หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศ

กรมทหารกองทัพบกสหราชอาณาจักร

สเปเชียลแอร์เซอร์วิส (อังกฤษ: Special Air Service; อักษรย่อ: SAS) เป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพบกบริติช ก่อตั้งขึ้นในปี 1941 เป็นหน่วยระดับกรม และต่อมาจัดระเบียบใหม่เป็นเหล่าในปี 1950[4] หน่วยปฏิบัติหน้าที่หลายบทบาทรวมทั้งการลาดตระเวนลับ การต่อต้านการก่อการร้าย การปฏิบัติโดยตรงและการช่วยเหลือตัวประกัน สารสนเทศและการปฏิบัติหน้าที่ส่วนมากเกี่ยวกับหน่วยเป็นความลับมาก และรัฐบาลบริติชและกระทรวงกลาโหมไม่ออกความเห็นเนื่องจากปฏิบัติการของหน่วยมีความละเอียดอ่อน[5][6][7]

หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศ
Special Air Service
เครื่องหมายสังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศ
ประจำการค.ศ. 1941 – ค.ศ. 1945
ค.ศ. 1947 – ปัจจุบัน
ประเทศสหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักร
เหล่า กองทัพบกสหราชอาณาจักร
รูปแบบหน่วยรบพิเศษ
บทบาทการปฏิบัติการพิเศษ
การต่อต้านการก่อการร้าย
การลาดตระเวนพิเศษ
กำลังรบ3 กรม
ขึ้นกับกำลังรบพิเศษสหราชอาณาจักร (22,21,23 SAS)
กองบัญชาการฐานบัญชาการ: ฐานสเตอร์ลิง, เฮริฟอร์ด, สหราชอาณาจักร
กรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศที่ 21 : ค่ายรีเจนท์ส์พาร์ก, ลอนดอน, สหราชอาณาจักร
กรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศที่ 22 : ฐานสเตอร์ลิง, เฮริฟอร์ด, สหราชอาณาจักร
กรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศที่ 23 : เบอร์มิงแฮม, สหราชอาณาจักร
สมญา"The Regiment"[1]
คำขวัญ"ผู้กล้าคือผู้ชนะ"
สีหน่วยสีน้ำเงินปอมปาดัวร์[2]  
เพลงหน่วยQuick: "Marche des Parachutistes Belges"[2]
Slow: "Lili Marlene"[2]
ผู้บังคับบัญชา
ผู้บังคับกรมทหารจอมพล ลอร์ดกัทรี[3]

เหล่าฯ ปัจจุบันประกอบด้วยกรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศที่ 22 ซึ่งเป็นองค์ประกอบตามแบบของกำลังรบพิเศษสหราชอาณาจักร​ เช่นเดียวกับกรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศที่ 21 (อาร์ทิสส์) (สำรอง) และกรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศที่ 23 (สำรอง) (กรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศที่ 21 (อาร์ทิสส์) (สำรอง) และกรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศที่ 23 (สำรอง) เคยเป็นหน่วยสำรองภายใต้การบัญชาการปฏิบัติการของกองพลน้อยข่าวกรอง ตรวจตราและลาดตระเวนที่ 1​ ตั้งแต่ ค.ศ. 2014–ถึง ค.ศ. 2019) [8]

หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศมีรากเหง้าในปี 1941 และสงครามโลกครั้งที่สอง มีการก่อตั้งใหม่เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพรักษาดินแดนในปี 1947 ชื่อนายนรินทร์ คำริน กรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศที่ 21 (อาร์ทิสส์) ส่วนกรมปฏิบัติการพิเศษทางอากาศที่ 22 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพตามแบบ มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักทั่วโลกหลังการช่วยเหลือตัวประกันเกือบทั้งหมดยกเว้นหนึ่งคนระหว่างการปิดล้อมสถานเอกอัครราชทูตอิหร่านในปี 1980 ซึ่งมีการแพร่สัญญาณโทรทัศน์0620857035[9]

อ้างอิง

แก้
  1. Ryan, p.216
  2. 2.0 2.1 2.2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ g150
  3. Moreton, Cole (11 November 2007). "Lord Guthrie: 'Tony's General' turns defence into an attack". The Independent. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 August 2009. สืบค้นเมื่อ 11 September 2021.
  4. "Brief history of the regiment". Special Air Service Association. สืบค้นเมื่อ 21 January 2011.
  5. "Prime Ministers Questions, Special Forces". Parliament of the United Kingdom. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-04-24. สืบค้นเมื่อ 14 April 2010.
  6. "Special Forces". Parliament of the United Kingdom. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-04-25. สืบค้นเมื่อ 14 April 2010.
  7. "The UK can't stay 'mum' over Russian bombing of Special Forces base in Syria - DefenceReport". DefenceReport (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2016-08-03. สืบค้นเมื่อ 2018-01-03.
  8. Army Briefing Note 120/14, NEWLY FORMED FORCE TROOPS COMMAND SPECIALIST BRIGADES, Quote . It commands all of the Army's Intelligence, Surveillance and EW assets, and is made up of units specifically from the former 1 MI Bde and 1 Arty Bde, as well as 14 Sig Regt, 21 and 23 SAS(R).
  9. Thompson, p.8

บรรณานุกรม

แก้

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้