อเล็กซันดรา เคาน์เตสแห่งเฟรเดอริกสบอร์ก
อเล็กซันดรา คริสตินา เคาน์เตสแห่งเฟรเดอริกสบอร์ก (เดนมาร์ก: Alexandra Christina, grevinde af Frederiksborg) หรือนามเดิมว่า อเล็กซันดรา คริสตินา มันลีย์ (อังกฤษ: Alexandra Christina Manley; 30 มิถุนายน พ.ศ. 2507) อดีตพระชายาในเจ้าชายโจอาคิมแห่งเดนมาร์ก พระราชโอรสพระองค์เล็กในสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก
อเล็กซันดรา คริสตินา มันลีย์ | |
---|---|
![]() | |
เกิด | 30 มิถุนายน พ.ศ. 2507 (56 ปี) ฮ่องกง จักรวรรดิบริติช |
ฐานันดร | เคาน์เตสแห่งเฟรเดอริกสบอร์ก |
คู่สมรส | เจ้าชายโจอาคิมแห่งเดนมาร์ก (2538−2548) มาร์ติน เยอร์เกนเซน (2550−2558) |
บุตร | เจ้าชายนิโคไลแห่งเดนมาร์ก เจ้าชายเฟลิกซ์แห่งเดนมาร์ก |
บิดามารดา | ริชาร์ด ไนเจล มันลีย์ (บิดา) คริสตา มาเรีย โนโวตนี (มารดา) |
ภายหลังจากการหย่าเธอได้รับอิสริยยศและบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าหญิงแห่งเดนมาร์ก และ เคาน์เตสแห่งเฟรเดอริกสบอร์ก ตามลำดับ และท้ายที่สุดทรงสละพระอิสริยยศเพื่อเสกสมรสใหม่กับมาร์ติน เยอร์เกนเซน ชายสามัญชนชาวเดนมาร์ก[1][2] ที่มีอายุห่างกับเธอถึง 14 ปี
ประวัติแก้ไข
อเล็กซันดรา คริสตินา มันลีย์ เกิดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2507 ณ ฮ่องกงซึ่งขณะนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิบริติช เป็นธิดาของริชาร์ด ไนเจล มันลีย์ ชาวเซี่ยงไฮ้ที่มีบิดามีเชื้อสายอังกฤษและจีน (พ.ศ. 2467-2553)[3] ย่าของเขาเป็นชาวจีนกวางตุ้ง[4] กับคริสตา มาเรีย มันลีย์ มีเชื้อสายเช็กและออสเตรีย (สกุลเดิม: โนโวตนี; พ.ศ. 2476)[5] บัพติศมา ณ มหาวิหารเซนต์จอห์น ฮ่องกง บิดาของเธอเป็นผู้บริหารธุรกิจด้านประกันภัย ส่วนมารดาเป็นผู้จัดการขององค์กรสื่อสาร อเล็กซันดราเข้ารับการศึกษาจากโรงเรียนควอร์รีเบย์จูเนียร์ (Quarry Bay Junior School; จีน: 英基學校協會), โรงเรียนเกลเนียลีจูเนียร์ (Glenealy Junior School) และโรงเรียนไอแลนด์ (Island School; 港島中學) ทั้งหมดตั้งอยู่ในฮ่องกง
ต่อมาอเล็กซันดราได้ศึกษาต่อในสาขาธุรกิจระหว่างประเทศในมหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรีย, ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร จนสำเร็จการศึกษา ในช่วงปี พ.ศ. 2533-2538 เธอได้ทำงานในบริษัทจีทีเมเนจเมนต์จำกัดในฮ่องกง ต่อมาในปีช่วงปี พ.ศ. 2533-2536 เธอได้ทำงานในแผนกการขายและการตลาด แต่หลังจากปี พ.ศ. 2536 ก็ทำงานเป็นรองผู้อำนวยการบริหารแผนกดังกล่าว[6]
เสกสมรสแก้ไข
อเล็กซันดราและเจ้าชายโจอาคิมได้พบกันครั้งแรกในงานเลี้ยงฉลองในฮ่องกงเนื่องจากเจ้าชายได้ทำงานให้กับบริษัทจัดส่งของเดนมาร์ก หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ในฤดูใบไม้ร่วงในปลายปี พ.ศ. 2537 ขณะที่ทั้งสองท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ฟิลิปปินส์ เจ้าชายโจอาคิมได้คุกเข่าและมอบแหวนเพชรและทับทิมเป็นของหมั้นแก่เธอ ความผูกพันของทั้งสองได้พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ และพระราชวงศ์เดนมาร์กได้จับตามองและความสัมพันธ์ของทั้งสองพระองค์ก็ถูกเปิดเผยขึ้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2538
ท้ายที่สุดทั้งสองก็เสกสมรสกันในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538 โดยมีสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์กเป็นประธานในพิธี โดยจัดพิธีขึ้นในโบสถ์น้อยภายในปราสาทเฟรเดอริกสบอร์ก ก่อนที่จะเลี้ยงฉลองในพระราชวังเฟรเดอริกสบอร์ก พระองค์ต้องละจากนิกายอังกลิคัน เปลี่ยนมานับถือนิกายอีแวนเจริคัลลูเทอแรน
