ฟินาลิสซิมา 2022

(เปลี่ยนทางจาก 2022 Finalissima)

ฟินาลิสซิมา 2022 (สเปน: Finalissima) จะเป็นการแข่งขันครั้งที่สามของ คอนเมบอล–ยูฟ่าคัพออฟแชมเปียนส์ ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างผู้ชนะจากการแข่งขันชิงแชมป์อเมริกาใต้และยุโรป การแข่งขันในครั้งนี้จะมีอิตาลีเป็นผู้ชนะของยูโร 2020 (จัดขึ้นในปี 2021) เจอกับอาร์เจนตินาเป็นผู้ชนะของโกปาอาเมริกา 2021 โดยจะแข่งขันกันที่สนามกีฬาเวมบลีย์ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันพุธที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2022 การแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการฟื้นคืนชีพ Artemio Franchi Cup ที่แข่งครั้งล่าสุดเมื่อ 29 ปีก่อน จัดโดยสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป และสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมมือระหว่างทั้งสององค์กร

ฟินาลิสซิมา 2022
วันที่1 มิถุนายน ค.ศ. 2022 (2022-06-01)
สนามสนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน
ผู้เล่นยอดเยี่ยม
ประจำนัด
ลิโอเนล เมสซิ (อาร์เจนตินา)
1993
2025

ปูมหลัง

แก้

ในปี ค.ศ. 1985 และ ค.ศ. 1993 ผู้ชนะการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป และโกปาอาเมริกา ได้แข่งขันในรายการ Artemio Franchi Cup (หรือที่รู้จักในชื่อ European/South American Nations Cup) ซึ่งเป็นการแข่งขันนัดเดียวที่จัดโดยสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป และสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้[1] เป็นการแข่งขันระดับทีมชาติเทียบเท่ากับอินเตอร์คอนติเนนตัลคัพในระดับสโมสร ซึ่งแข่งขันกันระหว่างผู้ชนะยูโรเปียนคัพ/ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และโกปาลิเบร์ตาโดเรส ฝรั่งเศสชนะการแข่งขันในปี ค.ศ. 1985 ที่ปารีส ขณะที่อาร์เจนตินาชนะการแข่งขันในปี ค.ศ. 1993 ที่มาร์ เดล พลาตา อย่างไรก็ตาม การแข่งขันถูกยกเลิกหลังจากนั้น[2] Artemio Franchi Cup ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ ซึ่งแข่งขันในปี 1992 เป็นครั้งแรกและจัดโดย FIFA ตั้งแต่ปี 1997 ซึ่งจุดเด่นของรายการนี้คือการนำแชมป์ของแต่ละทวีปและแชมป์ฟุตบอลโลกมาแข่งกัน หลังจากการแข่งขันในปี ค.ศ. 2017 ฟีฟ่าประกาศเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2019 ว่าการแข่งขันรายการนี้จะถูกยกเลิก

การแข่งขัน

แก้

รายละเอียด

แก้
อิตาลี  0–3  อาร์เจนตินา
รายงาน
ผู้ชม: 87,112[3]
ผู้ตัดสิน: Piero Maza (Chile)
 
 
 
 
 
 
 
 
อิตาลี
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
อาร์เจนตินา
GK 21 Gianluigi Donnarumma
RB 2 Giovanni Di Lorenzo   72'
CB 19 Leonardo Bonucci   39'
CB 3 Giorgio Chiellini (c)   46'
LB 13 Emerson Palmieri   77'
DM 8 Jorginho
CM 12 Matteo Pessina   62'
CM 18 Nicolò Barella   77'
RF 10 Federico Bernardeschi   46'
CF 9 Andrea Belotti   46'
LF 22 Giacomo Raspadori
Substitutions:
DF 6 Manuel Lazzari   46'
FW 17 Gianluca Scamacca   46'
MF 5 Manuel Locatelli   46'
DF 4 Leonardo Spinazzola   62'
DF 23 Alessandro Bastoni   77'
Manager:
Roberto Mancini
 
GK 23 Emiliano Martínez
RB 4 Nahuel Molina
CB 13 Cristian Romero   85'
CB 19 Nicolás Otamendi   22'
LB 3 Nicolás Tagliafico
DM 18 Guido Rodríguez
CM 20 Giovani Lo Celso   90+1'
CM 7 Rodrigo De Paul   76'
RF 10 ลิโอเนล เมสซิ (c)
CF 22 Lautaro Martínez   85'
LF 11 Ángel Di María   90+1'
Substitutions:
MF 14 Exequiel Palacios   76'
DF 6 Germán Pezzella   85'
FW 9 Julián Álvarez   85'
MF 15 Nicolás González   90+1'
FW 21 Paulo Dybala   90+1'
Manager:
Lionel Scaloni

Man of the Match:
ลิโอเนล เมสซิ (อาร์เจนตินา)

Assistant referees:
Christian Schiemann (Chile)
Claudio Ríos (Chile)
Fourth official:
Jesús Gil Manzano (Spain)
Video assistant referee:
Alejandro Hernández Hernández (Spain)
Assistant video assistant referees:
Juan Martínez Munuera (Spain)
Tiago Martins (Portugal)

Match rules

  • 90 minutes
  • Penalty shoot-out if scores level
  • Maximum of twelve named substitutes
  • Maximum of five substitutions

อ้างอิง

แก้
  1. "Worldwide football network". UEFA.com. Union of European Football Associations. 1 January 2011. สืบค้นเมื่อ 15 December 2021.
  2. Vieli, André (2014). "UEFA: 60 years at the heart of football" (PDF). UEFA.com. Nyon: Union of European Football Associations. p. 169. สืบค้นเมื่อ 13 May 2020.
  3. Bate, Adam (1 June 2022). "Italy 0–3 Argentina: Lionel Messi's side win the Finalissima at Wembley after goals from Lautaro Martinez, Angel Di Maria and Paulo Dybala". Sky Sports. สืบค้นเมื่อ 1 June 2022.