ฮอนด้า ซิตี้

รถยนต์นั่งขนาดเล็กมากที่ผลิตโดยฮอนด้า

ฮอนด้า ซิตี้ (Honda City) เป็นรถรุ่นหนึ่งที่ฮอนด้า ผลิตออกมาเพื่อให้เป็นรถรุ่นที่มีขนาดเล็กมาก (Subcompact Car) เริ่มผลิตตั้งแต่ พ.ศ. 2524 เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ประสบความสำเร็จมากในแถบเอเชีย รถรุ่นนี้ แรกเริ่มเดิมที จะผลิตเป็นรถ Hatchback (รถท้ายกุด ไม่มีกระโปรงหลัง เช่น แจ๊ซ หรือยาริส ในปัจจุบัน เป็นต้น) แต่ไม่ประสบความสำเร็จทางการตลาดเท่าใดนัก จึงได้เปลี่ยนรูปแบบมาเป็นรถซีดาน (มีท้าย และกระโปรงหลัง) อย่างปัจจุบัน

ฮอนด้า ซิตี้
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตฮอนด้า
เริ่มผลิตเมื่อ2524–ปัจจุบัน
แหล่งผลิต
ประเทศไทย: พระนครศรีอยุธยา
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทรถยนต์นั่งขนาดเล็กมาก (B)
รูปแบบตัวถัง
  • 3-ประตู hatchback (1981–1994)
  • 2-ประตู convertible (1981–1986)
  • 4-ประตู sedan (1996–ปัจจุบัน)
  • 5-ประตู liftback (Gienia, 2016–2020)
  • 5-ประตู hatchback (2020–ปัจจุบัน)

ปัจจุบัน ฮอนด้า ซิตี้ เป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับยี่ห้ออื่นหลายรุ่น เช่น โตโยต้า วีออส, เชฟโรเลต อาวีโอ, ฟอร์ด เฟียสต้า, มาสด้า 2, ฮุนได แอกเซนท์ ฯลฯ ด้วยความที่เป็นรถขนาดเล็กคล้ายคลึงกัน และมีราคาใกล้เคียงกัน

ฮอนด้า ซิตี้ เริ่มเป็นที่รู้จักของคนไทยเมื่อปี พ.ศ. 2539 ซึ่งก็คือโฉมที่ 3 โดยก่อนหน้านั้น มีรถยนต์ในระดับเดียวกับซิตี้คือ โอเปิล คอร์ซา, ฟอร์ด แอสปาย, ฮุนได เอ็กเซล, ฮุนได แอกเซนท์, ฮอนด้า ซีวิค (3 ประตู) ก่อนที่จะมีรถยนต์คู่แข่งอื่นๆ ตามมาในภายหลัง เช่น โตโยต้า โซลูน่า, โตโยต้า วีออส, โตโยต้า ยาริส, มาสด้า 2, ฟอร์ด เฟียสตา, เชฟโรเลต อาวีโอ, เชฟโรเลต โซนิค, เกีย พิแคนโต นอกจากนี้ ยังเป็นคู่แข่งการตลาดกับรถ Eco Car บางรุ่น ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงและหรือเท่า B-Car เช่น นิสสัน มาร์ช, นิสสัน อัลเมร่า, มิตซูบิชิ มิราจ, ซูซูกิ สวิฟท์ เป็นต้น

นับตั้งแต่เริ่มผลิตมา ฮอนด้า ซิตี้ ได้ทำออกมาทั้งหมด 7 generation (7 รุ่น) ตามช่วงเวลาได้ ดังนี้

Generation ที่ 1 (AA/FV/FA; พ.ศ. 2524 - 2529) แก้

 
ฮอนด้า ซิตี้ โฉมที่ 1

ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นแรก เริ่มผลิตเป็นรถ Hatchback 3 ประตู (ซ้าย ขวา และหลัง) มีจุดเด่นตรงที่รถมีความสูงมาก และมีพื้นที่ภายในที่ดูกว้างขวาง ทั้งๆ ที่ดูภายนอกแล้วรถมีขนาดเล็ก

