เจ้าหญิงโนบูโกะ พระชายาในเจ้าชายโทโมฮิโตะ

เจ้าหญิงญี่ปุ่น พระชายาหม้ายในเจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ

เจ้าหญิงโนบูโกะ พระชายาในเจ้าชายโทโมฮิโตะ (ญี่ปุ่น: 寬仁親王妃信子โรมาจิTomohito Shinnōhi Nobuko; ประสูติ 9 เมษายน พ.ศ. 2498) มีพระนามเดิมว่า โนบูโกะ อาโซ (ญี่ปุ่น: 麻生信子โรมาจิAsō Nobuko) เป็นพระชายาวิธวาของเจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ เป็นหลานสาวของชิเงรุ โยชิดะ และเป็นน้องสาวของทาโร อาโซ อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น

เจ้าหญิงโนบูโกะ
เจ้าหญิงพระชายา
เจ้าหญิงโนบูโกะเมื่อ พ.ศ. 2560
ประสูติ9 เมษายน พ.ศ. 2498 (69 ปี)
อีซูกะ จังหวัดฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น
พระภัสดาเจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะ (พ.ศ. 2523–2555)
พระบุตรเจ้าหญิงอากิโกะแห่งมิกาซะ
เจ้าหญิงโยโกะแห่งมิกาซะ
ราชวงศ์ญี่ปุ่น (เสกสมรส)
พระบิดาทากากิชิ อาโซ
พระมารดาคาซูโกะ โยชิดะ

พระประวัติ

แก้

พระชนม์ชีพช่วงต้น

แก้

เจ้าหญิงโนบูโกะประสูติเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2498 ในครอบครัวคริสตัง เป็นธิดาคนที่สามของทากากิชิ อาโซ ประธานบริษัทอาโซ (เดิมทำธุรกิจเกี่ยวกับการขุดเหมืองถ่านหินและโลหะ ปัจจุบันผลิตปูนซีเมนต์, เวชกรรม และอสังหาริมทรัพย์) กับคาซูโกะ (สกุลเดิม โยชิดะ) พระชนนีเป็นบุตรสาวของชิเงรุ โยชิดะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น[1] เจ้าหญิงโนบูโกะมีพระเชษฐาคนโตคือทาโร อาโซ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเช่นเดียวกับผู้เป็นตา

ทั้งนี้พระอัยยิกาฝ่ายพระชนกสืบสันดานมาแต่ตระกูลคาโนซึ่งเป็นไดเมียวปกครองแคว้นโอจิโนมิยะ พระองค์เป็นเหลนของเคานต์โนบูอากิ มากิโนะ นักการทูต และเป็นลื่อของโอกูโบะ โทชิมิจิ ซามูไรผู้มีชื่อเสียงและเป็นผู้ก่อให้เกิดการจลาจลที่แคว้นซัตสึมะเมื่อปี พ.ศ. 2420

พระองค์ได้เข้ารับการศึกษาที่ประเทศอังกฤษ และสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยรอสลีนเฮาส์ (Rosslyn House College) ในปี พ.ศ. 2516 ต่อมาได้เสด็จกลับประเทศญี่ปุ่นเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนอนุบาลโชโตะที่ทรงก่อตั้งขึ้นเองในย่านชิบูยะ

เสกสมรส

แก้

เจ้าหญิงโนบูโกะทรงพบกับเจ้าชายโทโมฮิโตะแห่งมิกาซะครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งขณะนั้นเจ้าชายโทโมฮิโตะยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เจ้าชายเคยขอเจ้าหญิงโนบูโกะเสกสมรสเมื่อปี พ.ศ. 2516 แต่ถูกปฏิเสธเพราะเจ้าหญิงโนบูโกะยังเยาว์ชันษา ต่อมาสำนักพระราชวังได้ประกาศกำหนดการพระราชพิธีหมั้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2523 โดยมีพระราชพิธีหมั้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2523 และพระราชพิธีเสกสมรสเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 หลังการเสกสมรสจึงได้รับพระอิสริยยศเป็น เจ้าหญิงพระชายา ถือเป็นเจ้านายญี่ปุ่นพระองค์ที่สองที่มีพื้นเพเป็นคริสตัง (พระองค์แรกคือสมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ แต่ต่างตรงที่เจ้าหญิงโนบูโกะทรงผ่านพิธีศีลล้างบาปมาแล้ว) ทั้งสองมีพระธิดาด้วยกันสองพระองค์ คือ

