กันดั้มแอสเทรย์
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
กันดั้มแอสเทรย์ (ญี่ปุ่น: ガンダムアストレイ) (อังกฤษ: Gundam Astray) เป็นรุ่นของโมบิลสูทซึ่งเป็นมีบทบาทสำคัญในการ์ตูนญี่ปุ่น มังงะ โมบิลสูทกันดั้มซี้ด แอสเทรย์ กันดั้มแอสเทรย์รุ่นแรกได้รับการออกแบบโดยจุนอิจิ อะคุทสึ
บทบาทในเรื่อง
แก้กันดั้มแอสเทรย์ | |
---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | โมบิลสูทเอนกประสงค์รุ่นต้นแบบ |
ความสูง | 17.53 เมตร |
น้ำหนัก | 49.8 ตัน |
เกราะ | โฟมโลหะ |
อุปกรณ์ | ปืนวัลแคน 75 มม. "อิเกลชเตลลุงก์" บีมไรเฟิล บีมเซเบอร์ โล่ |
กันดั้มแอสเทรย์เป็นโมบิลสูทที่สถาบันมอเกนเรตของอาณาจักรอ็อบได้พัฒนาอย่างลับๆที่เฮลิโอโปลิสโดยใช้ข้อมูลที่ขโมยมาจากการช่วยพัฒนา GAT-Xซีรีส์ให้กลุ่มพันธมิตรโลก ลักษณะสำคัญของกันดั้มแอสเทรย์ก็คือเกราะที่มีน้ำหนักเบาเพื่อให้มีความคล่องตัวสูงสุด กันดั้มแอสเทรย์ยังมีอาวุธที่จำลองมาจาก GAT-Xซีรีส์อย่างบีมไรเฟิลและบีมเซเบอร์ มอเกนเรตได้ใช้รูปแบบพื้นฐานของกันดั้มแอสเทรย์ในการพัฒนาโมบิลสูทรุ่นผลิตจำนวนมากคือ M1แอสเทรย์และชาวอาณานิคมดาวอังคารยังใช้ข้อมูลของแอสเทรย์ซีรีส์พัฒนา GSF-YAM01 เดลต้าแอสเทรย์ ของตัวเอง นอกจากนี้ โมบิลสูท YMF-X000A เดรดน็อตกันดั้ม ยังมีชื่อเล่นว่า Xแอสเทรย์ และเมื่อ โลว์ กิล ได้ใช้ชิ้นส่วนอะไหล่ของ ZGMF-X12A เทสตาเมนต์กันดั้ม มาดัดแปลงเป็นโมบิลสูทตัวใหม่ยังได้ตั้งชื่อว่า กันดั้มแอสเทรย์เอาต์เฟรม แต่ในทางเทคนิคแล้วทั้งคู่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกันดั้มแอสเทรย์แต่อย่างใด
กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรม
แก้มีอีกชื่อหนึ่งว่า โปรโตซีโร่วัน MBF-P01 กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรมมีลักษณะพิเศษที่แฮนด์ปลั๊กสำหรับจ่ายพลังงานให้อาวุธนั้นสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สำหรับโมบิลสูทของกลุ่มพันธมิตรโลกได้เช่นเดียวกับของอ็อบเอง เมื่อZAFTได้โจมตีเฮลิโอโปลิส อ็อบได้ทำลายโรงงานที่พัฒนาโปรเจกต์แอสเทรย์เพื่อปิดเป็นความลับ แต่โคออร์ดิเนเตอร์ รอนโด กิน่า ซาฮาคุ ได้ใช้โกลด์เฟรมหนีไปจากเฮลิโอโปลิสโดยใช้บาซูก้าของดูเอลกันดั้ม เนื่องจากแอสเทรย์นั้นไม่ได้ออกแบบไว้ให้ใช้อาวุธหนัก แขนขวาของโกลด์เฟรมจึงได้รับเสียหาย ซึ่งรอนโดได้สลัดแขนข้างนี้ทิ้งไปที่เฮลิโอโปลิส ในภายหลังรอนโดได้ใช้โกลด์เฟรมเข้าต่อสู้กับแอสเทรย์เรดเฟรมของโลว์ กิลจนกระทั่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก
MBF-P01-Re<AMATU> กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรม อามัตสึ | |
---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | โมบิลสูทเอนกประสงค์รุ่นปรับปรุง |
ความสูง | 17.99 เมตร |
น้ำหนัก | 73.2 ตัน |
เกราะ | โฟมโลหะ เฟสชิฟท์อาเมอร์ |
