พระศุกร์ คติอินเดียเรียกว่า ศุกราจารย์ (เทวนาครี: शुक्र ศุกฺร) เป็นเทวดานพเคราะห์องค์หนึ่ง ในคติไทย พระศุกร์ถูกสร้างขึ้นมาจากพระศิวะทรงนำโค (วัว) 21 ตัว (บางตำรากล่าวว่าสร้างจากวิทยาธร-ครึ่งเทพครึ่งมนุษย์ ผู้มีวิชาอาคมและพลังญาณ) บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีฟ้าอ่อน ประพรมด้วยน้ำอมฤต แล้วเสกได้เป็นพระศุกร์ มีพระวรกายสีฟ้า ทรงเครื่องผนวชฤๅษี นุ่งห่มหนังเสือ สวมลูกประคำ ทรงเครื่องประดับเป็นเพชร แก้วไพลินและแก้วเพทาย ทรงโคอุสุภราชเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศเหนือ และแสดงถึงอักษรวรรคสะ (ศ ษ ส ห ฬ ฮ) เรียกว่า อัชนาม พระศุกร์จัดเป็นครูของพวกอสูร ซึ่งตรงข้ามกับพระพฤหัสบดีที่เป็นครูของเทพ ในไตรภูมิพระร่วง พระศุกร์มีวิมานลอยอยู่รอบเขาพระสุเมรุด้านทิศเหนือ วิมานใหญ่ 13 โยชน์ รัศมีดังควันไฟ

พระศุกร์
เทวนาครี: शुक्र
พระศุกร์ ในคติอินเดีย ทรงประคำ, ไม้เท้า, ถ้วย ประทับบนดอกบัวสีฟ้า
ตำแหน่งอสูรคุรุ เทพแห่งดาวศุกร์ โชคลาภ โภคทรัพย์ ความรัก ความสุข ความปรารถนาทางโลก โหราศาตร์ นิติศาสตร์ โคลงฉันท์กาพย์กลอน
จำพวกเทวดานพเคราะห์ และฤๅษี
อาวุธไม้เท้า, ลูกประคำ, หม้อน้ำ, คัมภีร์, ดอกบัว, คทา, ดาบ, แส้, สังข์, ธนู, ศร ฯลฯ
สัตว์พาหนะม้า, โคอุศุภราช, จระเข้, นกอินทรี, ราชรถสีขาวเทียมม้าสีขาว 10 ตัว
บิดาฤๅษีภฤคุ
มารดาพระนางอุศนัส
คู่ครองพระนางชยันตี, พระนางอุรชัสวดี
บุตรพระนางเทวยานี, ฤๅษีตวัษฏาร์, นิลปาสัน (วานรสิบแปดมงกุฎในรามเกียรติ์) ฯลฯ
ดาวพระเคราะห์ศุกรโลก (ดาวศุกร์)

