ไดคลอโรมีเทน
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ไดคลอโรมีเทน หรือ เมทิลีนคลอไรด์ (อังกฤษ: Dichloromethane หรือ Methylene chloride) คือ สารประกอบชนิดหนึ่ง มีสูตรเป็น CH2Cl2 เป็นของเหลวไม่มีสี ระเหยได้ง่าย มีกลิ่นหอม มักใช้เป็นตัวทำละลาย เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่าเป็นสารประกอบคลอโรคาร์บอนที่มีอันตรายน้อยที่สุดชนิดหนึ่ง
| |||
ชื่อ | |||
---|---|---|---|
Preferred IUPAC name
Dichloromethane | |||
ชื่ออื่น
Methylene bichloride; Methylene chloride gas; Methylene dichloride; Solmethine; Narkotil; Solaesthin; Di-clo; Refrigerant-30; Freon-30; R-30; DCM; MDC
| |||
เลขทะเบียน | |||
3D model (JSmol)
|
|||
ChEBI | |||
ChEMBL | |||
เคมสไปเดอร์ | |||
ECHA InfoCard | 100.000.763 | ||
EC Number |
| ||
KEGG | |||
ผับเคม CID
|
|||
RTECS number |
| ||
UNII | |||
UN number | 1593 | ||
CompTox Dashboard (EPA)
|
|||
| |||
| |||
คุณสมบัติ | |||
CH2Cl2 | |||
มวลโมเลกุล | 84.93 g·mol−1 | ||
ลักษณะทางกายภาพ | ของเหลวไม่มีสี | ||
กลิ่น | เจือจาง คล้ายคลอโรฟอร์ม[1] | ||
ความหนาแน่น | 1.3266 g/cm3 (20 °C)[2] | ||
จุดหลอมเหลว | −96.7 องศาเซลเซียส (−142.1 องศาฟาเรนไฮต์; 176.5 เคลวิน) | ||
จุดเดือด | 39.6 องศาเซลเซียส (103.3 องศาฟาเรนไฮต์; 312.8 เคลวิน) decomposes at 720 °C[3] 39.75 องศาเซลเซียส (103.55 องศาฟาเรนไฮต์; 312.90 เคลวิน) at 760 mmHg[4] | ||
25.6 g/L (15 °C) 17.5 g/L (25 °C) 15.8 g/L (30 °C) 5.2 g/L (60 °C)[3] | |||
ความสามารถละลายได้ | Miscible in ethyl acetate, alcohol, hexanes, benzene, CCl4, diethyl ether, CHCl3 | ||
log P | 1.19[5] | ||
ความดันไอ | 0.13 kPa (−70.5 °C) 2 kPa (−40 °C) 19.3 kPa (0 °C) 57.3 kPa (25 °C)[6] 79.99 kPa (35 °C)[3] | ||
3.25 L·atm/mol[4] | |||
−46.6·10−6 cm3/mol | |||
ดัชนีหักเหแสง (nD)
|
1.4244 (20 °C)[4][7] | ||
ความหนืด | 0.43 cP (20 °C)[4] 0.413 cP (25 °C) | ||
โครงสร้าง | |||
1.6 D | |||
อุณหเคมี | |||
ความจุความร้อน (C)
|
102.3 J/(mol·K)[6] | ||
Std molar
entropy (S⦵298) |
174.5 J/(mol·K)[6] | ||
Std enthalpy of
formation (ΔfH⦵298) |
−124.3 kJ/mol[6] | ||
Std enthalpy of
combustion (ΔcH⦵298) |
-454.0 kJ/mol (from standard enthalpies of formation)[6] | ||
ความอันตราย | |||
อาชีวอนามัยและความปลอดภัย (OHS/OSH): | |||
อันตรายต่อดวงตา
|
ระคายเคือง | ||
GHS labelling:[7] | |||
เตือน | |||
H315, H319, H335, H336, H351, H373 | |||
P261, P281, P305+P351+P338 | |||
NFPA 704 (fire diamond) | |||
จุดวาบไฟ | None, but can form flammable vapor-air mixtures above ≈100 °C[8] | ||
556 องศาเซลเซียส (1,033 องศาฟาเรนไฮต์; 829 เคลวิน) | |||
ขีดจำกัดการระเบิด | 13%-23%[1] | ||
ปริมาณหรือความเข้มข้น (LD, LC): | |||
LD50 (median dose)
|
1.25 g/kg (rats, oral) 2 g/kg (rabbits, oral)[3] | ||
LC50 (median concentration)
|
24,929 ppm (rat, 30 min) 14,400 ppm (mouse, 7 h)[10] | ||
LCLo (lowest published)
|
5000 ppm (guinea pig, 2 h) 10,000 ppm (rabbit, 7 h) 12,295 ppm (cat, 4.5 h) 14,108 ppm (dog, 7 h)[10] | ||
NIOSH (US health exposure limits): | |||
PEL (Permissible)
|
25 ppm over 8 hours (time-weighted average), 125 ppm over 15 minutes (STEL)[1][9] | ||
REL (Recommended)
|
Ca[1] | ||
IDLH (Immediate danger)
|
Ca [2300 ppm][1] | ||
สถานะทางกฎหมาย | |||
หากมิได้ระบุเป็นอื่น ข้อมูลข้างต้นนี้คือข้อมูลสาร ณ ภาวะมาตรฐานที่ 25 °C, 100 kPa
|
การเตรียมไดคลอโรมีเทนสามารถทำได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1840 โดยนักเคมีชาวฝรั่งเศสชื่อว่า อองรี วิกเตอร์ เรโญลต์ (Henri Victor Regnault) โดยแยกไดคลอโรมีเทนออกจากของผสมของคลอโรมีเทนกับคลอรีนระหว่างที่ถูกแสงอาทิตย์
ปฏิกิริยาและผลิตภัณฑ์
แก้ในทางอุตสาหกรรม ไดคลอโรมีเทนถูกผลิตขึ้นจากปฏิกิริยาระหว่างเมทิลคลอไรด์ หรือมีเทน กับแก๊สคลอรีน ที่อุณหภูมิ 400-500 °C ที่อุณหภูมิในช่วงนี้ ทั้งมีเทนและเมทิลคลอไรด์จะผ่านปฏิกิริยาที่ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีคลอรีนขึ้น
