แวร์เนอร์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค

แวร์เนอร์ เอดูอาร์ท ฟริทซ์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค (เยอรมัน: Werner Eduard Fritz von Blomberg) เป็นจอมพลเยอรมัน รัฐมนตรีว่าการสงครามแห่งไรช์และผู้บัญชาการทหารเหล่าทัพเยอรมันจนถึง ค.ศ. 1938

แวร์เนอร์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค
จอมพล แวร์เนอร์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค ใน ค.ศ. 1934
แวร์เนอร์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค ใน ค.ศ. 1934
ชื่อเกิดแวร์เนอร์ เอดูอาร์ท ฟริทซ์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค
เกิด2 กันยายน ค.ศ. 1878
มณฑลพอเมอเรเนีย, ราชอาณาจักรปรัสเซีย, จักรวรรดิเยอรมัน
เสียชีวิต14 มีนาคม ค.ศ. 1946(1946-03-14) (67 ปี)
เนือร์นแบร์ค, ประเทศเยอรมนี
รับใช้ เยอรมนี
 เยอรมนี
 ไรช์เยอรมัน
บริการ/สังกัดกองทัพบก
ประจำการค.ศ. 1897–1938
ชั้นยศจอมพล
บังคับบัญชากระทรวงการสงครามไรช์
การยุทธ์สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
บำเหน็จพัวร์เลอเมรีท

เขาเข้าร่วมกองทัพเยอรมันใน ค.ศ. 1897 หลังจบหลักสูตรจากวิทยาลัยการทหารปรัสเซียใน ค.ศ. 1907 เขาก็ได้ขึ้นเป็นนายพลใน ค.ศ. 1908 และได้เข้าร่วมแนวรบด้านตะวันตกในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและได้รับเหรียญพัวร์เลอเมรีท เขาได้ไปเยือนสหภาพโซเวียตใน ค.ศ. 1928 และมีความประทับใจในศักยภาพของกองทัพแดงอย่างมาก เขาเริ่มมีความเชื่อในระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จว่าจะนำมาซึ่งแสนยานุภาพทางการทหารที่แข็งแกร่ง[1] เขาเชื่อว่าสงครามโลกครั้งต่อไปจะเป็นสงครามเบ็ดเสร็จ และระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จคือทางออกที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในเตรียมพร้อมด้านการทหาร เศรษฐกิจ และสังคมเยอรมันในยามก่อนสงครามปะทุ[2]

ใน ค.ศ. 1933 เขาได้แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงไรชส์แวร์ในคณะรัฐมนตรีฮิตเลอร์และกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่อุทิศตัวให้ฮิตเลอร์มากที่สุด เขาเสริมสร้างและขยายกองทัพเยอรมัน เขาเป็นนายทหารที่ประธานาธิบดีฮินเดินบวร์คไว้วางใจให้ดูแลงานด้านกลาโหมและฮินเดินบวร์คหวังว่าเขาจะเข้ากันได้ดีกับฮิตเลอร์[3]

ใน ค.ศ. 1935 กระทรวงไรชส์แวร์ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงการสงคราม และได้ควบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเหล่าทัพแวร์มัคท์ (Oberbefehl über die gesamte Wehrmacht) และใน ค.ศ. 1936 บล็อมแบร์คเป็นนายทหารคนแรกที่ฮิตเลอร์แต่งตั้งให้เป็นจอมพล อย่างไรก็ตาม ใน ค.ศ. 1937 เขาเป็นหนึ่งในนายทหารไม่กี่คนที่วิจารณ์แผนการทำสงครามฮิตเลอร์ว่าไม่ควรจะเลยไปจาก ค.ศ. 1942 ทำให้ฮิตเลอร์เริ่มไม่พอใจในตัวบล็อมแบร์ค ซึ่งทำให้สองคนสนิทของฮิตเลอร์อย่าง แฮร์มัน เกอริง ซึ่งเป็นผู้บัญชาการลุฟท์วัฟเฟอ กับไฮน์ริช ฮิมเลอร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยเอ็สเอ็สและตำรวจเยอรมัน ได้ใช้โอกาสนี้เพื่อขจัดบล็อมแบร์คให้พ้นทาง ในงานแต่งของบล็อมแบร์คกับแฟนสาว เกอริงได้บอกกับฮิตเลอร์ในงานแต่งว่า แฟนสาวของบล็อมแบร์คและมารดาของเธอนั้นมีประวัติเป็นหญิงขายบริการ ฮิตเลอร์ขอร้องบล็อมแบร์คล้มเลิกการแต่งงานเพื่อรักษาหน้าของกองทัพ บล็อมแบร์คปฏิเสธที่จะหย่ากับเธอ เกอริงจึงปูดประวัติของภรรยาบล็อมแบร์คให้สาธารณะรับรู้ บล็อมแบร์คถูกกดดันให้ลาออกจากทุกตำแหน่งในกองทัพ และฮิตเลอร์ก็แต่งตั้งให้เกอริงดูแลการทหารทั้งหมดในไรช์ใน ค.ศ. 1938

