เฟรเดริก ชอแป็ง
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
เฟรเดริก ฟร็องซัว ชอแป็ง (ฝรั่งเศส: Frédéric François Chopin, ออกเสียง: [ʃɔ.pɛ̃]) หรือ ฟรือแดรึก ฟรันต์ซีเชก ชอแป็ง (โปแลนด์: Fryderyk Franciszek Chopin บางครั้งสะกดว่า Szopen) เป็นคีตกวีชาวโปแลนด์ เกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1810 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 1849 จากวัณโรคที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ชื่อที่บิดามารดาของเขาตั้งให้คือ "Fryderyk Franciszek Chopin" ต่อมาได้หันมาใช้ชื่อเป็นภาษาฝรั่งเศสเมื่อเขาได้ตัดสินใจจากประเทศบ้านเกิดเป็นการถาวรเพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ประวัติ
แก้ชอแป็งเกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1810 (ตามบันทึกของสังฆมณฑลบอกว่าเป็นวันที่ 22 กุมภาพันธ์) ที่เมืองแชลาซอวาวอลา (Żelazowa Wola) ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศโปแลนด์ บิดาของเขาชื่อนีกอลา (Nicolas Chopin) เป็นชาวฝรั่งเศสโดยกำเนิด พื้นเพมาจากเมืองมาแร็งวีล-ซูร์-มาดง (Marainville-sur-Madon) ในแคว้นลอแรน มารดาเป็นชาวโปแลนด์ ชอแป็งเริ่มเรียนดนตรีตั้งแต่อายุหกขวบ และแต่งเพลงแรกเมื่ออายุเพียงเจ็ดขวบ และเปิดการแสดงต่อสาธารณชนครั้งแรกเมื่ออายุแปดขวบ (ค.ศ. 1818) ครูสอนดนตรีคนแรกของชอแป็งได้แก่ วอยแชค ชึฟนือ (Wojciech Żywny) และหลังจาก ค.ศ. 1826 เขาได้เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนดนตรีแห่งกรุงวอร์ซอ ซึ่งเขาได้รับการถ่ายทอดวิชาดนตรีจากยูแซฟ เอลส์เนอร์ (Józef Elsner) เป็นหลัก
ใน ค.ศ. 1830 เขาได้จากโปแลนด์ประเทศบ้านเกิดเพื่อมาประกอบอาชีพนักดนตรีที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเขาได้ใช้ช่วงชีวิตที่เหลือพำนักอยู่ที่กรุงปารีสหรือไม่ก็ในบริเวณใกล้เคียง เขาตกหลุมรักสาวนางหนึ่งอย่างหัวปักหัวปำ ความรักที่เขามีต่อหล่อนเป็นแรงบันดาลใจในการประพันธ์เพลง "บัลลาดหมายเลข 1 โอปุสที่ 23" ที่แสนไพเราะ รวมถึงท่อนที่สองของคอนแชร์โตหมายเลข 1 ระหว่าง ค.ศ. 1838 ถึง ค.ศ. 1847 เขาได้กลายเป็นชู้รักของฌอร์ฌ ซ็องด์ (George Sand) นักประพันธ์นวนิยายชาวฝรั่งเศสผู้อื้อฉาว แต่ในที่สุดก็ได้แยกทางกันด้วยความเต็มใจของทั้งสองฝ่ายเมื่ออาการป่วยของชอแป็งทรุดหนัก ฉากหนึ่งของเรื่องราวความรักของคู่รักบันลือโลกที่ผู้คนจดจำได้ดีที่สุด เห็นจะได้แก่เหตุการณ์ในเกาะมายอร์กา ประเทศสเปน ในช่วงที่ชอแป็งใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่อย่างอนาถในบ้านชาวนาโดยปราศจากเครื่องทำความร้อน บทเพลงเขาได้ประพันธ์ระหว่างช่วงเวลาอันน่าสังเวชนี้ได้แก่พรีลูด โอปุสที่ 28 อันพรรณนาถึงความสิ้นหวังของทั้งคู่ ช่วงเวลาดังกล่าวได้มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสุขภาพของชอแป็งที่ป่วยจากวัณโรคเรื้อรัง ทำให้เขาและฌอร์จ ซ็องด์ตัดสินใจเดินทางกลับกรุงปารีสเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ เขารอดชีวิตมาได้ก็จริง แต่ก็ไม่หายขาดจากอาการป่วย จนกระทั่งจบชีวิตอย่างน่าสลดด้วยวัยเพียง 39 ปี
