ซูซูกิ สวิฟท์ (อังกฤษ: Suzuki Swift) เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กมาก (Subcompact Car) ซึ่งผลิตโดยซูซูกิ เริ่มการผลิตในปี พ.ศ. 2543 โดยออกมาเพื่อทดแทน ซูซูกิ คัลตัส (อังกฤษ: Suzuki Cultus) ซึ่งในปัจจุบัน เริ่มเป็นที่รู้จักของคนไทยมากขึ้นจากการนำมาผลิตในโครงการอีโคคาร์ของประเทศไทยในรุ่นที่ 3 เมื่อปี พ.ศ. 2555 และในปัจจุบัน สวิฟท์ได้มีการส่งออกไปยังทั่วโลก

ซูซูกิ สวิฟท์
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตซูซูกิ
เริ่มผลิตเมื่อพ.ศ. 2526–ปัจจุบัน
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทรถยนต์นั่งขนาดเล็กมาก
โครงสร้างเครื่องวางหน้า
ขับเคลื่อนล้อหน้า/สี่ล้อ
ระยะเหตุการณ์
รุ่นก่อนหน้าซูซูกิ คัลตัส

รุ่นที่ 1 (พ.ศ. 2543-2547) แก้

 
ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นที่ 1

ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นที่ 1 เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2543 โดยในขณะนั้นได้มีการผลิตร่วมกับซูซูกิ อิกนิส (อังกฤษ: Suzuki Ignis) โดยมีเครื่องยนต์ 1.3 และ 1.5 ลิตร และมีเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด แต่อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้มีเฉพาะตัวถังแฮทช์แบค 3 และ 5 ประตู ยังไม่มีการผลิตรุ่นซีดาน 4 ประตู

รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2547-2553) แก้

 
ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นที่ 2

ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นที่ 2 เริ่มการผลิตในปี พ.ศ. 2547 เป็นรุ่นแรกที่มีการผลิตรุ่นซีดาน 4 ประตู โดยบริษัท Maruti บริษัทร่วมทุนในอินเดีย แต่ยังไม่มีจำหน่ายรุ่นซีดานในประเทศไทย รุ่นนี้มีการประกอบในประเทศจีน ,ฮังการี ,อินเดีย ,อินโดนีเซีย ,ญี่ปุ่น ,มาเลเซียและปากีสถาน มีเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เปิดตัวครั้งแรกในปี 2004 ที่ Paris Motorshow โดยตอนแรกมีเครื่องยนต์ 2 ขนาดคือ 1. 1,300 cc 92 แรงม้า โดยเครื่องรุ่นนี้ไม่มีขายในไทย 2. 1,500 cc 102 แรงม้า รุ่นนี้คือรุ่นที่มีขายในไทย โดยตัวถังมี 3 ประตู และ 5 ประตู โดยในญี่ปุ่นมีเฉพาะรุ่น 5 ประตู ส่วน 3 ประตู มีขายในเยอรมันคู่กับ 5 ประตู โดยตุลาคมปี 2005 ที่ญี่ปุ่นได้เปิดตัว Swift Sport เครื่อง 1,600 cc 123 แรงม้าแต่งสปอร์ต โดยในไทยก็ได้เริ่มเปิดตัวโดยรุ่นที่ขายในไทยเป็นรุ่นเครื่อง 1,500 ในระยะแรกนั้นนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งเปิดราคามา 1,500,000 บาท ขายใน Motor Expo ปี 2006 ซึ่งแพงมากมีคนมาซื้อไปไม่กี่ราย โดยเป็นรถที่ประกอบในอินโดนีเซียนำเข้ามาทั้งคัน โดยมี 2 รุ่นคือ GA กับ GL โดยรุ่น GA ไม่มีแอร์ออโต้ ไม่มี ABS ไม่มี airbag ไม่มีไฟเลี้ยวกระจกมองข้าง ส่วนรุ่น GL เป็นรุ่นท็อป ส่วนมากก็มีคนซื้อแต่ GL นั่นแหละ โดยในงาน Tokyo Motor Show ปี 2009 ก็ออกคอนเซ็ปต์คาร์ Suzuki Swift Plug In Hybrid มาโชว์แต่ไม่ได้ขายจริง โดยใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็ก ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน สามารถชาร์จไฟจากบ้านได้ และจะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว จนกระทั่งแบตเตอรี่เริ่มอ่อน เครื่องยนต์จึงทำงานเพื่อชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ ไม่ได้ช่วยขับเคลื่อนรถแต่อย่างใด