หลังลาออก บล็อมแบร์คได้ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับภรรยาใหม่ที่เกาะกาปรีในอิตาลี แต่พลเรือเอก เอริช เรเดอร์ มองว่าบล็อมแบร์คควรจะฆ่าตัวตายเพื่อเป็นการชดใช้การแต่งงานของเขา เรเดอร์ส่งผู้พันวังเงินไฮม์ (Wangenheim) ไปอิตาลีเพื่อกดดันให้บล็อมแบร์คฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่สำเร็จ วังเงินไฮม์ถึงขนาดยัดปืนใส่มือของบล็อมแบร์คแต่บล็อมแบร์คก็ปฏิเสธที่จะฆ่าตัวตายและขอใช้ชีวิตอย่างสงบ[4]

ปลายสงครามโลกครั้งที่สองใน ค.ศ. 1945 บล็อมแบร์คถูกกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตรควบคุมตัว เขาร่วมให้การในการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์คในฐานะพยานซึ่งทำให้ถูกอดีตนายพลเพื่อนร่วมงานที่ตกเป็นจำเลยดูถูกเหยียดหยามนอกจากนี้ยังถูกภรรยาบอกเลิก ระหว่างที่ถูกกักบริเวณในเนือร์นแบร์คนั้นสุขภาพเขาก็ย่ำแย่ลงอย่างรวดเร็ว เขาตรวจพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1946[5] และเสียชีวิตในวันที่ 14 มีนาคม 1946 ร่างของเขาถูกฌาปนกิจโดยไม่มีพิธีใด ๆ ที่ชานเมืองเนือร์นแบร์ค ต่อมาได้มีการขุดเถ้าของเขาและนำไปเก็บรักษาไว้ที่บ้านของเขาในเมืองบาทวีสเซ (Bad Wiessee)

อ้างอิงแก้ไข

  1. Wheeler-Bennett 1967, pp. 295–296.
  2. Paehler 2009.
  3. Wheeler-Bennett 1967, p. 297.
  4. Shirer 1960, p. 314.
  5. Schäfer 2006, pp. 200, 206–7.

