จักรพรรดิว่านลี่
ในบทความนี้ หรือส่วนของบทความนี้ ยังคลุมเครือว่า เนื้อหาที่ใดเป็นเรื่องจริง ที่ใดเป็นเรื่องสมมุติ (เรื่องเล่าขาน, นิยาย, ภาพยนตร์ ฯลฯ) โปรดเรียบเรียงใหม่โดยแยกแยะให้ชัดเจน ตามแนวทางการแยกเรื่องจริงกับเรื่องสมมุติ |
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
สมเด็จพระจักรพรรดิว่านลี่ (4 กันยายน ค.ศ. 1563 - 18 สิงหาคม ค.ศ. 1620) ประสูติเมื่อวันที่4 กันยายน ค.ศ. 1563 (พ.ศ. 2106) โดยเป็นพระราชโอรสในจักรพรรดิหลงชิ่ง
จักรพรรดิว่านลี่ | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
จักรพรรดิจีน | |||||||||||||||||
จักรพรรดิพระองค์ที่ 14 แห่ง ราชวงศ์หมิง | |||||||||||||||||
ครองราชย์ | 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1572 - 18 สิงหาคม ค.ศ. 1620 (48 ปี 30 วัน) | ||||||||||||||||
ก่อนหน้า | จักรพรรดิหลงชิ่ง | ||||||||||||||||
ถัดไป | จักรพรรดิไท่ชาง | ||||||||||||||||
ผู้สำเร็จราชการ | Gao Gong (1572) จางจวีเจิ้ง (1572 – 1582) Gao Yi (1572) | ||||||||||||||||
ประสูติ | 4 กันยายน ค.ศ. 1563 Eastern Palace, Beijing, Ming Dynasty | ||||||||||||||||
สวรรคต | 18 สิงหาคม ค.ศ. 1620 พระราชวังต้องห้าม, ปักกิ่ง, ราชวงศ์หมิง | (56 ปี)||||||||||||||||
ฝังพระศพ | Dingling, Ming Dynasty Tombs, Beijing | ||||||||||||||||
จักรพรรดินี | สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี่ยวต้วน สมเด็จพระจักรพรรดินีเซี้ยวจิ้ง | ||||||||||||||||
พระมเหสี | ซวนอี้ไท่เฟย์ | ||||||||||||||||
พระราชบุตร | Changluo (朱常洛), Taichang Emperor | ||||||||||||||||
| |||||||||||||||||
ราชวงศ์ | ราชวงศ์หมิง | ||||||||||||||||
พระราชบิดา | จักรพรรดิหลงชิ่ง | ||||||||||||||||
พระราชมารดา | พระมเหสีหลี่เซิงหวน |
เหตุการณ์ในรัชสมัย
แก้เมื่อพระราชบิดาสวรรคตลงในปี ค.ศ. 1572 (พ.ศ. 2115) องค์ชายจูอี้จุน ขณะนั้นพระชนม์เพียง 9 พรรษา เสด็จขึ้นครองราชย์เป็น จักรพรรดิว่านลี่ อำนาจทั้งหมดจึงตกไปอยู่ที่ไทเฮาเสี่ยวติง ซึ่งเป็นพระราชมารดาของพระองค์ ซึ่งได้ให้มหาอำมาตย์จาง จวีเจิ้งเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และเฝิงเป่าขึ้นเป็นมหาขันที โดยให้ทั้งสองถือเป็นพระอาจารย์ของจักรพรรดิว่านลี่
ขณะที่ยังทรงพระเยาว์ ว่านลี่เป็นเด็กเฉลียวฉลาดและเป็นที่เชื่อฟังพระเสาวนีย์ของพระพันปีหลวง และเป็นศิษย์ที่ดีของพระอาจารย์ ด้วยการชี้นำของจางจวีเจิ้ง ทำให้แผ่นดินมีความมั่นคง เงินในท้องพระคลังมีมากมาย แต่เมื่อว่านลี่ทรงเจริญพระชันษาขึ้น ทรงเริ่มเบื่อหน่ายในราชการแผ่นดิน ทำพระองค์เสเพลสรรหาแต่ความรื่นเริง ถึงขนาดที่เกือบจะถูกพระพันปีหลวงถอดจากราชบัลลังก์ แต่ได้จางจวีเจิ่งและเฝิงเป่าช่วยทูลพระพันปีหลวงจนคลายพิโรธ ตั้งแต่นั้นจักรพรรดิว่านลี่จึงเริ่มไม่พอใจแก่จางจวีเจิ้งและเฝิงเป่า เนื่องจากว่านลี่รู้สึกว่าทั้งสองมีอำนาจเหนือพระองค์ ขันทีจางจิงประจำพระองค์ จึงยั่วยุพระองค์ให้โค่นกลุ่มอำนาจของจางจวีเจิ้ง ในช่วงเวลาที่จางจวีเจิ้งป่วยหนัก ทรงรับสั่งให้หมอหลวงไปดูอาการ แต่ด้วยให้ยาผิดชนิด ทำให้ทรุดหนักลงจนอสัญกรรมในที่สุด ในปีที่ 10 ของรัชกาล