ในคติฮินดู พระศุกร์ เป็นบุตรของฤๅษีภฤคุ กับพระนางอุศนัส หรือ พระนางกาพยมาตา และเป็นสาวกเอกของพระศิวะ วิมานอยู่ทางศุกรโลก ด้านทิศเหนือ พระศุกร์ มีนามเดิมว่า พระภารควะ เป็นเทพฤๅษีผู้มีรูปงาม และได้หลงรักกับนางอัปสรวิศวาจี และถอดจิตตามนางไป ต่อมานางก็ทิ้งพระภารควะ พระภารควะจึงไปจุติเป็นเมล็ดข้าว และชาวนาได้นำข้าวไปถวายฤๅษี ภรรยาฤๅษีได้กินเข้าไป และได้ตั้งครรภ์และคลอดบุตร ชื่อ ฤๅษีอุศนัส ส่วนนางอัปสรวิศวาจี ถูกฤๅษีนารทมุนีสาปให้กลายเป็นกวาง และได้มาพบกับฤๅษีอุศนัส และได้สมสู่กันจนมีบุตร ในขณะนี้ดวงจิตของพระภารควะยึดติดในกาม และต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ฝ่ายฤๅษีภฤคุที่เข้าฌานไปเป็นเวลานาน เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบร่างของบุตรตนไม่มีชีวิต ท่านจึงไปพบพระยมในยมโลก เพื่อถามหาวิญญาณของบุตรตน แต่พระยมกล่าวว่าตอนนี้พระภารควะได้ไปเกิดเป็นพราหมณ์และกำลังจะใช้กรรมหมดแล้ว ฤๅษีภฤคุจึงขอให้พระยมนำดวงจิตของพระศุกร์คืนมา เมื่อพระภารควะกลับเข้าร่างเดิมแล้วก็เริ่มเบื่อหน่ายในชีวิต และเริ่มบำเพ็ญตบะต่อพระศิวะ และเนื่องจากพระภารควะได้บำเพ็ญตบะมาหลายชาติ จนกระทั่งพระศิวะทรงพอพระทัย และมอบพรให้พระภารควะ ทรงมอบนามใหม่ให้ว่า พระศุกร์ และทรงแต่งตั้งให้เป็นเทพประจำดาวศุกร์ และให้เป็นอาจารย์ของเหล่าอสูร แทตย์ ทานพ รากษส ให้เป็นผู้ไม่มีวันแก่ชรา ให้เป็นผู้มั่งคั่งในโภคทรัพย์สมบัติ โชคลาภ ให้เป็นผู้มีสติปัญญาญาณ มีความสามารถในวิชาการต่อสู้ การปกครอง การแต่งโศลก กาพย์ ฉันท์ กวี มีมนตร์มายา มีอำนาจด้านความรัก ความปรารถนาในโลก และยังได้รับมนตร์มฤตสัญชีวินี ซึ่งสามารถชุบชีวิตได้

ลักษณะของพระศุกร์ ในคติไทย เป็นเทพบุรุษมีกายสีฟ้า หรือ สีเลื่อมประภัสสร มี 2 กร ทรงไม้เท้าและดอกบัว บ้างก็ทรงศรเป็นอาวุธ สวมชฎายอดฤๅษี ทรงเครื่องผนวชฤๅษี นุ่งห่มหนังเสือ สวมลูกประคำ ทรงเครื่องประดับเป็นเพชร แก้วไพลินและแก้วเพทาย ทรงโคอุสุภราชเป็นพาหนะ ในคติฮินดู เป็นเทวฤๅษีมีกายสีฟ้า บ้างก็ว่าสีขาว รูปร่างสูง มีรูปงาม ตาบอดข้างหนึ่ง มี 4 กร ทรงไม้เท้า,ลูกประคำ,หม้อน้ำ,ดอกบัว,ดาบ ฯลฯ รัศมีสีขาวมี 16 แฉก มุ่นมวยผมอย่างฤๅษี สวมลูกประคำ สวมอาภรณ์สีขาว ทรงเครื่องประดับด้วยเพชร แก้วไพลินและแก้วเพทาย ทรงม้าเป็นพาหนะ พระศุกร์ ยังมีพระนามอื่น ๆ อีก เช่น พระภารควะ, พระอุศนัส, พระศุกราจารย์, พระอสุราจารย์, พระอสูรคุรุ, พระแทตยคุรุ, พระแทตยาจารย์, พระแทตยปุโรหิต, พระแทตยมนตรี, พระแทตยปูชยะ, พระกาพย์, พระเศวตามพร, พระศุภลักษณ์, พระกามบาล, พระมนัสวิน, พระมหายศ ฯลฯ

