กวินิท แพลโทรว์

นักแสดงและนักธุรกิจชาวอเมริกัน (เกิด ค.ศ. 1972)
(เปลี่ยนทางจาก กวินเน็ธ พัลโทรว์)

กวินิท เคต แพลโทรว์ (อังกฤษ: Gwyneth Kate Paltrow; เกิด 27 กันยายน ค.ศ. 1972) เป็นนักแสดงชาวอเมริกัน ผู้ได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลลูกโลกทองคำ, รางวัลออสการ์, รางวัลสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ และรางวัลไพรม์ไทม์เอมมี

กวินิท แพลโทรว์
A photograph of Gwyneth Paltrow at the 68th Venice International Film Festival in 2011
แพลโทรว์ ใน ค.ศ. 2011
เกิดกวินิท เคต แพลโทรว์
(1972-09-27) 27 กันยายน ค.ศ. 1972 (52 ปี)
ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ
ชื่ออื่นกวินิท แพลโทรว์ มาร์ติน[1]
กวินิท แพลโทรว์ ฟอลชัก
อาชีพ
  • นักแสดง
  • นักธุรกิจ
ปีปฏิบัติงานค.ศ. 1989–ปัจจุบัน
คู่สมรส
บุตร2 คน
บิดามารดา
ญาติ
เว็บไซต์gwynethpaltrow.com

แพลโทรว์แจ้งเกิดอย่างรวดเร็วจากผลงานภาพยนตร์ของเธอหลายเรื่อง เช่น Seven (2538) เธอได้รับเสียงชื่นชมจากการแสดงของเธอในฐานะ Viola de Lesseps ในภาพยนตร์โรแมนติกอิงประวัติศาสตร์ Shakespeare in Love (2541) ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม

ในปี พ.ศ. 2554 เธอยังได้รับรางวัลไพรม์ไทม์เอมมี สาขานักแสดงรับเชิญยอดเยี่ยมในซีรีส์ตลกจากบทบาทแขกรับเชิญของเธอในฐานะ ฮอลลี ฮอลลิเดย์ ในซีรีส์โทรทัศน์แนวมิวสิคัล-คอมเมดี-ดราม่า เรื่อง Glee ตั้งแต่ปี 2551 ถึงปี 2562 พัลโทรว์ได้รับบทบาท เปปเปอร์ พอตส์ ในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล

ชีวิตในวัยเด็ก

แก้

พ่อของแพลโทรว์เป็นชาวยิว[2] ในขณะที่แม่ของเธอมาจากครอบครัวที่เป็นคริสต์ศาสนิกชน[3] เธอถูกเลี้ยงดูให้เฉลิมฉลองทั้งวันหยุดของชาวยิวและชาวคริสเตียน[4] ครอบครัวพ่อของเธอเป็นชาวยิวอัชเคนาซิ โดยอพยพมาจากประเทศเบลารุสและประเทศโปแลนด์[5][6][7][8][9] ในขณะที่แม่ของเธอมีเชื้อสายเยอรมัน, ไอริช และอังกฤษ[10][11][12]

แพลโทรว์เติบโตที่แซนตามอนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่จะย้ายไปเรียนที่นครนิวยอร์ก[13] ต่อมาเธอศึกษาต่อคณะมานุษยวิทยา ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แซนตาบาร์บารา ก่อนที่จะออกไปเอาดีด้านการแสดง[14] เธอเคยไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ตาลาเบราเดลาเรย์นา ประเทศสเปน ตอนอายุ 15 ปี และได้เรียนภาษาสเปน[15][16][17] เธอยังสามารถสนทนาเบื้องต้นในภาษาฝรั่งเศสได้อีกด้วย[18]

ชีวิตส่วนตัว

แก้

ตอนอายุ 24 ปี แพลโทรว์หมั้นกับนักแสดงชาวอเมริกัน แบรด พิตต์ ซึ่งทั้งคู่คบหากันแต่ปี 2537 ถึง 2540[15] ทั้งคู่ยกเลิกการหมั้น โดยแพลโทรว์ให้เหตุผลว่าเธอยังไม่พร้อมสำหรับการแต่งงาน[19]

 
แพลโทรว์ที่งานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง มหาประลัยคนเกราะเหล็ก 3 ที่ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนเมษายน 2556

แพลโทรว์มีความสัมพันธ์แบบไม่มั่นคงกับนักแสดงชาวอเมริกัน เบน แอฟเฟล็ก ตั้งแต่ปี 2540 ถึงปลายปี 2543[20]

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2545 แพลโทรว์ได้พบกับ คริส มาร์ติน นักร้องชาวอังกฤษ จากวงโคลด์เพลย์ สามสัปดาห์หลังจากการตายของพ่อของเธอ ทั้งคู่แต่งงานกันในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2546 ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยแพลโทรว์ตั้งท้องลูกคนแรกในช่วงที่ทั้งคู่แต่งงานกัน[21] แพลโทรว์และมาร์ตินมีลูกสองคนด้วยกัน คนแรกคือลูกสาว ชื่อว่า แอปเปิล เกิดในเดือนพฤษภาคม 2547[22][23] และลูกชาย โมเสส เกิดในเดือนเมษายน 2549[24][25] ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2558 พัลโทรว์ฟ้องหย่าสามีของเธอ[26] และทั้งคู่หย่าร้างกันในวันที่ 14 กรกฎาคม 2559[27]