แหล่งที่มาแก้ไข

  • Brett-Smith, Richard (1976). Hitler's Generals. San Rafael, CA: Presidio Press. ISBN 0-89141-044-9.
  • Bartov, Omer (1999). "Soldiers, Nazis and War in the Third Reich". ใน Leitz, Christian (บ.ก.). The Third Reich: The Essential Readings. London: Blackwell. pp. 129–150.
  • Carr, William (1972). Arms, Autarky and Aggression. London, United Kingdom: Edward Arnold.
  • Carruthers, Bob (2013). World War Two from original sources: Handbook on German military forces. Great Britain: Pen & Sword Military.
  • Dupuy, Trevor (1984). A genius for war: the German army and general staff 1807-1945. United Kingdom: Hero Books Ltd.
  • Faber, David (2008). Munich, 1938: Appeasement and World War II.
  • Feuchtwanger, Edgar (1993). From Weimar to Hitler. London: Macmillan.
  • Förster, Jürgen (1998). "Complicity or Entanglement? The Wehrmacht, the War and the Holocaust". ใน Berenbaum, Michael; Peck, Abraham (บ.ก.). The Holocaust and History: The Known, the Unknown, the Disputed and the Reexamined. Bloomington: Indian University Press.
  • Geyer, Michael (1983). "Etudes in Political History: Reichswehr, NSDAP and the Seizure of Power". ใน Stachura, Peter (บ.ก.). The Nazi Machtergreifung. London: Allen & Unwin. pp. 101–123.
  • Glasman, Gabriel (2005). Objetivo: Cazar al Lobo (ภาษาสเปน). Madrid, Spain: Ediciones Nowtilus, S.L. ISBN 970-732-177-6.
  • Görlitz, Walter (1989). "Blomberg". ใน Barnett, Corelli (บ.ก.). Hitler's Generals. Grove Press. pp. 129–139. ISBN 0-8021-3994-9.
  • Kane, Robert B. (2008). Disobedience and Conspiracy in the German Army, 1918-1945. McFarland & Company. ISBN 978-0786437443.
  • Keitel, Wilhelm; Görlitz, Walter (1966). The memoirs of Field-Marshal Keitel. Stein and Day.
  • Kershaw, Ian (1998). Hitler Hubris. New York City: Norton.
  • Klee, Ernst (2007). Das Personenlexikon zum Dritten Reich. Wer war was vor und nach 1945. Frankfurt-am-Main: Fischer-Taschenbuch-Verlag. ISBN 978-3-596-16048-8.
  • Kolb, Eberhard (2005). The Weimar Republic. London: Routledge.
  • Messerschmidt, Manfred (1990). "Foreign Policy and Preparation for War". The Build-up of German Aggression. Germany and the Second World War. Vol. I. Oxford: Clarendon Press.
  • Mitcham, Samuel (2011). "Generalfeldmarschall Werner von Blomberg". ใน Ueberschär, Gerd (บ.ก.). Hitlers militärische Elite. 68 Lebensläufe (ภาษาเยอรมัน) (2nd ed.). Darmstadt: Primus Verlag. ISBN 978-3-89678-727-9.
  • Nicholls, David (2000). Adolf Hitler: a biographical companion. Santa Barbara, CA: ABC-CLIO. ISBN 0-87436-965-7.
  • Müller, Klaus Jürgen (1987). The Army, Politics and Society in Germany, 1933–1945: Studies in the Army's Relation to Nazism. Manchester University Press. ISBN 0719010713.
  • Paehler, Katrin (June 2009). "General ohne Eigenschaften?" (ภาษาเยอรมัน). H-Net Online. สืบค้นเมื่อ 2013-05-05.
  • Patch, William L. (2006). Heinrich Bruning and the Dissolution of the Weimar Republic. Cambridge University Press. ISBN 978-052102541-6.
  • Schäfer, Kirstin A. (2006). Werner von Blomberg: Hitlers erster Feldmarschall: Eine Biographie (ภาษาเยอรมัน). Verlag Ferdinand Schöningh. ISBN 978-3506713919.
  • Shirer, William (1960). The Rise and Fall of the Third Reich. New York: Simon & Schuster.
  • Taylor, Telford (1969). Sword and Swastika: Generals and Nazis in the Third Reich. Chicago: Quadrangle Books. ISBN 978-1-566-19746-5.
  • Weinberg, Gerhard (1970). The Foreign Policy of Hitler's Germany: Diplomatic Revolution in Europe. University of Chicago Press. ISBN 978-039103825-7.
  • Wette, Wolfram (2006). The Wehrmacht: History, Myth, Reality. Cambridge: Harvard University Press.
  • Wheeler-Bennett, John (1967). The Nemesis of Power: The German Army in Politics 1918–1945. London, UK: Macmillan.
  • "Von Blomberg Dies in Army Hospital; Dies of Heart Attack". The New York Times. Associated Press. 14 March 1946. สืบค้นเมื่อ 3 May 2020.
  • Deutsch, Harold C. (1974). Hitler and his Generals: The Hidden Crisis, January–June 1938. pp. 78–215. ISBN 978-0-8166-0649-8., the standard scholarly monograph on the scandal.
  • Heiber, Helmut; Glantz, David M., บ.ก. (2005). Hitler and His Generals: Military Conferences 1942–1945. New York City: Enigma Books. ISBN 1-929631-09-X.
  • Wheeler-Bennett, Sir John (2005) [1st ed. 1953, 2nd ed. 1964]. The Nemesis of Power: The German Army in Politics 1918–1945 (2nd ed.). London: Palgrave Macmillan.


ก่อนหน้า แวร์เนอร์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค ถัดไป
ฟือเรอร์และนายกรัฐมนตรี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์   ผู้บัญชาการเหนือเหล่าทัพแวร์มัคท์
(ค.ศ. 1935 - 1938)
 
ควร์ท ฟ็อน ชไลเชอร์
(ในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงไรชส์แวร์)
  รัฐมนตรีว่าการสงคราม
(ค.ศ. 1933 - 1938)
  จอมพล วิลเฮ็ล์ม ไคเทิล
(ในตำแหน่งหัวหน้ากองบัญชาการใหญ่แห่งแวร์มัคท์)