รอตเทอร์ดาม
รอตเทอร์ดาม (อังกฤษ, ดัตช์: Rotterdam) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์บริเวณปากแม่น้ำเมิซไหลลงสู่ทะเลเหนือ มีประวัติศาสตร์ย้อนกลับไปถึง ค.ศ. 1270 เมื่อมีการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำรอตเทอร์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1340 ยกฐานะเป็นเมืองในเคานต์แห่งฮอลแลนด์[1] ปัจจุบัน มหานครรอตเทอร์ดาม-เดอะเฮกเป็นบริเวณที่มีประชากร 2.7 ล้านคนใหญ่เป็นอันดับ 13 ของสหภาพยุโรป และเป็นเขตมหานครที่มีประชากรมากที่สุดในเนเธอร์แลนด์
รอตเทอร์ดามเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป จึงเป็นศูนย์กลางการขนส่งและทางเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่ง มีประชากร 651,446 คนในปี ค.ศ. 2020[2] เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยอีราสมุส (Erasmus University Rotterdam) ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านเศรษฐศาสตร์ และสถาบันสถาปัตยกรรมแห่งเนเธอร์แลนด์ (Netherland Architecture institute - NAi) เป็นมหานครริมน้ำ เมืองหลวงทางวัฒนธรรม มีมรดกทางการเดินสมุทร และมีสถาปัตยกรรมยุคใหม่ตั้งอยู่มากมาย รอตเทอร์ดามได้รับความเสียหายอย่างหนักจากสงครามโลกครั้งที่สอง จึงได้มีการสร้างบูรณะสร้างอาคารใหม่รวมถึงตึกระฟ้าจำนวนมากมาย จนในปี ค.ศ. 2007 ได้รับการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็น "เมืองแห่งสถาปัตยกรรม" [3]
จากการที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำไรน์ แม่น้ำเมิซ และแม่น้ำสเกลต์ รอตเทอร์ดามจึงเป็นจุดเริ่มต้นสู่การคมนาคมทางเรือสู่ภูมิภาคอื่นของยุโรปตะวันตก รวมถึงเขตอุตสาหกรรมรูห์ในประเทศเยอรมนี มีโครงข่ายระบบราง ถนน คลองเชื่อมจนรอตเทอร์ดามได้รับฉายาว่า ประตูสู่ยุโรป[4]
ประวัติศาสตร์แก้ไข
บริเวณปากแม่น้ำรอตเทอ เป็นที่ลุ่มที่เป็นดินโคลน มีการตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ราว ค.ศ. 900 ต่อมาเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1150 นำไปสู่การสร้างคันดินและเขื่อนกั้นบริเวณฝั่งเหนือของคลองนิวมาสในปัจจุบัน เขื่อนกั้นแม่น้ำรอตเทอนี้แล้วเสร็จราวๆปี ค.ศ. 1270 ตั้งอยู่บริเวณถนนโฮกสตราตในปัจจุบัน และเป็นที่มาของชื่อ รอตเทอร์ดาม
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1340 เคาน์วิลเลิมที่ 4 แห่งฮอลแลนด์ยกระดับรอตเทอร์ดามขึ้นเป็นเมืองซึ่งขณะนั้นมีประชากรอยู่ไม่กี่พันคน ต่อมาในปี ค.ศ. 1350 มีการสร้างคลองรอตเตอร์ดัมเซอสคีขึ้น อำนวยความสะดวกในการคมนาคมทางน้ำไปสู่เมืองใหญ่อื่นๆทางตอนเหนือ ทำให้รอตเทอร์ดามคล่อยๆกลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าจากเนเธอร์แลนด์ไปสู่อังกฤษและเยอรมนี[5] เติบโตขึ้นมาเป็นเมืองขนาดใหญ่ขึ้น ท่าเรือค่อยๆมีความสำคัญจนมาเป็นหนึ่งในหกท่าเรือสำคัญในการค้ากับดินแดนอาณานิคมของบริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ในช่วงยุคทองของเนเธอร์แลนด์