แม้ว่าจางจวีเจิ้งถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว แต่ยังมีมหาขันทีเฝิงเป่ากุมอำนาจฝ่ายในอยู่และมีอิทธิพลล้นฟ้า ด้วยการคงอยู่ของฝงเป่าทำให้ยังเป็นที่กังวลพระราชหฤทัย เมื่อสบโอกาส จึงให้จางจิงและมหาอำมาตย์คนใหม่ออกอุบายขอทหารตามหัวเมืองเข้ามาในปักกิ่ง เนื่องจากแม่ทัพในปักกิ่งรับคำสั่งจากพระพันปีหลวงและเฝิงเป่า ในตอนกลางคืน ทหารจากหัวเมืองเข้าล้อมจวนของมหาขันที มีพระราชโองการให้ปลดมหาขันทีเฝิงเป่า และให้ย้ายไปดูแลพระราชวังเก่าที่นานกิง ในการนี้ให้จางจิงขึ้นเป็นมหาขันทีแทนเฝิงเป่า เมื่อสิ้นเสี้ยนหนาม จึงได้รับสั่งให้ประหารคนในตระกูลจางจวีเจิ้งทั้งหมด ด้วยเหตุช่วงเวลาที่รุ่งเรืองในรัชสมัยของพระองค์จึงสิ้นสุดลง และเริ่มเข้าสู่ยุคเสื่อมของราชวงศ์หมิงสู่การเสื่อมสลาย
ในรัชกาลของพระองค์ได้มีบาทหลวงคณะเยซูอิตเข้ามาที่ต้าหมิง เพื่อเผยแผ่ศาสนา ในรัชกาลของพระองค์ ตรงกับรัชกาลพระเจ้าซอนโจ กษัตริย์องค์ที่ 14 แห่งราชวงศ์โชซอน ได้ส่งทูตเข้ามาขอกำลังทหารไปช่วยรบกับญี่ปุ่น
จักรพรรดิว่านลี่ สวรรคตลงในปี ค.ศ. 1620 (พ.ศ. 2163) หลังจากครองราชย์ยาวนานถึง 48 ปี พระชนม์ได้ 57 พรรษา องค์ชายจูฉางลั่ว พระราชโอรสองค์โตที่เป็นรัชทายาทจึงขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิไท่ชาง
พระศพของพระองค์ถูกฝังไว้ในสุสานติงหลิงภายในสุสานหลวงราชวงศ์หมิงในเขตชานเมืองของปักกิ่ง หลุมฝังพระศพของพระองค์เป็นหลุมฝังพระศพที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในบริเวณใกล้เคียง และเป็นหนึ่งในสองหลุมฝังพระศพที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชม หลุมฝังพระศพถูกขุดขึ้นใน ค.ศ. 1956 และยังคงเป็นหลุมฝังพระศพจักรพรรดิเพียงแห่งเดียวที่ถูกขุดขึ้นมานับตั้งแต่การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนใน ค.ศ. 1949 ใน ค.ศ. 1966 ช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรม พวกยุวชนแดงได้บุกรุกสุสานติงหลิง และลากซากพระศพของจักรพรรดิว่านลี่และจักรพรรดินีสองพระองค์ไปที่ด้านหน้าสุสาน ซึ่งได้ถูกกล่าวประณามในภายหลังมรณกรรมและเผาทำลาย ภาพถ่ายได้จับภาพไปที่พระศพของจักรพรรดิว่านลี่ภายหลังถูกเผาทำลายซึ่งคงเหลือไว้เพียงแต่โครงกระดูก ศิลปะวัตถุอื่น ๆ อีกนับพันชิ้นยังถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน
พระบรมวงศานุวงศ์
แก้- พระบิดา
- พระมารดา
- พระอัครมเหสี
- สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี่ยวต้วน (ไม่ปรากฏ ? – ค.ศ. 1620) ไม่มีพระราชโอรสพระราชธิดาด้วยกัน
- สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี่ยวจิ้ง สกุลหวัง (ค.ศ. 1565 – ค.ศ. 1612) พระราชมารดาในจักรพรรดิไท่ชางและพระอัยกีในจักรพรรดิเทียนฉีและจักรพรรดิฉงเจิน
- จักรพรรดินีเสี่ยวหนิง สกุลเจิ้ง
- พระมเหสีและพระสนม
- กงเค่อหวงกุ้ยเฟย สกุลเจิ้ง (ค.ศ. 1567? – ค.ศ. 1630)
- หรงเฟย สกุลหวัง
อ้างอิง
แก้- ↑ "China's reluctant Emperor", The New York Times, Sheila Melvin, Sept. 7, 2011.
ก่อนหน้า | จักรพรรดิว่านลี่ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
จักรพรรดิหลงชิ่ง | จักรพรรดิจีน (พ.ศ. 2115 - พ.ศ. 2163) |
จักรพรรดิไท่ชาง |