ชอแป็งสนิทกับฟรานซ์ ลิซท์, วินเชนโซ เบลลีนี (ผู้ซึ่งศพถูกฝังอยู่ใกล้กับเขาที่สุสานแปร์ลาแชซในกรุงปารีส) และเออแฌน เดอลาครัว เขายังเป็นเพื่อนกับคีตกวีแอ็กตอร์ แบร์ลีโยซ และโรแบร์ท ชูมันน์ และแม้ว่าชอแป็งได้มอบเพลงบางบทเพื่ออุทิศให้เพื่อนนักประพันธ์ทั้งสองก็ตาม แต่เขาก็ไม่ค่อยประทับใจบทเพลงที่ทั้งสองแต่งขึ้นเท่าไรนัก เขาได้ขอร้องให้ร้องเพลงสวดเรเควียมของโมซาร์ทในงานศพของเขา แต่เมื่อเขาเสียชีวิตลงใน ค.ศ. 1849 พิธีศพที่จัดขึ้นที่โบสถ์ลามาดแลน (La Madeleine) ไม่ได้ราบเรียบเสียทีเดียว เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ได้มีการขออนุญาตใช้วงประสานเสียงสตรีในการร้องเพลงสวด ข่าวอื้อฉาวดังกล่าวได้แพร่ออกไปส่งผลให้ต้องเลื่อนพิธีฝังศพออกไปอีกสองสัปดาห์ แต่ในที่สุดโบสถ์ก็ยอมรับคำขอดังกล่าว ทำให้คำขอร้องครั้งสุดท้ายของชอแป็งเป็นจริงขึ้นมา
ผลงานทุกชิ้นของชอแป็งเป็นงานชิ้นเอก ส่วนใหญ่ใช้สำหรับเดี่ยวเปียโน งานประเภทเรียบเรียงเสียงประสานมีเพียงคอนแชร์โตสองบท, ปอลอแนซ (polonaise) หนึ่งบท, รอนโด (rondo) หนึ่งบท และวารียาซียง (variation) อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดบรรเลงด้วยเปียโนและวงออร์เคสตรา เพลงเชมเบอร์มิวสิกมีเพียงห้าชิ้น ซึ่งสี่ชิ้นแรกแต่งไว้ตั้งแต่วัยเด็ก ชิ้นสุดท้ายเป็นโซนาตาสำหรับเชลโลและเปียโน ซึ่งเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายที่เขานำออกแสดงต่อสาธารณชนร่วมกับโอกุสต์ ฟร็องชอม (Auguste Franchomme) เพื่อนของเขาผู้เป็นนักเชลโลเลื่องชื่อ มิตรภาพได้ถูกถ่ายถอดมาเป็นความละเมียดละไมของเชลโล เนื่องจากเชมเบอร์มิวสิกของชอแป็งใช้เชลโลบรรเลงถึงสี่ในห้าชิ้นด้วยกัน
บทเพลงสำหรับบรรเลงเปียโน เรียงลำดับตามหมายเลขของโอปุส
แก้Opus
- 1 รอนโดในบันไดเสียง c (1825)
- 2 วารียาซียงสำหรับเปียโนและวงออร์เคสตรา จาก „Lá ci darem la mano“ ของโมซาร์ท (Mozart) ในบันไดเสียง B (1827/8)
- 3 แอ็งทรอดุกซียงและปอลอแนซ สำหรับเชลโลและเปียโน ในบันไดเสียง c (1829)
- 4 โซนาตาสำหรับเปียโน หมายเลข 1 ในบันไดเสียง c (1828)
- 5 รอนโดอาลามาซูร์ ในบันไดเสียง f (1826/7)
- 6 มาซูร์กาสี่บท ในบันไดเสียง fis, cis, E, es (1830/2)
- 7 มาซูร์กาห้าบท ในบันไดเสียง B, a, f, As, C (1830/2)
- 8 ทรีโอสำหรับเปียโน ไวโอลิน และเชลโล ในบันไดเสียง g (1829)
- 9 น็อกเทิร์นสามบทในบันไดเสียง b, Es, H (1830/2)
- 10 เอทูดสิบสองบท (อุทิศให้แก่สหายฟรันซ์ ลิซท์) ในบันไดเสียง C, a, E, cis, Ges, es, C, F, f, As, Es, c (1830/2)