รุ่นที่ 3 (พ.ศ. 2553-2560) แก้

 
ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นที่ 3

ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นที่ 3 เริ่มการผลิตในปี พ.ศ. 2553 สำหรับตลาดยุโรป โดยมีการปรับปรุงในด้านการออกแบบ สมรรถนะ และความปลอดภัย รวมถึงมีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันและมลพิษต่ำ

ในยุโรป สวิฟท์มีเครื่องยนต์ 1,250 ซีซี 94 แรงม้า เบนซิน และ 1,300 ซีซี 75 แรงม้า ดีเซล รุ่นเบนซินมีทั้งเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ

ในประเทศไทย บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ของไทยในการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 โดยสร้างโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทอร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง ในชื่อ บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเตอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด) โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 และเริ่มการผลิตพร้อมเปิดจำหน่ายซูซูกิ สวิฟท์อีโคคาร์ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555

โดยมีให้เลือก 3 รุ่น คือ GA , GL , GLX และรุ่นพิเศษประจำปี Green Color , GLX Limited , RX , Sai และ RX-II ใช้เครื่องยนต์ 1,242 ซีซี 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์ CVT ทำให้ผ่านข้อกำหนดของอีโคคาร์ มีอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน 20 กม./ลิตร ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ซูซูกิได้เริ่มทำตลาดสวิฟท์ในรุ่นเกียร์ธรรมดาในรุ่น GA และ GL

และยังมีรถยนต์เอนกประสงค์ขนาดเล็กในชื่อ ซูซูกิ เออร์ติกา (อังกฤษ: Suzuki Ertiga) ที่ใช้พื้นฐานเดียวกัน

รุ่นที่ 4 (พ.ศ. 2560–ปัจจุบัน) แก้

รุ่นที่ 4 (Japan), รุ่นที่ 5 (International)
 
ภาพรวม
เริ่มผลิตเมื่อพ.ศ. 2560–present
แหล่งผลิตJapan: Makinohara (Sagara Assembly Plant)
India: Ahmedabad (Suzuki Motor Gujarat)
Thailand: ระยอง (Suzuki Motor Thailand)
Myanmar: Thilawa (Suzuki Thilawa Motor)
ตัวถังและช่วงล่าง
รูปแบบตัวถัง5-door hatchback
4-door notchback sedan (Dzire)
โครงสร้างFront-engine, front-wheel-drive/Front-engine, all-wheel-drive
แพลตฟอร์มHEARTECT platform
รุ่นที่คล้ายกัน
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์
มอเตอร์ไฟฟ้า
  • 48 โวลต์ ISG (Integrated Starter Generator)
  • WA05A (MHEV; Japan)
  • WA05B (MHEV; Europe/Taiwan/Hong Kong/Macau)
  • WA06B (MHEV; Europe/Taiwan/Hong Kong/Macau)
  • AC synchronous motor
  • 13.6 PS PB05A (HEV; Japan)
ระบบเกียร์
ระบบขับเคลื่อนรถไฮบริดSHVS MHEV (Boosterjet SHVS, Dualjet SHVS)
ไฮบริดแบบขนาน (Dualjet Hybrid)
มิติ
ระยะฐานล้อ2,450 mm (96.5 in)
ความยาว3,840 mm (151.2 in)
ความกว้าง1,735 mm (68.3 in)
ความสูง1,495 mm (58.9 in) (FWD)
1,520 mm (59.8 in) (AWD)
น้ำหนัก870–970 kg (1,918.0–2,138.5 lb)
2018 Suzuki Swift SZ5 BoosterJet SHVS 1.0 (United Kingdom)
Interior
ซูซูกิ สวิฟท์ Sport
ซูซูกิ สวิฟท์ Hybrid AllGrip