อุปกรณ์ | ปืนวัลแคน 75 มม. "อิเกลชเตลลุงก์" มากะโนะอิคุทาจิ ฉมวก "มากะชิระโฮโกะ" โล่ "ไทรเครอส" บีมไรเฟิลกำลังสูง 50 มม. ลูกดอก "แลนเซอร์ดาร์ท" อามัตสึมิน่า ดาบ "โทตซึกะโนะซึรุงิ" กงเล็บ "ซึมุฮะโนะทาจิ" บีมชิลด์ "โอคิตสึโนะคางามิ" |
คุณสมบัติพิเศษ | ระบบพรางตัวมิราจคอลลอยด์ |
นักบินสำคัญ | รอนโด กิน่า ซาฮาคุ รอนโด มิน่า ซาฮาคุ |
กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรมอามัตสึ
แก้อาณาจักรอ็อบได้ทำการปรับปรุงแอสเทรย์โกลด์เฟรมเป็น MBF-P01-Re<AMATU> กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรม อามัตสึ โดยส่วนแขนขวาที่นั้นได้ใช้แขนขวาของบลิทซ์กันดั้มที่เก็บมาได้ เทคโนโลยีพรางตัวมิราจคอลลอยด์ของบลิทซ์กันดั้มยังถูกนำมาใช้กับโกลด์เฟรมด้วย แขนข้างนี้ยังสามารถใช้เกราะPSได้เหมือนเดิม อาวุธไทรเครอสที่ติดแขนนั้นเอาบีมเซเบอร์ออกไป ส่วนหัวก็ถูกเปลี่ยนเป็นแบบที่มีเซ็นเซอร์เสริมแบบโมโนอายติดตั้งไว้ อาวุธซึ่งเป็นจุดเด่นของโกลด์เฟรมอามัตสึก็คือ มากะโนะอิคุทาจิ ซึ่งเป็นตะขอที่ใช้ล็อกดูดพลังงานมาจากโมบิลสูทเป้าหมาย แบ็คแพ็คด้านหลังมีฉมวก มากะชิระโฮโกะ ซึ่งสามารถยิงและดึงกลับมาได้ด้วยสายเคเบิล ฉมวกนี้ยังใช้เทคโนโลยี PS จึงมีพลังในการเจาะทะลวงสูง
ต่อมาในภายหลัง รอนโดก็ถูก ไก มุราคุโมะ สังหาร และโกลด์เฟรมก็ถูก รอนโด มิน่า ซาฮาคุ น้องสาวฝาแฝดนำไปปรับปรุงอีกทีเป็น MBF-P01-Re2<AMATU> กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรม อามัตสึมิน่า ซึ่งมีจุดแตกต่างจากของเดิมคือส้นสูงที่เท้าทั้งสองข้าง และติดตั้งอาวุธเพิ่มคือดาบโทตซึกะโนะซึรุงิ และ กงเล็บที่แขนซ้าย ซึมุฮะโนะทาจิ นอกจากนี้ มิน่ายังได้พัฒนา มากะโนะอิคุทาจิจนสมบูรณ์ซึ่งทำให้สามารถดูดพลังงานจากโมบิลสูทที่อยู่ใกล้ๆตัวได้โดยไม่ต้องใช้ตะขอ
ในเนื้อเรื่องของภาค เอ็กซ์แอสเทรย์ โกลด์เฟรมอามัตสึมิน่าได้รับความเสียหายเมื่อไคท์ มาดิแกนได้ใช้ต่อสู้กับ ZGMF-Z12A เทสตาเมนต์กันดั้ม จึงได้ปรับปรุงอีกครั้งด้วยโอคิตสึโนะคางามิ ซึ่งพัฒนาโดยหยุน เซฟาน โอคิตสึโนะคางามิเป็นอุปกรณ์เอนกประสงค์ติดแขนแทนซึมุฮะโนะทาจิและสามารถใช้สร้างบีมชิลด์หรือมีดบีมก็ได้ ซึ่งโหมดมีดบีมสามารถยิงออกไปแล้วดึงกลับมาด้วยสายเคเบิล ส่วนดาบโทตซึกะโนะซึรุงิถูกถอดออกเป็นแค่อาวุธเสริมเท่านั้น
-
MBF-P01 กันดั้มแอสเทรย์
โกลด์เฟรม -
MBF-P01-RE<AMATU>
กันดั้มแอสเทรย์โกลด์เฟรม
อามาสึ -
อามาสึ ร่างไม่สมบูรณ์
-
อามาสึ มิน่าคัสตั้ม
กันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรม
แก้MBF-P02 กันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรม | |
---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | โมบิลสูทเอนกประสงค์รุ่นต้นแบบ |
ความสูง | 17.53 เมตร |
น้ำหนัก | 49.8 ตัน |
เกราะ | โฟมโลหะ |