เจ้าหญิงแห่งเดนมาร์กแก้ไข
หลังจากการเสกสมรส อเล็กซันดราจึงกลายมาเป็นเจ้าหญิงแห่งเดนมาร์ก เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษและเยอรมันได้เป็นทุนเดิม ด้วยเหตุนี้เธอจึงสามารถเอาชนะใจประชาชนชาวเดนมาร์กได้ด้วยการพูดภาษาเดนมาร์กได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว[1] ทว่าเธอไม่สามารถพูดภาษาจีนกลางหรือกวางตุ้งได้เลย[7] ทั้งนี้เธอเล็งเห็นถึงความสำคัญของภาษาเดนมาร์กเพื่อใช้สื่อสารกับคนทั่วไปเพราะเดนมาร์กคือบ้านของเธอ[7]
ขณะที่ยังเป็นเจ้านายอยู่นั้น เจ้าหญิงอเล็กซันดราได้ปฏิบัติพระกรณียกิจเกี่ยวกับงานการกุศลเป็นจำนวนมาก อาทิ ยุวชนกาชาด, สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศเดนมาร์ก, ยูนิเซฟ และในโครงการมาเทอร์เฮลป์ นอกจากนี้พระองค์ยังทำหน้าที่เป็นทูตยูนิเซฟเมื่อครั้งที่เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อเข้าเยี่ยมผู้ติดเชื้อเอชไอวี[7]
การหย่าและการสมรสใหม่แก้ไข
เจ้าหญิงอเล็กซันดราและเจ้าชายโจอาคิมได้ประกาศว่าทรงแยกกันอยู่เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2547 ก่อนที่จะทรงหย่ากันเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2548 โดยก่อนการหย่าเจ้าหญิงอเล็กซันดราไม่มีแผนที่จะเสด็จออกจากเดนมาร์ก[8] อย่างไรก็ตามหลังจากการหย่าพระองค์ก็ยังทรงพำนักและทรงงานในเดนมาร์กต่อไปเพื่อที่ร่วมกับเจ้าชายโจอาคิมใช้สิทธิในการดูแลพระโอรสทั้งสอง ในช่วงนี้เจ้าหญิงอเล็กซันดราได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 เป็น "เจ้าหญิงอเล็กซันดราแห่งเดนมาร์ก เคาน์เตสแห่งเฟรเดอริกสบอร์ก" จนกระทั่งเจ้าหญิงอเล็กซันดราได้ตัดสินพระทัยเสกสมรสใหม่กับมาร์ติน เยอร์เกนเซน เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2550[2] และลาออกจากฐานันดรศักดิ์จากการเป็นเจ้าหญิง[9][10] อดีตเจ้าหญิงอเล็กซันดรา จึงเป็นสามัญชนแต่ยังคงบรรดาศักดิ์ "เคาน์เตสแห่งเฟรเดอริกสบอร์ก" และเสียภาษีเฉกเช่นพลเมืองเดนมาร์กทั่วไป แต่จะได้รับเบี้ยเลี้ยงจากสำนักพระราชวังปีละ 25,000 ยูโร หรือราว 1.25 ล้านบาทตามเดิม[11] และในปีเดียวกันนั้นเองเคาน์เตสแห่งเฟรเดอริกสบอร์กได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการของเฟอร์รีฟาร์มาซูคิคัลส์[12][13]
ส่วนเจ้าชายโจอาคิมได้ทรงหมั้นกับมารี กาวัลลีเย วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ก่อนที่จะเสกสมรสในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2551[14] โดยในความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหญิงมารีแห่งเดนมาร์ก ซึ่งถือเป็นพระมารดาเลี้ยงของเจ้าชายนิโคไลกับเจ้าชายเฟลิกซ์ โดยทั้งคู่เข้ากันได้ดีกับพระมารดาเลี้ยง[1]
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 เคาน์เตสแห่งเฟรเดอริกสบอร์กและนายเยอร์เกนเซนได้ออกมาเปิดเผยว่าหย่ากัน[15] โดยเคาน์เตสได้ให้เหตุผลในการหย่าเพราะความต่าง[16]
เกียรติยศแก้ไข
พระอิสริยยศและบรรดาศักดิ์แก้ไข
- อเล็กซันดรา คริสตินา มันลีย์ (30 มิถุนายน พ.ศ. 2507 — 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538)
- เฮอร์รอยัลไฮนิส เจ้าหญิงอเล็กซันดราแห่งเดนมาร์ก (18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2538 — 8 เมษายน พ.ศ. 2548)
- เฮอร์ไฮนิส เจ้าหญิงอเล็กซันดราแห่งเดนมาร์ก (8 เมษายน พ.ศ. 2548 — 30 มิถุนายน พ.ศ. 2548)
- เฮอร์ไฮนิส เจ้าหญิงอเล็กซันดราแห่งเดนมาร์ก, เคาน์เตสแห่งเฟรเดอริกสบอร์ก (30 มิถุนายน พ.ศ. 2548 — 3 มีนาคม พ.ศ. 2550)
