นางรูธ 4 (อังกฤษ: Ruth 4) เป็นบทที่ 4 ของหนังสือนางรูธในคัมภีร์ฮีบรูของพันธสัญญาเดิมในคัมภีร์ไบเบิลของศาสนาคริสต์ [1][2] ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเคทูวีม (ข้อเขียน)[3][4] บทที่ 4 ของหนังสือนางรูธประกอบด้วยเรื่องราวที่โบอาสไปที่ประตูเมือง เรียกญาติสนิทของเขา และถามเขาว่าจะไถ่ถอนและแต่งงานกับรูธได้หนือไม่ (นางรูธ 4:1-5) ญาติคนนั้นปฏิเสธ (นางรูธ 4:6-8) โบอาสจึงรับเป็นผู้ไถ่ถอนและแต่งงานกับรูธ โดยมีประชาชนเป็นพยานและแสดงความยินดี (นางรูธ 4:9-12) รูธให้กำเนิดโอเลดซึ่งเป็นปู่ของกษัตริย์ดาวิด (นางรูธ 4:13-17) ลำดับวงศ์วานจากเปเรศถึงดาวิด (นางรูธ 4:18-22)[5]

นางรูธ 4
ส่วนท้ายของหนังสือนางรูธในคัมภีร์ไบเบิลฉบับ Damascus Keter ต้นฉบับบนแผ่นหนัง เมืองบูร์โกส ประเทศสเปน ค.ศ. 1260
หนังสือหนังสือนางรูธ
ภาคในคัมภีร์ฮีบรูFive Megillot
ลำดับในภาคของคัมภีร์ฮีบรู2
หมวดหมู่เคทูวีม
ภาคในคัมภีร์ไบเบิลคริสต์พันธสัญญาเดิม
ลำดับในภาคของคัมภีร์ไบเบิลคริสต์8

ต้นฉบับ แก้

บทนี้เดิมเขียนด้วยภาษาฮีบรู แบ่งออกเป็น 22 วรรค

รูปแบบของต้นฉบับ แก้

บางต้นฉบับในยุคต้นที่มีข้อความของบทนี้เป็นภาษาฮีบรูเป็น Masoretic Text ได้แก่ Aleppo Codex (ศตวรรษที่ 10) และ Codex Leningradensis (ค.ศ. 1008)[6] ชิ้นส่วนที่มีข้อความบางส่วนของบทนี้ในภาษาฮีบรูถูกพบในม้วนหนังสือเดดซี ได้แก่ 2Q16 (2QRutha; ราว ค.ศ. 50) ซึ่งมีวรรคที่หลงเหลือคือ 3‑4[7][8][9] โดยมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยจาก Masoretic Text[10]

ยังมีฉบับแปลเป็นภาษากรีกคอยนีที่รู้จักในชื่อเซปทัวจินต์ (ทำขึ้นในช่วงไม่กี่ศตวรรษสุดท้ายก่อนคริสตกาล) ต้นฉบับโบราณที่หลงเหลืออยู่ของเซปทัวจินต์ ได้แก่ There is also a translation into Koine Greek known as the Septuagint, made in the last few centuries BC. Extant ancient manuscripts of the Septuagint version include Codex Vaticanus (B;  B; ศตวรรษที่ 4) และ Codex Alexandrinus (A;  A; ศตวรรษที่ 5)[11][a]

ชุดสามเรื่องของเบธเลเฮม แก้

วรรค 1 แก้

 
โบอาสเรียกญาติสนิทของเขา ภาพวาดคัมภีร์ไบเบิลของรูธ 4 โดย Jim Padgett วาดให้ Sweet Publishing (ค.ศ. 1984)
โบอาสไปที่ประตูเมืองและนั่งอยู่ที่นั่น ดูสิ ญาติสนิทซึ่งโบอาสกล่าวถึงเดินผ่านมา โบอาสจึงกล่าวว่า "เพื่อนเอ๋ย แวะนั่งที่นี่ก่อน" เขาก็แวะมานั่งลง[13]