พระศุกร์เป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ ให้ผลในทางอ่อนหวาน มีเสน่ห์ มีโชคลาภ มักมากในกาม ค่อนข้างไปทางใฝ่ต่ำ นั่นคือ ผู้ใดเกิดวันศุกร์หรือมีพระศุกร์สถิตร่วมกับลัคนา มักมีกิริยาน่ารัก อ่อนหวาน ชอบงานศิลปะทุกประเภท ตามนิทานชาติเวร พระศุกร์เป็นมิตรกับพระอังคารและเป็นศัตรูกับพระเสาร์ เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งพระศุกร์เกิดเป็นรุกขเทวดา พระอังคารเกิดเป็นกบ พระเสาร์เกิดเป็นงู งูได้ไล่จับกบกินเป็นอาหาร กบได้หนีมาหลบใต้ต้นไม้ รุกขเทวดารู้สึกสงสารกบ จึงสำแดงฤทธิ์ไล่งูไป ตั้งแต่นั้น พระศุกร์จึงเป็นมิตรกับพระอังคาร และเป็นศัตรูกับพระเสาร์ จากตำนานนี้ผู้ใดที่เกิดวันศุกร์แล้วพระอังคารโคจรเข้าสู่ดวงชะตา จะมีมิตรสหายเกื้อหนุน ได้ลาภยศทรัพย์สินเงินทอง ได้ยศศักดิ์แลเชื่อเสียง มีชัยชนะศัตรู รอดพ้นภัยพาล หากพระเสาร์โคจรเข้าสู่ดวงชะตา จะเกิดมีเกณฑ์พลัดพรากจากที่อยู่อาศัย มีเหตุให้เสียทรัพย์

ในโหราศาสตร์ไทย พระศุกร์ถูกแทนด้วยสัญลักษณ์ ๖ (เลขหกไทย) และด้วยเหตุที่สร้างขึ้นมาจากโค 21 ตัว จึงมีกำลังพระเคราะห์เป็น 21 สำหรับพระประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันศุกร์ก็คือปางรำพึง

นอกจากนี้ พระศุกร์ยังเป็นศัตรูกับพระวิษณุ เพราะพระวิษณุทรงสังหารนางอุศนัส ผู้เป็นมารดาของพระศุกร์ เพราะนางให้ที่หลบภัยแก่อสูร และพระศุกร์เคยขัดขวางการให้ทานของท้าวมหาพลี โดยการเข้าไปอุดรูในคนโทน้ำเต้า ไม่ให้น้ำทักษิโณทกไหลออกมา พระวามนาวตาร อวตารปางที่ 5 ของพระวิษณุ ทรงใช้หญ้าคาทิ่มตาพระศุกร์บอดไปข้างหนึ่ง

ในมหาภารตะ พระศุกร์เป็นศัตรูกับท้าวยยาติ ลูกเขยของพระศุกร์ คือท้าวยยาตินั้น เห็นพระศุกร์ เป็นเพียงแค่ฤๅษีตนหนึ่ง จึงได้พูดจาสบประมาท ดูถูกพระศุกร์ และแล้ว ฤๅษีนารทมุนี ได้นำความไปฟ้องพระศุกร์ พระศุกร์โกรธมากจึงสาปท้าวยยาติให้กลายเป็นคนแก่หลังค่อม และลูกหลานต้องฆ่ากันตายและต้องมีตระกูลหนึ่งต้องสูญพันธุ์ไม่มีผู้สืบสกุล จนเป็นอีกสาเหตุหนึ่งทำให้เกิด สงครามทุ่งกุรุเกษตร 18 วัน ก็คือปาณฑพ และ เการพ และตระกูลที่สูญพันธุ์ไร้ผู้สืบสกุลก็คือสกุลเการพ ในเวลาต่อมา นอกจากนี้ พระศุกร์ยังได้อวตารไปเกิดเป็นบุตรของพระทัศระ (พระอัศวินแฝดน้อง) กับนางกุนตี นามว่า สหเทพ

เมื่อเทียบกับความเชื่อทางตะวันตกแล้ว พระศุกร์เทียบได้กับอะโฟร์ไดตีของเทพปกรณัมกรีก และวีนัสของเทพปกรณัมโรมัน

อ้างอิง แก้

  • อุระคินทร์ วิริยะบูรณะ และคณะ.พรหมชาติ ฉบับหลวง. กรุงเทพฯ:สำนักงาน ลูก ส.ธรรมภักดี, ม.ป.ป.
  • เทพย์ สาริกบุตร และคณะ.พรหมชาติ ฉบับราษฎร์. กรุงเทพฯ:สำนักงาน ลูก ส.ธรรมภักดี, ม.ป.ป.