พิศิษฐ์ ศาลิคุปต์

พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก พิศิษฐ์ ศาลิคุปต์ เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน และ เป็นอดีตเสนาธิการทหาร

พลอากาศเอก
พิศิษฐ์ ศาลิคุปต
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
ดำรงตำแหน่ง
2 มีนาคม พ.ศ. 2534 – 20 มีนาคม พ.ศ. 2535
นายกรัฐมนตรีอานันท์ ปันยารชุน
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2475
บ้านพระยาภักดีนฤเบศร์ ตำบลปากคลอง อำเภอภาษีเจริญ กรุงธนบุรี
เสียชีวิต19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
บ้านอยู่สบาย แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร

ประวัติ แก้

พลอากาศเอก พิศิษฐ์ ศาลิคุปต เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2475 จบการศึกษาจากโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ระดับปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต จากโรงเรียนนายเรือ โอนย้ายไปรับราชการเป็นทหารอากาศ ดำรงตำแหน่งสำคัญ คือ เสนาธิการทหาร[1]

ต่อมาในการก่อการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2534 โดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) พล.อ.อ.พิศิษฐ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ[2] และได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน[3] และในปี พ.ศ. 2535 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา[4]

พลอากาศเอก พิศิษฐ์ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 และได้รับพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 28 กรกฎาคมของปีเดียวกัน ณ ฌาปนสถานกองทัพอากาศ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร[5]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

อ้างอิง แก้

  1. จากตั๋งโต๊ะ และโจโฉ ถึง ตั้งโต๊ะ และโทโส[ลิงก์เสีย]
  2. ประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๗ (ไม่เป็นกฎหมาย เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติและคณะที่ปรึกษา)
  3. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๓๔ ราย) เก็บถาวร 2015-09-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนเล่ม 108 ตอนที่ 45 วันที่ 6 มีนาคม 2534
  4. "สมาชิกวุฒิสภา ชุดที่ 6" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2015-08-06.
  5. บุคคลในข่าวจาก ไทยรัฐ
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐๖ ตอนที่ ๒๑๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๒
  7. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๐๕ ตอนที่ ๒๐๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๔, ๓ ธันวาคม ๒๕๓๑