วรรค 2 แก้

ท่านจึงไปนำพวกผู้ใหญ่ในเมืองนั้นมาสิบคนกล่าวว่า "เชิญนั่งที่นี่เถิด" พวกเขาก็นั่งลง[14]

วรรค 3 แก้

ท่านจึงพูดกับญาติสนิทคนนั้นว่า "นาซึ่งเป็นส่วนของเอลีเมเลคญาติของเรานั้น นาโอมีผู้กลับมาจากดินแดนโมอับอยากขายเสีย"[15]

วรรค 7 แก้

 
โบอาสรับรองเท้าจากญาติสนิท ภาพวาดคัมภีร์ไบเบิลของรูธ 4 โดย Jim Padgett วาดให้ Sweet Publishing (ค.ศ. 1984)
ต่อไปนี้เป็นธรรมเนียมในอิสราเอลสมัยก่อน เกี่ยวกับการไถ่และการแลกเปลี่ยน คือเพื่อยืนยันข้อตกลงทุกเรื่อง คนหนึ่งจะถอดรองเท้าข้างหนึ่งของเขาเองมอบให้อีกคนหนึ่ง นี่เป็นการแสดงพยานหลักฐานในอิสราเอล[16]

วรรค 10 แก้

 
"Levenspoort" (ซุ้มประตูแห่งชีวิต) พร้อมข้อความจากนางรูธ 4:10 ที่ฐาน ประติมากรรมอนุสรณ์ทำจากสัมฤทธิ์โดย Yetty Elzas เพื่อรำลึกถึงพลเมืองชาวยิว 71 คนของ Wageningen และพื้นที่โดยรอบซึ่งถูกเนรเทศและถูกสังหารในช่วงปี ค.ศ. 1940-1945
"ทั้งรูธชาวโมอับแม่ม่ายของมาห์โลน ข้าพเจ้าก็จะได้มาเป็นภรรยาของข้าพเจ้า เพื่อจะดำรงนามของผู้ตายไว้บนมรดกของเขาสืบต่อไป เพื่อนามของผู้ตายจะไม่ถูกตัดออกจากพวกพี่น้องของเขา และจากบ้านเกิดเมืองนอนของเขา ท่านทั้งหลายเป็นพยานแล้วในวันนี้"[17]

วรรค 11 แก้

ประชาชนทั้งปวงที่อยู่ที่ประตูเมืองและพวกผู้ใหญ่กล่าวว่า "เราเป็นพยานแล้ว ขอพระยาห์เวห์ทรงทำให้หญิงนั้นที่กำลังจะเข้ามาในบ้านของท่าน เหมือนนางราเชลและนางเลอาห์ หญิงทั้งสองซึ่งช่วยกันสร้างวงศ์ตระกูลอิสราเอล ขอให้ท่านเจริญในเอฟราธาห์และมีชื่อเสียงในเบธเลเฮม"[18]

วรรค 12 แก้

"ขอให้พงศ์พันธุ์ของท่านเหมือนพงศ์พันธุ์ของเปเรศ ซึ่งทามาร์คลอดให้แก่ยูดาห์ เนื่องด้วยบุตรหลานซึ่งพระยาห์เวห์จะประทานแก่ท่านโดยหญิงผู้นี้"[19]

วรรค 14 แก้

ฝ่ายพวกผู้หญิงก็พูดกับนาโอมีว่า "สาธุการแด่พระยาห์เวห์ ผู้ไม่ได้ทรงทิ้งเจ้าไว้ให้ปราศจากญาติสนิทในเวลานี้ ขอให้เด็กนี้มีชื่อเสียงในอิสราเอล"[20]

