การฆ่าทารกหญิงในประเทศจีน
จีนมีประวัติศาสตร์ของการฆ่าทารกหญิงเป็นระยะเวลากว่า 2,000 ปี[1] เมื่อมิชชันนารีคริสต์ศาสนาเดินทางถึงจีนในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 พวกเขาเห็นทารกเพิ่งเกิดถูกโยนลงแม่น้ำหรือกองขยะ[2][3] ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 มัตเตโอ ริชชีบันทึกถึงว่ามีการปฏิบัติดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายมณฑลของจีน ซึ่งเหตุผลหลักมาจากความยากจน[3] การปฏิบัติเช่นนี้ยังดำเนินต่อมาจนถึงช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 และลดลงเป็นอย่างมากในยุคคอมมิวนิสต์[4] แต่กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งจากการใช้นโยบายลูกคนเดียวในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1980[5] สำมะโนใน ค.ศ. 1990 แสดงให้เห็นถึงอัตราส่วนโดยรวมของชายต่อหญิงอยู่ที่ 1.066 ขณะที่อัตราส่วนปกติของทุกช่วงอายุควรต่ำกว่า 1.02[6]
ประวัติศาสตร์ แก้
คริสต์ศตวรรษที่ 19 แก้
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีการปฏิบัติเช่นนี้อย่างกว้างขวาง เมื่ออ่านจากเอกสารในสมัยราชวงศ์ชิง พบความชุกของคำว่า ni nü (ทำให้เด็กหญิงจมน้ำ) และการทำให้จมน้ำเป็นวิธีที่ใช้มากสุดโดยทั่วไปในการฆ่าเด็กหญิง วิธีการอื่น ๆ ที่ใช้เช่น ทำให้ขาดอากาศหายใจและการปล่อยให้อดอยาก[a][9] อีกวิธีหนึ่งที่ทำกันคือปล่อยให้ตากแดดด้วยการนำเด็กใส่ไว้ในตระกร้าแล้วนำไปไว้บนต้นไม้ สำนักชีในพุทธศาสนาได้สร้าง "หอคอยเด็ก" เพื่อให้คนได้ทิ้งเด็ก[10] ที่เจียงซีใน ค.ศ. 1845 มิชชันนารีได้เขียนถึงการที่เด็กเหล่านี้มีชีวิตรอดถึงสองวันขณะที่ถูกปล่อยให้เผชิญกับสภาพอากาศ และผู้ที่ผ่านไปมาต่างเพิกเฉยต่อเสียงร้องของเด็ก[11] มิชชันนารี David Abeel ได้รายงานใน ค.ศ. 1844 ว่าประมาณหนึ่งในสามถึงหนึ่งในสี่ของเด็กหญิงที่เกิดทั้งหมดถูกฆ่าหลังคลอดหรือหลังจากนั้นในเวลาไม่นาน[12]
ใน ค.ศ. 1878 มิชชันนารีเยซูอิตชาวฝรั่งเศส Gabriel Palatre ตรวจทานเอกสารจาก 13 มณฑล[13] และ Annales de la Sainte-Enfance ยังพบถึงหลักฐานการฆ่าทารกในชานซีและเสฉวน ตามข้อมูลที่เรียบเรียงโดย Palatre พบว่าการปฏิบัติเช่นนี้เห็นได้อย่างกว้างขวางในมณฑลทางตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคแม่น้ำแยงซีล่าง (Lower Yangzi River region)[14]
คริสต์ศตวรรษที่ 20 แก้
ใน ค.ศ. 1930 Rou Shi สมาชิกขบวนการ 4 พฤษภาคมได้เขียนเรื่องสั้นเรื่อง A Slave-Mother ซึ่งเขาได้แสดงภาพความยากจนสุดขีดในชุมชนชนบทอันเป็นสาเหตุให้เกิดการฆ่าทารกหญิง[15]
เอกสารที่ตีพิมพ์โดยรัฐบาลจีนใน ค.ศ. 1980 ได้ระบุถึงการปฏิบัติฆ่าทารกหญิงว่าเป็น "ความชั่วร้ายยุคศักดินา"[b] ภาครัฐมีการพิจารณาอย่างเป็นทางการว่าการปฏิบัติดังกล่าวมาจากยุคศักดินา ไม่ใช่ผลของนโยบายลูกคนเดียวของรัฐ Jing-Bao Nie กล่าวว่า "มันเป็นการประหลาดที่จะเชื่อว่าไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างนโยบายการวางแผนครอบครัวของรัฐกับการฆ่าทารกหญิง[16]
ในวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 1980 ในจดหมายเปิดผนึก โปลิตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ร้องขอให้สมาชิกพรรคและสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์เป็นตัวอย่างนำในการมีลูกคนเดียว ตั้งแต่ช่วงต้นของการใช้นโยบายลูกคนเดียว ได้มีความกังวลว่าอาจนำไปสู่ความไม่สมดุลของอัตราส่วนเพศ ในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 เจ้าหน้าที่ระดับสูงมีความกังวลเพิ่มขึ้นจากรายงานการทอดทิ้งและฆ่าทารกหญิงโดยพ่อแม่ที่ต้องการมีลูกชาย ใน ค.ศ. 1984 รัฐบาลได้พยายามที่จะจัดการปัญหาด้วยการปรับนโยบายลูกคนเดียว โดยคู่สมรสที่มีลูกคนแรกเป็นลูกสาว สามารถมีลูกคนที่สองได้[5]
สถานการณ์ปัจจุบัน แก้
คู่รักชาวจีนหลายคู่ปราถนาที่จะได้ลูกชายเพื่อสนับสนุนและเป็นความมั่นคงให้กับพ่อแม่ที่ชรา[17] ในทางตรงกันข้าม เป็นที่คาดการณ์ว่าลูกสาวจะออกจากครอบครัวหลังจากการสมรสและดูแลครอบครัวฝ่ายสามี[17] ในครอบครัวชนบทที่ใน ค.ศ. 2014 นับเป็นจำนวนถึงครึ่งหนึ่งของประชากรจีน[18] ผู้ชายจะมีคุณค่าเพิ่มเติมในฐานะแรงงานในภาคการเกษตร[17][19]
ในการสำรวจระหว่างช่วงสำมะโนใน ค.ศ. 2005 แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างอัตราส่วนเพศของแต่ละมณฑล ซึ่งมีค่าพิสัยระหว่าง 1.04 ในทิเบต และ 1.43 ในเจียงซี[20] ในการทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับการขาดเด็กผู้หญิงของจีนของ Banister (2004) ได้ชี้แนะให้เห็นถึงการกลับมาอย่างแพร่หลายของการฆ่าทารกหญิงหลังจากการนำนโยบายลูกคนเดียวมาใช้[21] ในทางกลับกันก็มีนักวิจัยจำนวนมากที่โต้แย้งว่าการฆ่าทารกหญิงเป็นสิ่งหายากในประเทศจีนทุกวันนี้[20][22] โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่รัฐบาลให้การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย[23] Zeng และคณะ (1993) ได้มีตัวอย่างของสาเหตุที่อัตราส่วนเพศไม่สมดุล เช่น อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของภาวะไม่สมดุลของจำนวนเพศมาจากข้อมูลที่ขาดหายไปของการเกิดของเด็กหญิง เป็นต้น[22]
Geneva Centre for the Democratic Control of Armed Forces (DCAF) ได้กล่าวถึงการลดลงทางประชากรของทารกหญิงที่เกิดจากปัญหาที่เกี่ยวกับเพศอยู่ในพิสัยเดียวกันกับการเสียชีวิตจำนวน 191 ล้านคน จากข้อขัดแย้งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 20 [24] ใน ค.ศ. 2012 ได้มีการเผยแพร่สารคดีเรื่อง It's a Girl: The Three Deadliest Words in the World ซึ่งเน้นไปที่การฆ่าทารกหญิงในประเทศอินเดียและประเทศจีน[25]
คำอธิบายเพิ่มเติม แก้
- ↑ "เมื่อเด็กหญิงเกิดขึ้นมา พวกเธอถูกทำให้ตกน้ำเพื่อให้จมน้ำหรือใช้แรงต่อร่างกายของเด็กหญิงเพื่อให้หายใจติดขัดหรือถูกบีบคอด้วยมือของมนุษย์ และในบางครั้งยิ่งน่าสังเวชขึ้นไปอีกจากการที่คนรับใช้นำเด็กหญิงไว้ในกระโถนหรือในอ่างที่เตรียมไว้สำหรับการให้กำเนิด ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำและเลือด และปล่อยไว้แบบนั้น ให้ตายอย่างอนาถ และยิ่งทารุณโหดร้ายมากยิ่งขึ้นหากมารดาไม่โหดร้ายพอที่จะเอาชีวิตเด็กหญิง พ่อสามี แม่สามีหรือสามีจะปลุกปั่นเธอด้วยคำพูดให้ฆ่าเด็กหญิง"[8]
- ↑ "การฆ่าทารกด้วยการให้จมน้ำหรือทิ้งทารกหญิงเป็นประเพณีชั่วร้ายที่หลงเหลือมาจากยุคศักดินา"[16]
อ้างอิง แก้
- ↑ Mungello 2012, p. 144.
- ↑ Milner 2000, pp. 238–239.
- ↑ 3.0 3.1 Mungello 2012, p. 148.
- ↑ Coale & Banister 1994, pp. 459–479.