ซิตี้รุ่นแรกนี้ มีกระแสตอบรับมากพอสมควร จนในปีถัดมา (พ.ศ. 2525) ซิตี้ก็เริ่มทำรถแบบ Convertible (เปิดประทุนได้) และแบบรถสปอร์ต และอีกปีถัดมา (พ.ศ. 2526) ที่นิวซีแลนด์ ซิตี้ ได้เข้าไปแทนที่รถมินิ ในสายการผลิตของโรงงานผลิตรถยนต์ที่นั่น และในปีเดียวกัน ก็มีการส่งออกรถซิตี้ไปยังประเทศออสเตรเลียเป็นจำนวนมากเช่นกัน

Generation ที่ 2 (GA; พ.ศ. 2529 - 2537) แก้

 
ฮอนด้า ซิตี้ โฉมที่ 2

โฉมนี้ ซิตี้ ยกเลิกการผลิตรถรุ่นเปิดประทุน โฉมนี้ไม่เป็นที่รู้จักของผู้คนโดยทั่วไป เนื่องจากโฉมนี้ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก และได้ยกเลิกการนำเข้ารถซิตี้มาขายในออสเตรเลีย เปลี่ยนไปนำเข้ารถ ฮอนด้า โลโก้, ฮอนด้า คาปา มาจำหน่ายแทน

ซิตี้โฉมนี้ หยุดการผลิตลงใน พ.ศ. 2537 และซิตี้หยุดการผลิตไปนานถึง 2 ปี ก่อนจะนำกลับมาผลิตใหม่อีกครั้ง ซึ่ง Generation ถัดจากนี้เป็นต้นไป ซิตี้ ก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในสังคมไทย


Generation ที่ 3 (3A/SX; พ.ศ. 2539 - 2545) แก้

 
ซิตี้ โฉมที่ 3 รุ่นก่อนปรับโฉม
 
ฮอนด้า ซิตี้ โฉมที่ 3 โฉม "Type Z"

โฉมนี้เป็นโฉมแรกที่บริษัทฮอนด้านำเข้ามาขายในประเทศไทย ในประเทศไทยพ่อค้าเรียกว่าซิตี้รุ่นแรก ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนโฉมเป็น Type Z ซึ่งโฉบเฉี่ยว สวยกว่ารุ่นอื่นๆได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เป้าหมายคู่แข่งเป็น Civic ด้วยกันแรงและสวยกว่า Civic ทางฮอนด้า ยกเลิกเป้าหมายที่จะให้ซิตี้เป็นที่นิยมในวงกว้างทั่วโลก เปลี่ยนมาตั้งเป้าหมายให้ซิตี้เป็นที่นิยมในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงได้ออกแบบซิตี้โฉมนี้มาเพื่อคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะ โดยเปลี่ยนมาเน้นการผลิตรถ Sedan แทนรถ Hatchback และช่วงนี้ ซิตี้เป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับ โตโยต้า เทอร์เซล หรืออีกชื่อหนึ่ง โตโยต้า โซลูน่า

ในช่วงแรกๆ ซิตี้ในประเทศไทยมีเฉพาะเครื่องยนต์ขนาด 1,300 ซีซี รุ่น D13B SOHC 16-valve แต่ในภายหลังได้ออกเครื่องยนต์ 1,500 ซีซีด้วย เครื่อง Hyper รุ่น D15B และ D15B VTEC SOHC 16-valve

ซิตี้โฉมนี้ ออกแบบมาเพื่อให้เป็นรถ "ฮอนด้า ซีวิค ย่อส่วน" ซึ่งค่อนข้างถูกใจคนเอเชีย ช่วงรุ่นนี้ของซิตี้ ออกแบบมาจากซีวิคโฉมไฟท้าย 2 ชั้น (EF) ซิตี้โฉมนี้เป็นที่นิยมในประเทศอินเดีย, ไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และ ปากีสถาน ยิ่งโดยเฉพาะโฉมนี้ซึ่งมีฮอนด้า ซิตี้ Type Z ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษซึ่งก็เป็นที่นิยมไม่น้อยในไทย โดยมีขายในช่วง พ.ศ. 2542- 2545