- เฮอร์เอ็กเซลเลนซี เคาน์เตสอเล็กซันดราแห่งเฟรเดอริกสบอร์ก (3 มีนาคม พ.ศ. 2550 — ปัจจุบัน)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์แก้ไข
- เดนมาร์ก : เครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้าง[17][18]
- เดนมาร์ก : เหรียญรัชดาภิเษกสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอแห่งเดนมาร์ก[19][20]
- เดนมาร์ก : เครื่องราชอิสริยาภรณ์พระราชวงศ์ประจำรัชกาลสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ
- ฟินแลนด์ : เครื่องรัฐอิสริยาภรณ์กุหลาบขาวแห่งฟินแลนด์[21]
- โรมาเนีย : เครื่องราชอิสริยาภรณ์ดวงดาราแห่งโรมาเนีย[22]
- ลักเซมเบิร์ก : เครื่องราชอิสริยาภรณ์อะดอฟแห่งนัสเซา[23]
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ 1.0 1.1 1.2 "เดนมาร์คได้เจ้าหญิงต่างชาติองค์ใหม่ ชื่อเจ้าหญิงมารี". www.oknation.net. พฤษภาคม 2551. สืบค้นเมื่อ 2010-01-03. Check date values in:
|date=
(help) - ↑ 2.0 2.1 "เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก ประกาศ สละฐานันดรศักดิ์". ไอทีวี. 2007-03-06. สืบค้นเมื่อ 2010-01-03.
- ↑ "Alexandras far er død, 85 år". www.berlingske.dk. 13. januar 2010, 23:41. สืบค้นเมื่อ 2010-01-03. Check date values in:
|date=
(help) - ↑ "Information about Mary Ho Li". My Genealogy Home Page. Text "accessdate 15 มีนาคม 2560" ignored (help)
- ↑ "Grevinde Alexandras far er død". Politiken.DK. 14. jan 2010 KL. 09.22. สืบค้นเมื่อ 2010-01-03. Check date values in:
|date=
(help) - ↑ Biografie gravin Alexandra
- ↑ 7.0 7.1 7.2 "Denmark's Princess Alexandra reflects on life at 40"
- ↑ Danish Prince to divorce wife
- ↑ Princess Alexandra of Denmark and Martin Jorgensen
- ↑ ROYAL NEWS: MARCH 2007
- ↑ "เจ้าหญิงเดนมาร์กทรงสละฐานันดรแต่งงานกับสามัญชน". สำเนาจากคมชัดลึก. 2007-03-04. สืบค้นเมื่อ 2010-01-03.
- ↑ "Countess Alexandra gets a million dollar job" (Grevinde Alexandra får millionjob), MSN Gossip, 26. september 2007
- ↑ "Alexandra in the board of directors of Ferring" (Alexandra i Ferrings bestyrelse), DR Nyheder, 26. september 2007
- ↑ Wedding of Prince Joachim and Marie Cavallier The Pink Royal. Saturday, May 24, 2008
- ↑ http://www.billedbladet.dk/kendte/danmark/adelhof/grevinde-alexandra-skal-skilles
- ↑ "Grevinde Alexandra om brud med Martin Jørgensen: Derfor skal vi skilles". สืบค้นเมื่อ 2015-09-25.
- ↑ "Archived copy". คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 14 December 2014. สืบค้นเมื่อ 8 December 2014. Unknown parameter
|deadurl=
ignored (help)CS1 maint: archived copy as title (link) - ↑ "Archived copy". คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 14 December 2014. สืบค้นเมื่อ 8 December 2014. Unknown parameter
|deadurl=
ignored (help)CS1 maint: archived copy as title (link) - ↑ "Photographic image". Theroyalforums.com. สืบค้นเมื่อ 2017-08-19.
- ↑ "Photographic image". Theroyalforums.com. สืบค้นเมื่อ 2017-08-19.
- ↑ "Pinterest". Pinteres.com. สืบค้นเมื่อ 2017-08-19.
- ↑ Photograph of Countess Alexandra wearing the order - http://photobucket.com
- ↑ "Photographic image". Theroyalforums.com. สืบค้นเมื่อ 2017-08-19.