  1. เจ้าหญิงอากิโกะแห่งมิกาซะ (ญี่ปุ่น: 彬子女王โรมาจิAkiko Joō; ประสูติ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2524)
  2. เจ้าหญิงโยโกะแห่งมิกาซะ (ญี่ปุ่น: 瑶子女王โรมาจิYōko Joō; ประสูติ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2526)

เดิมเจ้าชายโทโมฮิโตะและครอบครัวประทับอยู่ร่วมกันในเขตพระราชฐานอากาซากะ เขตมินาโตะ โตเกียว กระทั่งเดือนตุลาคม พ.ศ. 2552 เจ้าหญิงโนบูโกะทรงแยกจากพระสวามีและพระธิดาออกไปประทับที่อื่น[2]

พระพลานามัย

แก้

เจ้าหญิงโนบูโกะทรงพระประชวรด้วยภาวะพระสมองขาดพระโลหิตชั่วขณะเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2547 พระองค์ประทับรักษาพระอาการประชวร ณ พระตำหนักโซมะ เมืองคารูอิซาวะ จังหวัดนางาโนะ ครั้น พ.ศ. 2551 เจ้าหญิงโนบูโกะมีพระอาการหอบหืด ต้องเข้ารับถวายการรักษาที่โรงพยาบาล และต้องรักษาพระอาการประชวร ณ สถานพยาบาลในเขตเมืองอีซูกะ ก่อนเสด็จกลับกรุงโตเกียว ด้วยเหตุนี้เจ้าหญิงโนบูโกะจึงงดพระกรณียกิจตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2549 ก่อนกลับมาประกอบพระกรณียกิจ และปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนอีกครั้งใน พ.ศ. 2556[3][4]

กลางดึกของวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2562 เจ้าหญิงโนบูโกะทรงหกล้มที่พระตำหนักในกรุงโตเกียว ก่อนเสด็จเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเคโอในเช้าวันรุ่งขึ้น เพราะทรงรู้สึกเจ็บบั้นพระองค์อยู่ตลอด กระทั่งแพทย์ผู้ถวายการรักษาตรวจพบว่าพระปิฐิกัณฐกัฐิบริเวณพระกฤษฎีหัก ต้องถวายรักษายาวนานถึงสามเดือน[5][6]

เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เจ้าหญิงโนบูโกะถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งบริเวณพระถันระยะที่ 1 แต่คณะแพทย์มิได้วิตกกังวลนัก เพราะพระองค์ไม่มีพระอาการประชวรจากมะเร็งที่ชัดเจน เจ้าหญิงโนบูโกะเข้ารับการถวายรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเคโอเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนปีเดียวกัน เพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม ก่อนเข้ารับถวายการผ่าตัดนำก้อนเนื้องอกออกในวันที่ 19 พฤศจิกายน[7][8][9] ทว่าหลังผ่าตัดไปได้สองชั่วโมง ก็พบว่ามะเร็งของเจ้าหญิงโนบูโกะยังอยู่ในระยะ 0 ไม่ใช่ระยะที่ 1[10][11][12] เจ้าหญิงโนบูโกะเสด็จออกจากโรงพยาบาลช่วงเช้าของวันที่ 24 พฤศจิกายน หลังคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษายืนยันว่า ร่างกายของพระองค์ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว และโอกาสที่จะเกิดมะเร็งซ้ำนั้นมีน้อยมาก[13][14] หลังจากนั้นเจ้าหญิงโนบูโกะทรงเข้ารับการฉายรังสีจำนวน 25 ครั้ง ระหว่างวันที่ 23 มกราคม ถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเคโอ[15][16]

เจ้าหญิงโนบูโกะทรงเข้ารับการผ่าตัดต้อหินชนิดปฐมภูมิเมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2567 ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเคโอ[17]

