ภาษาอูรักลาโวยจ

ภาษาอูรักลาโวยจ หรือ ภาษาอูรักลาโว้ย เป็นภาษามลายูพื้นเมืองดั้งเดิมภาษาหนึ่งที่ใช้กันในภาคใต้ของประเทศไทย มีผู้พูดราว 5,000 คน (พ.ศ. 2555) โดยเฉพาะในเกาะภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต และเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ นอกจากนี้ยังมีผู้พูดในท้องที่อื่นทางภาคใต้ฝั่งตะวันตกอย่างเกาะอาดัง จังหวัดสตูล เป็นต้น[2] ไม่พบในประเทศมาเลเซีย

ภาษาอูรักลาโวยจ
ออกเสียง[ʔuˈrʌk̚ laˈwojʔ]
ประเทศที่มีการพูดไทย
ภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต, จังหวัดกระบี่, จังหวัดสตูล
ชาติพันธุ์อูรักลาโวยจ
จำนวนผู้พูด5,000 คน  (2555)[1]
ตระกูลภาษา
ออสโตรนีเซียน
ระบบการเขียนมาตรฐานกำหนดให้ใช้อักษรไทย
สถานภาพทางการ
ภาษาชนกลุ่มน้อยที่รับรองใน ไทย
ผู้วางระเบียบสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล
รหัสภาษา
ISO 639-3urk

ภาษาอูรักลาโวยจจัดอยู่ในตระกูลภาษาออสโตรนีเซียน กลุ่มภาษามาลาโย-โพลีเนเซีย สาขามาเลย์อิก ผู้พูดภาษานี้เป็นภาษาแม่คือชาวอูรักลาโวยจซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มหนึ่งในประเทศไทย พวกเขานับถือความเชื่อดั้งเดิม ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม

สัทวิทยา

แก้

พยัญชนะ

แก้
หน่วยเสียงพยัญชนะภาษาอูรักลาโวยจถิ่นบ้านสังกาอู้ จังหวัดกระบี่[3]
ลักษณะการออกเสียง ตำแหน่งเกิดเสียง
ริมฝีปาก ปุ่มเหงือก เพดานแข็ง เพดานอ่อน เส้นเสียง
เสียงนาสิก m n ɲ ŋ
เสียงหยุด ก้อง b d ɟ ɡ
ไม่ก้อง ไม่พ่นลม p t c k ʔ
พ่นลม () () () ()
เสียงเสียดแทรก (f) s h
เสียงลิ้นกระทบ r
เสียงข้างลิ้น l
เสียงกึ่งสระ w j
  • หน่วยเสียงในวงเล็บเป็นหน่วยเสียงที่พบในคำยืมจากภาษาอื่นเป็นส่วนใหญ่
  • หน่วยเสียงพยัญชนะต้นควบในภาษาอูรักลาโวยจถิ่นบ้านสังกาอู้มี 15 หน่วยเสียง ได้แก่ /mr/, /br/, /bl/, /pr/, /pl/, /pʰl/, /tr/, /tl/, /ɟr/, /cr/, /kr/, /kl/, /sr/, /hl/ และ /hj/
  • แหล่งข้อมูลต่าง ๆ วิเคราะห์สถานะทางสัทวิทยาของ [jʔ] และ [jh] (ซึ่งปรากฏท้ายพยางค์) แตกต่างกันไป บางแหล่งจัดให้ [jʔ] เป็นหน่วยเสียงย่อยของหน่วยเสียง /c/ และจัดให้ [jh] เป็นหน่วยเสียงย่อยของหน่วยเสียง /s/ ในขณะที่บางแหล่งจัดให้ [jʔ] เป็นหน่วยเสียงย่อยของหน่วยเสียง /c/ เท่านั้น และบางแหล่งไม่เห็นด้วยกับการจัดเช่นนี้ทั้งหมด
  • หน่วยเสียง /r/ ในภาษาอูรักลาโวยจถิ่นบ้านสังกาอู้มีเสียงแปร 2 เสียง ได้แก่ เสียงลิ้นกระทบ ปุ่มเหงือก ก้อง [ɾ] และเสียงที่มีลักษณะใกล้เคียงกับเสียงเสียดแทรก เพดานอ่อน ก้อง [ɣ]
  • หน่วยเสียง /l/ ในภาษาอูรักลาโวยจถิ่นบ้านสังกาอู้ปรากฏในตำแหน่งต้นพยางค์เท่านั้น แต่ในภาษาอูรักลาโวยจถิ่นภูเก็ตปรากฏทั้งในตำแหน่งต้นพยางค์และท้ายพยางค์