อุปกรณ์ | ปืนวัลแคน 75 มม. "อิเกลชเตลลุงก์" บีมไรเฟิล บีมเซเบอร์ ดาบคะตะนะ "เกอร์เบร่าสเตรท" โล่ พาวเวอร์โหลดเดอร์ เกอร์เบร่าสเตรท 150 เมตร เกราะมาร์สแจ็คแก็ต ดาบคะตะนะ "ไทเกอร์เพียร์ส" |
นักบินสำคัญ | โลว์ กิล ดิเอโก โลเวล อุน โน |
มีอีกชื่อหนึ่งว่า โปรโตซีโร่ทูว์ MBF-P02 กันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรมได้รับการติดตั้งระบบปฏิบัติการซึ่งทำให้แม้แต่คนธรรมดาก็สามารถควบคุมได้ เรดเฟรมถูกค้นพบในซากของเฮลิโอโปลิสโดย โลว์ กิล สมาชิกของจังค์กิลด์ซึ่งได้เก็บเรดเฟรมไว้ใช้งานเอง ซึ่งหลังจากที่ถูกศัตรูพยายามชิงเรดเฟรมไปแล้ว โลว์จึงได้หาอาวุธใหม่ นั่นคือดาบคะตะนะ เกอร์เบร่าสเตรท ซึ่งเป็นดาบโลหะจึงไม่สิ้นเปลืองพลังงานในการใช้งาน เมื่อเทียบกับดาบของ ZGMF-1017 จินน์ ของ ZAFTแล้วเกอร์เบร่าเสตรทมีความคมกว่ามากและยังหุ้มแอนติบีมโค้ตติ้งไว้ด้วย เรดเฟรมเสียแขนขวาไปจากการต่อสู้กับโกลด์เฟรมของรอนโด กิน่า ซาฮาคุ แต่โลว์ก็ได้ซ่อมแขนของโกลด์เฟรมที่เก็บมาจากเฮลิโอโปลิสและเอามาใช้แทน
เมื่อโลว์ไปยังอ็อบ เรดเฟรมก็ได้รับการซ่อมแซมจนสมบูรณ์และได้แบ็คแพ็คของ M1แอสเทรย์มาดัดแปลงและติดตั้งให้เรดเฟรมซึ่งทำให้สามารถบินกลางอากาศได้ ในเนื้อเรื่องของอนิเมะสั้นสำหรับโฆษณากันพลาของแอสเทรย์ โลว์ยังเคยประมูลได้ส่วนหัวของโมบิลสูท TMF/A-802 บาคูว มาดัดแปลงเป็นถุงมือให้เรดเฟรมและสามารถใช้บีมเซเบอร์ของบาคูวเป็นดาบสองปลายได้ แต่หัวบาคูวนี้ถูกพวก ZAFTตามมาทำลายในภายหลัง ในเนื้อเรื่องของภาคแอสเทรย์อาร์ โลว์ยังได้สร้างยูนิตพาวเวอร์โหลดเดอร์ขนาด60เมตรซึ่งเหมือนกับเป็นโมบิลสูทขนาดยักษ์ที่เรดเฟรมควบคุมอยู่ และมีอาวุธเป็นเกอเบร่าสเตรทขนาดยักษ์ที่ยาวตลอดด้ามถึง 150เมตร เมื่อยูนิตพาวเวอร์โหลดเดอร์นี้ถูก ZGMF-X11A รีเจเนเรตกันดั้ม ทำลาย โลว์ก็ได้ปรับปรุงเรดเฟรมเป็น พาวเวิร์ดเรด ซึ่งมีส่วนหัวไหล่ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้มีกำลังมากพอที่จะเหวี่ยงเกอร์เบร่าสเตรทยักษ์ได้เอง แต่ต่อมาโลว์ก็แปลงเรดเฟรมกลับไปเป็นแบบดั้งเดิมอีกครั้ง
ในเนื้อเรื่องของภาค เดสทินีแอสเทรย์ โลว์ก็ได้ดัดแปลงเรดเฟรมอีกครั้งในช่วงที่อยู่บนดาวอังคาร โดยติดตั้งเกราะมาร์สแจ็คเก็ต ซึ่งมีรูปร่างคล้ายโมบิลสูทของ ZAFT (ในความเป็นจริงแล้วจะคล้ายกับเกลกุ๊กในภาค Universal Century) เกราะนี้จะคลุมเรดเฟรมไว้ทั้งตัวเพื่อป้องกันชิ้นส่วนของเรดเฟรมจากสภาพแวดล้อมอันทุรกันดารของดาวอังคารและสามารถใช้เข้าสู่บรรยากาศโลกได้ เกราะมาร์สแจ็คเก็ตบางส่วนสามารถปลดออกได้เพื่อเพิ่มความคล่องแคล่ว ด้านหลังมีบีมแคนนอนคู่ซึ่งเป็นปลอกดาบของเกอเบร่าเสตรทด้วย เรดเฟรมมาร์สแจ็คเก็ตถูกชาวอาณานิคมดาวอังคาร ดิเอโก โลเวล ขโมยไป แต่ได้นำมาคืนให้โลว์หลังเข้าร่วมในเหตุการณ์ เบรกเดอะเวิลด์ โลว์จึงได้ถอดมาร์สแจ็คเก็ตออกแล้วติดตั้งไว้กับแอสเทรย์พลเรือนของจังค์กิลด์แล้วยกให้ดิเอโกไปใช้งานแทน