ส่วนตัวบอดี้ได้อิทธิพลมาจาก ฮอนด้า ซีวิค โฉมที่ 4

Generation ที่ 4 (GD/GE; พ.ศ. 2545 - 2551) แก้

 
ฮอนด้า ซิตี้ โฉมที่ 4 รุ่นก่อนปรับโฉม
 
ฮอนด้า ซิตี้ โฉมที่ 4 รุ่นปรับโฉมครั้งที่ 1
 
ฮอนด้า ซิตี้ โฉมที่ 4 รุ่นปรับโฉมครั้งที่ 2

โฉมนี้ในบางประเทศจะใช้ชื่อว่า "ฮอนด้า ฟิต เอเรีย" (Honda Fit Aria) โฉมนี้ยังคงเป็นที่นิยมในถิ่นเดิม เช่นเดียวกับโฉมที่แล้ว และโฉมนี้ มีรุ่นที่ปรับโฉมเล็กน้อย (ไมเนอร์เชนจ์) คือ ฮอนด้า ซิตี้ ZX ซึ่งเริ่มผลิตขึ้นใน พ.ศ. 2548 โฉมนี้เป็นที่รู้จักกันดีคือจะใช้ระบบเกียร์แบบใหม่ CVT 7 สปีด Multimatic ควบคู่เกียร์อัตโนมัติธรรมดา โดยที่เกียร์ธรรมดา (เกียร์กระปุก) 5 สปีด ก็ยังมีขาย และใช้เครื่องยนต์หัวฉีด i-DSI (Intelligent Dual And Sequential Ignition) L13A / L15A2 หรือ VTEC (Variable Valve Timing & Lift Electronic Control System) L15A1

โฉมนี้ เป็นโฉมที่ซิตี้ เริ่มแข่งขันทางการตลาดกับ โตโยต้า วีออส ซึ่งแข่งมาถึงปัจจุบัน ซึ่งโดยรวมแล้ว ถือว่า ซิตี้ได้เปรียบวีออสในเรื่องของการประหยัดเชื้อเพลิง (โดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ i-DSI) แต่เสียเปรียบวีออสในเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ความเป็นที่นิยมของรถ (ก่อนที่จะมีซิตี้ ZX นั้น ซิตี้รุ่นนี้ขายดีน้อยกว่าพอสมควร) สมรรถนะของรถ และความดูทันสมัยในรถ (เช่น วีออส ใช้หน้าปัดดิจิตอลแสดงความเร็วรถ แต่ซิตี้ยังเป็นเข็ม) สำหรับคุณภาพของตัวรถนั้นถือว่าใกล้เคียงกัน

Generation ที่ 5 (GM2/3; พ.ศ. 2551 - พ.ศ. 2557 ) แก้

 
ฮอนด้า ซิตี้ โฉมที่ 5

โฉมนี้ เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2551 โดยจะมี 3 รุ่นให้เลือกในประเทศไทย คือ รุ่น S , V และ SV ซึ่งรุ่น S จะมีราคาที่ถูกสุด และ SV จะมีราคาแพงที่สุด

ราคาที่จำหน่าย Honda City 5th Gen. Pre-Facelift

  • S MT 524,000 บาท
  • S AT 564,000 บาท
  • V AT ABS 619,000 บาท
  • V AT (AS) 644,000 บาท
  • SV AT (AS) 694,000 บาท

รูปทรงใหม่ที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย กว้างขวางขึ้น ความมู่ทู่ลดลง ประหยัดน้ำมัน รถราคาถูก และประกอบกับภาวะน้ำมันแพง ทำให้ซิตี้โฉมนี้มียอดจองทะลุเป้าหมายที่ฮอนด้าตั้งไว้

 
ฮอนด้า ซิตี้ โฉมที่ 5 รุ่นปรับโฉม

ฮอนด้า ซิตี้ โฉมที่ 5 นี้ ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี ระดับประเทศไทย 2 ปีซ้อน (Thailand Car of the Year 2009,2010) ในประเภทรถยนต์นั่ง ในรุ่นไม่เกิน 1,500 ซีซี (Best Sedan under 1,500 cc.)

ราคาที่จำหน่าย Honda City 5th Gen. Facelift

  • S MT 559,000 บาท
  • S AT 599,000 บาท
  • V AT 646,000 บาท
  • SV AT 704,000 บาท

ในปี พ.ศ. 2554 ฮอนด้าประเทศไทยได้มีการปรับโฉม Minorchange ฮอนด้า ซิตี้ และในปี พ.ศ. 2555 ฮอนด้าได้เปิดตัวรุ่น City CNG ซึ่งเป็นรุ่นที่ใช้พลังงานทางเลือก และ ยังมีรุ่นพิเศษ Modulo ซึ่งตกแต่งด้วยชุดแต่ง Modulo ก่อนที่จะมีการปรับโฉม Full Modelchange ในปี พ.ศ. 2557

