โลกเวทมนตร์ (อังกฤษ: Wizarding World)[1][2] (หรือชื่อเดิม โลกเวทมนตร์ของเจ. เค. โรว์ลิง (อังกฤษ: J. K. Rowling's Wizarding World))[3][4] เป็นสื่อแฟรนไชส์แนวแฟนตาซีและจักรวาลสมมติร่วมที่สร้างจากนวนิยายชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ของ เจ. เค. โรว์ลิง ตั้งแต่ ค.ศ. 2000 ได้มีการสร้างภาพยนตร์แล้วสิบเอ็ดเรื่อง แบ่งเป็นภาพยนตร์ชุดที่ดัดแปลงจากนวนิยาย แฮร์รี่ พอตเตอร์ แปดเรื่องและภาพยนตร์ชุด สัตว์มหัศจรรย์ สามเรื่อง วอร์เนอร์บราเธอส์ เป็นเจ้าของและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ ภาพยนตร์ชุดนี้ทำเงินมากกว่า 9.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก เป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่สี่ (รองจากจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล, สตาร์ วอร์ส และ สไปเดอร์-แมน)

โลกเวทมนตร์
Wizarding World
สร้างโดยเจ. เค. โรว์ลิง
งานต้นฉบับแฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ (1997)
เจ้าของ
ปีค.ศ. 1997–ปัจจุบัน
ภาพยนตร์และโทรทัศน์
ภาพยนตร์
การแสดงละคร
ละครแฮร์รี่ พอตเตอร์กับเด็กต้องคำสาป
เบ็ดเตล็ด
สวนสนุกเดอะวิซาร์ดิงเวิร์ลออฟแฮร์รี พอตเตอร์
สื่อดิจิทัลพอตเตอร์มอร์

เดวิด เฮย์แมน และบริษัทของเขา เฮย์เดย์ฟิล์มส์ อำนวยสร้างให้กับภาพยนตร์ทุกเรื่องใน โลกเวทมนตร์ ขณะที่ คริส โคลัมบัส และ มาร์ค แรดคลิฟฟ์ ทำหน้าที่อำนวยการสร้างให้กับ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน, เดวิด บาร์รอน ทำหน้าที่อำนวยการสร้าง แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ จนถึง แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2 และ โรว์ลิง อำนวยการสร้างให้กับภาพยนตร์สองเรื่องสุดท้ายของ ภาพยนตร์ชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาพยนตร์ชุด สัตว์มหัศจรรย์ ทั้งสองเรื่องนั้นอำนวยการสร้างโดย เฮย์แมน, โรว์ลิง, สตีฟ โคลฟส์ และ ไลโอเนล วิแกรม ภาพยนตร์ได้รับการเขียนบทและกำกับโดยหลายคนและประกอบด้วยนักแสดงนำจำนวนมาก ได้แก่ แดเนียล แรดคลิฟฟ์, รูเพิร์ต กรินต์, เอ็มมา วอตสัน, ทอม เฟลตัน, ไมเคิล แกมบอน, เรล์ฟ ไฟนส์, แอลัน ริกแมน, แมกกี สมิธ, เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์, แกรี โอลด์แมน, เอดดี เรดเมน, แคทเธอรีน วอเตอร์สตัน, อลิสัน ซูดอลและแดน ฟอกเลอร์ ส่วน จู๊ด ลอว์และจอห์นนี เดปป์ ยังได้แสดงนำในภาพยนตร์คนละสองเรื่อง นอกจากนี้ยังมีอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์วางจำหน่ายด้วย แฟรนไชส์นี้ยังประกอบไปด้วย ละครเวที, สิ่งพิมพ์ดิจิทัล, ค่ายวิดีโอเกมและสวนสนุกธีม โลกเวทมนตร์ของแฮร์รี พอตเตอร์ ที่ยูนิเวอร์แซลพาร์กแอนด์รีสอร์ตทั่วโลก

ภาพยนตร์เรื่องแรกของโลกเวทมนตร์นั้นคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ (2001) ซึ่งตามด้วยภาคต่ออีกเจ็ดภาค เริ่มจาก แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ ในปี ค.ศ. 2002 และจบที่ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2 ในปี ค.ศ. 2011 ต่อมา ภาพยนตร์ชุด สัตว์มหัศจรรย์ เริ่มจาก สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ (2016) เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่เป็นภาคแยกและภาคก่อนของภาพยนตร์ชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาพยนตร์ภาคต่อ สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ ฉายเมื่อ ค.ศ. 2018 ภาพยนตร์ภาคที่สาม สัตว์มหัศจรรย์: ความลับของดัมเบิลดอร์ ฉายเมื่อ ค.ศ. 2022 ฮอกวอตส์ เลกาซี วิดีโอเกมแรกที่ดำเนินเรื่องในโลกเวทมนตร์ วางจำหน่ายช่วงต้น ค.ศ. 2023 วอร์เนอร์บราเธอส์ กำลังวางแผนพัฒนาละครชุดทางโทรทัศน์ที่ดำเนินเรื่องใน โลกเวทมนตร์ ให้กับ แม็กซ์[5] เมื่อวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 2023 วอร์เนอร์บราเธอส์ดิสคัฟเวอรี ประกาศละครชุดทางโทรทัศน์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ในงานแถลงข่าวของแม็กซ์ บริการผ่านสัญญาณต่อเนื่องที่เปลี่ยนโฉมใหม่ โดยจะเป็นการรีบูตแฟรนไชส์ในแต่ละปีจะเล่าเรื่องในหนังสือแต่ละเล่ม[6] ละครชุดจะออกอากาศใน ค.ศ. 2026[7]

ภาพยนตร์ชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ แก้

ภาพยนตร์[8][9][10] วันที่ฉาย ผู้กำกับ ผู้เขียนบท ผู้อำนวยการสร้าง
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2001 (2001-11-16) คริส โคลัมบัส[11][12] สตีฟ โคลฟส์[13] เดวิด เฮย์แมน
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2002 (2002-11-15)
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน 31 พฤษภาคม ค.ศ. 2004 (2004-05-31) อัลฟอนโซ กัวรอน[14] เดวิด เฮย์แมน, คริส โคลัมบัส และ มาร์ค แรดคลิฟฟ์
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2005 (2005-11-18) ไมค์ นิวเวลล์[15] เดวิด เฮย์แมน
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 (2007-07-11) เดวิด เยตส์[16][17][18] ไมเคิล โกลเดนเบิร์ก[19] เดวิด เฮย์แมน และ เดวิด แบร์รอน
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 (2009-07-15) สตีฟ โคลฟส์[13]
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 (2010-11-19) เดวิด เฮย์แมน, เดวิด แบร์รอน และ เจ. เค. โรว์ลิง
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 (2011-07-15)

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ (2001) แก้

 
เดวิด เฮย์แมน อำนวยการสร้างให้กับภาพยนตร์ทุกเรื่องในโลกเวทมนตร์

แฮร์รี่ พอตเตอร์ เด็กชายอายุสิบเอ็ดปีที่ดูเหมือนเป็นเด็กธรรมดาทั่วไป แต่แท้จริงแล้วเป็นพ่อมดและเป็นผู้รอดชีวิตจากลอร์ดโวลเดอมอร์ รูเบอัส แฮกริดช่วยเหลือแฮร์รี่จากญาติมักเกิลใจร้าย (ตระกูลเดอร์สลีย์) และพาเขาไปยังโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ เขาและเพื่อนของเขารอน วีสลีย์และเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ได้เข้าไปพัวพันในความลึกลับของศิลาอาถรรพ์ซึ่งถูกเก็บอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้

เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1998 วอร์เนอร์บราเธอส์ ซื้อลิขสิทธิ์ทำภาพยนตร์จากนวนิยายแฟนตาซี แฮร์รี่ พอตเตอร์ สี่เล่มแรก ของ เจ. เค. โรว์ลิง เป็นจำนวนเงินเจ็ดหลัก[20] หลังได้รับการแนะนำจากผู้อำนวยการสร้าง เดวิด เฮย์แมน[21] วอร์เนอร์บราเธอร์ได้สังเกตเห็นถึงความปรารถนาและความคิดของโรว์ลิงเกี่ยวกับภาพยนตร์เมื่อร่างสัญญาของเธอ หนึ่งในข้อตกลงหลักของเธอก็คือพวกเขาต้องถ่ายทำในประเทศอังกฤษกับนักแสดงชาวอังกฤษทั้งหมด[22] ซึ่งวอร์เนอร์บราเธอร์ก็ทำตามข้อตกลงนั้น เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 2000 นักแสดงที่ไม่เป็นที่รู้จักอย่าง แดเนียล แรดคลิฟฟ์ และนักแสดงหน้าใหม่ รูเพิร์ต กรินต์ และ เอ็มมา วอตสัน ถูกคัดเลือกให้เล่นเป็น แฮร์รี่ พอตเตอร์, รอน วีสลีย์ และ เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ ตามลำดับ[23] คริส โคลัมบัส ถูกจ้างให้กำกับภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากหนังสือเล่มแรก แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์[11] พร้อมกับ สตีฟ โคลฟส์ ที่ถูกเลือกให้มาเขียนบทภาพยนตร์[24]

การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 2000 ที่ ลิฟส์เดนฟิล์มสตูดิโอ และสิ้นสุดเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 2001[25][26] พร้อมกับทำงานขั้นตอนสุดท้ายในเดือนกรกฎาคม[27] มีการถ่ายทำที่ สถานีรถไฟกอร์ทแลนด์ ที่ นอร์ท ยอร์กเชียร์ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2000[28] วอร์เนอร์บราเธอร์ได้วางแผนที่จะปล่อยภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาในช่วงสุดสัปดาห์หลังวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ. 2001 ทำให้มีเวลาถ่ายทำสั้นเกินไป ส่งผลให้ผู้กำกับหลายคนถอนตัวออกจากการพิจารณา เนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา วอร์เนอร์บราเธอร์จึ่งได้เลื่อนวันฉายออกไป และ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ จึงได้ฉายเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2001 ที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐ[29]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ (2002) แก้

แฮร์รี, รอนและเฮอร์ไมโอนี ได้กลับมาเรียนที่ฮอกวอตส์ในปีที่สอง แต่ห้องความลับที่ซ่อนอยู่ภายในโรงเรียนได้ถูกเปิดออก ทำให้นักเรียนและภูตผีกลายเป็นหินโดยไม่ทราบสาเหตุ พวกเขาแก้ไขปริศนาของห้องและค้นพบทางเข้าเพื่อค้นหาและเอาชนะผู้ร้ายที่แท้จริง

โคลัมบัสและโคลฟส์ กลับมาทำหน้าที่เป็นผู้กำกับและผู้เขียนบทภาพยนตร์อีกครั้ง โดยดัดแปลงจากหนังสือเล่มที่สอง แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ[12][13] แค่สามวันหลังจากฉายภาพยนตร์เรื่องแรก งานสร้างเริ่มต้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 2001[30] ที่ เซอร์รีย์, อังกฤษ และถ่ายทำต่อเนื่องที่ ไอล์ออฟแมน และอีกหลายที่ในบริเตนใหญ่ หลายฉากในฮอกวอตส์มาจากลิฟส์เดนฟิล์มสตูดิโอ[31][32] การถ่ายทำสิ้นสุดเมื่อช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ. 2002[31] และใช้เวลาถึงต้นเดือนตุลาคมอยู่ในช่วงหลังการผลิต[33] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ ฉายรอบปฐมทัศน์ที่สหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2002 ก่อนจะฉายเป็นวงกว้างเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน นับเป็นเวลาหนึ่งปีหลัง ศิลาอาถรรพ์ ออกฉาย[34][35]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน (2004) แก้

เมื่อนักโทษลึกลับ ซิเรียส แบล็ก หลบหนีออกจากคุกอัซคาบันและเป้าหมายของเขาคือฮอกวอตส์ ที่ผู้คุมวิญญาณเฝ้าอยู่เพื่อปกป้องแฮร์รี่และเพื่อนของเขา แฮร์รี่เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอดีตของตัวเองและความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนักโทษที่หลบหนี

โคลัมบัส ผู้กำกับจากสองภาคที่แล้ว ตัดสินใจไม่กำกับภาคที่สาม[12] แต่ทำหน้าที่อำนวยการสร้างร่วมกับเฮย์แมนแทน[36] วอร์เนอร์บราเธอร์จึงดึงรายชื่อขึ้นมาสามคนเพื่อเป็นตัวแทนโคลัมบัส ซึ่งประกอบไปด้วย คัลลี เคาลี, เคนเน็ธ บรานัค (ผู้แสดงเป็น กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต ใน ห้องแห่งความลับ) และ อัลฟอนโซ กัวรอน ซึ่งกัวรอนเป็นคนที่ถูกเลือกให้เป็นผู้กำกับ[14] ตอนแรกกัวรอนรู้สึกกังวลมากเพราะว่าเขารับงานโดยที่ยังไม่เคยอ่านหนังสือหรือดูภาพยนตร์มาก่อน แต่ต่อมาได้เซ็นสัญญาหลังจากอ่านหนังสือและเข้าใจเรื่องราวทันที[37][36] ผู้แสดงเป็น อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ในสองภาคที่แล้ว ริชาร์ด แฮร์ริส ถูกแทนที่โดย ไมเคิล แกมบอน หลังจากแฮร์ริสเสียชีวิตเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2002[38][39] แกมบอนไม่สนใจว่าตัวเองจะลอกเลียนแฮร์ริส แต่ใช้การตีความของตัวเองรวมถึงการใช้สำเนียงไอริชเล็กน้อยสำหรับบทบาท[40] เขาถ่ายทำฉากของเขาเสร็จภายในสามสัปดาห์[41] แกรี โอลด์แมน ถูกเลือกให้แสดงเป็น ซิเรียส แบล็ก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003[42] การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2003[42] ที่ลิฟส์เดนฟิล์มสตูดิโอและการถ่ายทำสิ้นสุดเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2003[43] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2004 ที่นิวยอร์ก[44] จากนั้นฉายที่สหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม และในสหรัฐเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน[10] เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในภาพยนตร์ชุดที่ฉายในระบบไอแมกซ์[45]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี (2005) แก้

หลังควิดดิชเวิลด์คัพ แฮร์รี่กลับไปที่ฮอกวอตส์และพบว่าตัวเองเข้าร่วมแข่งขันในการประลองเวทไตรภาคี การแข่งขันที่ต้องทำสามภารกิจที่อันตราย แฮร์รี่ถูกบังคับให้แข่งขันกับอีกสามคนที่ถูกเลือกโดย ถ้วยอัคนี ได้แก่ เฟลอร์ เดอลากูร์, วิคเตอร์ ครัมและเซดริก ดิกกอรี่

เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2003 ผู้กำกับชาวอังกฤษ ไมค์ นิวเวลล์ ถูกเลือกให้กำกับภาคที่สี่หลัง ผู้กำกับ นักโทษแห่งอัซคาบัน อัลฟอนโซ กัวรอน ประกาศว่าเขาจะไม่กำกับภาคต่อให้ เฮย์แมนกลับมาอำนวยการสร้างและโคลฟส์กลับมาเขียนบทให้อีกครั้ง[15] การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2004[46] ฉากที่มีนักแสดงหลักนั้นเริ่มถ่ายทำเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2004 ที่ลิฟส์เดนฟิล์มสตูดิโอ[47][48] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2005 ที่ลอนดอน[49] และฉายปกติที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน[50] ถ้วยอัคนี เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในภาพยนตร์ชุดที่ได้เรต PG-13 จาก สมาคมภาพยนตร์แห่งอเมริกา (MPAA) เนื่องจาก "มีฉากความรุนแรงในจินตนาการและภาพที่น่ากลัว"[51] เรต M จาก คณะกรรมการจัดประเภทแห่งออสเตรเลีย (ACB),[52] และเรต 12A จาก คณะกรรมการจัดประเภทภาพยนตร์แห่งอังกฤษ (BBFC) สำหรับเนื้อหาของภาพยนตร์ที่มืดมน, ความรุนแรงในจินตนาการ, ภัยคุกคามและภาพที่น่ากลัว[53]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ (2007) แก้

 
เดวิด เยตส์ ผู้กำกับภาพยนตร์ทุกเรื่องในแฟรนไชส์ตั้งแต่ ภาคีนกฟีนิกซ์

แฮร์รี่กลับมาที่ฮอกวอตส์อีกครั้งในปีที่ห้าและพบว่าโลกของผู้วิเศษนั้นไม่เชื่อว่า ลอร์ดโวลเดอมอร์ นั้นกลับมา เขาจึงต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง จึงสร้าง กองกำลังลับ เพื่อต่อต้านการปกครองของ โดโลเรส อัมบริดจ์ และเรียนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดในทางปฏิบัติ สำหรับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง[54]

แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ยืนยันว่าจะกลับมารับบทแฮร์รี่ พอตเตอร์อีกครั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2005[55] พร้อมกับ รูเพิร์ต กรินต์, เอ็มมา วัตสัน, แมทธิว ลูอิส (เนวิลล์ ลองบัตท่อม) และ บอนนี ไรท์ (จินนี่ วีสลีย์) ก็ยืนยันว่าจะกลับมาเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2005[56][57][58][59] เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2006 เฮเลน แม็คครอรี ถูกคัดเลือกให้แสดงเป็น เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์[60] แต่ว่าเพราะเธอตั้งครรภ์จึงถูกคัดออก และเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2006 เฮเลน่า บอนแฮม คาร์เตอร์ ถูกคัดเลือกให้แสดงแทนบทดังกล่าว[61] เรล์ฟ ไฟนส์ กลับมารับบท ลอร์ดโวลเดอมอร์[62] เดวิด เยตส์ ผู้กำกับรายการโทรทัศน์ชาวอังกฤษ ถูกเลือกให้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ หลัง ไมค์ นิวเวลล์ ผู้กำกับ ถ้วยอัคนี, ฌอง-ปิแอร์ จูเนต์, กิเยร์โม เดล โตโร, แมททิว วอจ์น และ มิรา ไนเออร์ ปฏิเสธข้อเสนอ[63][64] เนื่องจาก สตีฟ โคลฟส์ ผู้เขียนบทให้กับภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์ สี่ภาคแรกนั้นไม่สะดวก ทำให้ ไมเคิล โกลเดนเบิร์ก รับทำหน้าที่เขียนบทแทน[19] การถ่ายทำเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2006 และสิ้นสุดเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม ค.ศ. 2006[65][66] การถ่ายทำหยุดพักชั่วคราวเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2006 เป็นเวลาสองเดือน เพื่อให้ แรดคลิฟฟ์ ได้สอบ A/S Levels และ วัตสันได้สอบ GCSE[67] ฉากภายนอกอาคารถ่ายทำที่อังกฤษและสกอตแลนด์ ส่วนฉากภายในอาคารถ่ายทำที่ลิฟส์เดนฟิล์มสตูดิโอ[68][69][70] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 2007 ที่โตเกียว, ญี่ปุ่น[71] และฉายรอบปฐมทัศน์ที่สหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 ที่ โอเดียนเลสเตอร์สแควร์ ใน ลอนดอน[72] ฉายทั่วไปที่สหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม[73] และที่สหรัฐเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม[74]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม (2009) แก้

โวลเดอมอร์และผู้เสพความตายของเขากำลังเพิ่มความหวาดกลัวต่อโลกเวทมนตร์และโลกมักเกิ้ล ดัมเบิลดอร์ได้เดินทางไปเชื้อเชิญให้ ฮอเรซ ซลักฮอร์น เพื่อนเก่าและอดีตอาจารย์สอนวิชาปรุงยาของโรงเรียนฮอกวอตส์กลับมาสอนอีกครั้ง แฮร์รี่ได้ครอบครองหนังสือเรียนที่มีคำอธิบายประกอบไว้อย่างแปลกประหลาด ซึ่งหนังสือดังกล่าวนั้นเคยเป็นของ "เจ้าชายเลือดผสม"[75]

เมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2007 เยตส์ประกาศว่าเขาจะกลับมารับตำแหน่งผู้กำกับอีกครั้ง[17] เช่นเดียวกับ โคลฟส์ ซึ่งจะกลับมาเขียนบทให้อีกครั้งหลังข้ามภาคห้าไป พร้อมกับ เฮย์แมนและเดวิด บาร์รอน กลับมาทำหน้าที่อำนวยการสร้าง[76] ตอนแรก วัตสัน ตัดสินใจว่าจะไม่กลับมาในภาคที่หก[77] แต่ว่าเปลี่ยนใจหลังวอร์เนอร์บราเธอส์เปลี่ยนแปลงตารางงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการสอบของเธอ[78] การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2007[79] และสิ้นสุดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2008[80] ถึงแม้ว่า แรดคลิฟฟ์, แกมบอน และ จิม บรอดเบนท์ (ซลักฮอร์น) จะเริ่มถ่ายทำช่วงท้ายเดือนกันยายน ค.ศ. 2007 นักแสดงคนอื่นก็เริ่มถ่ายทำช้าเช่นกัน ได้แก่ วัตสัน เริ่มถ่ายทำช่วงเดือนธันวาคม ค.ศ. 2007, แอลัน ริกแมน (เซเวอร์รัส สเนป) เริ่มเดือนมกราคม ค.ศ. 2008 และ บอนแฮม เริ่มกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008[81][82] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 ที่โตเกียว, ญี่ปุ่น[83] และฉายทั่วไปที่สหราชอาณจักรและสหรัฐเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม[84]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1 (2010) แก้

 
แดเนียล แรดคลิฟฟ์, เอ็มมา วอตสัน และ รูเพิร์ต กรินต์ ที่งานฉายรอบปฐมทัศน์โลกของ เครื่องรางยมทูต ภาค 2 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 ที่ ทราฟาลการ์สแควร์ ที่ ลอนดอน

แฮร์รี่, รอนและเฮอร์ไมโอนี่ ออกตามหาและทำลาย ฮอร์ครักซ์ สิ่งที่ทำให้ ลอร์ดโวลเดอมอร์ เป็นอมตะ ทั้งสามคนฝ่าอุปสรรคมากมายระหว่างเดินทาง ทั้งผู้เสพความตาย, นักต้อนและเครื่องรางยมทูตปริศนา จิตใจที่เชื่อมต่อกันระหว่างแฮร์รี่กับลอร์ดมืดนั้นก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ[85]

กำหนดการฉายเดิมสำหรับภาพยนตร์เดี่ยวนั้นคือ 13 มีนาคม ค.ศ. 2008 แต่ว่า วอร์เนอร์บราเธอส์ ประกาศแบ่งภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากหนังสือ เครื่องรางยมทูต เป็นสองตอนเพื่อให้ความยุติธรรมกับหนังสือและความเคารพต่อแฟน ๆ เยตส์ ผู้กำกับภาคที่ห้าและหกกลับมาทำหน้าที่เดิมและโคลฟส์ก็ยืนยันว่าทำหน้าที่เขียนบทเช่นเดิม[86] โรว์ลิงเป็นผู้อำนวยการสร้างครั้งแรกในภาพยนตร์ชุดนี้ร่วมกับเฮย์แมนและบาร์รอน อย่างไรก็ตามเยตส์บอกว่า การมีส่วนร่วมของเธอนั้นไม่ได้ทำให้กระบวนการสร้างภาพยนตร์เปลี่ยนแปลงไปแต่อย่างใด[87][88] งานก่อนการผลิตเริ่มต้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2009[89] ขณะที่การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 ที่ลิฟส์เดนสตูดิโอที่ ๆ ซึ่งภาพยนตร์หกภาคก่อนหน้านี้ถ่ายทำ นอกจากนี้ยังถ่ายทำที่ ไพน์วูดสตูดิโอ เป็นสตูดิโอถ่ายทำแห่งที่สองสำหรับภาพยนตร์ภาคที่เจ็ด[26][90] แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1 ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 ที่ เอมไพร์, เลสเตอร์สแควร์ ที่ ลอนดอน และฉายทั่วไปที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน[91]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2 (2011) แก้

แฮร์รรี่, รอนและเฮอร์ไมโอนี่ ออกตามหาและทำลายฮอร์ครักซ์ที่ยังหลงเหลืออยู่ ขณะที่แฮร์รี่เตรียมตัวต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างเขากับโวลเดอมอร์[92]

แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2 ถูกประกาศเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2008 ว่าจะเป็นตอนที่สองของภาพยนตร์ต่อจาก เครื่องรางยมทูต ภาค 1 เยตส์และโคลฟส์ทำหน้าที่กำกับและเขียนบทเช่นเดิม[86] โดยโคลฟส์เริ่มงานเขียนบทในภาคที่สองเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2009 หลังเขียนบทภาคแรกเสร็จ[93] เครื่องรางยมทูต ภาค 2 นั้นถ่ายทำร่วมกับ เครื่องรางยมทูต ภาค 1 ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 ถึง 12 มิถุนายน ค.ศ. 2010[94][26][95] โดยถือว่าเป็นการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเดียว[96] มีการยืนยันว่าจะมีการถ่ายซ่อมช่วงต้นฤดูหนาวปี ค.ศ. 2010 สำหรับฉากสุดท้ายและฉากส่งท้ายของภาพยนตร์ ซึ่งแต่เดิมนั้นจะถ่ายทำที่ สถานีรถไฟลอนดอนคิงส์ครอส แต่ถ่ายทำที่ลิฟส์เดนสตูดิโอแทนเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2010[97] เป็นการปิดฉากของภาพยนตร์ชุด แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ดำเนินการถ่ายทำมาตลอดสิบปี[98]

ภาพยนตร์ฉายรอบปฐมทัศน์โลกเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 ที่ ทราฟาลการ์สแควร์ ที่ ลอนดอน[99] ฉายรอบปฐมทัศน์ที่สหรัฐเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ ลินคอล์นเซ็นเตอร์ ที่ นิวยอร์ก[100] ถึงแม้ภาพยนตร์จะถ่ายทำในระบบสองมิติ แต่ก็มีการแปลงเป็นสามมิติในช่วงหลังการผลิตและฉายในระบบ RealD 3D และ IMAX 3D,[101] กลายเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในภาพยนตร์ชุดที่ฉายระบบนี้[102] ภาพยนตร์ฉายทั่วไปเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐ[99]

ภาพยนตร์ชุด สัตว์มหัศจรรย์ แก้

ภายนตร์ วันที่ฉาย ผู้กำกับ ผู้เขียนบท ผู้อำนวยการสร้าง
สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 (2016-11-18) เดวิด เยตส์[103] เจ. เค. โรว์ลิง[104] เดวิด เฮย์แมน, เจ. เค. โรว์ลิง, สตีฟ โคลฟส์และไลโอเนล วิแกรม[105][106]
สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 (2018-11-16)
สัตว์มหัศจรรย์: ความลับของดัมเบิลดอร์ 15 เมษายน ค.ศ. 2022 (2022-04-15) เจ. เค. โรว์ลิงกับสตีฟ โคลฟส์[106] เดวิด เฮย์แมน, เจ. เค. โรว์ลิง, สตีฟ โคลฟส์, ไลโอเนล วิแกรมและทิม ลูอิส[107]

สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ (2016) แก้

 
เจ. เค. โรว์ลิง ผู้เขียนเขียนบทและอำนวยการสร้างภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์ และอำนวยการสร้าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ สองภาคสุดท้าย

ในปี ค.ศ. 1926 นิวท์ สคามันเดอร์ เดินทางมาที่เมืองนิวยอร์กพร้อมกับกระเป๋าเวทมนตร์ซึ่งเต็มไปด้วยสัตว์วิเศษอันตราย แต่แล้วมีสัตว์วิเศษหนีออกจากกระเป๋าของเขา นิวท์จึงต้องต่อสู้เพื่อตามสัตว์วิเศษกลับมาและความหวาดกลัวที่เพิ่มขึ้นที่มาจากความรุนแรง, ความกลัวและความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ใช้เวทมนตร์กับโน-แมจ[108]

เมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2013 วอร์เนอร์บราเธอส์ ประกาศว่า เจ. เค. โรว์ลิง จะเขียนบทภาพยนตร์ที่มาจากหนังสือของเธอ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ และการผจญภัยของนักเขียน นิวท์ สคามันเดอร์ โดยเรื่องราวเกิดขึ้นก่อนการผจญภัยของ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เจ็ดสิบปี ภาพยนตร์นี้ยังเป็นการเขียนบทภาพยนตร์ครั้งแรกของเธอและวางแผนไว้เป็นภาคแรกของภาพยนตร์ชุดใหม่[109] อ้างอิงจากโรว์ลิ่งหลังจากที่วอร์เนอร์บราเธอส์แนะนำการดัดแปลง เธอเขียนร่างบทในสิบสองวัน เธอกล่าวว่า "มันไม่ใช่ร่างที่ยอดเยี่ยม แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงรูปทรงของมันว่าเป็นยังไง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้น"[110] มีการเปิดเผยว่าจะทำเป็นไตรภาค เมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2014 โดยภาคแรกดำเนินเรื่องที่เมืองนิวยอร์ก[111] เดวิด เฮย์แมน กลับมาทำหน้าที่อำนวยการสร้าง สตีฟ โคลฟส์ กลับมาทำหน้าที่เขียนบท[112][105] เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2015 เอดดี เรดเมน ถูกเลือกให้แสดงบทนำ นิวท์ สคามันเดอร์ นักสัตว์วิเศษวิทยาชื่อดังในโลกเวทมนตร์[113] นักแสดงอื่น ๆ ได้แก่ แคทเธอรีน วอเตอร์สตัน เป็น ทินา โกลด์สตีน, อลิสัน ซูดอล เป็น ควีนนี โกลด์สตีน, แดน ฟ็อกเลอร์ เป็น เจคอบ โควัลสกี, เอซรา มิลเลอร์ เป็น ครีเดนซ์ แบร์โบน, ซามันทา มอร์ตัน เป็น แมรี ลู แบร์โบน, เจนน์ เมอร์เรย์ เป็น แชสทิตี แบร์โบน, เฟธ วูด-แบลกโรฟ เป็น โมเดสตี แบร์โบน และ โคลิน ฟาร์เรล เป็น เพอร์ซิวัล เกรฟส์[114] การถ่ายทำเริ่มต้นเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2015 ที่ วอร์เนอร์บราเธอส์สตูดิโอ, ลิฟส์เดน[115] หลังจากนั้นสองเดือน ก็ย้ายไปถ่ายทำที่ เซนต์ จอร์จส ฮอลล์ ที่ ลิเวอร์พูล ซึ่งถูกแปลงสภาพเป็นเมืองนิวยอร์กในยุคปี ค.ศ. 1920[116] สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ ฉายทั่วโลกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016[117]

สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ (2018) แก้

หลายเดือนผ่านไปหลังเหตุการณ์ใน สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ได้หลบหนีจากที่คุมขังและเริ่มรวบรวมเหล่าสาวกเพื่อทำตามแผนการของเขา ก็คือการยกสถานะของผู้ใช้เวทมนตร์ให้อยู่เหนือมนุษย์ที่ไร้พลังเวทมนตร์ ดัมเบิลดอร์ ได้ขอความช่วยเหลือจาก นิวท์ ศิษย์เก่าของเขาเพื่อหยุดยั้ง กรินเดลวัลด์[118]

ภาพยนตร์ประกาศเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ. 2014 เป็นภาคที่สองในภาพยนตร์ชุด[111] เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2016 เปิดเผยว่า เดวิด เยตส์ จะกลับมาทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ และ เจ. เค. โรว์ลิง จะเป็นผู้เขียนบทและร่วมอำนวยการสร้าง และ เอดดี เรดเมน กลับมารับบท นิวท์ สคามันเดอร์ ในทุกภาคของภาพยนตร์ชุด[119] เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2016 ยืนยันว่า จอห์นนี เดปป์ จะแสดงในภาคต่อ โดยแสดงบทเดิมก็คือ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ จากภาคแรก[120] ต่อมาในเดือนเดียวกัน มีประกาศว่า อัลบัส ดัมเบิลดอร์ จะปรากฏตัวในภาคต่อ ๆ ไป ในอนาคต โดยใช้นักแสดงที่อายุน้อยกว่า[121] เมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2017 มีการยืนยันว่า จู๊ด ลอว์ รับบทดังกล่าว[122] ภาคสองนั้นดำเนินเรื่องในเมืองนิวยอร์ก, สหราชอาณาจักรและปารีส[123] การถ่ายทำเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 ที่ วอร์เนอร์บราเธอส์สตูดิโอ, ลิฟส์เดน[118] และสิ้นสุดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2017[124] สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ ฉายเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018[125]

