พระราชเขมากร (ประยุทธ ภูริทตฺโต)
รองศาสตราจารย์ ดร. "พระราชเขมากร" ฉายา ภูริทตฺโต นามเดิม ณัฐพงศ์ วงศ์ยศ ผู้จัดการโรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา เจ้าคณะจังหวัดแพร่ และเจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร
พระราชเขมากร (ณัฐพงศ์ ภูริทตฺโต) | |
---|---|
ชื่ออื่น | ท่านเจ้าคุณ พระมหาประยุทธ ป.ธ.9 |
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 (58 ปี) |
นิกาย | มหานิกาย |
การศึกษา | นักธรรมชั้นเอก เปรียญธรรม 9 ประโยค พธ.บ. เกียรตินิยม M.A.(Psy.) Ph.d (Psy.) |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร จังหวัดแพร่ |
อุปสมบท | พ.ศ. 2529 |
พรรษา | 37 |
ตำแหน่ง | เจ้าคณะจังหวัดแพร่ เจ้าอาวาสพระอารามหลวงวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร |
ประวัติ
แก้พระราชเขมากร มีนามเดิมว่า ประยุทธ วงศ์ยศ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 ณ บ้านเลขที่ 23 หมู่ 3 ตำบลห้วยอ้อ อำเภอลอง จังหวัดแพร่ โยมมารดาชื่อนางคำ วงศ์ยศ บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2520 ณ พัทธสีมาวัดนาหลวง ตำบลห้วยอ้อ อำเภอลอง จังหวัดแพร่ มีพระครูอดุลยธรรมรังสี (หลวงปู่สี) เจ้าอาวาสวัดนาหลวง เป็นพระอุปัชฌาย์ จำพรรษาอยู่ที่วัดนาแก และศึกษาพระปริยัติธรรมที่แผนกธรรมสำนักศาสนศึกษาวัดพระธาตุศรีดอนคำ และสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท
ปีพ.ศ. 2523 นางคำ วงศ์ยศ มารดาได้เสียชีวิต จิตใจเริ่มสับสนวุ่นวาย หลังเทศกาลสงกรานต์ จึงขอลาสิกขากับครูบาสมจิต จิตตฺคุตโต แต่ครูบาท่านไม่อนุญาต ท่านให้ข้อคิดว่า สึกไปก็ช่วยอะไรใครไม่ได้ จงช่วยตัวเองเสียก่อน จากนั้นจึงตัดสินใจไม่ลาสิกขา ก่อนย้ายมาเรียนภาษาบาลี ที่สำนักวัดหนองม่วงไข่ โดยมีพระราชรัตนมุนี (รส คันธรโส) เจ้าคณะจังหวัดแพร่ และเจ้าสำนักศาสนศึกษา หลังจากสอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค จึงลากลับไปเยี่ยมบ้านที่อำเภอลอง และเข้าไปกราบพระครูวิจิตรนวการโกศล (ครูบาสมจิต จิตตคุตโต) วัดสะแล่ง และอุปสมบทที่วัดสะแล่ง ได้รับฉายานามว่า ภูริทตฺโต ต่อมาได้ไปศึกษาต่อที่วัดคลองโพธิ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ หลังจากนั้นท่านได้รับคำแนะนำจากพระเทพปริยัติเมธี (รุ่น) ให้ไปสอบเปรียญธรรมประโยค 9 ท่านจึงตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร แต่การจะหาวัดอยู่จำพรรษาในสมัยนั้นหายากยิ่ง สุดท้ายได้พำนักที่วัดใหม่พิเรนทร์ ด้วยความเมตตาจากเจ้าอาวาส โดยมีข้อแม้ว่า ภายใน 3 ปี หากสอบไม่ได้ต้องออกจากวัด พร้อมกันนี้ พระมหาประยุทธ ยังสมัครสอบเรียนที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่วัดมหาธาตุ ใช้เวลา 4 ปี ได้ปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ. เกียรตินิยม) พร้อมกับสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค เมื่อปี พ.ศ. 2538 และได้ศึกษาต่อปริญญาโท M.A.(Psy.) และ Ph.d(Psy.)[1]
วิทยาฐานะ
แก้- พ.ศ. 2526 สอบได้นักธรรมชั้นเอก
- พ.ศ. 2527 สอบได้ประโยค 1-2 สำนักศาสนศึกษาวัดหนองม่วงไข่
- พ.ศ. 2528 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค สำนักศาสนศึกษาวัดหนองม่วงไข่
- พ.ศ. 2529 สอบได้เปรียญธรรม 4 ประโยค สำนักเรียนวัดคลองโพธิ์ พระอารามหลวง จังหวัดอุตรดิตถ์
- พ.ศ. 2533 สอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค
- พ.ศ. 2538 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค สำนักเรียนวัดใหม่พิเรนทร์ กรุงเทพมหานคร
- พ.ศ. 2539 สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี พุทธศาสตรบัณฑิต (พธ.บ. เกียรตินิยม) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
และได้ศึกษาต่อจนจบปริญญาโท M.A. (Psy.) และปริญญาเอก Ph.d (Psy.)
