
|
ความยาวลำกล้อง |
|
กระสุน |
|
การทำงาน | Gas-operated, rising bolt lock |
อัตราการยิง |
|
ความเร็วปากกระบอก |
|
ระยะหวังผล | 100–1,500 หลา (91–1,372 เมตร) sight adjustments (maximum effective range) |
พิสัยไกลสุด | approx. 4,500–5,000 หลา (4,100–4,600 เมตร) |
ระบบป้อนกระสุน |
|
ศูนย์เล็ง |
|
BAR ถูกออกแบบมาเพื่อให้ทหารราบพกมันในช่วงระหว่างการจู่โจม ก้าวไปข้างหน้าในขณะที่สนับสนุนด้วยสายสะพานปืนพาดบ่าหรือยิงจากบริเวณสะโพก แนวคิดนี้จึงถูกเรียกว่า "การเดินยิง"—แม้ว่าจะมีความจำเป็นสำหรับทหารแต่ละคนในช่วงการทำสงครามสนามเพลาะ BAR ไม่เคยมีอยู่กับความหวังแต่เดิมของกระทรวงสงครามอย่างสิ้นเชิง อย่างเช่น ไรเฟิล หรือ ปืนกล
กองทัพสหรัฐ ในทางปฏิบัติ ได้ใช้ BAR เป็นปืนกลเบาซึ่งมักจะยิงด้วยขาตั้งทราย(ได้รับการแนะนำในรุ่นหลังปี ค.ศ. 1938) รูปแบบดั้งเดิมของ M1918 BAR คือ the Colt Monitor Machine Rifle, ยังคงเป็นอาวุธปืนอัตโนมัติที่เบาที่สุดสำหรับกระสุนปืนไรเฟิลขนาด .30-06 สปริงฟิลด์ แม้ว่าความจุที่จำกัดแบบมาตราฐานของซองกระสุน 20 นัด มักมีแนวโน้มที่จะขัดขวางประโยชน์ในบทบาทครั้งนี้
แม้ว่าอาวุธนี้จะได้เห็นถึงการใช้งานในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แต่ BAR ไม่ได้กลายเป็นปืนที่ถูกใช้งานแบบมาตราฐานในกองทัพสหรัฐจนกระทั่งปี ค.ศ. 1938 เมื่อมันได้ถูกนำใช้กับหน่วยทีมในฐานะที่เป็นปืนกลเบาขนาดพกพา BAR ได้แสดงให้เห็นในการใช้งานอย่างกว้างขวางในทั้งสงครามโลกครั้งที่สอง และสงครามเกาหลี และแสดงให้เห็นถึงการใช้งานที่จำกัดในสงครามเวียดนาม กองทัพสหรับได้เริ่มยุติใช้งาน BAR ในปลายปี ค.ศ. 1950 เมื่อได้มีความตั้งใจที่จะถูกแทนที่ด้วยรูปแบบของทีมอาวุธปืนอัตโนมัติ(SAW) คือ เอ็ม14 และไม่มีปืนกลเบาแบบพกพาจนกระทั่งได้มีการนำปืนกลเอ็ม60 ในปี ค.ศ. 1957
อ้างอิง
แก้- Ballou, James L. (2000). Rock in a Hard Place: The Browning Automatic Rifle. Ontario, California: Collector Grade Publications Inc. ISBN 978-0-88935-263-6..
- Bishop, Chris (2002). The Encyclopedia of Weapons of World War II. New York: Sterling Publishing. ISBN 978-1-58663-762-0..
- Chinn, George M. (1951). The Machine Gun, Volume I: History, Evolution, and Development of Manual, Automatic, and Airborne Repeating Weapons. Washington, D.C.: Bureau of Ordnance, Department of the Navy..
- Dunlap, Roy F. (1948). Ordnance Went Up Front. Samworth Press. ISBN 978-1-884849-09-1..
- Hodges, Robert R.; Hodges, Robert R. Jr. (20 Apr 2012). The Browning Automatic Rifle. Weapon 15. Osprey Publishing. ISBN 9781849087612..
- Hogg, Ian V.; Weeks, John (2000). "US Automatic Rifle, Caliber .30in M1918-M1922 (Brownings)". Military Small Arms of the 20th Century (7th ed.). Krause Publications..
- Lorain, Piere (September 1979). "Le F.M. BAR" [The BAR automatic rifle]. La Gazette des Armes (in French). No. 74. pp. 12–19..
- FM 23–15: Basic Field Manual — Browning Automatic Rifle, Caliber .30, M1918A2 (27 Aug 1940).
- Popiel, Adam (1992). Uzbrojenie lotnictwa polskiego 1918–1939 (in Polish). Warsaw, Poland: SIGMA-NOT. pp. 205–206. ISBN 978-83-85001-37-9..
- Smith, Joseph E. (1969). Small Arms of the World (11 ed.). Harrisburg, Pennsylvania: The Stackpole Company.