สัตว์มหัศจรรย์: ความลับของดัมเบิลดอร์ (2022) แก้

หลายปีหลังเหตุการณ์ใน อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ ภาพยนตร์จะดำเนินเรื่องบางส่วนใน รีโอเดจาเนโร, ประเทศบราซิล และบางส่วนใน เบอร์ลิน, ประเทศเยอรมนี และนำไปสู่การมีส่วนร่วมของโลกเวทมนตร์ใน สงครามโลกครั้งที่สอง[126][127]

ภาพยนตร์ภาคที่สามของแฟรนไชส์จะได้เห็นการกลับมาของนิวต์ สคามันเดอร์ และคณะ เดินทางผจญภัยในโลกเวทมนตร์อีกครั้ง และพยายามเอาชนะเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ จอมบ้าคลั่ง แต่เดิมภาพยนตร์มีกำหนดฉายวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 แต่ว่าถูกแทนที่ด้วยภาพยนตร์เรื่อง ดูน[128] ซึ่งดัดแปลงจากนวนิยายของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต ในชื่อเดียวกัน[106][129] แต่เดิมนั้นมีกำหนดการถ่ายทำในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2019 แต่ว่าถูกเลื่อนออกไปช่วงปลายปี เพื่อให้เวลาในการขัดเกลาบทภาพยนตร์และวางแผนสำหรับอนาคตของภาพยนตร์ชุด[130] สัตว์มหัศจรรย์ 3 กำหนดฉายวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021[131] เมื่อปี ค.ศ. 2018 บน ทวิตเตอร์, เจ. เค. โรว์ลิง ให้คำสัญญาว่าภาคที่สามจะตอบคำถามที่ยังเป็นปริศนาในสองภาคแรก เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2019, แดน ฟูกเลอร์ อ้างว่าการถ่ายทำภาพยนตร์ภาคที่สามนั้นจะเริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020[132] เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2019 มีการประกาศว่าบทภาพยนตร์จะถูกเขียนโดยเจ. เค. โรว์ลิง และ สตีฟ โคลฟส์ โดยโคลฟส์กลับมาเขียนบทให้อีกครั้งหลังไม่ได้เขียนบทให้ในสองภาคแรก[133] ภาพยนตร์ภาคที่สามจะดำเนินเรื่องในช่วงปี 1930 โดยมี รีโอเดจาเนโร, บราซิล เป็นสถานที่หลัก[134] เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2020 วันที่ภาพยนตร์เริ่มถ่ายทำ เกิดการระบาดทั่วของโควิด-19 ทำให้วอร์เนอร์บราเธอร์สเลื่อนการถ่ายทำออกไปก่อน[135] เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2020 มีการยืนยันว่าการถ่ายทำจะเริ่มต้นในเดือนกันยายน[136] เมื่อวันที่ 20 กันยายน ค.ศ. 2020 เอดดี เรดเมน ยืนยันว่าการถ่ายทำจะใช้เวลาสองสัปดาห์ โดยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อให้นักแสดงและทีมงานปลอดภัยจากโควิด-19[137] จอห์นนี เดปป์ ประกาศเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 ว่าเขาออกจากภาพยนตร์ตามคำขอของวอร์เนอร์บราเธอร์สตูดิโอส์ นี่เป็นผลมาจากการที่เดปป์แพ้คดีหมิ่นประมาทในสหราชอาณาจักร[138] เมื่อวันที่ 25 พฤศจิยน ค.ศ. 2020 วอร์เนอร์บราเธอร์ส ประกาศว่า แมส มีเกิลเซิน จะแทนที่เดปป์ในบทบาทของกรินเดลวัลด์[139] เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 การถ่ายทำในสหราชอาณาจักรถูกระงับไว้ หลังพบทีมงานมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก[140][141][142] ผู้แต่งเพลงประกอบ เจมส์ นิวตัน ฮาวเวิร์ด ยืนยันว่าในเดือนเดียวกันว่าการถ่ายทำสิ้นสุดแล้ว[143] ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2021 ภาพยนตร์ถูกเลื่อนฉายออกไปอีกสามเดือนเป็นวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 2022 พร้อมกับประกาศชื่อเรื่องของภาพยนตร์[144]

การตอบรับ แก้

บ็อกซ์ออฟฟิศ แก้

ภาพยนตร์ วันฉาย ทำเงินในบ็อกซ์ออฟฟิศ อันดับสูงสุด ทุนสร้าง อ้างอิง
สหรัฐและแคนาดา ภูมิภาคอื่น ทั่วโลก สหรัฐและแคนาดา[145] ทั่วโลก[146]
ภาพยนตร์ แฮร์รี่ พอตเตอร์
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2001 (2001-11-16) $318,886,962 $703,403,056 $1,022,290,019 78 47 $125 ล้าน [147]
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับห้องแห่งความลับ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2002 (2002-11-15) $262,641,637 $617,152,229 $879,793,867 116 70 $100 ล้าน [148]
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน 4 มิถุนายน ค.ศ. 2004 (2004-06-04) $250,105,651 $547,385,621 $797,491,273 133 92 $130 ล้าน [149]
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2005 (2005-11-18) $290,469,928 $606,260,335 $896,730,264 103 65 $150 ล้าน [150]
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 (2007-07-11) $292,382,727 $649,818,982 $942,201,710 98 58 $150 ล้าน [151]
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 (2009-07-15) $302,334,374 $632,148,664 $934,483,039 90 60 $250 ล้าน [152]
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 (2010-11-19) $296,374,621 $680,695,761 $977,070,383 93 50 $125 ล้าน [153]
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 (2011-07-15) $381,447,587 $960,912,354 $1,342,359,942 43 14 [154]
ภาพยนตร์ สัตว์มหัศจรรย์
สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 (2016-11-18) $234,037,575 $580,006,426 $814,044,001 152 88 $175 ล้าน [155]
สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 (2018-11-16) $159,555,901 $495,300,000 $654,855,901 352 146 $200 ล้าน [156]
สัตว์มหัศจรรย์: ความลับของดัมเบิลดอร์ 15 เมษายน ค.ศ. 2022 (2022-04-15) $95,850,844 $309,310,490 $405,161,334 813 330 $200 ล้าน [157]
รวม $2,885,518,716 $6,777,892,748 $9,663,411,464 5 4 $1,730,000,000 [158]
[159]