- ↑ 5.0 5.1 White 2006, p. 200.
- ↑ Milner 2000, pp. 239–240.
- ↑ "Burying Babies in China". Wesleyan Juvenile Offering. XXII: 40. March 1865. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 March 2020. สืบค้นเมื่อ 1 December 2015.
- ↑ Mungello 2008, p. 17.
- ↑ Mungello 2008, p. 9.
- ↑ Lee 1981, p. 164.
- ↑ Mungello 2008, p. 10.
- ↑ Abeel 1844.
- ↑ Harrison 2008, p. 77.
- ↑ Mungello 2008, p. 13.
- ↑ Johnson 1985, p. 29.
- ↑ 16.0 16.1 Nie 2005, p. 50.
- ↑ 17.0 17.1 17.2 Chan, C. L. W., Yip, P. S. F., Ng, E. H. Y., Ho, P. C., Chan, C. H. Y., & Au, J. S. K. (2002). Gender selection in China: It’s meanings and implications. Journal of Assisted Reproduction and Genetics, 19(9), 426-430.
- ↑ National Bureau of Statistics of China. (2014). Total population by urban and rural residence and birth rate, death rate, natural growth rate by region [Data set]. Retrieved from China statistical yearbook 2014 เก็บถาวร 2015-11-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, accessed 2 October 2019
- ↑ Parrot, Andrea (2006). Forsaken females : the global brutalization of women. Lanham, MD: Rowman & Littlefield Publishers. p. 53. ISBN 978-0742545793.
- ↑ 20.0 20.1 Zhu, W. X., Lu, L., & Hesketh, T. (2009). China’s excess males, sex selective abortion, and one child policy: Analysis of data from 2005 national intercensus survey. BMJ: British Medical Journal, 338(7700)
- ↑ Banister, J. (2004). Shortage of girls in China today. Journal of Population Research, 21(1), 19-45.
- ↑ 22.0 22.1 Zeng, Y., Tu, P., Gu, B., Xu, Y., Li, B., & Li, Y. (1993). Causes and implications of the recent increase in the reported sex ratio at birth in China. Population and Development Review, 19(2), 283-302.
- ↑ Female infanticide. (n.d.) เก็บถาวร 2019-11-21 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน BBC Ethics guide. Accessed 2 October 2019.
- ↑ Winkler 2005, p. 7.
- ↑ DeLugan 2013, pp. 649–650.
บรรณานุกรม แก้
- Abeel, David (13 May 1844). "Infanticide In China". Signal of Liberty. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 January 2014. สืบค้นเมื่อ 16 November 2013.
- Coale, Ansley J.; Banister, Judith (1994). "Five decades of missing females in China". Demography. 31 (3): 459–479. doi:10.2307/2061752. JSTOR 2061752. PMID 7828766. S2CID 24724998. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-01-01. สืบค้นเมื่อ 2019-09-11.
- DeLugan, Robin Maria (2013). "Exposing Gendercide in India and China (Davis, Brown, and Denier's It's a Girl—the Three Deadliest Words in the World)". Current Anthropology. 54 (5): 649–650. doi:10.1086/672365. JSTOR 10.1086/672365.
- Harrison, Henrietta (2008). "A penny for the little Chinese: The French Holy Childhood Association in China, 1843–1951" (PDF). American Historical Review. 113 (1): 72–92. doi:10.1086/ahr.113.1.72. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-11-04. สืบค้นเมื่อ 2018-11-04.
- Johnson, Kay Ann (1985). Women, the Family, and Peasant Revolution in China. University of Chicago Press. ISBN 978-0226401898.
- Lee, Bernice J. (1981). "Female Infanticide in China". Historical Reflections / Réflexions Historiques. 8 (3): 163–177. JSTOR 41298766.
- Milner, Larry S (2000). Hardness of Heart/hardness of Life: The Stain of Human Infanticide. University Press of America. ISBN 978-0761815785.
- Mungello, D. E. (2012). The Great Encounter of China and the West, 1500–1800. Rowman & Littlefield. ISBN 9781442219755.
- Mungello, D. E. (2008). Drowning Girls in China: Female Infanticide in China since 1650. Rowman & Littlefield. ISBN 978-0742555310.
- Nie, Jing-Bao (2005). Behind the Silence: Chinese Voices on Abortion. Rowman & Littlefield. ISBN 978-0742523715.
- White, Tyrene (2006). China's Longest Campaign: Birth Planning in the People's Republic, 1949–2005. Cornell University Press. ISBN 978-0801444050.
- Winkler, Theodor H. (2005). "Slaughtering Eve The Hidden Gendercide" (PDF). Women in an Insecure World. Geneva Centre for the Democratic Control of Armed Forces. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-10-07. สืบค้นเมื่อ 2021-11-05.