วงศ์กบมีหาง
วงศ์กบมีหาง | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Amphibia |
อันดับ: | Anura |
วงศ์: | Ascaphidae Fejérváry, 1923 |
สกุล: | Ascaphus Stejneger, 1899 |
ชนิด | |
| |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของกบมีหาง (สีดำ) |
กบมีหาง (อังกฤษ: Tailed frogs) เป็นวงศ์ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำในอันดับกบ (Anura) วงศ์หนึ่ง ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ascaphidae[1] ซึ่งหมายถึง 'ไม่มีสันใต้ฝ่าเท้าหลัง (spade)' จากคำอุปสรรคนำหน้า a- และรากศัพท์ภาษากรีกโบราณ: σκαφίς (skaphís, ‘spade, shovel’) หมายถึงสันใต้ฝ่าเท้าหลังใช้สำหรับขุดดิน ซึ่งวงศ์กบชนิดนี้ไม่มี[2][3]
กบในวงศ์นี้ มีลักษณะสำคัญคือ ตัวผู้มีอวัยวะถ่ายอสุจิรูปร่างคล้ายหาง อยู่ทางด้านท้ายของห้องทวารร่วม อวัยวะส่วนนี้ได้รับการค้ำจุนด้วยแท่งกระดูกอ่อนที่เจริญมาจากกระดูกเชิงกราน ภายในมีเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก ขณะที่ตัวผู้กอดรัดตัวเมียจะงอหางไปข้างหน้าและสอดเข้าไปในช่องทวารร่วมของตัวเมียเพื่อถ่ายอสุจิ การงอหางเกิดจากการหดตัวของอสุจิ
นอกจากนี้แล้วยังมีกระดูกสันหลังหน้ากระดูกก้นกบจำนวน 9 ปล้อง ซึ่งนับว่ามีมากกว่ากบวงศ์อื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีกระดูกอิพิพิวบิสอยู่ด้านหน้ากระดูกพิวบิส ลูกอ๊อดมีช่องปากมีจะงอยปากและมีตุ่มฟัน กระดูกสันหลังมีเซนทรัมเป็นแบบอย่างของแอมฟิซีลัส กระดูกหัวไหล่เป็นแบบอย่างของอาร์กซิฟเอรัล กระดูกแอสทรากาลัสและกระดูกแคลลาเนียมเชื่อมรวมกันเฉพาะส่วนต้นและส่วนปลาย ไม่มีกระดูกแทรกระหว่างระหว่างกระดูกนิ้ว 2 ชิ้นสุดท้าย ช่องเปิดของห้องเหงือกมีช่องเดียวอยู่ในแนวตรงกลางลำตัว จึงเป็นข้อสันนิษฐานว่า กบในวงศ์นี้เป็นบรรพบุรุษของกบวงศ์อื่น ๆ ทั้งหมด
มีขนาดลำตัวขนาดเล็กประมาณ 3.5-5 เซนติเมตร อาศัยอยู่ในน้ำตลอดเวลาในลำธารที่มีกระแสน้ำแรงและเย็นจัด ตัวผู้ไม่มีแผ่นเยื่อแก้วหูและไม่ส่งเสียงร้องแต่ใช้ตารับภาพเพื่อเสาะหาตัวเมีย การผสมพันธุ์เกิดขึ้นในน้ำโดยตัวผู้กอดรัดตัวเมียในบริเวณเอว กบตัวเมียจะเก็บอสุจิไว้ในท่อนำไข่นาน 9 เดือน ต่อจากนั้นจึงวางไข่จำนวน 40-80 ฟองติดไว้ในก้อนหินใต้ลำธาร ไข่มีขนาดใหญ่และเอ็มบริโอเจริญอยู่ภายในไข่เป็นระยะเวลานาน ลูกอ๊อดมีอวัยวะใช้ยึดเกาะก้อนหินเจริญขึ้นมาบริเวณปาก และลดรูปครีบหางซึ่งปรับตัวเพื่ออาศัยในลำธารกระแสน้ำไหลแรง และลูกอ๊อดใช้ระยะเวลานานถึง 2-3 ปี จึงเจริญเป็นตัวเต็มวัย
กบในวงศ์กบมีหางนี้ มีเพียงสกุลเดียว คือ Ascaphus มีเพียง 2 ชนิด แพร่กระจายพันธุ์ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา อาศัยอยู่บริเวณแนวฝั่งลำธารที่น้ำใสและเย็นจัดบนภูเขาที่มีความสูงกว่า 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล[4] [5]
อ้างอิง
แก้- ↑ Frost, Darrel R. (2013). "Ascaphidae Fejérváry, 1923". Amphibian Species of the World 5.6, an Online Reference. American Museum of Natural History. สืบค้นเมื่อ 7 July 2013.
- ↑ σκαφίς. Liddell, Henry George; Scott, Robert; A Greek–English Lexicon at Perseus Project
- ↑ Dodd, C. Kenneth (2013). Frogs of the United States and Canada. Vol. 1. The Johns Hopkins University Press. p. 20. ISBN 978-1-4214-0633-6.
- ↑ วีรยุทธ์ เลาหะจินดา (2552). วิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก [Herpetology]. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. pp. 318–319. ISBN 9786165560160. OCLC 860793777.
- ↑ *Gissi, Carmela; และคณะ (February 2006). "Mitochondrial phylogeny of Anura (Amphibia) : A case study of congruent phylogenetic reconstruction using amino acid and nucleotide characters". Gene. 366 (2): 228–237. doi:10.1016/j.gene.2005.07.034. PMID 16307849.
- Roelants, Kim; Bossuyt, Franky (February 2005). "Archaeobatrachian paraphyly and pangaean diversification of crown-group frogs". Systematic Biology. 54 (1): 111–126. doi:10.1080/10635150590905894. PMID 15805014.
- San Mauro, Diego; และคณะ (May 2005). "Initial diversification of living amphibians predated the breakup of Pangaea" (PDF). American Naturalist. 165 (5): 590–599. doi:10.1086/429523. PMID 15795855.[ลิงก์เสีย]
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Ascaphidae ที่วิกิสปีชีส์