อ้างอิง แก้

  1. "New logo marks an exciting year ahead for the Wizarding World". Pottermore. 12 March 2018. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 March 2018. สืบค้นเมื่อ 14 March 2018.
  2. Outlaw, Kofi (13 March 2018). "'Fantastic Beasts 2' Trailer Officially Establishes Harry Potter 'Wizarding World' Film Universe". Comic Book. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 March 2018. สืบค้นเมื่อ 14 March 2018.
  3. Gardner, Kelvyn (22 November 2016). "Fantastic Beasts release shows the magic in brand reinvention". Campaign. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 June 2017. สืบค้นเมื่อ 4 July 2017.
  4. "NBCUniversal Acquires Rights To J. K. Rowling's 'Wizarding World' Franchise" (Press release). Comcast Corporation. 8 August 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 October 2017. สืบค้นเมื่อ 20 October 2017.
  5. "'Harry Potter' Live-Action TV Series in Early Development at HBO Max (Exclusive)". The Hollywood Reporter. 25 January 2021. สืบค้นเมื่อ 7 April 2021.
  6. "Max Orders First Ever "Harry Potter" Television Series". Pressroom (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2023-04-12.
  7. Weprin, Alex (2024-02-23). "Harry Potter TV Series Aiming for 2026 Debut on Max". The Hollywood Reporter (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2024-03-18.
  8. Gunelius, Susan (2008). Harry Potter: The Story of a Global Business Phenomenon. United Kingdom: Palgrave Macmillan. pp. 24, 65. ISBN 978-0-230-20323-5. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018.
  9. "Box Office History for Harry Potter Movies". The Numbers. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 June 2018. สืบค้นเมื่อ 12 June 2018.
  10. 10.0 10.1 "J.K. Rowling And Her Magical Cash Cow". Forbes. 3 June 2004. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 November 2013. สืบค้นเมื่อ 20 October 2017.
  11. 11.0 11.1 Linder, Bran (28 March 2000). "Chris Columbus to Direct Harry Potter". IGN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 April 2016. สืบค้นเมื่อ 8 July 2007.
  12. 12.0 12.1 12.2 "Chris Columbus COS: full interview". CBBC Newsround. 13 November 2002. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 January 2007. สืบค้นเมื่อ 10 October 2007.
  13. 13.0 13.1 13.2 Martin, Denise (17 June 2009). "'Harry Potter' countdown: Steve Kloves on a 'haunting moment' in 'Half-Blood Prince'". Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 January 2016. สืบค้นเมื่อ 14 January 2016.
  14. 14.0 14.1 Susman, Gary (22 July 2002). "Harry Potter gets a new director". Entertainment Weekly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 November 2015. สืบค้นเมื่อ 10 October 2007.
  15. 15.0 15.1 Susman, Gary (11 August 2003). "Studio confirms Mike Newell will direct Potter IV". Entertainment Weekly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 October 2016. สืบค้นเมื่อ 12 October 2012.
  16. "David Yates confirms 'Order of the Phoenix' role". HPANA (source: This is Wiltshire). 29 November 2004. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 July 2011. สืบค้นเมื่อ 4 March 2011.
  17. 17.0 17.1 "Exclusive Interview: David Yates for "Harry Potter and the Half-Blood Prince"". Dark Horizons. 13 July 2009. สืบค้นเมื่อ 4 March 2011.
  18. Boucher, Geoff (13 March 2008). "Final 'Harry Potter' book will be split into two movies". Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 February 2011. สืบค้นเมื่อ 4 March 2011.
  19. 19.0 19.1 Fienberg, Daniel (16 November 2005). "Screenwriter will sit out one Potter". Milwaukee Journal Sentinel. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 January 2008. สืบค้นเมื่อ 3 March 2008.
  20. "Books: Cover Stories At the Frankfurt Book Fair". The Independent. 9 October 1998. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 June 2017. สืบค้นเมื่อ 9 July 2017.
  21. Jensen, Jeff; Fierman, Daniel (14 September 2001). "Harry Potter Comes Alive". Entertainment Weekly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 May 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  22. "Harry Potter and the Philosopher's Stone". The Guardian. UK. 16 November 2001. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 March 2007. สืบค้นเมื่อ 26 May 2007.
  23. "Daniel Radcliffe, Rupert Grint and Emma Watson Bring Harry, Ron and Hermione to Life for Warner Bros. Pictures Harry Potter and the Sorcerer's Stone". Warner Bros. 21 August 2000. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 April 2007. สืบค้นเมื่อ 26 May 2007.
  24. Sragow, Michael (24 February 2000). "A Wizard of Hollywood". Salon.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 July 2007. สืบค้นเมื่อ 8 July 2007.
  25. "Harry Potter and the Sorcerer's Stone misc notes". Turner Classic Movies. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 January 2016. สืบค้นเมื่อ 21 October 2015.
  26. 26.0 26.1 26.2 "Harry Potter at Leavesden". WB Studio Tour. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 February 2012. สืบค้นเมื่อ 16 September 2012.
  27. Schmitz, Greg Dean. "Harry Potter and the Sorcerer's Stone (2001)". Yahoo! Movies. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 December 2007. สืบค้นเมื่อ 9 August 2008.
  28. Linder, Brian (2 October 2000). "Potter Pics: Hagrid, Hogsmeade Station, and the Hogwarts Express". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 August 2011. สืบค้นเมื่อ 9 July 2007.
  29. Linder, Brian (17 May 2000). "Bewitched Warner Bros. Delays Potter". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 December 2008. สืบค้นเมื่อ 8 July 2007.
  30. "Harry Potter Filming Locations". USA Today. 18 November 2001. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 July 2017. สืบค้นเมื่อ 23 September 2012.
  31. 31.0 31.1 "Harry Potter and the Chamber of Secrets – Greg's Preview. Yahoo! Movies". Yahoo!. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 June 2007.
  32. "Harry Potter Filming Locations". Gloucestershire on Screen. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 March 2012.
  33. "Potter film should be finished next week". CBBC Newsround. 4 October 2002. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 March 2014. สืบค้นเมื่อ 16 October 2012.
  34. "Warner Bros. Online To Webcast World Premiere Of "Harry Potter And The Chamber Of Secrets" Live From London". Warner Bros. Pictures. 31 October 2002. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 July 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  35. "Harry Potter Movies at the Box Office". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 June 2017. สืบค้นเมื่อ 4 July 2017.
  36. 36.0 36.1 Dickey, Lucinda. "The creators of Harry Potter break out of character to discuss The Prisoner of Azkaban". Science Fiction Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 June 2004. สืบค้นเมื่อ 10 October 2007.
  37. "Alfonso Cuaron: the man behind the magic". CBBC Newsround. 24 May 2004. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 November 2007. สืบค้นเมื่อ 10 October 2007.
  38. Jensen, Jeff (28 October 2005). "Potter movie producer reflects on the franchise". Entertainment Weekly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 November 2015. สืบค้นเมื่อ 4 November 2005.
  39. "Actor Richard Harris dies". BBC News. 25 October 2002. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 December 2002. สืบค้นเมื่อ 10 October 2007.
  40. Vaughan, Johnny; Lenny Henry (2004). Head to Shrunken Head (DVD). Warner Bros. Pictures.
  41. Synnot, Siobhan (30 May 2004). "Olivier, Dumbledore and two broken ribs". The Scotsman. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 May 2007. สืบค้นเมื่อ 30 November 2007.
  42. 42.0 42.1 "Dumbledore and Sirius cast for Azkaban". CBBC Newsround. 21 February 2003. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 August 2007. สืบค้นเมื่อ 10 October 2007.
  43. Schmitz, Greg Dean. "Harry Potter and the Prisoner of Azkaban (2004)". Yahoo! Movies. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 July 2007. สืบค้นเมื่อ 10 October 2007.
  44. "Potter star mobbed at US premiere". BBC News. 24 May 2004. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 October 2013. สืบค้นเมื่อ 17 October 2012.
  45. "Potter 3 will be screened on IMAX". CBBC Newsround. 19 December 2003. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 April 2015. สืบค้นเมื่อ 17 October 2012.
  46. "Harry Potter at Leavesden". Warner Bros. Pictures. 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 July 2014. สืบค้นเมื่อ 13 October 2012.
  47. Silverman, Stephen (5 August 2004). "Ralph Fiennes Ready to Scare Harry Potter". People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 July 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  48. Murray, Rebecca (25 June 2004). ""Harry Potter and the Goblet of Fire" Production News". About.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 September 2005. สืบค้นเมื่อ 12 October 2012.
  49. "'Harry Potter' cast attends London premiere". USA Today. 6 November 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 September 2005. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  50. "Potter film to get Imax release". BBC News. 3 May 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 July 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  51. "Potter Grows Up and 'Goblet of Fire' is PG-13". ComingSoon.net. 9 August 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 July 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  52. "Harry Potter (4) and the Goblet of Fire". Raising Children Network. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 February 2016. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  53. "How Goblet of Fire got its 12A rating". CBBC Newsround. 19 October 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 April 2016. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  54. "Official 'Harry Potter and the Order of the Phoenix' Logo". The Leaky Cauldron. 5 October 2006. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  55. Puig, Claudia (3 May 2005). "There's no looking back". USA Today. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 June 2011. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  56. "NR chats to GOF's Rupert Grint". CBBC Newsround. 16 November 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 June 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  57. "NR chats to GOF's Emma Watson". CBBC Newsround. 16 November 2005. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 September 2016. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  58. "Matthew Lewis: Online Q&A session". MuggleNet. 25 August 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2006. สืบค้นเมื่อ 23 October 2006.
