พระราชบัญญัติอำนาจสูงสุดทางศาสนา
พระราชบัญญัติอำนาจสูงสุดทางศาสนา[1] (อังกฤษ: Act of Supremacy) พระราชบัญญัติอำนาจสูงสุดทางศาสนาฉบับแรกมอบอำนาจให้สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษเป็น “ประมุขสูงสุดของคริสตจักรแห่งอังกฤษ” ซึ่งยังคงเป็นอำนาจตามกฎหมายของพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรมาจนถึงทุกวันนี้ ประมุขสูงสุดกำหนดขึ้นโดยเฉพาะในการบรรยายอำนาจทางกฎหมายแพ่งของพระมหากษัตริย์ที่มีอำนาจเหนือกฎบัตรของคริสต์ศาสนจักรในอังกฤษ
ฉบับที่ 1
แก้พระราชบัญญัติอำนาจสูงสุดทางศาสนาของเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1534 (26 Hen. 8, c. 1) เป็นพระราชบัญญัติที่ออกโดยรัฐสภาแห่งอังกฤษภายใต้การปกครองของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ที่ประกาศให้พระองค์ทรง “เป็นประมุขสูงสุดผู้เดียวในโลกของคริสตจักรแห่งอังกฤษ” และทรงมีสิทธิทุกประการที่รวมทั้งด้านการปกครองและด้านทรัพย์สินและรายได้ที่เป็นของคริสต์ศาสนสถานในอังกฤษ[2]
พระเจ้าเฮนรีทรงได้รับการประกาศให้เป็น “ผู้ปกป้องศรัทธา” (Fidei Defensor) ในปี ค.ศ. 1521 โดยสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 เมื่อทรงพระราชนิพนธ์จุลสารที่กล่าวหามาร์ติน ลูเทอร์ว่าเป็นผู้นอกรีต[3] ต่อมาในปี ค.ศ. 1544 รัฐสภาแห่งอังกฤษก็มอบตำแหน่งเดียวกันนั้นให้แก่พระองค์[4] พระราชบัญญัติอำนาจสูงสุดทางศาสนาของ ค.ศ.1534 เป็นพระราชบัญญัติที่เป็นการเริ่มการปฏิรูปศาสนาในอังกฤษ (English Reformation) อย่างเป็นทางการหลังจากที่คุกรุ่นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1527 จุดประสงค์หลักของพระราชบัญญัติฉบับนี้ก็เพื่อที่จะให้พระเจ้าเฮนรีมีสิทธิขออนุญาตให้ประกาศว่าการเสกสมรสของพระองค์กับแคเธอรีนแห่งอารากอนพระมเหสีองค์แรกเป็นโมฆะ เพื่อที่พระองค์จะได้ไปเสกสมรสใหม่กับแอนน์ โบลีนผู้เป็นนางสนองพระโอษฐ์ของพระราชินีแคเธอรีน แต่สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7 ก็ไม่ทรงยอมประทาน จากนั้นรัฐสภาก็ออกพระราชบัญญัติการเป็นกบฏต่อแผ่นดิน (Treasons Act 1534) ที่ประกาศว่าผู้ใดที่ไม่ยอมรับพระราชบัญญัติอำนาจสูงสุดทางศาสนาและไม่ยอมรับในพระเกียรติศักดิ์, พระราชตำแหน่ง, และพระนามาภิไธยของพระมหากษัตริย์ผู้นั้นถือว่าเป็น “กบฏ” [5]
ฉบับที่ 2 (ค.ศ. 1559)
แก้พระราชบัญญัติอำนาจสูงสุดทางศาสนาฉบับแรกถูกยุบเลิกในปี ค.ศ. 1554 โดยพระราชธิดาของพระเจ้าเฮนรีผู้ขึ้นครองราชย์เป็นพระราชินีโรมันคาทอลิกในพระนามพระราชินีนาถแมรีที่ 1[6] แต่ก็มาได้รับการรื้อฟื้นอีกครั้งในรัชสมัยของพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 พระขนิษฐาต่างพระมารดาของพระราชินีนาถแมรีผู้เป็นโปรเตสแตนต์ พระราชินีนาถเอลิซาเบธทรงประกาศพระองค์เป็นประมุขสูงสุดของคริสตจักรแห่งอังกฤษ และทรงออกกฎคำสัตย์ปฏิญาณต่อประมุขสูงสุด (Oath of Supremacy) ที่มีผลต่อผู้ที่จะเข้ารับราชการหรือมีตำแหน่งหน้าที่ทางศาสนาที่จะต้องสาบานแสดงความสวามิภักดิ์ยอมรับว่าพระองค์เป็นประมุขของทั้งราชอาณาจักรและคริสต์ศาสนจักร ผู้ใดที่ไม่ยอมสาบานก็อาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ[7] การใช้ตำแหน่ง “Supreme Governor” แทนที่จะใช้คำว่า “Supreme Head” เช่นพระราชบิดาเป็นการผ่อนปรนความรู้สึกต่อต้านจากโรมันคาทอลิก และฝ่ายโปรเตสแตนต์เองที่อาจจะเป็นปฏิปักษ์ต่อการมีประมุขของคริสตจักรแห่งอังกฤษที่เป็นสตรี แต่พระราชินีนาถเอลิซาเบธผู้โดยทั่วไปแล้วไม่ทรงเป็นผู้ชอบใช้อำนาจอย่างรุนแรงก็มิได้ทรงไล่ลงโทษผู้ที่มีความคิดแตกต่างไปจากชนส่วนใหญ่ หรือผู้ที่มิได้ปฏิบัติตามกฎของคริสตจักรแห่งอังกฤษ นอกไปจากว่าการปฏิบัติเช่นที่ว่าขัดต่ออำนาจของพระมหากษัตริย์ที่รวมทั้งกรณี Vestments controversy
การรวมอำนาจทางศาสนาและทางรัฐภายใต้พระมหากษัตริย์ของราชวงศ์ทิวดอร์ของอังกฤษเป็นข้อที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างปรัชญาการแยกสถาบันรัฐและคริสตจักรจากกันต่อมาอีกหลายศตวรรษ ข้อขัดแย้งทางปรัชญานี้นำไปสู่การแยกอำนาจทางรัฐธรรมนูญระหว่างอำนาจทางการเมืองจากอำนาจทางศาสนาในหลายประเทศเช่นในสหรัฐอเมริกา แต่ในสหราชอาณาจักรพระมหากษัตริย์ผู้ทรงปกครองโดยรัฐสภายังคงทรงมีอำนาจและความสัมพันธ์ทางศาสนากับคริสตจักรแห่งอังกฤษอย่างใกล้ชิด
อ้างอิง
แก้- ↑ ราชบัณฑิตยสถาน, สารานุกรมประเทศในทวีปยุโรป ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, 2550, หน้า 248
- ↑ "Henry VIII's Act of Supremacy (1534)- original text" English History. David Ross and Britain Express
- ↑ Thurston, Herbert (1913). "Henry VIII". ใน Herbermann, Charles (บ.ก.). สารานุกรมคาทอลิก. New York: Robert Appleton Company.
- ↑ แม่แบบ:1911EB
- ↑ "Treason Act, 1534" English Reformation Sources. Julie P. McFerran, 2003-2004
- ↑ Ridges, Edward Wavell (1915). Constitutional Law of England (2 ed.). London: Stevens & Sons. p. 312.
- ↑ 1
ดูเพิ่ม
แก้แหล่งข้อมูลอื่น
แก้วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ พระราชบัญญัติอำนาจสูงสุดทางศาสนา