- 11 คอนแชร์โต สำหรับเปียโนและออร์เคสตราหมายเลข 1 ในบันไดเสียง e (1830)
- 12 แอ็งทรอดุกซียงและวารียาซียงบรีย็องต์ จาก „Je vends des scapulaires“ ของ „Ludovic“ d’Hérold ในบันไดเสียง B (1833)
- 13 ฟ็องแตซีสำหรับเปียโนและออร์เคสตรา จากทำนองเพลงของโปแลนด์ ในบันไดเสียง A (1829)
- 14 รอนโดของชาวกรากุฟ สำหรับเปียโนและออร์เคสตรา ในบันไดเสียง F (1831/3)
- 15 น็อกเทิร์นสามบทในบันไดเสียง F, Fis, g (1831/3)
- 16 แอ็งทรอดุกซียงและรงโด ในบันไดเสียง c (1829)
- 17 มาซูร์กาสี่บท ในบันไดเสียง B, e, As, a (1831/3)
- 18 กร็องด์วาลส์บรีย็องต์ ในบันไดเสียง Es (1833)
- 19 โบเลอโรในบันไดเสียง C (etwa 1833)
- 20 สแกร์โซหมายเลข 1 ในบันไดเสียง b (1831/4)
- 21 คอนแชร์โตสำหรับเปียโนและออร์เคสตราหมายเลข 2 ในบันไดเสียง f (1829/30)
- 22 อันดันเตสปีอานาโต และกร็องด์ปอลอแนซบรีย็องต์ ในบันไดเสียง Es (1830/6)
- 23 บัลลาดหมายเลข 1 ในบันไดเสียง g (1835)
- 24 มาซูร์กาสี่บท ในบันไดเสียง g, C, As, b (1833/6)
- 25 เอตู๊ดสิบสองบท (อุทิศให้แก่มาดามก็องเตส โดกุลต์)ในบันไดเสียง As, f, F, a, e, gis, cis, Des, Ges, b, a, c (1833/7)
- 26 ปอลอแนซสองบท ในบันไดเสียง cis, es (1831/6)
- 27 น็อกเทิร์นสองบท ในบันไดเสียง cis, Des (1833/6)
- 28 พรีลูด 24 บทในทุกบันไดเสียง (1838/9)
- 29 แอ็งพรงป์ตูว์หมายเลข 1 ในบันไดเสียง As (etwa 1837)
- 30 มาซูร์กาสี่บท ในบันไดเสียง c, h, Des, cis (1836/7)
- 31 สแกร์โซหมายเลข 2 ในบันไดเสียง b (1835/7)
- 32 น็อกเทิร์นสองบท ในบันไดเสียง H, As (1835/7)
- 33 มาซูร์กาสี่บท ในบันไดเสียง gis, D, C, h (1836/8)
- 34 วอลซ์สามบท ในบันไดเสียง As, a, F (1831/8)
- 35 โซนาตาสำหรับเปียโน หมายเลข 2 ในบันไดเสียง b-moll (1839)
- 36 แอ็งพรงป์ตูว์ หมายเลข 2 ในบันไดเสียง Fis (1839)
- 37 น็อกเทิร์น สองบท ในบันไดเสียง g, G (1837/9)
- 38 บัลลาด หมายเลข 2 ในบันไดเสียง F (1839)
- 39 สแกร์โซ หมายเลข 3 ในบันไดเสียง cis (1839)
- 40 ปอลอแนซ สองบท ในบันไดเสียง A (เรียกอีกชื่อว่า„Militaire“)และบันไดเสียง c (1838/9)
- 41 มาซูร์กาสี่บท ในบันไดเสียง cis, e, B, As (1838/9)
- 42 กร็องด์วอลซ์ ในบันไดเสียง As (1839/40)
- 43 ตารันเตลลา ในบันไดเสียง as (1841)
- 44 ปอลอแนซ ในบันไดเสียง fis (1841)
- 45 พรีลูด (1838/39)
- 46 อัลเลโกร ของคอนแชร์โต (1832/41)
- 47 บัลลาด หมายเลข 3 ในบันไดเสียง As (1841)
- 48 น็อกเทิร์น สองบท ในบันไดเสียง c, fis (1841)
- 49 ฟ็องแตซีในบันไดเสียง f (1841)
- 50 มาซูร์กาสามบท ในบันไดเสียง G, As, cis (1841/2)
- 51 แอ็งพรงป์ตูว์ หมายเลข 3 ในบันไดเสียง Ges (1842)
- 52 บัลลาด หมายเลข 4 ในบันไดเสียง f (1842)
- 53 ปอลอแนซ ในบันไดเสียง As เรียกอีกชื่อว่า(„Héroïque“) (1842)
