ยุซรี ซูสารอ (เกิด 20 ธันวาคม พ.ศ. 2522) เป็นนักการเมืองชาวไทย เคยได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปัตตานี 1 สมัย และเป็นบุตรชายของ อนุมัติ ซูสารอ นักการเมืองในจังหวัดปัตตานี

ยุซรี ซูสารอ
ไฟล์:ยุซรี ซูสารอ.jpg
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด20 ธันวาคม พ.ศ. 2522 (44 ปี)
อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
พรรคการเมืองพรรครวมไทยสร้างชาติ
คู่สมรสจีรวรรณ ซูสารอ[1]

ประวัติ แก้

ยุซรี ซูสารอ เกิดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2522[2] เป็นบุตรของนายอนุมัติ ซูสารอ กับนางเบญจวรรณ ซูสารอ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จาก กศน.

งานการเมือง แก้

ยุซรี เคยดำรงตำแหน่งเป็นกำนันตำบลควน ในช่วงปี พ.ศ. 2548 ถึง พ.ศ. 2550 ต่อมาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกใน พ.ศ. 2550 สังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน[3] และได้รับเลือกตั้งเพียงครั้งเดียว ในปี 2553 เขาย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย[4]

ต่อมาเขาหันไปทำงานการเมืองท้องถิ่น ในตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลควน[5]

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แก้

ยุซรี ซูสารอ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 1 สมัย คือ

  1. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 จังหวัดปัตตานี สังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

อ้างอิง แก้

  1. ป.ป.ช.เปิดบัญชีฯ 480 ส.ส. 2551 ดูจะๆ ใครรวย-ยาจก มีทรัพย์สิน-หนี้สินอะไร![ลิงก์เสีย]
  2. "สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดปัจจุบัน (ชุดที่ 23)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-11. สืบค้นเมื่อ 2021-09-28.
  3. 'วันนอร์' จุก 'มะ' พระเอก เย้ยฟ้าท้าขับ
  4. พรรคภูมิใจไทย เปิดตัว 6 สส. ย้ายจากพรรคเพื่อไทย-ชาติไทยพัฒนา-เพื่อแผ่นดิน
  5. "องค์การบริหารส่วนตำบลควน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-06-27. สืบค้นเมื่อ 2022-05-17.
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๔ เก็บถาวร 2022-09-29 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๓๙, ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔
  7. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๒ เก็บถาวร 2022-08-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๗ ตอนที่ ๑๖ ข หน้า ๗๘, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๒