การปกครองสงฆ์
แก้- พ.ศ. 2541 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้รับตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร
- ดำรงตำแหน่งเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดแพร่
- ดำรงตำแหน่งเป็นเรองเจ้าคณะจังหวัดแพร่
- ดำรงตำแหน่งเป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ
- เป็นรักษาการเจ้าอาวาส วัดหนองม่วงไข่
- พ.ศ. 2554 ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดแพร่
งานด้านการศึกษา
แก้หลังจากสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ได้รับสนองงานของคณะสงฆ์ และมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่ ตามความประสงค์ของ พระธรรมรัตนากร รองเจ้าคณะภาค 6
- พ.ศ. 2553 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักวัดคลองโพธิ์
- เป็นอาจารย์ใหญ่สำนักศาสนศึกษา วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร
- เป็นพระปริยัติ นิเทศก์จังหวัดแพร่
- เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษาวัดหนองม่วงไข่
- เป็นประธานพระปริยัตินิเทศก์หนเหนือ
- เป็นกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนแพร่ปัญญานุกุล
- เป็นกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา
- เป็นคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาแพร่ เขต 1
- เป็นเจ้าสำนักเรียนจังหวัดแพร่
เกียรติยศและเกียรติคุณ
แก้สมณศักดิ์
แก้- 12 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระเมธีธรรมาลังการ[2]
- 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชเขมากร ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี[3]
สมณศักดิ์ต่างประเทศ
แก้- 19 มกราคม พ.ศ. 2561 ได้รับการแต่งตั้งสมศักดิ์เป็นพระครูบา ที่ พระครูบาพระราชเขมากร ประยุทธ ภูริทตฺโต จากสมเด็จอาชญาธรรมพระเจ้า เขมจารมหาเถระ สมเด็จพระสังฆราชนครเชียงตุง ประเทศเมียนมาร์
เกียรติคุณที่ได้รับ
แก้- พ.ศ. 2550 ได้รับรางวัลเสาเสมาธรรมจักรทองคำ ผู้ทำคุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา ประเภทส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา สาขาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศ
- พ.ศ. 2550 ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ ผู้สนองงานในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการสนับสนุน โรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา
- พ.ศ. 2552 ได้รับรางวัลพัดยศสมณาคุณสภากาชาดชั้นที่ 3 โล่คนดีศรีพุทธศาสน์ รางวัล และเงินรางวัล 33,000 บาท จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
อ้างอิง
แก้- ↑ อริยะโลกที่ 6 .สมฤทธิ์ ชัยพลังฤทธิ์ .สืบค้นวันที่ 29 มกราคา พ.ศ. 2560
- ↑ "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 121 (15 ข ฉบับทะเบียนฐานันดร): 11. 15 กันยายน พ.ศ. 2547. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-30. สืบค้นเมื่อ 31 มกราคม พ.ศ. 2560.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 131 (20 ข): 3. 26 กันยายน พ.ศ. 2557. สืบค้นเมื่อ 31 มกราคม พ.ศ. 2560.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help)