สระ

แก้

สระเดี่ยว

แก้
หน่วยเสียงสระเดี่ยวภาษาอูรักลาโวยจถิ่นบ้านสังกาอู้ จังหวัดกระบี่[4]
ระดับลิ้น ตำแหน่งลิ้น
หน้า กลาง หลัง
สูง i u
กลาง e ə o
ต่ำ ɛ a ɔ

ความสั้นยาวของเสียงสระไม่ทำให้ความหมายของคำเปลี่ยนแปลง แต่เสียงสระในพยางค์เปิดมักยาวกว่าเสียงสระในพยางค์ปิด และในขณะเดียวกัน เสียงสระที่มีพยัญชนะนาสิกเป็นพยัญชนะท้ายมักยาวกว่าเสียงสระที่มีพยัญชนะหยุดเป็นพยัญชนะท้าย[5]

สระประสม

แก้

หน่วยเสียงสระประสมภาษาอูรักลาโวยจถิ่นบ้านสังกาอู้มี 2 หน่วยเสียง ได้แก่ /ia/ และ /ua/[4]

ลักษณ์เหนือหน่วยแยกส่วน

แก้

ภาษาอูรักลาโวยจไม่มีวรรณยุกต์ แต่มีการเน้นพยางค์ (stress) และการใช้ทำนองเสียง (intonation) ทำให้ฟังแล้วคล้ายกับมีวรรณยุกต์ ตัวอย่างเช่น คำที่มี 2–3 พยางค์ จะเน้นที่พยางค์สุดท้าย, คำสุดท้ายของประโยคคำถาม จะมีทำนองเสียงสูงขึ้น, คำสุดท้ายของประโยคปฏิเสธ จะมีทำนองเสียงลงต่ำกว่าปกติ เป็นต้น แม้ว่าการเปลี่ยนทำนองเสียงในประโยคสามารถทำให้ความหมายของประโยคนั้นเปลี่ยนแปลงไปได้[6] แต่การออกเสียงเน้นที่พยางค์ใดก็ตามของคำไม่ทำให้ความหมายของคำนั้นเปลี่ยนแปลง[5]

ระบบการเขียน

แก้

เดิมทีภาษาอูรักลาโวยจไม่มีตัวเขียน นับวันจะยิ่งสูญหาย จึงเกิดโครงการ "แนวทางในการศึกษาศักยภาพของชุมชนเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูภาษา วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างมีส่วนร่วมของชาวอูรักลาโวยจ บ้านสังกาอู้ ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่" ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น และศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล และได้จัดทำมาตรฐานการเขียนภาษาอูรักลาโวยจด้วยอักษรไทยขึ้นตามระบบเสียงภาษาอูรักลาโวยจที่พูดกันอยู่ในหมู่ที่ 7 บ้านสังกาอู้ ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เป็นหลัก

ตัวเขียนภาษาอูรักลาโวยจอักษรไทยตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบเขียนและจัดทำคู่มือภาษาชาติพันธุ์ด้วยอักษรไทย ศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กำหนดไว้ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