แต่สิ่งที่ทำให้รอตเทอร์ดามพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วคือการสร้างเส้นทางชลประทานใหม่คือ นิววาเตอร์เวก แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1872 ท่าเรือของรอตเทอร์ดามขยับขยายใหญ่ขึ้น มีการสร้างวิตเตอเฮาส์ หรืออาคารบ้านสีขาว[6] ในแบบปราสาทฝรั่งเศสโดยได้รับแรงบันดาลใจจากตึกระฟ้าในสหรัฐอเมริกา อาคารแห่งนี้กลายเป็นอาคารสำนักงานที่สูงที่สุดในยุโรปด้วยความสูง 45 เมตร เป็นเครื่องบ่งชี้การพัฒนาอย่างรวดเร็วของรอตเทอร์ดาม
ช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เนเธอร์แลนด์ดำเนินนโยบายเป็นกลาง รอตเทอร์ดามกลายเป็นจุดที่มีการสืบราชการลับสำคัญของอังกฤษและเยอรมนี เนื่องจากทำเลที่ตั้งที่อยู่ระหว่างกลางระหว่างสองประเทศจึงมีสายลับอยู่เป็นจำนวนมาก ในช่วงนี้ ผู้ลี้ภัยอพยพมาจากประเทศเบลเยียมเป็นจำนวนถึง 25,000 คนเพราะในขณะนั้นตกอยู่ภายใต้การยึดครองของเยอรมนี[7]
ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นาซีเยอรมนีเข้ายึดครองเนเธอร์แลนด์เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1940[8] เกิดการสู้รบอย่างหนักจนกองทัพเนเธอร์แลนด์ยอมจำนนในอีก 5 วันต่อมา ผลจากการสู้รบคือรอตเทอร์ดามได้รับความเสียหายอย่างหนักโดยเฉพาะจากปฏิบัติการรอตเทอร์ดามบลิทซ์ กองทัพอากาศเยอรมันโจมตีใจกลางเมือง พลเรือนกว่า 80,000 คนไร้ที่อยู่อาศัยและกว่า 900 คนต้องสังเวยชีวิต[9] รอตเทอร์ดามถูกปลดแอกโดยกองทัพสัมพันธมิตรในปี ค.ศ. 1945 ก่อนสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดไม่นาน
จากนั้นในทศวรรษที่ 1950 ถึง 1970 มีการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่อีกครั้งแต่อาคารยังมีลักษณะไม่สูงมากนัก จนกระทั่งในทศวรรษที่ 1980 สภาเมืองอนุมัติให้มีการพัฒนาสถาปัตยกรรมแบบใหม่ จึงเกิดอพาร์ทเมนต์ อาคารสำนักงาน และสิ่งก่อสร้างรูปแบบใหม่รูปร่างแปลกตาและสูงใหญ่ เกิดการพัฒนาย่านธุรกิจโกปฟันเซาด์ขึ้นทางฝั่งใต้ของแม่น้ำในทศวรรษ 1990 และอาคารสมัยใหม่ถูกสร้างขึ้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
อ้างอิงแก้ไข
- ↑ "Geschiedenis van Rotterdam". Gemeente Rotterdam. 9 March 2015. คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 5 March 2016.
- ↑ https://opendata.cbs.nl/statline/#/CBS/nl/dataset/37230ned/table?ts=1578685738191, CBS StatLine, 2020 8,219,380 Randstad 2,620,000 Rotterdam-The Hague Metro 1,160,000 Rotterdam Urban 651,446 Rotterdam Municipality
- ↑ การท่องเที่ยวรอตเทอร์ดาม
- ↑ Jan Walburg (1 August 1984). The port of Rotterdam: Gateway to Europe.
- ↑ "Rotterdam - City, Port, History, & Facts". Encyclopedia Britannica (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 1 March 2018.
- ↑ "The Witte Huis or White House". คลังข้อมูลเก่า เก็บจาก แหล่งเดิม เมื่อ 20 December 2004. สืบค้นเมื่อ 15 May 2008.
- ↑ Ruis, Edwin. Spynest.British and German Espionage from Neutral Holland 1914–1918. Brimscombe: The History Press, 2016.
- ↑ Evans 2008, pp. 122–3.
- ↑ Brongers 2004, (ONR Part III), p. 235
แหล่งข้อมูลอื่นแก้ไข
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: รอตเทอร์ดาม |