CH3Cl + Cl2 → CH2Cl2 + HCl
CH2Cl2 + Cl2 → CHCl3 + HCl
CHCl3 + Cl2 → CCl4 + HCl
ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกระบวนการเหล่านี้ ได้แก่ เมทิลคลอไรด์ ไดคลอโรมีเทน คลอโรฟอร์ม และคาร์บอนเตตระคลอไรด์ สารประกอบเหล่านี้จะถูกแยกโดยการกลั่น
การนำไปใช้ประโยชน์
แก้เนื่องจากไดคลอโรมีเทนระเหยได้ง่าย และสามารถละลายสารประกอบอินทรีย์ได้หลายชนิด จึงเป็นตัวทำละลายที่มีประโยชน์มากในหลาย ๆ กระบวนการทางเคมี โดยทั่วไปมักใช้สำหรับล้างสีออกจากภาพวาด ในทางอุตสาหกรรมอาหาร จะใช้ในการสกัดคาเฟอีนจากกาแฟ และใช้ผลิตสารปรุงแต่งกลิ่นหรือรส หรือล้างคราบนำ้มัน
สภาพความเป็นพิษ
แก้แม้ว่าไดคลอโรมีเทนจะเป็นสารคลอโรไฮโดรคาร์บอนที่มีความเป็นพิษน้อยที่สุด แต่เนื่องจากมีสมบัติระเหยได้ง่าย จึงเกิดอันตรายจากการสูดดมได้ เมื่อร่างกายเผาผลาญไดคลอโรมีเทน จะได้แก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ซึ่งเป็นแก๊สพิษ และเมื่อไดคลอโรมีเทนสัมผัสกับผิวหนัง จะทำละลายไขมันบางส่วนบนผิวหนัง ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแห้งแตก
ไดคลอโรมีเทนยังถือได้ว่าเป็นสารก่อมะเร็ง เนื่องจากผลการทดลองในห้องปฏิบัติการพบว่ามีส่วนทำให้เกิดมะเร็งที่ปอด ตับ และตับอ่อนในสัตว์ และยังมีส่วนทำให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม และเป็นพิษต่อทารกหรือตัวอ่อนในครรภ์
ในหลาย ๆ ประเทศ ผลิตภัณฑ์ที่มีไดคลอโรมีเทนเป็นส่วนประกอบต้องมีข้อความเตือนถึงอันตรายต่อสุขภาพ
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 NIOSH Pocket Guide to Chemical Hazards. "#0414". National Institute for Occupational Safety and Health (NIOSH).
- ↑ Haynes, William M., บ.ก. (2011). CRC Handbook of Chemistry and Physics (92nd ed.). CRC Press. p. 3.164. ISBN 1439855110.
- ↑ 3.0 3.1 3.2 3.3 Properties of Dichloromethane. chemister.ru
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 CID 6344 จากผับเคม
- ↑ "Dichloromethane_msds".
- ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 Methylene chloride in Linstrom, Peter J.; Mallard, William G. (eds.); NIST Chemistry WebBook, NIST Standard Reference Database Number 69, National Institute of Standards and Technology, Gaithersburg (MD) (retrieved 2014-05-26)
- ↑ 7.0 7.1 Sigma-Aldrich Co., Dichloromethane. Retrieved on 2014-05-26.
- ↑ "Real time measurement of dichloromethane containing mixtures" (PDF). Health & Safety Laboratory. สืบค้นเมื่อ 5 August 2015.
- ↑ "Methylene Chloride Hazards for Bathtub Refinishers". OSHA-NIOSH Hazard Alert 2013-110. OSHA and NIOSH. สืบค้นเมื่อ 22 January 2015.
- ↑ 10.0 10.1 "methylene chloride". Immediately Dangerous to Life and Health Concentrations (IDLH). National Institute for Occupational Safety and Health (NIOSH).
- ↑ Anvisa (2023-03-31). "RDC Nº 784 - Listas de Substâncias Entorpecentes, Psicotrópicas, Precursoras e Outras sob Controle Especial" [Collegiate Board Resolution No. 784 - Lists of Narcotic, Psychotropic, Precursor, and Other Substances under Special Control] (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). Diário Oficial da União (ตีพิมพ์ 2023-04-04). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-03. สืบค้นเมื่อ 2023-08-16.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- International Chemical Safety Card 0058
- NIOSH Pocket Guide to Chemical Hazards. "#0414". National Institute for Occupational Safety and Health (NIOSH).
- National Pollutant Inventory – Dichloromethane Fact Sheet
- Dichloromethane at National Toxicology Program
- IARC Summaries & Evaluations Vol. 71 (1999)
- Canadian Environmental Protection Act Priority Substances List Assessment Report
- Organic Compounds Database
- Sustainable uses and Industry recommendations