ในเนื้อเรื่องของภาค วีเอสแอสเทรย์ กลุ่มไลบราเรียนได้สร้างเรดเฟรมเครื่องที่สองและให้คาร์บอนฮิวแมนของอุน โนเป็นนักบิน เรดเฟรมเครื่องที่สองนี้ใช้ดาบคะตะนะที่เรียกว่า ไทเกอร์เพียร์ส เป็นอาวุธหลัก
-
MBF-P02 กันดั้มแอสเทรย์
เรดเฟรม ร่างธรรมดา -
กันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรม
ร่างติดอุปกรณ์บิน -
กันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรม
ร่างติดมาร์แจ็กเก็ต -
กันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรม
ร่างติดมาร์แจ็กเก็ต
แบบ Full Armor -
กันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรม
พาวเวิร์ดเรด -
กันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรม
ติดตั้งอุปกรณ์ เพาเวอร์
โหลดเดอร์
กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรม
แก้มีอีกชื่อหนึ่งว่า โปรโตซีโร่ทรี MBF-P03 กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมนี้ได้รับการบันทึกข้อมูลอุปกรณ์ต่างๆไว้โดยรอนโด กิน่า ซาฮาคุเมื่อครั้งที่เฮลิโอโปลิสถูกโจมตี กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมถูกโลว์ กิล ค้นพบพร้อมกับเรดเฟรม แต่ก็มอบให้ ไก มุราคุโมะ ไป ไกเป็นหนึ่งในทหารรับจ้าง เซอร์เพนท์เทล ที่มาทำลายหลักฐานเกี่ยวกับโปรเจกต์แอสเทรย์ แต่หลังจากที่ถูกนายจ้างทรยศจึงเก็บบลูเฟรมไว้เป็นโมบิลสูทประจำตัว เนื่องจากมีข้อมูลของอุปกรณ์ทั้งหมดอยู่ไกจึงสามารถปรับแต่งอุปกรณ์ให้บลูเฟรมใช้ได้ กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมจึงสามารถใช้งานอาวุธหนักอย่างบาซูก้าและมิสไซล์ลันเชอร์ หรือ สเกลซิสเต็ม ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนใต้น้ำของ ZAFT
MBF-P03 กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมเซคันด์ | |
---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | โมบิลสูทเอนกประสงค์รุ่นปรับปรุง |
ความสูง | 17.78 เมตร |
น้ำหนัก | 64.4 ตัน (บลูเฟรมเซคันด์ L) |
เกราะ | โฟมโลหะ เฟสชิฟท์อาเมอร์ |
อุปกรณ์ | ปืนวัลแคน 75 มม. "อิเกลชเตลลุงก์" บีมเซเบอร์ มีด "อาเมอร์ชไนเดอร์" ปืนพก ปืนใหญ่โพซิตรอน "โลเอนกรีน" บลูเฟรมเซคันด์ G บีมไรเฟิลพิสัยไกล บลูเฟรมเซคันด์ L แท็คติคอลอาร์มส์ (ปืนกลแก็ตลิ่ง 90 มม.) |
นักบินสำคัญ | ไก มุราคุโมะ |
กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมเซคันด์
แก้ในเนื้อเรื่องของนิยายภาพ แอสเทรย์บี นั้น กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมได้รับความเสียหายอย่างหนักในการสู้กับ GAT-01D ลองแด็กเกอร์ ของอีเลฟเว่น โซเซียส ซึ่งไกก็ได้ปรับปรุงบลูเฟรมด้วยความช่วยเหลือของโลว์ และ เอริก้า ซิมมอนส์ แห่งมอเกนเรต ซึ่งบลูเฟรมร่างสองนี้ มีสองแบบคือ บลูเฟรมเซคันด์ L โดยสามารถติดตั้ง แท็คติคอลอาร์มส์ ซึ่งเป็นแบ็คแพ็คที่สามารถบินแยกจากบลูเฟรมได้ทั้งยังหุ้มแอนติบีมโค้ตติ้งเพื่อการป้องกันอาวุธบีม แท็คติคอลอาร์มส์นี้ติดตั้งปืนกลแก็ตลิ่ง 90 มม.เอาไว้และสามารถปรับมาเป็นดาบขนาดใหญ่ได้ด้วย เกราะของบลูเฟรมเซคันด์ Lมีสองชั้น ซึ่งชั้นที่สองนั้นเป็นเกราะ PSที่จะทำงานเมื่อเกราะชั้นแรกที่อยู่ภายนอกแตกออก