พยัญชนะ
อักษรไทย เสียง ตัวอย่างคำ ความหมาย
/k/ อตับ ปู
ฮลั เหยี่ยว
กฺ /ɡ/ กฺีกฺี ฟัน (นาม)
/kʰ/ อด ค้อน (นาม)
/ŋ/ าจิ กรรไกรหนีบหมาก
ปีนั หมาก
/c/ (เมื่อเป็นพยัญชนะต้น) จี แหวน
/cʰ/ อนีง ลูกเนียง
/s/ (เมื่อเป็นพยัญชนะต้น) ซีโปยจ หอย
/ɲ/ าเมาะ ยุง
/d/ าโวด ใบไม้
/t/ (เมื่อเป็นพยัญชนะท้าย) ฮูยฺั ฝน
/t/ (เมื่อเป็นพยัญชนะต้น) างัน มือ
/tʰ/ ถัง
/n/ นูนั น้อยหน่า
กัตูกั ฟักทอง
/b/ บี หมู
/p/ (เมื่อเป็นพยัญชนะท้าย) ฮายั ไก่
/p/ (เมื่อเป็นพยัญชนะต้น) ปีซัก กล้วย
/pʰ/ ากฺิ แบ่ง
/f/ ฟี ฟิล์ม
/m/ าทู ผึ้ง
เคอนั กระต่าย
/j/ าตก หัวใจ
ตูปั กระรอก
ยจ [jʔ] มูโลยจ ปาก
ยฮ [jh] นุยฮ ปลาหมึก
ยฺ /ɟ/ ยฺารี นิ้ว
/r/ ากฺา ตะกร้า
/l/ ลีปัด ตะขาบ
/w/ วัยจ วัด (นาม)
เมีย แมว
/ʔ/ (เมื่อเป็นพยัญชนะต้น) อีกัด ปลา
/h/ ฮูรัก กุ้ง
รูมะ บ้าน
ไม่มีรูป /ʔ/ (เมื่อเป็นพยัญชนะท้าย) ยาโกฺะ ข้าวโพด
  • นอกเหนือจากมาตรฐานนี้ ยังมีการใช้รูปพยัญชนะ
    แทน กฺ; แทน ยฺ; และ –จ แทน –ยจ
  • มีการใช้รูป –ยํ และ –ล แสดงหน่วยเสียง /l/ ท้ายพยางค์
    ในภาษาอูรักลาโวยจถิ่นภูเก็ต
สระ
อักษรไทย เสียง ตัวอย่างคำ ความหมาย
–ะ /a/ (เมื่อมีพยัญชนะท้ายเป็น
/ʔ/ หรือ /h/)
กฺาว แมงมุม
เตอง กลาง
–ั /a/ (เมื่อมีพยัญชนะท้ายที่ไม่ใช่
/ʔ/, /h/ และ /w/)
รั ฟัก (ไข่)
รัยฮ ข้าวสาร
–า /a/ (เมื่อไม่มีพยัญชนะท้าย) ขนุน
เสียง
–ิ /i/ (เมื่อมีพยัญชนะท้ายเป็น /h/
รวมทั้งพยัญชนะอื่น เช่น
พยัญชนะหยุด)
ฮาบิ หมด
อีติ เป็ด
กิ แห้ง
–ี /i/ (เมื่อไม่มีพยัญชนะท้าย
หรือมีพยัญชนะท้ายในบางคำ)
ปีปี แก้ม
คี คีม
เชอนี ลูกเนียง
–ุ /u/ (เมื่อมีพยัญชนะท้าย) กามุ มุ้ง
ยูรุยฮ ก่อน
–ู /u/ (เมื่อไม่มีพยัญชนะท้าย) มาทู ผึ้ง
รูมา แข่ง
เ–ะ /e/ (เมื่อมีพยัญชนะท้ายเป็น
/ʔ/ หรือ /h/)
พา กิ๊บติดผม
เบอ ได้
เ– /e/ (เมื่อไม่มีพยัญชนะท้าย
หรือมีพยัญชนะท้ายอื่น)
กลา มะพร้าว
งาญน ตก (เบ็ด)
แ–ะ /ɛ/ (เมื่อมีพยัญชนะท้ายเป็น
/ʔ/ หรือ /h/)
ตา มีดอีโต้
มา มา
แ– /ɛ/ (เมื่อไม่มีพยัญชนะท้าย
หรือมีพยัญชนะท้ายอื่น)
แห่
กฺรก ตะกวด (แลนดำ)
โ–ะ /o/ (เมื่อมีพยัญชนะท้ายเป็น
/ʔ/ หรือ /h/)
ญา สับปะนก (เครื่องมือเจาะหอย)
ซา สมอเรือ
โ–ะ (ลดรูป) /o/ (เมื่อมีพยัญชนะท้ายที่ไม่ใช่
/ʔ/, /h/, /j/, [jʔ] และ [jh])
บูรก นก
รูมด ก่อ, จุด (ไฟ)
โ– /o/ (เมื่อมีพยัญชนะท้ายเป็น /j/,
[jʔ] หรือ [jh] รวมทั้งพยัญชนะอื่น
ในบางคำ)
กย ขนม
รามยจ เงาะ
ดาวด ใบไม้
เ–าะ /ɔ/ (เมื่อมีพยัญชนะท้ายเป็น
/ʔ/ หรือ /h/)
ญาาะ สวิงดักปลา
าะ ใส่
–อ /ɔ/ (เมื่อไม่มีพยัญชนะท้าย
หรือมีพยัญชนะท้ายอื่น)
ตีก กาน้ำ
พล เสียงของตก
เ–อ /ə/ (เมื่อไม่มีพยัญชนะท้าย) อเ ไข่
จรเมน กระจก
เ–ีย /ia/ เดีย ทุเรียน
เมีย แมว
–ัวะ /ua/ (เมื่อมีพยัญชนะท้ายเป็น
/ʔ/)
ยฺัวะ เต้นอย่างสนุกสนาน
ลัวะ ช่องแคบ
–ัว /ua/ (เมื่อไม่มีพยัญชนะท้าย) เบอนัว โลก, จักรวาล
–ว– /ua/ (เมื่อมีพยัญชนะท้ายอื่น) ยจ ทำ
ยจ ไข้หวัด
เ–า /aw/ ลี มะนาว
ยฺร ใส
  • สระสั้นที่ไม่มีตัวสะกดจะมีเสียง /ʔ/ อยู่ด้วย
  • สระสั้นที่มีตัวสะกดเป็น –ฮ ไม่ต้องเปลี่ยนรูปสระ
  • รูปสระ –ี โดยทั่วไปใช้แทนเสียงสระ /i/ ที่ไม่มีเสียงพยัญชนะท้าย แต่บางครั้งยังใช้
    แทนเสียงสระ /i/ ที่มีเสียงพยัญชนะท้ายด้วย โดยเฉพาะพยัญชนะนาสิก
  • รูปสระ โ–ะ ที่มีตัวสะกดนอกเหนือจาก –ฮ โดยทั่วไปเขียนแบบลดรูป ยกเว้นเมื่อ
    ตัวสะกดนั้นเป็น –ย, –ยจ, –ยฮ รวมทั้งพยัญชนะอื่นในบางคำ จะใส่ กำกับไว้
  • รูปสระ เ–ะ, แ–ะ และ เ–าะ ถ้ามีตัวสะกด ไม่ต้องใส่ไม้ไต่คู้
  • ในคำยืมบางคำปรากฏเสียงสระ /ə/ ในพยางค์ปิดด้วย ในกรณีนี้จะแสดงด้วยรูป เ–ิ
  • นอกเหนือจากมาตรฐานนี้ ยังมีการใช้รูปสระ –ือ แทน เ–อ ในพยางค์ที่ไม่เน้นหนัก

