มิติ ความหมายโดยทั่วไปหมายถึง สิ่งที่บอกคุณสมบัติของวัตถุ ได้แก่ ความกว้าง ความยาว และ ความสูง ส่วนในทางคณิตศาสตร์ มิติ หมายถึงจำนวนตัวเลขที่ต้องการเพื่อระบุตำแหน่งและคุณสมบัติของวัตถุใด ๆ ในปริภูมิ ในศาสตร์ต่าง ๆ อาจนิยามความหมายของคำว่า มิติ แทนจำนวนพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ต้นทุน และ ราคา ในทางเศรษฐศาสตร์

ตัวอย่างในทางภูมิศาสตร์เช่น จุดบนพื้นผิวโลก สามารถกำหนดได้โดยตัวเลขค่าละติจูดและลองจิจูด ทำให้แผนที่ดังกล่าวมีสองมิติ (ถึงแม้ว่าโลกจะมีรูปร่างเกือบทรงกลมซึ่งมีสามมิติก็ตาม) ในการกำหนดตำแหน่งเครื่องบินหรืออากาศยานอื่น นอกจากละติจูดและลองจิจูดแล้ว ยังมีอีกตัวแปรหนึ่งคือค่า ความสูงจากพื้นดิน ทำให้พิกัดของเครื่องบิน เป็นสามมิติ

เวลา สามารถใช้เป็นมิติที่สามหรือที่สี่ (เพิ่มจากพื้นที่สองหรือสามมิติเดิม) ในการกำหนดตำแหน่งได้

มิติในทางคณิตศาสตร์และฟิสิกส์

แก้

หมายเหตุ

  • Ma ทางคณิตศาสตร์
  • Ph ทางฟิสิกส์

มิติจินตภาพเป็นมิติทางจินตนาการ ที่คนมักนำไปอ้างอิง ทำเป็นนิยายแนววิทยาศาสตร์มากมาย หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ มัลติเวิร์ส มิติจินตภาพเป็นมิติตั้งแต่มิติที่ 5 ขึ้นไปถึงมิติที่ 8 เป็นอย่างน้อย ขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละนักคิด แยกย่อยไปอีก ทำให้เกิดแนวคิดมีโลกต่างมิติ และกฎแห่งกรรมด้วย (ถ้าจะสรุปง่ายๆ มิติจินตภาพคือการเอามิติที่ 4 มาทำเป็นมิติที่ 0,1,2,3,และ4 ทำให้เกิดมิติซ้อนมิติขึ้นมา)

    • Ph Ma มิติที่ 5 คือการสมมุติว่าถ้าเวลาในมิติที่ 4 คือ จุด เหมือนมิติที่ 0 และให้มิติที่ 4 ลากเส้นแบบมิติที่ 1 มิติที่ 4 ก็จะอยู่ในรูปแบบเวลาที่เป็นแบบเส้นตรงที่เดินไปข้างหน้าหรือถอยไปข้างหลัง (ทำให้สามารถไปในอดีตและอนาคตได้)
    • Ph Ma มิติที่ 6 คือสมมุติให้มิติที่ 4 ลากเส้นแบบมิติที่ 2 (กว้างยาว) ก็สามารถทำให้เกิดเส้นแยกสองเส้นเหมือนตัว Y ขึ้นมาได้ เกิดมิติพื้นผิวของมิติที่ 4 ทำให้เวลาเกิดการแยกเส้นเวลาของทุกความเป็นไปได้ (เกิดมัลติเวิร์สขึ้นในมิติที่ 6 นี่เอง ซึ่งนิยายหลายเรื่องจะใช้การตัดสินใจทุกทางเลือกทุกกระทำของแต่ล่ะเหตุการณ์ของแต่ล่ะคนจึงทำให้เกิดทางแยกของเส้นเวลามากมาย)
    • Ph Ma มิติที่ 7 คือการสมมุติให้มิติที่ 4 มีความกว้างยาวลึกแบบมิติที่ 3 ทำให้เกิดมิติพื้นที่ช่องว่างของมิติที่ 4 ทำให้เกิดพื้นที่ช่องว่างทับซ้อนในมิติเวลา (เกิดโลกต่างมิติขึ้น)
    • Ph Ma มิติที่ 8 คือการสมมุติให้มิติที่ 4 มีกาลเวลาแบบมิติที่ 4 ทำให้การกระทำในมิติเวลาหนึ่งสามารถให้ผลในอีกมิติเวลาหนึ่งได้ ทุกการกระทำที่เกิดขึ้นจะไม่สูญหายแต่จะไปให้ผลในอีกช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งทุกการกระทำจะให้ผลในช่วงเวลาข้างหน้าอย่างเดียว นั่นเพราะเวลาพื้นฐานจะเดินทางไปข้างหน้าเท่านั้น (แนวคิดแบบกฎแห่งกรรม การกระทำในช่วงเวลาหนึ่ง ไปมีผลในอีกช่วงเวลาหนึ่ง)

อื่น ๆ

แก้
  • Ma สเปซ ฟิลลิ่ง เคริฟ (ทอพอโลยี)
  • องศาเสรี
  • มิติ (ดาต้า แวร์เฮ้าส์) และ ตารางมิติ
  • ไฮเปอร์สเปซ (กาล-อวกาศของมินคาวสกี, ช่องว่างของยูคลิด, ไฮเปอร์สเฟียร์, ไฮเปอร์เซอร์เฟส, เทสเซอแรคต์, ปริภูมิทอพอโลยีไฮเปอร์สเปซ)