บลูเฟรมเซคันด์แบบหนึ่งก็คือ บลูเฟรมเซคันด์ G ซึ่งเน้นการใช้งานอาวุธต่างๆ เช่น สไนเปอร์แบ็คแพ็คซึ่งเป็นบีมไรเฟิลพิสัยไกล บริเวณค็อกพิตของบลูเฟรมเซคันด์ Gยังเสริมเกราะ PSไว้โดยรอบ ไกยังได้ปรับแต่งส่วนเท้าและเสริมท่อขับดันแบบครีบและมีดอาเมอร์ชไนเดอร์หกเล่มไว้ที่ส่วนไหล่
ส่วนหัวของบลูเฟรมเซคันด์ติดตั้งระบบรีโมตคอนโทรลสำหรับควบคุมแบ็คแพ็คแบบต่างๆไว้ อาวุธที่รุนแรงที่สุดของบลูเฟรมเซคันด์ก็คือปืนโพซิตรอน โลเอนกรีน แบบเดียวกับของยานอาร์คแองเจิ้ล แต่มีขนาดเล็กกว่า เนื่องจากโลเอนกรีนใช้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชั่นเป็นแหล่งพลังงานแยกต่างหาก แต่บลูเฟรมเซคันด์จะไม่มี นิวตอนแจมเมอร์แคนเซลเลอร์ จึงใช้งานปืนนี้ได้อย่างจำกัดมาก
ในมังงะโมบิลสูทกันดั้มซี้ด เฟรมแอสเทรย์ กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมได้พัฒนาไปเป็นกันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรมเธิร์ดเพื่อใช้ต่อสู้ในป่าทึบโดยเฉพาะ โดยเพิ่มประสิทธิภาพของเสาอากาศVฟิน ที่แขนติดตั้งตะขอและใบมีดเพื่อใช้ตัดสิ่งกีดขวาง ที่เอวติดตั้งไรเฟิลไว้สองกระบอกและเสริมสมรรถนะของท่อขับดันให้ปรับทิศทางได้ง่ายขึ้น ที่น่องทั้งสองยังติดใบมีดไว้ เนื่องจากการใช้บีมในป่าอาจทำให้ไฟไหม้ได้ ไกจึงไม่ได้ติดอาวุธบีมไว้ด้วย เนื่องจากการดัดแปลงเป็นบลูเฟรมเธิร์ดใช้ชิ้นส่วนจากภายนอกล้วนๆ ในภาค วีเอสแอสเทรย์ จึงได้เปลี่ยนกลับไปเป็น บลูเฟรมเซคันด์รีไวส์ โดยดัดแปลงดาบแท็คติคอลอาร์มส์ให้สามารถแยกใบมีดออกมาติดกับแขนเป็นทอนฟาและสามารถแยกปืนกลแก็ตลิ่งออกมาได้
หนึ่งในอุปกรณ์เสริมของบลูเฟรมเซคันด์ G ก็คือเกราะฟุลอาร์เมอร์เฟสชิฟท์ ซึ่งเป็นเกราะ PSที่สามารถหุ้มบลูเฟรมเซคันด์ได้ทั้งตัวและออกแบบให้ใช้เข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกได้ ในเวลาปกติจะติดตั้งไว้เป็นแบ็คแพ็คเหมือนแท็คติคอลอาร์มส์ เนื่องจากถูกใช้งานหลังบลูเฟรมเธิร์ด จึงเรียกร่างนี้ว่าบลูเฟรมโฟรธ์
-
MBF-P03 กันดั้มแอสเทรย์
บลูเฟรม -
กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรม
ร่างติดตั้งระบบสเกล -
กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรม
เซคันด์ L -
กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรม
เซคันด์ L ติดตั้ง ปืนใหญ่
โลเอนกรีน -
กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรม
เซคันด์ G ร่างธรรมดา -
กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรม
เซคันด์ G ร่างติดเกราะ (Full Armor) -
กันดั้มแอสเทรย์บลูเฟรม
เซคันด์ G ร่าง Full Armor Phase Shift
กันดั้มแอสเทรย์กรีนเฟรม
