อรนุช โอสถานนท์

นางอรนุช โอสถานนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในสมัยรัฐบาล รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ และอดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

อรนุช โอสถานนท์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
ดำรงตำแหน่ง
2 กุมภาพันธ์ – 23 กันยายน พ.ศ. 2550
นายกรัฐมนตรีพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์
ก่อนหน้าสุริยา ลาภวิสุทธิสิน
ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ
ถัดไปวิรุฬ เตชะไพบูลย์
บรรยิน ตั้งภากรณ์
พิเชษฐ์ ตันเจริญ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด4 มิถุนายน พ.ศ. 2481 (86 ปี)
ประเทศไทย
ศาสนาพุทธ
คู่สมรสเรือโท วีระ โอสถานนท์

ประวัติ

แก้

นางอรนุช โอสถานนท์ เกิดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2481 (86 ปี) เป็นบุตรของนายอุดม บุณยประสพ กับคุณหญิงแร่ม พรหโมบล บุณยประสพ อดีต ส.ส.ภูเก็ต สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ จากประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 28

นางอรนุช โอสถานนท์ เริ่มรับราชการในกระทรวงพาณิชย์ และได้รับรางวัลครุฑทองคำ ในปี พ.ศ. 2536 ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. 2541

การเมือง

แก้

นางอรนุช โอสถานนท์ เคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในปี พ.ศ. 2514 และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในปี พ.ศ. 2515 ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 จึงได้กลับเข้าสู่งานการเมืองอีกครั้งโดยการได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ [1] ในรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งได้ลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า มีนักการเมืองถือหุ้นทำธุรกิจเกินร้อยละ 5[2][3]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี (นางอรนุช โอสถานนท์ นายวรากรณ์ สามโกเศศ)
  2. คมชัดลึก
  3. โพสต์ทูเดย์ - รมต.ขิงแก่ ถือหุ้น5% ไม่ผิด [ลิงก์เสีย]
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2007-01-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๑ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๔, ๓ ธันวาคม ๒๕๓๗
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐๖ ตอนที่ ๒๑๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๑, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๒
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๐๔ ตอนที่ ๑๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๕๐, ๒๑ มกราคม ๒๕๓๐