- 54 สแกร์โซหมายเลข 4 ในบันไดเสียง E (1842)
- 55 น็อกเทิร์น สองบท ในบันไดเสียง f, Es (1843)
- 56 มาซูร์กาสามบท ในบันไดเสียง H, C, c (1843)
- 57 แบร์เซิร์ส (เพลงกล่อมเด็ก) ในบันไดเสียง Des (1844)
- 58 โซนาตาสำหรับเปียโน หมายเลข 3 ในบันไดเสียง b (1844)
- 59 มาซูร์กาสามบท ในบันไดเสียง a, As, fis (1845)
- 60 บาร์การอล ในบันไดเสียง fis (1846)
- 61 ปอลอแนซ-ฟ็องแตซี ในบันไดเสียง As (1846)
- 62 น็อกเทิร์น สองบท ในบันไดเสียง B, E (1845/6)
- 63 มาซูร์กาสามบท ในบันไดเสียง B, f, cis (1846)
- 64 วอลซ์ สามบท ในบันไดเสียง Des เรียกอีกชื่อว่า („Valse minute“), cis, As (1840/7)
- 65 โซนาตาสำหรับเชลโลและเปียโน ในบันไดเสียง g (1846/7)
บทประพันธ์ที่ได้รับการเผยแพร่หลังจากการเสียชีวิต:
- 66 ฟ็องแตซี-แอ็งพรงป์ตูว์ หมายเลข 4, cis (vers 1843)
- 67 มาซูร์กาสี่บท ในบันไดเสียง G, g, C, a (1830/49)
- 68 มาซูร์กาสี่บท ในบันไดเสียง C, a, F, f (1830/49)
- 69 วอลซ์สองบท ในบันไดเสียง As, b (1829/35)
- 70 วอลซ์สามบท ในบันไดเสียง Ges, As, Des (1829/41)
- 71 ปอลอแนซสามบท ในบันไดเสียง d, B, f (1824/28)
- 72.1 น็อกเทิร์น ในบันไดเสียง e
- 72.2 บทเพลงไม่ทราบชื่อ
- 72.3 เอกอแซซสามบท ในบันไดเสียง D, G, Des (vers 1829)
- 73 รอนโดสำหรับเปียใน ในบันไดเสียง C (1828)
- 74 บทเพลงที่ใช้ทำนองของโปแลนด์ (1829/47)
บทเพลงที่ปราศจากหมายเลขโอปุส:
- ปอลอแนซ ในบันไดเสียง B (1817)
- ปอลอแนซ ในบันไดเสียง g (1817)
- ปอลอแนซ ในบันไดเสียง As (1821)
- แอ็งทรอดุกซียงและวารียาซียง สำหรับบทเพลงของเยอรมัน ในบันไดเสียง E (1824)
- ปอลอแนซ ในบันไดเสียง gis (1824)
- มาซูร์กา ในบันไดเสียง B (1825/26)
- มาซูร์กา ในบันไดเสียง G (1825/26)
- วารียาซียง สำหรับเปียโนสี่มือ ในบันไดเสียง D (1825/26)
- เพลงมาร์ชงานศพ ในบันไดเสียง c (1837)
- ปอลอแนซ ในบันไดเสียง b (1826)
- น็อกเทิร์น ในบันไดเสียง e (1828/30)
- ซูเวอร์นีร์เดอปากานีนี ในบันไดเสียง A (1829)
- มาซูร์กา ในบันไดเสียง G (1829)
- วอลซ์ ในบันไดเสียง E (1829)
- วอลซ์ ในบันไดเสียง Es (1829)
- มาซูร์กาพร้อมบทร้องบางส่วน ในบันไดเสียง G (1829)
- วอลซ์ ในบันไดเสียง As (1829)
- วอลซ์ ในบันไดเสียง e (1830)
- ซารีพร้อมบทร้องบางส่วน (1830)
- ปอลอแนซ ในบันไดเสียง Ges (1830)
- เลนโตกอนกรันเอสเปรสซีโอเน (Lento con gran espressione) ในบันไดเสียง cis (1830)
- มาซูร์กา ในบันไดเสียง B (1832)
- มาซูร์กา ในบันไดเสียง D (1832)
- คอนแชร์โตกร็องด์ดูโอ สำหรับบทละครเรื่อง "Robert le Diable" ของไมเออแบร์ (Meyerbeer) สำหรับเชลโลและเปียโน ในบันไดเสียง E (1832/33)
- มาซูร์กา ในบันไดเสียง C (1833)
- กันตาบีเล ในบันไดเสียง B (1834)
- มาซูร์กา ในบันไดเสียง As (1834)