คอร์ปุส คาเวอร์โนซุม พีนิส

คอร์ปุส คาเวอร์โนซุม พีนิส (ละติน: corpus cavernosum penis) เป็นคู่ของบริเวณคล้ายฟองน้ำของเนื้อเยื่อพองยุบได้ ซึ่งในขณะแข็งตัวนั้นองคชาตจะประกอบด้วยเลือดเป็นส่วนใหญ่[1][2][3]

คอร์ปุส คาเวอร์โนซุม พีนิส
Corpus cavernosum penis
ภาพตัดตามขวางขององคชาต
องค์ประกอบที่เป็นโพรงทรงกระบอกขององคชาต
รายละเอียด
ตัวระบุ
ภาษาละตินcorpus cavernosum penis
TA98A09.4.01.014
TA23678
FMA19618
อภิธานศัพท์กายวิภาคศาสตร์

คอร์ปุสนั้นมีต้นกำเนิดเหมือนกันกับคอร์ปุส คาเวอร์โนซุม กลิโตริดิสในเพศหญิง ซึ่งเป็นส่วนตัวของปุ่มกระสันที่ประกอบด้วยคู่เนื้อเยื่อพองยุบได้ของคาร์ปุส คาเวอร์โนซุม โดยเป็นโครงสร้างที่คล้ายคลึงกันอย่างเห็นได้ชัด

กายวิภาค แก้

คอร์ปุส คาเวอร์โนซุมสองอันและคอร์ปุส สปอนจิโอซุม (หรือรู้จักกันว่า corpus cavernosum urethrae ในศัพท์และแผนภาพเก่า) เป็นเนื้อเยื่อพองยุบได้สามอันที่อยู่ด้วยกันตามความยาวขององคชาต ซึ่งจะเต็มไปด้วยเลือดในระหว่างการแข็งตัวขององคชาต คอร์ปุส คาเวอร์โนซุมสองอันจะวางตัวอยู่ตามลำองคชาต จากกระดูกหัวหน่าวไปจนถึงหัวองคชาต ซึ่งเป็นบริเวณที่ทั้งสามรวมเข้าด้วยกัน การก่อตัวเหล่านี้มาจากเนื้อเยื่อคล้ายฟองน้ำที่ประกอบด้วยทราเบคูเล ซึ่งเป็นช่องว่างไร้รูปร่างที่เต็มไปด้วยเลือดจะถูกบุด้วยเนื้อเยื่อบุผิวและถูกแยกออกจากกันโดยผนังกั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน[4][5]

กายวิภาคของเพศชายนั้นไม่มีกระเปาะโพรงหน้า (vestibular bulbs) แต่จะมีคอร์ปุส สปอนจิโอซุมแทน โดยเป็นบริเวณที่เล็กกว่าด้านล่างขององคชาต ซึ่งประกอบด้วยท่อปัสสาวะและก่อตัวเป็นหัวองคชาต

สรีรวิทยา แก้

ในบางสถานการณ์ การปล่อยไนตริกออกไซด์จะนำมาก่อนการผ่อนคลายของกล้ามเนื้อในคอร์ปุส คาเวอร์โนซุมและคาร์ปุส สปอนจิโอซุม ในกระบวนการที่คล้ายกับการเร้าอารมณ์ในเพศหญิง เนื้อเยื่อฟองน้ำจะถูกเติมด้วยเลือด จากหลอดเลือดแดงตามความยาวขององคชาต โดยมีเลือดเข้าสู่คอร์ปุส สปอนจิโอซุมเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนที่เหลือที่เป็นคอร์ปุส คาเวอร์โนซุมนั้นขยายไปได้ถึง 90% ของเลือดที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัว และจะเพิ่มในทั้งความยาวและเส้นผ่านศูนย์กลาง ส่วนหน้าที่ของคอร์ปุส สปอนจิโอซุมนั้นคือการป้องกันการบีบอัดของท่อปัสสาวะในระหว่างการแข็งตัว

เลือดสามารถออกจากเนื้อเยื่อพองยุบได้ เพียงทางระบบระบายของหลอดเลือดดำบริเวณรอบของกำแพงด้านนอกของคอร์ปุส คาเวอร์โนซุมเท่านั้น โดยเนื้อเยื่อที่เป็นฟองน้ำจะกดทับกับเนื้อเยื่อที่หนาแน่นโดยรอบ (ทูนิกา อัลบูจินี) ทำให้จำกัดการไหลของหลอดเลือดดำเหล่านี้ ป้องกันไม่ให้เลือดไหลออกมาได้ ทำให้องคชาตนั้นเกิดการแข็งตัว

ภาพเพิ่มเติม แก้

อ้างอิง แก้

  1. Werner Lierse (6 December 2012). Applied Anatomy of the Pelvis. Springer Science & Business Media. ISBN 978-3-642-71368-2.
  2. Heide Schatten; Gheorghe M. Constantinescu (21 March 2008). Comparative Reproductive Biology. John Wiley & Sons. ISBN 978-0-470-39025-2.
  3. Michele Bertolotto (22 December 2007). Color Doppler US of the Penis. Springer Science & Business Media. pp. 157–. ISBN 978-3-540-36677-5.
  4. "Embarrassing erections". 2007-01-17. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-01-02. สืบค้นเมื่อ 2007-01-17.
  5. "Understanding a man's erection". whitelotuseast. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-07-16. สืบค้นเมื่อ 2020-07-18.[ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้]

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

  • SUNY Downstate Medical Center 42:st-1102 - "The Male Perineum and the Penis: Penis"