อ้างอิง

แก้
  1. ภาษาอูรักลาโวยจ ที่ Ethnologue (18th ed., 2015) (ต้องสมัครสมาชิก)
  2. http://school.obec.go.th/adang/urak%20lawoi.html
  3. ศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต. (2563). คู่มือระบบเขียนภาษาอูรักลาโวยจอักษรไทย ฉบับมหาวิทยาลัยมหิดล. นครปฐม: สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล, หน้า 12–13.
  4. 4.0 4.1 ศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต. (2563). คู่มือระบบเขียนภาษาอูรักลาโวยจอักษรไทย ฉบับมหาวิทยาลัยมหิดล. นครปฐม: สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล, หน้า 16–17.
  5. 5.0 5.1 ศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต. (2563). คู่มือระบบเขียนภาษาอูรักลาโวยจอักษรไทย ฉบับมหาวิทยาลัยมหิดล. นครปฐม: สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล, หน้า 16–17.
  6. ศูนย์ศึกษาและฟื้นฟูภาษาและวัฒนธรรมในภาวะวิกฤต. (2563). คู่มือระบบเขียนภาษาอูรักลาโวยจอักษรไทย ฉบับมหาวิทยาลัยมหิดล. นครปฐม: สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล, หน้า 18.
  • Gordon, Raymond G., Jr. (ed.), 2005. Ethnologue: Languages of the World, Fifteenth edition. Dallas, Tex.: SIL International. Online version: http://www.ethnologue.com/.