  59. Linn, Laura; Morreale, Marie (26 November 2005). "Bonnie Wright as Ginny Weasley in Harry Potter and the Goblet of Fire". Scholastic News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 July 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  60. "Luna Lovegood role has been cast". CBBC Newsround. 2 February 2006. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 February 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  61. "Potter exclusive: New Bellatrix". CBBC Newsround. 25 May 2006. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 December 2016. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  62. "Ralph Fiennes on Lord Voldemort". ComingSoon.net. 9 August 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 October 2006. สืบค้นเมื่อ 23 October 2006.
  63. Daly, Steve (13 July 2007). "On-set secrets from the darkest Harry movie yet". Entertainment Weekly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 October 2016. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  64. Raphael, Amy (24 June 2007). "How I raised Potter's bar". The Observer. London. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 December 2013. สืบค้นเมื่อ 26 June 2007.
  65. "Order of the Phoenix Movie Rehearsals Starting". The Leaky Cauldron. 27 January 2006. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 July 2007. สืบค้นเมื่อ 30 December 2006.
  66. "2006: The Year in Harry Potter Film". The Leaky Cauldron. 29 December 2006. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 September 2007. สืบค้นเมื่อ 30 December 2006.
  67. "Exclusive: Order of the Phoenix News". Empire. 14 March 2006. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 January 2016. สืบค้นเมื่อ 2 August 2007.
  68. "Yates comments on OOTP hold-up". MuggleNet. 27 May 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 November 2007. สืบค้นเมื่อ 23 October 2006.
  69. Kern, Chris. "Harry Potter's Britain". Fandango. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 July 2007. สืบค้นเมื่อ 8 March 2007.
  70. "New Privet Drive Set Photos from OotP". The Leaky Cauldron. 4 July 2006. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 July 2007. สืบค้นเมื่อ 24 February 2007.
  71. "Japanese debut for Potter movie". CBBC Newsround. 22 May 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 July 2007. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  72. "Fans brave rain for Potter stars". CBBC Newsround. 3 July 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 July 2016. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  73. "Change to UK "OotP" Date: Now 12 July". The Leaky Cauldron. 11 May 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 March 2016. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  74. "Confirmed: Change to US "Order of the Phoenix" Release Date, Now 11 July". The Leaky Cauldron. 29 May 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 June 2016. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  75. "Description & first official picture from 'Half-Blood Prince'". HPANA. 14 December 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 March 2016. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  76. "Casting Is Complete on "Harry Potter and the Half-Blood Prince"" (Press release). Warner Bros. Pictures. PR Newswire. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 April 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  77. Stax (26 September 2006). "Hermione Gets Cold Feet". IGN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 March 2016. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  78. Ditzian, Eric (16 November 2010). "Emma Watson Recalls Nearly Quitting 'Harry Potter'". MTV News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 February 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  79. ""Half-Blood Prince" Filming News: Threat of Strike to Affect Harry Potter Six?". The Leaky Cauldron. 19 September 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 March 2016. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  80. "Filming for "Half-Blood Prince" Completed". The Leaky Cauldron. 22 May 2008. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2016. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  81. ""Half-Blood Prince" Filming Updates with Emma Watson, Alan Rickman News". The Leaky Cauldron. 28 November 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 March 2016. สืบค้นเมื่อ 27 January 2008.
  82. Duke, Andy; Stephanie Sanchez (26 November 2007). "Interviews: Depp, Burton, Carter and Rickman Slash Through Sweeney Todd!". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 February 2008. สืบค้นเมื่อ 27 January 2008.
  83. Otagaki, Yumi (6 July 2009). "Tokyo premiere launches return of 'Harry Potter'". Reuters. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 July 2017. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
  84. "Official Release Dates". Warner Bros. Pictures. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 January 2010. สืบค้นเมื่อ 7 November 2010.
  85. "Harry Potter and the Deathly Hallows Trailer Online Monday". ComingSoon.net. 23 June 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 June 2010. สืบค้นเมื่อ 5 July 2017.
  86. 86.0 86.1 "Warner Bros. Plans Two-Part Film Adaptation of "Harry Potter and the Deathly Hallows" to Be Directed by David Yates" (Press release). Warner Bros. Pictures. Business Wire. 13 March 2008. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 June 2017. สืบค้นเมื่อ 6 September 2012. ...expand the screen adaptation of Harry Potter and the Deathly Hallows and release the film in two parts.
  87. "David Yates discusses 'Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 2'". Manila Bulletin Publishing Corporation. 14 June 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 September 2012. สืบค้นเมื่อ 20 June 2011.
  88. "Warner Bros. Pictures Worldwide Satellite Trailer Debut: Harry Potter and the Deathly Hallows Part 1" (Press release). Warner Bros. Pictures. Business Wire. 22 September 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 December 2010. สืบค้นเมื่อ 9 February 2011. produced by David Heyman, David Barron and J.K. Rowling
  89. "Emma reveals DH test shooting begins this Monday". MuggleNet. 20 January 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 April 2010. สืบค้นเมื่อ 14 February 2009.
  90. "Harry Potter Movies Being Filmed at Leavesden and Pinewood Studios". The Leaky Cauldron. 25 March 2009. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 March 2009. สืบค้นเมื่อ 26 March 2009.
  91. ""Deathly Hallows: Part 1" US and UK Premiere Dates and Locations Announced". The Leaky Cauldron. 3 November 2010. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 November 2010. สืบค้นเมื่อ 24 January 2011.
  92. "Harry Potter and the Deathly Hallows (Part 2): Synopsis". HBO. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 January 2017. สืบค้นเมื่อ 6 July 2017.
  93. Helen O'Hara (April 2009). "Hallowed Ground". Empire: 100–104.
  94. Malvern, Jack (14 March 2008). "Longer spell at box office for Harry Potter". The Times. UK.
  95. Schwartz, Terri (14 June 2010). "'Harry Potter' Filming Wraps – For The Last Time". MTV News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 September 2011. สืบค้นเมื่อ 6 December 2012.
  96. Richards, Olly (14 March 2008). "Potter Producer Talks Deathly Hallows". Empire. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 July 2011. สืบค้นเมื่อ 14 March 2008.
  97. Goldman, Eric (21 December 2012). "Harry Potter Reshoots Underway". IGN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 September 2012. สืบค้นเมื่อ 6 December 2012.
  98. Ellwood, Gregory (11 November 2010). "Daniel Radcliffe and Emma Watson confirm 'Harry Potter and the Deathly Hallows, Pt 2' ending reshoots". Hitfix. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 March 2016. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
  99. 99.0 99.1 SchwartPhillips, jevon (1 March 2011). "World premiere for Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 2 set for July 7". Los Angeles Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 October 2013. สืบค้นเมื่อ 2 March 2011.
  100. Derschowitz, Jessica (12 July 2011). ""Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2" premieres in New York". CBS News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 September 2015. สืบค้นเมื่อ 6 December 2012.
  101. Vlessing, Etan (13 July 2011). "'Harry Potter' Film To Bow On Record 423 Global Imax Screens". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 September 2011. สืบค้นเมื่อ 3 November 2012.
  102. Tyler, Josh (29 May 2012). "Harry Potter Fans Choosing 2D Over 3D For Deathly Hallows 2". Cinema Blend. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 May 2016. สืบค้นเมื่อ 7 July 2017.
  103. Armitage, Hugh; Fletcher, Rosie (16 November 2018). "Fantastic Beasts 2, 3, 4 and 5 release date, cast, plot and all you need to know". Digital Spy.
  104. Tartagloine, Nancy (12 September 2013). "Warner Bros, J.K. Rowling Team For New 'Harry Potter'-Inspired Film Series". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 September 2013. สืบค้นเมื่อ 12 September 2013.
  105. 105.0 105.1 Barraclough, Leo (15 December 2015). "'Fantastic Beasts and Where to Find Them' First Trailer Arrives". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 June 2018. สืบค้นเมื่อ 18 June 2018.