ราคาที่จำหน่าย

Honda City CNG

  • S CNG AT 659,000 บาท
  • V CNG AT 706,000 บาท

Honda City Modulo

  • V AT 678,000 บาท

ล่าสุด พ.ศ. 2556 ทางฮอนด้าประเทศไทยก็ได้เพิ่มตัวเลือกอีกหนึ่งตัวเลือกในรุ่น SV นั่นก็คือรุ่น SV VSA โดยมีการเพิ่ม VSA, ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า, จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX & Child Anchor แต่ก็ต้องขาด "เบาะด้านหลังปรับเอนได้หนึ่งระดับ" ที่มีมาให้เฉพาะในรุ่น SV ไป นอกจากนั้นอุปกรณ์ทุกอย่างเหมือนกับ SV ทุกประการ ยกเว้นราคาที่สูงกว่ารุ่น SV 14,000 บาทซึ่งอยู่ที่ 718,000 บาท

Generation ที่ 6 (GM4/5/6/8/9; พ.ศ. 2557 - 2562) แก้

 
ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นที่ 6 ด้านหน้า
 
ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นที่ 6 ด้านหลัง

โฉมนี้ เปิดตัวในประเทศไทยในรอบสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557 ที่ไบเทค บางนา โดยจะมี 5 รุ่นให้เลือกในประเทศไทย คือ รุ่น S (เกียร์ธรรมดา), V , V+ , SV และ SV+

สำหรับเครื่องยนต์ก็ยังใช้เครื่องยนต์ตัวเดิม ขนาด 1.5 ลิตร แต่พละกำลังถูกลดลงเล็กน้อยลงเหลือ 117 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 146 นิวตัน-เมตรที่ 4,700 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT พร้อมระบบ Paddle Shift 7 สปีด และมีเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ในรุ่นล่างสุด รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ในทุกรุ่นย่อย พร้อมกับระบบ Econ Assist ที่ช่วยให้การขับขี่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น

พร้อมทั้งยังมีโครงสร้างนิรภัย G-CON ระบบป้องกันการล็อกล้อ ABS ระบบควบคุมการทรงตัว VSA ระบบช่วยออกตัวในทางชัน HSA (ยกเว้นรุ่นเกียร์ธรรมดา) และไฟเตือนการเบรกกระทันหัน ESS เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย และตั้งแต่รุ่น V+ ขึ้นไปจะมีเสาครีบฉลาม (Shark Fin) และหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว

รุ่นปรับโฉม แก้

 
ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นที่ 6 ปรับโฉม

รุ่นปรับโฉมของฮอนด้า ซิตี้ ได้เผยโฉมเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2560 โดยมีการเปลี่ยนแปลงภายนอกคือ กระจังหน้าแบบใหม่ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับ ฮอนด้า ซีวิค และได้ใช้ไฟหน้าและไฟตัดหมอกแบบ LED ในรุ่น SV และ SV+ ส่วนไฟส่องสว่างในเวลากลางวันแบบ LED มีมาให้ในทุกรุ่นย่อย ในรุ่น V และ V+ เพิ่มฟังก์ชันกระจกมองพับเก็บด้วยไฟฟ้า ภายในมีการปรับปรุงบริเวณหน้าจออินโฟนเทนเมนต์เล็กน้อยและมาตรวัดแบบใหม่

ส่วนระบบความปลอดภัยได้มี ABS, VSA, HSA, ESS ในทุกรุ่นย่อย กล้องมองหลังเวลาถอยจอดปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (เฉพาะรุ่น V+, SV, SV+) และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งสำหรับรุ่น SV+ เท่านั้น ส่วนรุ่นที่เหลือได้ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง ซึ่งเหมือนเดิมทุกอย่างเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนปรับโฉม

ยุติการทำตลาดที่ญี่ปุ่น แก้

Honda กำลังดำเนินงานตามนโยบายลดจำนวนรุ่นรถยนต์ ที่ออกจำหน่ายทั่วโลกลง 1 ใน 3 ภายในปี พ.ศ. 2568 และกลยุทธ์นี้มีผลถึงตลาดในประเทศบ้านเกิดอย่างญี่ปุ่นด้วย โดยมีรายงานว่า Honda Civic, Honda City และ Honda Jade อาจไม่ได้ไปต่อที่ตลาดดังกล่าวในเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งนี้ ไม่มีการเปิดเผยสาเหตุที่ชัดเจนนัก แต่พอจะคาดการณ์ได้ว่าเป็นเพราะผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น ไม่ค่อยนิยมรถยนต์ 4 ประตู จนยอดขายถดถอย