วรรค 15 แก้

"ให้เด็กนี้ฟื้นฟูชีวิตของเจ้าและเลี้ยงดูเจ้าเมื่อชรา เพราะว่าเด็กคนนี้เกิดมาจากบุตรสะใภ้ที่รักเจ้า ผู้ประเสริฐกว่าบุตรชายเจ็ดคน"[21]

วรรค 16 แก้

แล้วนาโอมีก็รับเด็กนั้นมาอุ้มไว้แนบอก และรับเป็นผู้ดูแลเด็กนั้น[22]

วรรค 17 แก้

พวกผู้หญิงเพื่อนบ้านก็ให้ชื่อเด็กนั้น พูดว่า "มีบุตรชายคนหนึ่งเกิดให้แก่นาโอมี" เขาตั้งชื่อเด็กนั้นว่า โอเบด ผู้เป็นบิดาของเจสซี ซึ่งเป็นบิดาของดาวิด[23]

ลำดับพงศ์พันธ์ุ แก้

วรรค 18–22 ประกอบด้วยลำดับพงศ์พันธุ์ตั้งแต่เปเรศ (บุตรชายของยูดาห์) ถึงดาวิด

เปเรศ
เฮสโรน
ราม
อัมมีนาดับ
นาโชน
สัลโมน
โบอาส
โอเบด
เจสซี
ดาวิด

ดูเพิ่ม แก้

  • ส่วนในคัมภีร์ไบเบิลที่เกี่ยวข้อง: เฉลยธรรมบัญญัติ 25, นางรูธ 2, นางรูธ 3, สุภาษิต 31, มัทธิว 1, ลูกา 3
  • หมายเหตุ แก้

    1. หนังสือนางรูธทั้งเล่มขาดหายไปจาก Codex Sinaiticus ที่หลงเหลืออยู่[12]

    อ้างอิง แก้

    1. Collins 2014.
    2. Hayes 2015.
    3. Metzger, Bruce M., et al. The Oxford Companion to the Bible. New York: Oxford University Press, 1993.
    4. Bruce C. Birch, Thomas B. Dozeman, Nancy Kaczmarczyk . 1998. The New Interpreter's Bible: Volume:II. Nashville: Abingdon.
    5. Robert Jamieson, Andrew Robert Fausset; David Brown. Jamieson, Fausset, and Brown's Commentary On the Whole Bible. 1871.  บทความนี้รวมเอาเนื้อความจากแหล่งอ้างอิงนี้ ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติ
    6. Würthwein 1995, pp. 36–37.
    7. Dead sea scrolls - Ruth
    8. Ulrich, Eugene, บ.ก. (2010). The Biblical Qumran Scrolls: Transcriptions and Textual Variants. Brill. pp. 738. ISBN 9789004181830. สืบค้นเมื่อ May 15, 2017.
    9. Fitzmyer, Joseph A. (2008). A Guide to the Dead Sea Scrolls and Related Literature. Grand Rapids, MI: William B. Eerdmans Publishing Company. p. 26. ISBN 9780802862419. สืบค้นเมื่อ February 15, 2019.
    10. Emmerson 2007, p. 192.
    11. Würthwein 1995, pp. 73–74.
    12. Shepherd, Michael (2018). A Commentary on the Book of the Twelve: The Minor Prophets. Kregel Exegetical Library. Kregel Academic. p. 13. ISBN 978-0825444593.
    13. นางรูธ 4:1 พระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
    14. นางรูธ 4:2 THSV11
    15. นางรูธ 3:3 THSV11
    16. นางรูธ 4:7 THSV11
    17. นางรูธ 4:10 THSV11
    18. นางรูธ 4:11 THSV11
    19. นางรูธ 4:12 THSV11
    20. นางรูธ 4:14 THSV11
    21. นางรูธ 4:15 THSV11
    22. นางรูธ 4:16 THSV11
    23. นางรูธ 4:17 THSV11

    บรรณานุกรม แก้

    แหล่งข้อมูลอื่น แก้