  106. 106.0 106.1 106.2 Barraclough, Leo (3 August 2016). "'Fantastic Beasts' Sequel in the Works With J.K. Rowling and David Yates, Release Date Set". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 November 2016. สืบค้นเมื่อ 9 November 2016.
  107. D'Alessandro, Anthony (18 January 2019). "'Fantastic Beasts 3' Pushes Production Start To Late Fall".
  108. Hibberd, James (4 November 2015). "'Fantastic Beasts' plot unveiled: Here's what the movie's about". Entertainment Weekly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 February 2017. สืบค้นเมื่อ 5 July 2017.
  109. "Warner Bros. Announces Expanded Creative Partnership with J.K. Rowling". Business Wire. 12 September 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 September 2013. สืบค้นเมื่อ 12 September 2013.
  110. "J.K. Rowling wrote the 'Fantastic Beasts' rough draft in twelve days, wants to be an extra in drag". Hypable. 7 February 2014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 February 2014. สืบค้นเมื่อ 8 February 2014.
  111. 111.0 111.1 Barnes, Brooks (29 March 2014). "Warner's C.E.O. Is Bullish on the Big Screen". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 March 2014. สืบค้นเมื่อ 29 March 2014.
  112. Smith, Grady (2 October 2013). "'Harry Potter' producer David Heyman talks 'Fantastic Beasts' spinoff". Entertainment Weekly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 June 2018. สืบค้นเมื่อ 18 June 2018.
  113. Graeme McMillan (1 June 2015). "Eddie Redmayne Officially Cast in 'Harry Potter' Prequel 'Fantastic Beasts and Where to Find Them'". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 June 2015. สืบค้นเมื่อ 2 June 2015.
  114. Osorio, Paulette (17 August 2015). "Filming Gets Underway on 'Fantastic Beasts and Where to Find Them'" (Press release). Warner Bros. Pictures. Business Wire. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 October 2016.
  115. "David Yates-Helmed 'Fantastic Beast' Filming Starts Up". Deadline Hollywood. 17 August 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 August 2015. สืบค้นเมื่อ 17 August 2015.
  116. Miles, Tina (20 October 2015). "Fake snow on Harry Potter prequelset as Liverpool filming makes progress". Liverpool Echo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 October 2015. สืบค้นเมื่อ 21 October 2015.
  117. "Harry Potter Spinoff 'Fantastic Beasts' to Hit Theaters Nov. 18, 2016". Variety. 13 May 2014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 May 2014. สืบค้นเมื่อ 19 May 2014.
  118. 118.0 118.1 Tartaglione, Nancy (3 July 2017). "'Fantastic Beasts' Sequel Reveals Plot Details, Adds Cast As Shooting Starts". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 July 2017. สืบค้นเมื่อ 3 July 2017.
  119. McNary, Dave; Khatchatourian, Maane (13 October 2016). "'Fantastic Beasts and Where to Find Them' to Be Five-Film Franchise". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 October 2016. สืบค้นเมื่อ 2 November 2016.
  120. Chitwood, Adam (8 November 2016). "'Fantastic Beasts 2': Johnny Depp Confirmed as Grindelwald; Setting Revealed". Collider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 November 2016. สืบค้นเมื่อ 9 November 2016.
  121. "Johnny Depp is Grindelwald and More on Fantastic Beasts". ComingSoon.net. 8 November 2016. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 November 2016.
  122. "Jude Law cast as Albus Dumbledore in next Fantastic Beasts film". Pottermore. 12 April 2017. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 April 2017. สืบค้นเมื่อ 12 April 2017.
  123. Wood, Matt (19 November 2016). "Fantastic Beasts and Where to Find Them 2 takes place in Paris". Cinema Blend. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 November 2016. สืบค้นเมื่อ 19 November 2016.
  124. Chitwood, Adam (20 December 2017). "'Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald' Wraps Filming". Collider. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 December 2017. สืบค้นเมื่อ 20 December 2017.
  125. Barraclough, Leo (3 August 2016). "'Fantastic Beasts' Sequel in the Works With J.K. Rowling and David Yates, Release Date Set". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 November 2016. สืบค้นเมื่อ 2 November 2016.
  126. Fogler, Dan. Dan Fogler Teases Hagrid's Appearance In Fantastic Beasts 3 🦉 | The Movie Dweeb. YouTube. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 October 2020.
  127. Alex, Thomas (7 February 2019). "Exclusive Interview: Dan Fogler on the return of The Walking Dead, Brooklyn Gladiator and Fantastic Beasts 3". HeyUGuys. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 September 2020. สืบค้นเมื่อ 29 September 2020.
  128. Whitten, Sarah (19 February 2019). "'Dune' takes 2020 release date from 'Fantastic Beasts 3,' signaling trouble for the 'Harry Potter' film". CNBC. สืบค้นเมื่อ 12 August 2019.
  129. Lieberman, David (15 October 2014). "Warner Bros' Kevin Tsujihara Outlines Major Film & TV Push Amid Cost Cuts: Time Warner Investor Day". Deadline Hollywood. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 September 2016. สืบค้นเมื่อ 9 November 2016.
  130. D'Alessandro, Anthony (18 January 2019). "'Fantastic Beasts 3' Pushes Production Start To Late Fall". Deadline Hollywood. สืบค้นเมื่อ 18 January 2019.
  131. Welk, Brian (29 April 2019). "Third 'Fantastic Beasts' Movie to Open November 2021". The Wrap. สืบค้นเมื่อ 29 April 2019.
  132. Marc, Christopher (October 20, 2019). "Dan Fogler Says 'Fantastic Beasts 3' Begins Filming In February". HNEntertainment. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-10-22. สืบค้นเมื่อ October 22, 2019.
  133. "The third Fantastic Beasts film confirms new details including cast members and location". WizardingWorld. November 4, 2019. สืบค้นเมื่อ November 8, 2019.
  134. Khatchatourian, Maane; McNary, Dave (13 ตุลาคม 2016). "'Fantastic Beasts and Where to Find Them' to Be Five-Film Franchise". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 ตุลาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2016.
  135. Kroll, Justin (2020-03-16). "'Fantastic Beasts 3' Production Postponed Due to Coronavirus Pandemic". Variety (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  136. "'Fantastic Beasts 3' Expected to Resume Filming Sometime in September". Movieweb. 20 August 2020.
  137. Webb, Katherine (20 September 2020). "Eddie Redmayne Confirms Fantastic Beasts 3 Filming Has Resumed And Describes The 'New Normal' On Set". CinemaBlend. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 September 2020. สืบค้นเมื่อ 23 September 2020.
  138. Reichert, Corinne. "Johnny Depp leaves Fantastic Beasts films on Warner Bros' request" (ภาษาอังกฤษ). CNET. สืบค้นเมื่อ 6 November 2020.
  139. Sharf, Zack (25 November 2020). "Mads Mikkelsen Replacing Johnny Depp as Grindelwald in 'Fantastic Beasts 3'". IndieWire (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 25 November 2020.
  140. Grater, Tom (4 February 2021). "'Fantastic Beasts 3' Pauses UK Production After Positive Covid Test". Deadline (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 4 February 2021.
  141. "'Fantastic Beasts 3' Stops Shoot After Positive COVID Test". The Hollywood Reporter (ภาษาอังกฤษ). 4 February 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 February 2021. สืบค้นเมื่อ 4 February 2021.
  142. Ramachandran, Naman (4 February 2021). "Warner Bros. Suspends 'Fantastic Beasts 3' Shoot After Crew Member Tests Positive For COVID-19". Variety (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 February 2021. สืบค้นเมื่อ 4 February 2021.
  143. Grober, Matt (26 February 2021). "Composer James Newton Howard on Penning 'News of the World's "Broken" Western Score & Returning to Disney Animation with 'Raya and the Last Dragon". Deadline Hollywood.
  144. Crouch, Aaron (22 September 2021). ""Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore' Sets New 2022 Release Date". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 September 2021. สืบค้นเมื่อ 23 September 2021.
  145. "Top Lifetime Grosses: Domestic". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ 13 April 2022.
  146. "Top Lifetime Grosses: Worldwide". Box Office Mojo. สืบค้นเมื่อ 13 April 2022.
  147. "Harry Potter and the Sorcerer's Stone (2001)". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 April 2022. สืบค้นเมื่อ 13 April 2022.
  148. "Harry Potter and the Chamber of Secrets (2002)". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 April 2022. สืบค้นเมื่อ 13 April 2022.
  149. "Harry Potter and the Prisoner of Azkaban (2004)". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 April 2022. สืบค้นเมื่อ 13 April 2022.
  150. "Harry Potter and the Goblet of Fire (2005)". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 April 2022. สืบค้นเมื่อ 13 April 2022.
  151. "Harry Potter and the Order of the Phoenix (2007)". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 April 2022. สืบค้นเมื่อ 13 April 2022.
  152. "Harry Potter and the Half-Blood Prince (2009)". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 April 2022. สืบค้นเมื่อ 13 April 2022.
  153. "Harry Potter and the Deathly Hallows Part 1 (2010)". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 April 2022. สืบค้นเมื่อ 7 April 2022.
  154. "Harry Potter and the Deathly Hallows Part 2 (2011)". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 April 2022. สืบค้นเมื่อ 13 April 2022.
  155. "Fantastic Beasts and Where to Find Them (2016)". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 April 2022. สืบค้นเมื่อ 13 April 2022.
  156. "Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald (2018)". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 March 2022. สืบค้นเมื่อ 13 April 2022.
  157. "Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore (2022)". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 April 2022. สืบค้นเมื่อ 11 July 2022.
  158. "Franchise Index". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 May 2014. สืบค้นเมื่อ 19 August 2021.
  159. "J.K. Rowling's Wizarding World Movies at the Box Office". Box Office Mojo. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 June 2017. สืบค้นเมื่อ 31 January 2019.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้