อ้างอิง

แก้
  1. Logan, Elizabeth (September 2, 2018). "Why Gwyneth Paltrow Kept Chris Martin's Last Name After Their Divorce". W Magazine. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 4, 2018. สืบค้นเมื่อ September 2, 2018.
  2. Rathe, Adam (July 21, 2011). "Gwyneth Paltrow decides to raise kids Apple and Moses as Jewish – despite not believing in religion". New York Daily News. สืบค้นเมื่อ May 5, 2018.
  3. Butnick, Stephanie (September 5, 2014). "GWYNETH PALTROW REPORTEDLY CONVERTING TO JUDAISM". Tablet. สืบค้นเมื่อ May 5, 2018.
  4. Puig, Claudia (December 17, 2010). "Gwyneth Paltrow is staying 'Country Strong' on all fronts". USA Today.
  5. Brown, Johnathan (April 11, 2006). "Second child for Chris and Gwyneth is the baby Moses". The Independent. London, UK. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 26, 2007.
  6. "Land of Ancestors: Gwyneth Paltrow". December 15, 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 6, 2018. สืบค้นเมื่อ July 1, 2013.
  7. Bernbaum, Brian (February 17, 2001). "Blythe And Bruce: The Family Union". CBS News Sunday Morning. สืบค้นเมื่อ May 5, 2018.
  8. Smith, Emily (September 4, 2014). "Gwyneth Paltrow is converting to Judaism". Page Six – New York Post. สืบค้นเมื่อ May 5, 2018.
  9. Baylen, Ashley (January 4, 2011). "Gwyneth Paltrow's long lineage of rabbis". Ynetnews. สืบค้นเมื่อ May 6, 2018.
  10. Steingarten, Jeffrey (July 15, 2010). "Gwyneth Paltrow: Beauty and the Feast". Vogue. สืบค้นเมื่อ May 6, 2018.
  11. Staff (March 31, 2011). "Hollywood celebrity finds family links in Barbados". The Barbados Advocate. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 19, 2012. สืบค้นเมื่อ April 4, 2011. The blurb for Friday's episode explains: "Gwyneth Paltrow digs in to her family's past and finds a surprising connection to her spiritual roots, a new appreciation for her great-grandmother and ancestors on the island of Barbados."
  12. Natanga Smith Hurdle (March 31, 2011). "Gwyneth Paltrow visits Barbados seeking roots". Nation Newspaper. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ April 28, 2012. สืบค้นเมื่อ April 4, 2011. Her great-grandmother Rosamund Stoute was Barbadian.
  13. Gleiberman, Owen (January 12, 2011). "Gwyneth Paltrow: Why do so many people hate on her?". Entertainment Weekly.
  14. "Famous alumni directory". สืบค้นเมื่อ June 29, 2012.
  15. 15.0 15.1 "Gwyneth Paltrow". People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 2, 2012. สืบค้นเมื่อ July 26, 2012.
  16. Seal, Mark. Mad for Madrid เก็บถาวร ตุลาคม 20, 2006 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, AmericanWaymag.com, June 15, 2004.
  17. Brockes, Emma (January 27, 2006). "Where the heart is". The Guardian. London, UK. สืบค้นเมื่อ May 4, 2010.
  18. Le Lepoque (April 15, 2013). "Robert Downey Jr. & Gwyneth Paltrow talk about "Iron Man 3" on French TV Channel M6". YouTube.
  19. "Gwyneth in love". MSN. October 19, 2003. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 7, 2010.
  20. McClurg, Jocelyn (October 9, 2001). "Paltrow dishes about Ben, bum". USA Today.
  21. Hiscock, Simon (April 30, 2008). "Gwyneth Paltrow: I'm back – and I just love it". Daily Telegraph. London, England: Telegraph Media Group. สืบค้นเมื่อ May 25, 2008.[ลิงก์เสีย]
  22. Silverman, Stephen M. (May 14, 2004). "It's a Girl for Gwyneth Paltrow & Hubby". People. สืบค้นเมื่อ February 3, 2008.
  23. "Gwyneth lets Oprah in on the secret of Apple". Hello!. August 27, 2004. สืบค้นเมื่อ August 21, 2006.
  24. "Gwyneth Paltrow Has a Boy". People. April 10, 2006. สืบค้นเมื่อ February 3, 2019.
  25. Robertson, Jessica (April 10, 2006). "Coldplay's Chris Martin Has a Boy". Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-24. สืบค้นเมื่อ March 24, 2009.
  26. "Gwyneth Paltrow files for divorce from chris martin". The Hollywood Reporter. April 21, 2015.
  27. Dowd, Kathy Ehrich (July 15, 2016). "Gwyneth Paltrow and Chris Martin Finalize Their Divorce More Than Two Years After Split". People. New York City: Meredith Corporation. สืบค้นเมื่อ November 21, 2017. The duo reached a divorce settlement in May, and their judgment was entered into a Los Angeles County courthouse on Thursday [July 14, 2016].