ซูซูกิ สวิฟท์ รุ่นที่ 4 ถูกเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559 จากนั้น ก็ได้เปิดตัวเวอร์ชั่นส่งออกสู่ตลาดโลกอย่างเป็นทางการ ในงาน Geneva Auto Salon เมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560 ก่อนจะเริ่มทะยอยออกไปจำหน่ายในประเทศต่างๆ จากนั้นวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2560 Swift Sport ซึ่งเป็นรุ่นสมรรถนะสูงของสวิฟท์ พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร Turbo เปิดตัวในงาน Frankfurt Motor Show ที่ประเทศเยอรมนี ก่อนจะส่งไปเปิดตลาดที่ญี่ปุ่นในงาน Tokyo Motor Show เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560

สำหรับประเทศไทย บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว สวิฟท์ รุ่นที่ 4 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 โดยจะจำหน่ายรุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT กันไปก่อน ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดาจะตามมาทีหลัง และใช้เครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12M 4 สูบ DOHC 1.2 ลิตร 1,197 ซีซี. ระบบหัวฉีดคู่ Dual Jet กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 71.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1 กำลังสูงสุด 83 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 37 ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E20 (เข้าร่วมโครงการ Ecocar Phase 2) มี 4 รุ่นคือ GA, GL, GLX, และ GLX Navi[1]

ส่วนเวอร์ชันญี่ปุ่นและทั่วโลก มีให้เลือก 2 เครื่องยนต์ กับ 4 ทางเลือก ดังนี้

  • 1.2 Dual Jet วางเครื่องยนต์ K12C เบนซิน 4 สูบ DOHC 1,242 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 74.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบ EPI แบบหัวฉีดคู่ Dual Jet 91 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตัน-เมตร (12.0 กก.-ม.) ที่ 4,400 รอบ/นาที รุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ จะมีเฉพาะระบบขับเคลื่อนล้อหน้า แต่รุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT จะมีทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ Full Time 4WD
  • 1.2 Dual Jet + SHVS (HYBRID) เครื่องยนต์ K12C 91 แรงม้า (PS) พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า WA05A ขนาด 3.1 แรงม้า (PS) ที่ 1,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 50 นิวตัน-เมตร (5.1 กก.-ม.) ที่ 100 รอบ/นาที และแบ็ตเตอรี Lithium-ion มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ Full Time 4WD ในญี่ปุ่น มีเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ CVT อย่างเดียว แต่เวอร์ชันส่งออก มีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เท่านั้น
  • 1.0 Booster Jet วางเครื่องยนต์ รหัส K10C DITC เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 996 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก 73.0 x 79.4 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.0 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด EPI พ่วง Turbocharger 102 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร (15.3 กก.-ม.) ที่ 1,700 – 4,500 รอบ/นาที (Flat Torque) ขับเคลื่อนล้อหน้า เวอร์ชันตลาดโลก มีทั้ง เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ แต่เวอร์ชันญี่ปุ่น จะมีแค่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ เท่านั้น
  • 1.0 Booster Jet + SHVS (HYBRID) (สำหรับรุ่นส่งออก) นำขุมพลัง K10 DITC มาพ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า WA05A และแบตเตอรี่ Lithium-ion มีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า พ่วงเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เท่านั้น[2]

รุ่นในประเทศไทย แก้

  • พ.ศ.2561
    • เปิดตัว Suzuki Swift 1.2 Dual JET 4 รุ่นย่อย
      • 1.2 GA CVT 499,000 บาท
      • 1.2 GL CVT 536,000 บาท
      • 1.2 GLX CVT 609,000 บาท
      • 1.2 GLX Navi CVT 629,000 บาท
  • พ.ศ.2563
    • เปิดตัว Swift GL MAX EDITION ราคา 541,000 บาท
  • พ.ศ.2564
    • เปิดตัว SWIFT Minorchange รุ่น GL ราคา 557,000 บาท และ GLX ราคา 629,000 บาท รวมทั้งยกเลิก รุ่น GA และ GLX NAVI CVT
    • เปิดตัว Swift GL PLUS ราคา 567,000 บาท
  • พ.ศ.2565
    • เปิดตัว Swift GL PLUS Limitless Edition ราคา 572,000 บาท

รุ่นก่อนปรับปรุง แก้

รุ่นปรับปรุง แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

  1. http://www.headlightmag.com/spec-option-new-suzuki-swift-thailand/
  2. http://www.headlightmag.com/full-review-2018-suzuki-swift/