พระเกียรติยศ

แก้

พระอิสริยยศ

แก้
  • 9 เมษายน 2498 – 7 พฤศจิกายน 2523 : โนบูโกะ อาโซ
  • 7 พฤศจิกายน 2523 – ปัจจุบัน : เจ้าหญิงโนบูโกะ พระชายาในเจ้าชายโทโมฮิโตะ

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

แก้

พงศาวลี

แก้
โอกูโบะ โทชิมิจิ
 
มิชิตสึเนะ มิชิมะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
โนบูอากิ มากิโนะ
 
มิเนโกะ
 
 
 
ทากิชิ อาโซ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ยูกิโกะ
 
ชิเงรุ โยชิดะ
 
ทาโร อาโซ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เค็นอิชิ โยชิดะ
 
คาซูโกะ
 
 
 
ทากากิชิ อาโซ
 
เซ็งโก ซูซูกิ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจ้าชายโทโมฮิโตะ
 
เจ้าหญิงโนบูโกะ
 
ทาโร อาโซ
 
ชิกาโกะ
 
ชุนอิจิ ซูซูกิ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เจ้าหญิงอากิโกะ
 
เจ้าหญิงโยโกะ

อ้างอิง

แก้
  1. Carrcer, Stefano. "Taro Aso, un cattolico in corsa per la guida del Giappone," Il Sole 24 Ore (Milano). 19 September 2008. (อิตาลี)
  2. "Prince's 2012 passing reduces Imperial household families by one". Japan Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-26. สืบค้นเมื่อ 2013-12-13.
  3. "故ヒゲの殿下の妻・信子さま 7年10カ月ぶりに公務復帰". 週刊文春. 2013-06-10. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-14. สืบค้นเมื่อ 2014-06-12.
  4. "三笠宮家の信子さま7年ぶり公務 被災地見舞いで福島に". 共同通信. 2013-11-01. สืบค้นเมื่อ 2014-06-12.
  5. "信子さま、転倒し背骨を骨折 全治3か月". 日テレNews. 9 September 2019. สืบค้นเมื่อ 9 September 2019.
  6. "Princess Nobuko to undergo breast cancer surgery after early-stage diagnosis". The Japan Times. 15 November 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-11-17. สืบค้นเมื่อ 15 November 2022.
  7. "Princess Nobuko to undergo breast cancer surgery after early-stage diagnosis". The Japan Times. 15 November 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-11-17. สืบค้นเมื่อ 15 November 2022.
  8. "Princess Nobuko Diagnosed with Early-Stage Breast Cancer". Nippon.com. 15 November 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-12-05. สืบค้นเมื่อ 15 November 2022.
  9. "Japan princess Nobuko diagnosed with early-stage breast cancer". The Mainichi. 15 November 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-11-27. สืบค้นเมื่อ 15 November 2022.
  10. "Princess Nobuko Doing Well after Breast Cancer Surgery". Nippon.com. 19 November 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-11-22. สืบค้นเมื่อ 19 November 2022.
  11. "Princess Nobuko undergoes successful breast cancer surgery". The Mainichi. 19 November 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-11-26. สืบค้นเมื่อ 19 November 2022.
  12. "Princess Nobuko undergoes successful breast cancer surgery". Japan Today. 20 November 2022. สืบค้นเมื่อ 20 November 2022.
  13. "Princess Nobuko Leaves Hospital after Cancer Surgery". Nippon.com. 24 November 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-12-07. สืบค้นเมื่อ 24 November 2022.
  14. "Princess Nobuko Leaves Hospital after Cancer Surgery". Jiji.com. 24 November 2022. สืบค้นเมื่อ 24 November 2022.
  15. "信子さま、乳がん術後の放射線治療でご通院へ". The Sankei News (ภาษาญี่ปุ่น). 16 January 2023. สืบค้นเมื่อ 12 February 2023.
  16. "信子さま、乳がん術後の放射線治療終えられる". The Sankei News (ภาษาญี่ปุ่น). 28 February 2023. สืบค้นเมื่อ 17 March 2023.
  17. 日本テレビ. "信子さまの両目の手術、無事終了 宮内庁発表|日テレNEWS NNN". 日テレNEWS NNN (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2024-03-05.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้