Generation ที่ 7 (GN; พ.ศ. 2562 - ปัจจุบัน) แก้

รุ่นที่ 7 (GN1/2/3/5/6/7)
 
2019 ฮอนด้า ซิตี้ อาร์เอส (Thailand)
ภาพรวม
เรียกอีกชื่อHonda Ballade (แอฟริกาใต้, sedan)
เริ่มผลิตเมื่อ2019–ปัจจุบัน
แหล่งผลิต
ตัวถังและช่วงล่าง
รูปแบบตัวถัง4-ประตู รถเก๋ง
5-ประตู แฮทช์แบ็ก
โครงสร้างFront-engine, front-wheel-drive
รุ่นที่คล้ายกันHonda Fit/Jazz (4th gen.)
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์
มอเตอร์ไฟฟ้า80 kW (109 แรงม้า; 108 hp) AC PMSM
กำลัง90 kW (122 แรงม้า) (P10A6)
90 kW (123 แรงม้า) (L15Z1)
75 kW (100 แรงม้า) (N15)
ระบบเกียร์6-speed เกียร์ธรรมดา
CVT
eCVT (hybrid)
ระบบขับเคลื่อนรถไฮบริดSport Hybrid i-MMD (City e:HEV)
มิติ
ระยะฐานล้อ2,590 mm (102.0 in)
ความยาว4,550 mm (179.1 in)
ความกว้าง1,750 mm (68.9 in)
ความสูง1,470 mm (57.9 in)
ระยะเหตุการณ์
รุ่นก่อนหน้าฮอนด้า แจ๊ซ (ตลาดอาเซียนและอเมริกาใต้)

โฉมนี้ เปิดตัวในประเทศไทยในรอบสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ตลาด แก้

ประเทศไทย แก้

ในประเทศไทย Honda City ได้ใช้เครื่องยนต์ใหม่ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร 3 สูบ พ่วงด้วยเทอร์โบ รหัส P10A6 มีพละกำลัง 122 แรงม้า แรงบิด 173 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับน้ำมัน E20 มีอัตราประหยัดน้ำมัน 23.8 กม./ลิตร ซึ่งทางฮอนด้า ได้เลือกใช้เครื่องยนต์ตัวนี้ อันเนี่องมาจากเครื่องยนต์ ได้ผ่านมาตรฐาน ECO CAR เฟส 2 ซึ่งมีส่วนทำให้ราคาของรุ่นนี้ กดลงมาได้ โดยในทางฮอนด้า ได้วางรุ่นนี้ อยู่ในตำแหน่ง บี-เซกเมนต์ เช่นเดิม[1]

สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีแดง Ignite Red Metallic (เฉพาะรุ่น RS), สีขาวมุก Platinum White Pearl (เฉพาะรุ่น RS / SV) (เพิ่มเงิน 10,000 บาท), สีดำ Crystal Black Pearl (เพิ่มเงิน 6,000 บาท), สีเงิน Lunar Silver Metallic, สีเทา Modern Steel Metallic และ สีขาว Taffeta White (เฉพาะรุ่น S / V) เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ในรถซีดาน 4 ประตู โดยจะมี 4 รุ่นให้เลือกในประเทศไทย คือ รุ่น S , V , SV และ RS

อินเดีย แก้

ในประเทศอินเดีย มีการเปิดเผยรายละเอียดของ Honda City เวอร์ชันอินเดีย รุ่นล่าสุดซึ่งนับเป็น Generation ที่ 5 ในวันที่ 17 มิถุนายน ก่อนถึงกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมนี้ ทำให้เราทราบว่ามีลูกเล่นหลายรายการที่ไม่มีในเวอร์ชันไทยทั้ง หลังคา Sunroof, มาตรวัดดิจิตอล และเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เบนซิน-ดีเซล

มาเลเซีย แก้

ในประเทศมาเลเซีย ได้เปิดตัวในวันที่ 24 สิงหาคม 2563 ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์ไฮบริด 1.5 ลิตร เป็นประเทศแรกในโลก แต่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 TURBO เหมือนในประเทศไทย แต่บางออปชั่น ได้ก่อนในไทย อาทิระบบเบรกมือไฟฟ้า และระบบ Honda Sensing ก่อนที่ฮอนด้า ซิตี้ e:HEV จะเปิดตัวในไทยในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา

ฟิลิปปินส์ แก้

City Sedan เปิดตัวในฟิลิปปินส์พร้อมกับ Honda CR-V รุ่นปรับโฉมเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563 ปัจจุบัน City ใหม่นำเข้าจากประเทศไทย แทนที่จะประกอบในโรงงาน Honda Santa Rosa ที่เลิกใช้แล้วในขณะนี้ เครื่องยนต์เดียวที่วางจำหน่ายในตลาดฟิลิปปินส์คือเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร เครื่องยนต์นี้รู้จักกันในชื่อ L15B1 ซึ่งค่อนข้างคล้ายกับเครื่องยนต์ L15Z ที่พบในรุ่นก่อนๆ ยกเว้นกล้องเหนือศีรษะคู่ และการใช้เทคโนโลยี Earth Dreams ของ Honda เพิ่มเติม ตัวเลือกการส่ง ได้แก่ เกียร์ธรรมดา 6 สปีดและ CVT มีจำหน่ายสามระดับในตลาดฟิลิปปินส์: S (เกียร์ธรรมดา 6 สปีดและ CVT), V (CVT เท่านั้น) และ RS (CVT เท่านั้น)

City Hatchback เปิดตัวเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2564 และเป็นตลาดแรกที่ได้รับรถยนต์แฮทช์แบ็คในรูปแบบพวงมาลัยซ้าย มีเฉพาะรุ่น RS เท่านั้น

ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก แก้

ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ได้ทำการเปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก ซึ่งได้ทำการเปิดตัวในประเทศไทย เป็นที่แรกในโลก ซึ่งรูปทรงด้านหน้า , เครื่องยนต์ และออพชั่น จะคล้ายกับเวอร์ชั่นปกติ แต่ด้านหลังจะสูงขึ้นเป็นทรงแฮทช์แบ็ก เพื่อให้สามารถเก็บสัมภาระได้มากขึ้น และได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างมาก จนมียอดจองสูงถึง 2,900 คัน ภายในเวลา 2 สัปดาห์ [2]

ฮอนด้า ซิตี้ e:HEV แก้

ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ได้ทำการเปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ e:HEV ซึ่งเป็นรถเก๋งที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริด ซึ่งเครื่องยนต์ไฮบริดใหม่ล่าสุดของ ฮอนด้า ที่เรียกว่า Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ซึ่งถูกใช้ในรถยนต์ที่ขายในท้องตลาดในชนิด บี-เซกเมนต์ เป็นครั้งแรกในโลกด้วย โดยใช้เครื่องยนต์ไฮบริด 1.5 ลิตร ซึ่งในไทย จะใช้รหัสเครื่องยนต์ LEB-MMD และมาเลเชีย จะใช้รหัสเครื่องยนต์ LEB-H5 พร้อมทั้งนี้ ได้เพิ่มระบบความปลอดภัยขั้งสูงที่ทางฮอนด้าเรียกว่า Honda SENSING มาอยู่ในรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน

ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก e:HEV แก้

ในวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ได้ทำการเปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก e:HEV เป็นรถแฮทช์แบ็กที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริด เป็นครั้งแรกในโลก โดยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร i-MMD อุปกรณ์เสริม และความปลอดภัยต่าง ๆ จะเหมือนกันกับในรุ่นซีดาน แต่รูปร่าง จะเหมือนกันกับในรุ่นแฮทช์แบ็ก

ซึ่งในประเทศไทย ได้เปิดขายในราคาที่ 849,000 บาท และมีเพียงรุ่นเดียวคือ e:HEV RS[3]

ปรับโฉมใหม่ (2023) แก้

ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2566 ได้ทำการเปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ โฉมไมเนอร์เชนจ์ ที่มาพร้อมความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยดีไซน์ใหม่รอบคัน กับขุมพลังที่มีให้เลือก 2 รูปแบบทั้งฟูลไฮบริด e:HEV และขุมพลัง VTEC TURBO 1.0 ลิตร รวมทั้งยังได้รับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ติดตั้งในทุกรุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่ายระหว่าง 629,000 – 839,000 บาท