แก้ในมังงะโมบิลสูทกันดั้มซี้ด เฟรมแอสเทรย์ได้เปิดเผยว่ามี MBF-P04 กันดั้มแอสเทรย์กรีนเฟรมเป็นกันดั้มแอสเทรย์เครื่องที่สี่ ซึ่งทรอยา โนวาล สมาชิกของกองโจรต่อต้านสาธารณรัฐเอเชียตะวันออกได้รับมาจาก แบรี่ โฮ แอสเทรย์กรีนเฟรมมีเซนเซอร์สีเหลืองแตกต่างจากเครื่องก่อนหน้านั้นซึ่งเป็นสีเขียว อาวุธพิเศษของแอสเทรย์กรีนเฟรมก็คือ ทวินซอร์ดไรเฟิล ซึ่งเป็นบีมไรเฟิลที่สามารถกางและยืดออกเป็นดาบสองปลายได้ แอสเทรย์กรีนเฟรมยังมีระบบปัญญาประดิษฐ์ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้ไว้คอยช่วยสนับสนุนในการควบคุม ซึ่งเมื่อระบบนี้สามารถเก็บข้อมูลจนพัฒนาตัวเองได้มากพอก็จะทำให้อัตราตอบสนองต่อนักบินสูงมากกว่ารุ่นก่อนๆ
กันดั้มแอสเทรย์มิราจเฟรม
แก้MBF-P05LM กันดั้มแอสเทรย์มิราจเฟรม | |
---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | โมบิลสูทรุ่นปรับปรุง |
ความสูง | 17.81 เมตร |
น้ำหนัก | 84.8 ตัน |
เกราะ | วาริเอเบิลเฟสชิฟท์อาเมอร์ |
อุปกรณ์ | ปืนวัลแคน 75 มม. "อิเกลชเตลลุงก์" บีมเซเบอร์ บีมไรเฟิล ดาบคะตะนะ "อาเมะโนะฮาบะกิริ" ดาบติดแขน ดาบติดเท้า โล่ |
คุณสมบัติพิเศษ | ระบบพรางตัวมิราจคอลลอยด์ |
นักบินสำคัญ | รอนโด กิน่า ซาฮาคุ |
ปรากฏตัวในนิยายประกอบภาพโมบิลสูทกันดั้มซี้ด วีเอสแอสเทรย์ เป็นกันดั้มแอสเทรย์หมายเลขห้าที่สร้างโดยกลุ่มไลบราเรียนและเป็นโมบิลสูทประจำตัวของคาร์บอนฮิวแมนซึ่งมียีนของ รอนโด กินา ซาฮาคุ มิราจเฟรมนั้นต่างจากกันดั้มแอสเทรย์เครื่องอื่นๆคือใช้เกราะวาริเอเบิลเฟสชิฟท์แทนโฟมโลหะจึงทนทานกว่ามาก มิราจเฟรมยังใช้ระบบพรางตาด้วยอนุภาคมิราจคอลลอยด์ แต่นอกจากใช้พรางตัวแล้วยังสามารถใช้สร้างภาพลวงตาเพื่อให้ศัตรูเข้าใจผิดได้ โดยครั้งแรกที่ปรากฏตัวนั้น รอนโดได้ใช้มิราจคอลลอยด์ปลอมเป็นโกลด์เฟรมเพื่อให้คนอื่นๆเข้าใจผิด
ในเวลาปกตินั้นมิราจเฟรมจะเป็นร่างคอมมานเดอร์โหมดซึ่งมีลักษณะเหมือนกันดั้มแอสเทรย์แบบมาตรฐาน แต่จะแปลงร่างเป็นกลาดิเอเตอร์โหมดโดยหมุนตัวไปด้านหลัง ส่วนหัวของมิราจเฟรมนั้นมีเขาเสาอากาศสามเขา โดยคอมมานเดอร์โหมดจะมีเขาเดียวที่หน้าผาก และอีกสองเขาจะอยู่ที่หน้าผากของกลาดิเอเตอร์โหมด ดาบติดเท้าของมิราจเฟรมจะพับออกมาเหมือนกงเล็บ และดาบติดแขนก็จะพับมาด้านหน้าในร่างกลาดิเอเตอร์โหมด ดาบคะตะนะ "อาเมะโนะฮาบากิริ"ใช้วาริเอเบิลเฟสชิฟท์จึงสามารถเปลี่ยนสีได้และมีพลังทำลายสูง
ในเวลาต่อมา กันดั้มแอสเทรย์มิราจเฟรมได้ปรับปรุงอีกขั้นเป็นแบบ MBF-P05LM2 กันดั้มแอสเทรย์มิราจเฟรม เซคันด์อิสซู โดยเปลี่ยนใบมีดที่แขนและข้อเท้าเป็นแบบขนาดเล็กสามเล่มเหมือนกงเล็บ ร่างแปลงของเซคันด์อิสซูนั้น ร่างโมบิลสูทใช้ชื่อไทแรนท์โหมด ซึ่งใช้งานเหมือนคอมมานเดอร์โหมด แต่ร่างสองนั้นเป็นโหมดสัตว์สี่เท้าแบบไกอากันดั้ม เรียกว่าบรูทโหมด ในร่างบรูทโหมดนี้แบ็คแพ็คจะเลื่อนออกมาเป็นหัวจึงใช้บีมเซเบอร์พับออกมาแทงศัตรูได้ แผงที่เกราะไหล่นั้นติดบีมไรเฟิลไว้และจะพับมาด้านหน้าในบรูทโหมด ซึ่งแผงไหล่นี้ใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับฟอร์บิดเดนกันดั้มทำให้สามารถยิงบีมไรเฟิลเป็นเส้นโค้งได้ บรูทโหมดนี้มีความเร็วสูงมากจนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะโดนโจมตีด้วยอาวุธปืนและยังไม่เปิดโอกาสให้ศัตรูตอบโต้กลับได้เลยด้วย จึงสามารถต่อสู้ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยูนิตยิงระยะไกลสนับสนุนเหมือนโมบิลสูทสำหรับต่อสู้ในระยะประชิดทั่วๆไป ความเร็วของบรูทโหมดนี้แม้แต่คาร์บอนฮิวแมนของกิน่าซึ่งมีพันธุกรรมของโคออร์ดิเนเตอร์ก็ยังต้องทำการดัดแปลงตัวเองเพื่อให้คุมมิราจเฟรมในบรูทโหมดได้
M1 แอสเทรย์
แก้MBF-M1 M1แอสเทรย์ | |
---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |
ประเภท | โมบิลสูทรุ่นผลิตจำนวนมาก |
ความสูง | 17.53 เมตร |
น้ำหนัก | 53.5 ตัน 65.3 ตัน (ติดตั้งไชรค์โรเตอร์) |
เกราะ | โฟมโลหะ |
อุปกรณ์ | ปืนวัลแคน 75 มม. "อิเกลชเตลลุงก์" บีมไรเฟิล บีมเซเบอร์ โล่ ไฟลท์โรเตอร์ "ไชรค์" |
นักบินสำคัญ | อาซางิ คอตเวล จูรี วี เนียง มายูระ ลาเบ็ต ฌอน แครี่ |
โมบิลสูทรุ่นผลิตจำนวนมากซึ่งใช้พื้นฐานของกันดั้มแอสเทรย์ซึ่งปรากฏในอนิเมะโมบิลสูทกันดั้มซี้ด ออกแบบโดยคุนิโอะ โอคาวาระ
M1แอสเทรย์ใช้รูปแบบดั้งเดิมของกันดั้มแอสเทรย์จึงเป็นโมบิลสูทแบบพื้นฐาน แบ็คแพ็คของ M1แอสเทรย์เป็นแบบสำหรับใช้บินในอากาศได้ การพัฒนา M1แอสเทรย์ในช่วงแรกนั้น สถาบันมอเกนเรตมีปัญหาเพราะระบบปฏิบัติการด้อยประสิทธิภาพ ทำให้นักบินปกติไม่สามารถควบคุม M1แอสเทรย์ได้ดีพอที่จะใช้ในการสู้รบ แต่ต่อมาก็ได้ข้อมูลระบบปฏิบัติการของกันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรมและระบบปฏิบัติการที่คิระ ยามาโตะดัดแปลงมาจากระบบปฏิบัติการของสไตรค์กันดั้ม ทำให้นักบินปกติสามารถควบคุม M1แอสเทรย์ได้ M1แอสเทรย์เครื่องที่โดดเด่นก็คือเครื่องสีขาวของ ฌอน แครี่ ผู้มีฉายา ดาราจรัสแสง J
M1แอสเทรย์ได้ใช้ในการสู้รบครั้งแรกเพื่อป้องกันตัวจากการรุกรานของพันธมิตรโลก M1แอสเทรย์มีสมรรถนะที่เทียบได้กับ GAT-01 สไตรค์แด็กเกอร์ของพันธมิตรโลก แต่ด้อยกว่าโมบิลสูทรุ่นใหม่ของซาฟท์คือ ZGMF-600 เกซ หลังสงครามวาเลนไทน์เลือด อาณาจักรอ็อบได้ปรับปรุง M1แอสเทรย์ที่มีอยู่โดยติดตั้ง EF-24R ไฟลท์โรเตอร์ "ไชรค์" ซึ่งเป็นปีกติดใบพัดเพื่อเพิ่มความสามารถในการต่อสู้กลางอากาศ
รูปแบบอื่นๆ
แก้MBF-M1A M1Aแอสเทรย์
แก้รุ่นปรับปรุงของ M1แอสเทรย์ที่เพิ่มความสามารถในการใช้งานในอวกาศโดยติดตั้งเวอเนียร์เสริมและปรับปรุงฉนวนสำหรับป้องกันอากาศรั่วให้ดีขึ้น M1Aแอสเทรย์ยังใช้สไนเปอร์บีมไรเฟิลซึ่งมีอานุภาพเหนือกว่าบีมไรเฟิลของ M1แอสเทรย์ เนื่องจากเน้นการใช้งานในอวกาศโดยเฉพาะจึงมีส่วนขาที่อ่อนแอ M1Aแอสเทรย์ได้รับการผลิตโดยอาณาจักรอ็อบกลุ่มซาฮาคุ แต่ก็มีอย่างน้อยเครื่องหนึ่งที่ถูกใช้งานโดยอาณาจักรอ็อบกลุ่มคางาริซึ่งเป็นของ แบรี่ โฮ เจ้าของฉายา หัตถ์เทวะ ซึ่งประจำอยู่กับยานคุซานางิ M1Aแอสเทรย์เป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์ต้นฉบับ กันดั้มซี้ด โมบิลสูทวาริเอชั่น ออกแบบโดย คุนิโอะ โอคาวาระ
