งุยเป๋ง มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า เว่ย์ ผิง (จีน: 魏平; พินอิน: Wèi Píng) เป็นขุนพลของรัฐวุยก๊กในยุคสามก๊กของจีน มีบทบาทในการปราบกบฏที่มณฑลเลียงจิ๋วและต้านการบุกของรัฐจ๊กก๊ก

งุยเป๋ง (เว่ย์ ผิง)
魏平
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดไม่ทราบ
เสียชีวิตไม่ทราบ
อาชีพขุนพล

ประวัติ แก้

ในปี ค.ศ. 220 จักรพรรดิโจผีแต่งตั้งโจว ฉี (鄒岐) ผู้มีตำแหน่งเป็นเจ้าเมือง (太守 ไท่โฉ่ว) ของเมืองฮันเต๋ง (安定 อานติ้ง; อยู่บริเวณอำเภอเจิ้นยฺเหวียน มณฑลกานซู่ในปัจจุบัน) ให้เลื่อนขึ้นเป็นข้าหลวง (刺史 ชื่อฉื่อ) ของมณฑลเลียงจิ๋ว ชฺวี เหยี่ยน (麴演) ชาวเมืองเสเป๋ง (西平 ซีผิง) ร่วมกับหลายเมืองในมณฑลเลียงจิ๋วก่อกบฏต่อต้านโจว ฉี เจ้าเมืองกิมเสีย (金城 จินเฉิง) ชื่อซู เจ๋อ (蘇則) จึงนำเฮ็กเจียว งุยเป๋ง และคนอื่น ๆ ไปปราบปรามกบฏในแต่ละเมือง[1]

ในปี ค.ศ. 231 ฤดูใบไม้ผลิ จูกัดเหลียงอัครมหาเสนาบดีแห่งรัฐจ๊กก๊กยกทัพบุกเมืองเทียนซุย (天水 เทียนฉุ่ย; อยู่บริเวณนครเทียนฉุ่ย มณฑลกานซู่ในปัจจุบัน) ในอาณาเขตของรัฐวุยก๊ก โดยใช้โคยนต์ในการขนส่งเสบียง จูกัดเหลียงนำกำลังทหารเข้าล้อมขุนพลวุยก๊กเจี่ย ซื่อ (賈嗣) และงุยเป๋งที่เขากิสาน (祁山 ฉีชาน; พื้นที่ภูเขาบริเวณอำเภอหลี่ มณฑลกานซู่ในปัจจุบัน) สุมาอี้แม่ทัพวุยก๊กทราบข่าว จึงมอบหมายให้ปีเอียวและไต้เหลงนำทหารชั้นดี 4,000 นายไปรักษาอำเภอเซียงเท้ง (上邽縣 ช่างกุยเซี่ยน; ปัจจุบันคือนครเทียนฉุ่ย มณฑลกานซู่) ตัวสุมาอี้นำทหารที่เหลือยกไปทางตะวันตกเพื่อช่วยเหลือเจี่ย ซื่อและงุยเป๋งที่เขากิสาน จูกัดเหลียงเห็นว่าค่ายใหญ่ของทัพวุยก๊กที่เขากิสานยากต่อการโจมตี จึงนำกำลังหลักไปตีอำเภอเซียงเท้งทางตะวันออกเฉียงเหนือของเขากิสาน สุมาอี้จึงนำกองกำลังไปยังเขาเสียวหล่งชาน (小隴山) ทางตะวันออกของอำเภอเซียงเท้ง และตั้งค่ายขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับทัพจ๊กก๊ก ทั้งสองฝ่ายอยู่ในภาวะคุมเชิงกันเป็นเวลาหนึ่งเดือน จูกัดเหลียงไม่ทางเลือกอื่นนอกจากนำทัพไปทางโลเสีย (鹵城 หลู่เฉิง) และล่าถอยกลับฮันต๋ง (漢中 ฮั่นจง)

สุมาอี้ตัดสินใจนำทัพไล่ตามตีจูกัดเหลียงทันที จูกัดเหลียงเห็นว่าทัพวุยก๊กกำลังไล่ตามมา จึงเข้าไปตั้งมั่นในโลเสีย สุมาอี้ขึ้นเขาใกล้กับโลเสียแล้วตั้งค่ายขึ้นแต่ไม่ออกรบ จูกัดเหลียงส่งอุยเอี๋ยนไปยั่วยุท้ารบอยู่หน้าค่ายทัพวุยก๊ก เจี่ย ซื่อและงุยเป๋งขอออกไปรบหลายครั้งโดยกล่าวว่า "ท่านกลัวจ๊กเหมือนกลัวเสือ จะไม่ถูกทั่วแผ่นดินหัวเราะเยาะหรอกหรือ" ในที่สุดสุมาอี้ก็ทนการรบเร้าไม่ได้ จึงส่งเตียวคับไปปิดล้อมทัพจ๊กก๊กทางใต้ ตัวสุมาอี้เองนำกองกำลังเข้าโจมตีทัพหลักของจ๊กก๊กที่โลเสีย การสู้รบดุเดือดดำเนินไปตลอดวัน ทัพวุยก๊กกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เสียทหารไปสามพันกว่านายและเสียอาวุธจำนวนมาก[2]

ดูเพิ่ม แก้

อ้างอิง แก้

  1. (又將軍郝昭、魏平先是各屯守金城,亦受詔不得西度。則乃見郡中大吏及昭等與羌豪帥謀曰:「今賊雖盛,然皆新合,或有脅從,未必同心;因釁擊之,善惡必離,離而歸我,我增而彼損矣。旣獲益衆之實,且有倍氣之勢,率以進討,破之必矣。若待大軍,曠日持乆,善人無歸,必合於惡,善惡旣合,勢難卒離。雖有詔命,違而合權,專之可也。」於是昭等從之,乃發兵救武威,降其三種胡,與興擊進於張掖。演聞之,將步騎三千迎則,辭來助軍,而實欲為變。則誘與相見,因斬之,出以徇軍,其黨皆散走。則遂與諸軍圍張掖,破之,斬進及其支黨,衆皆降。演軍敗,華懼,出所執乞降,河西平。乃還金城。進封都亭侯,邑三百戶。) จดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 16
  2. (宣王不從,故尋亮。旣至,又登山掘營,不肯戰。賈栩、魏平數請戰,因曰:「公畏蜀如虎,柰天下笑何!」宣王病之。諸將咸請戰。五月辛巳,乃使張郃攻无當監何平於南圍,自案中道向亮。亮使魏延、高翔、吳班赴拒,大破之,獲甲首三千級、玄鎧五千領、角弩三千一百張,宣王還保營。) อรรถธิบายจากฮั่นจิ้นชุนชิว ในจดหมายเหตุสามก๊ก เล่มที่ 35

บรรณานุกรม แก้