ความเปลี่ยนแปลงของ Honda City Minorchange มีดังนี้

  • ตัด รุ่นย่อย 1.0 Turbo S แล้วเพิ่ม รุ่นย่อย e:HEV SV มาแทนที่
  • เพิ่ม ระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบความปลอดภัย Honda SENSING ทุกรุ่นย่อย
  • เพิ่ม ระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ Low-Speed Follow และ ช่องชาร์จไฟ USB Type-C 2 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง รุ่น e:HEV
  • เปลี่ยน กระจังหน้า แบบรังผึ้ง Honeycomb, กันชนหน้า และ กันชนหลังดีไซน์ใหม่
  • เพิ่ม สเกิร์ตด้านข้าง รุ่น RS
  • เปลี่ยน ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 15 – 16 นิ้ว, ขนาดยางล้อ 16 นิ้ว เป็นขนาด 185/60R16 (เดิม 185/55R16), หน้าจอ Multi-information Display รุ่น 1.0 Turbo เป็นแบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
  • เพิ่ม ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Lead Car Departure Notification System, ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ Walk Away Auto Lock, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท Remote Engine Start
  • เปลี่ยน วัสดุหุ้มเบาะนั่งในรุ่น RS เป็นหนังและหนังสังเคราะห์ทั้งตัว / วัสดุหุ้มคอนโซลหน้ารุ่น SV เป็นหนังสังเคราะห์สีแดงเข้ม / วัสดุหุ้มแผงประตูรุ่น SV เป็นหนังสังเคราะห์สีแดงเข้ม
  • เพิ่ม ไฟเตือนให้ตรวจสอบเบาะนั่งด้านหลัง Rear Seat Reminder

ปรับราคารุ่น 1.0 Turbo เพิ่มขึ้น 10,000 – 20,000 บาท (เริ่มต้นที่ 629,000 บาท)

สำหรับราคาจำหน่าย Honda City 2023 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย 1.0 Turbo V, 1.0 Turbo SV, 1.0 Turbo RS, e:HEV SV และ e:HEV RS

ข้อมูลระบบขับเคลื่อน แก้

รหัสตัวถัง รุ่น เครื่องยนต์ กำลัง แรงบิด ระบบเกียร์
เครื่องยนต์เบนซิน
GN1 (sedan)
GN7 (hatchback)
1.0 L VTEC Turbo P10A6 988 cc turbocharged I3 122 PS (90 kW; 120 hp) @ 5,500 rpm 173 N·m (128 lb·ft) @ 2,000–4,500 rpm CVT
GN2 (sedan)
GN5 (hatchback)
1.5 L i-VTEC L15B1/L15ZD/L15ZE/L15ZF 1,497 cc I4 121 PS (89 kW; 119 hp) @ 6,600 rpm 145 N·m (107 lb·ft) @ 4,300 rpm 6-speed manual
CVT
GN3 (sedan)
GN6 (hatchback)
1.5 L e:HEV LEB-H5 / LEB8 1,497 cc Atkinson cycle hybrid I4 กำลังเครื่องยนต์ 98 PS (72 kW; 97 hp) @ 5,600–6,400 rpm 127 N·m (94 lb·ft) @ 4,500–5,000 rpm eCVT
มอเตอร์ไฟฟ้า 109 PS (80 kW; 108 hp) @ 4,000–8,000 rpm 253 N·m (187 lb·ft) @ 0–3,000 rpm
เครื่องยนต์ดีเซล
GN4 1.5 L i-DTEC N15 1,498 cc turbocharged I4 99 PS (73 kW; 98 hp) @ 3,600 rpm 200 N·m (150 lb·ft) @ 1,750 rpm เกียร์ธรรมดา 6-speed

ดูเพิ่ม แก้

  1. Tangsiri (2019-11-25). "Honda City โฉมใหม่ เริ่ม 5.79 แสนบาท | Brand Inside" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  2. Ridebuster (2020-12-18). "City Hatchback มาแรง 2,900 คันใน 2 สัปดาห์". Ridebuster.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-19. สืบค้นเมื่อ 2021-03-04.
  3. "ฮอนด้า เสริมความแข็งแกร่งไลน์อัปไฮบริด เปิดตัว "เดอะ ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี" ครั้งแรกในโลก และเติมเต็ม "เดอะ ซิตี้ ซีรีส์" ให้สมบูรณ์แบบ". www.honda.co.th.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)