MWF-JG71 เรสตา
แก้โมบิลสูทแบบไม่ติดตั้งอาวุธสำหรับทำงานซึ่งใช้พื้นฐานของ M1แอสเทรย์ พัฒนาโดย หยุน เซฟาน อดีตนักวิจัยของมอเกนเรตซึ่งได้เป็นสมาชิกของจังค์กิลด์หลังจากที่อาณาจักรอ็อบถูกพันธมิตรโลกยึดครอง ชื่อ Raysta มาจากการสลับอักษรของคำว่า Astray จังค์กิลด์ได้นำเรสตาให้ประชาชนเช่าใช้งานโดยมีข้อแม้ว่าห้ามดัดแปลงโดยติดตั้งอาวุธเข้าไปเด็ดขาด จังค์กิลด์เองจะเอาอาวุธมาติดให้เรสตาเพื่อใช้ป้องกันตัวในยามคับขันเท่านั้น เนื่องจากเป็นโมบิลสูทสำหรับทำงานจึงมีกำลังมาก ส่วนขาและเท้าของเรสตาจะมีกลไกให้ใช้เป็นเครนยกของได้ หยุน เซฟานเองใช้เรสตาแบบพิเศษซึ่งติดตั้งคอนเทนเนอร์บรรทุกของที่ด้านหลังและขาทั้งสองข้าง ส่วนหัวยังติดตั้งเสาอากาศสำหรับติดต่อกับดาวเทียมของจังค์กิลด์ เรสตาปรากฏตัวในมังงะ โมบิลสูทกันดั้มซี้ด เดสทินีแอสเทรย์
UT-1D แอสเทรย์พลเรือนรุ่นเฉพาะ DSSD
แก้โมบิลสูทสำหรับทำงานที่พัฒนาโดยองค์กรสำรวจอวกาศ DSSD (Deep Space Survey and Development Organization) โดยใช้ดัดแปลงมาจาก M1แอสเทรย์ แอสเทรย์ของ DSSD มีจุดเด่นที่หมวกครอบหัวสำหรับป้องกันเซนเซอร์ของแอสเทรย์และแบ็คแพ็คด้านหลังซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าซึ่งเป็นต้นแบบของระบบขับเคลื่อนด้วยแสงของสตาร์เกเซอร์ สามารถใช้งานปืนพกบีมและโล่เพื่อใช้ป้องกันตัวได้ ปรากฏตัวในกันดั้มซี้ด C.E.73 สตาร์เกเซอร์
MWF-JG73 แอสเทรย์พลเรือนรุ่นเฉพาะจังค์กิลด์
แก้โมบิลสูทสำหรับทำงานที่จังค์กิลด์พัฒนาโดยดัดแปลงแอสเทรย์พลเรือนของ DSSD ให้มีลักษณะใกล้เคียงกับกันดั้มแอสเทรย์มากที่สุดและสามารถปรับแต่งได้ง่าย โลว์ กิลได้ติดตั้งเกราะมาร์สแจ็คแก็ตของกันดั้มแอสเทรย์เรดเฟรมไว้กับแอสเทรย์พลเรือนเครื่องหนึ่ง เป็น MWF-JG73MJ มาร์สแจ็คเก็ตและยกให้ดิเอโก โลเวลเอาไปใช้ ปรากฏตัวในมังงะ โมบิลสูทกันดั้มซี้ด เดลต้าแอสเทรย์
PMC-1L อาร์มแอสเทรย์รุ่นเฉพาะ PMC
แก้แอสเทรย์พลเรือนของ DSSDซึ่งได้รับการดัดแปลงให้เหมาะกับการสู้รบโดยบริษัท PMC (Private Military Company) อาร์มแอสเทรย์มีลักษณะภายนอกคล้ายกับ UT-1D แต่ได้ติดตั้งเซนเซอร์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมและดัดแปลงระบบขับเคลื่อนด้วยแม่เหล็กไฟฟ้าให้สามารถรับพลังงานจากภายนอกได้ ปรากฏตัวในมังงะ โมบิลสูทกันดั้มซี้ด เฟรมแอสเทรย์
-
MBF-M1 เอ็มวันแอสเทรย์
-
MWF-JG71 เรสตา
-
เรสตา หัวกันดั้ม
-
MWF-JG73 แอสเทรย์พลเรือนรุ่นเฉพาะจังค์กิลด์
สีแดง -
แอสเทรย์พลเรือนรุ่นเฉพาะ
จังค์กิลด์ สีน้ำเงิน -
แอสเทรย์พลเรือนรุ่นเฉพาะ
จังค์กิลด์ สีทอง