เจ้าหญิงสเตฟานีแห่งเบลเยียม

เจ้าหญิงสเตฟานีแห่งเบลเยียม (อังกฤษ: Princess Stéphanie of Belgium, Crown Princess of Austria-Hungary, เยอรมัน: Prinzessin Stephanie von Belgien, Kronprinzessin von Österreich-Ungarn) (พระนามเต็ม: สเตฟานี่ คลอทิลด์ หลุยส์ เฮอร์มีนี่ มารี ชาร์ลอต, Stéphanie Clotilde Louise Herminie Marie Charlotte von Habsburg-Lothringen (ราชสกุลเดิม Saxe-Coburg and Gotha)) ทรงเป็นเจ้าฟ้าหญิงแห่งเบลเยียม เจ้าหญิงแห่งซัคเซิน-โคบวร์คและโกทา และดัชเชสแห่งแซ็กโซนี นอกจากนี้ ยังเป็นพระชายาในอาร์ชดยุกรูดอล์ฟ มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการีด้วย

เจ้าหญิงสเตฟานีแห่งเบลเยียม
มกุฎราชกุมารีแห่งออสเตรีย-ฮังการี
เจ้าหญิงลอนไยแห่งนาจี-ลอนย่า
พระนามเต็ม สเตฟานี่ คลอทิลด์ หลุยส์ เฮอร์มีนี่ มารี ชาร์ลอต
พระราชสมภพ 21 เมษายน พ.ศ. 2407
(ค.ศ. 1864)
สิ้นพระชนม์ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2488
(ค.ศ. 1945) (81 พรรษา)
พระสวามี อาร์ชดยุกรูดอล์ฟ มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการี
พระราชบุตร อาร์ชดัชเชสเอลิซาเบธ มารี
ราชวงศ์ ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค
ราชวงศ์ซัคเซิน-โคบวร์คและโกทา
พระราชบิดา สมเด็จพระเจ้าเลออปอลที่ 2 แห่งเบลเยียม
พระราชมารดา มารี เฮนรีทเทอแห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งเบลเยียม

พระราชประวัติ แก้

เจ้าหญิงสเตฟานี ประสูติเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2407พระราชวังลาเค็น ประเทศเบลเยียม เป็นพระราชธิดาใน สมเด็จพระเจ้าเลออปอลที่ 2 แห่งเบลเยียม และ สมเด็จพระราชินีมารี เฮนรีทเทอแห่งเบลเยียม โดยพระองค์เป็นพระราชนัดดาแท้ ๆ ในพระเจ้าเลออปอลที่ 1 แห่งเบลเยียม และสมเด็จพระจักรพรรดินีคาร์ลอต้าแห่งเม็กซิโก

เมื่อทรงพระเยาว์ สมเด็จพระราชบิดา และสมเด็จพระราชมารดาทรงรีบเร่งให้มีการอภิเษกสมรสกับอาร์ชดยุกรูดอล์ฟ มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการี พระราชโอรสเพียงพระองค์เดียวในสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 และสมเด็จพระจักรพรรดินีเอลิซาเบธแห่งออสเตรีย โดยทั้ง 2 พระองค์ได้มีพระบัญชาให้อาร์ชดยุกรูดอล์ฟเสด็จพระราชดำเนินไปยังกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียมเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2423 เพื่อทรงไปปรับตัวและทำความรู้จักคุ้นเคยกับพระคู่หมั้นของพระองค์ 2 วันต่อมา ทั้ง 2 พระองค์ก็เข้าพิธีหมั้น อย่างไรก็ตาม งานอภิเษกสมรสก็ถูกเลื่อนออกไป เพราะเนื่องจากฝ่ายเจ้าสาวยังมีพระชนมายุน้อย ซึ่งไม่เป็นการเหมาะสมที่จะอภิเษกสมรส

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2424 ขณะนั้น มีพระชนมายุ 17 ชันษา ทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับมกุฎราชกุมารรูดอล์ฟ ณ มหาวิหารเซนต์ ออกัสติน กรุงเวียนนา โดยพิธีอภิเษกสมรสครั้งนี้ ได้มีพระราชอคันตุกะมาร่วมพิธีนี้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ และพระนัดดา เจ้าฟ้าชายวิลเฮล์ม เจ้าชายแห่งปรัสเซีย มกุฎราชกุมารแห่งเยอรมนี เป็นต้น

มกุฎราชกุมารรูดอล์ฟ และมกุฎราชกุมารสเตฟานี่ มีพระธิดาเพียง 1 พระองค์ ดังนี้

มกุฎราชกุมารี แก้

 
มกุฎราชกุมาร และมกุฎราชกุมารีแห่งออสเตรีย-ฮังการี

หลังจากการอภิเษกสมรส พระองค์ได้รับการสถาปนาเป็น มกุฎราชกุมารีแห่งออสเตรีย-ฮังการี เพื่อที่จะทรงเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีองค์ต่อไป โดยในระหว่างที่ทรงดำรงมกุฎราชกุมารี พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจหลายอย่าง เพื่อแบ่งเบาพระราชภาระของพระสัสสุระ และทรงเข้าปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่สมเด็จพระจักรพรรดินีเอลิซาเบธ พระสัสสุไม่โปรด เนื่องจากทรงหมกมุ่นอยู่กับการบำรุงความงามของพระองค์ และด้วยความที่พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเหล่านี้ สร้างความโปรดปรานแก่สมเด็จพระจักรพรรดิ พระสัสสุระเป็นอย่างยิ่ง

พระองค์ทรงได้รับการให้ความสำคัญค่อนข้างน้อย เพราะเนื่องจากมีการให้ความสำคัญแก่องค์มกุฎราชกุมารโดยตรงมากกว่า ประกอบกับการที่สมเด็จพระจักรพรรดินเอลิซาเบธ พระสัสสุทรงไม่โปรดพระองค์ซักเท่าไหร่ เนื่องด้วยทรงหมกมุ่นอยู่กับการบำรุงความงามของพระองค์ประกอบกับผลมาจากที่พระมาตุฉาของพระองค์(เจ้าหญิงชาร์ลอตแห่งเบลเยียมสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งเม็กซิโก) ที่ไม่โปรดพระสัสสุ ทำให้พาลไปถึงพระองค์ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ทรงเป็นโรคติดต่อ ที่สามารถส่งผลอย่างร้ายแรงต่อพระครรภ์ของพระองค์ ทั้ง 2 พระองค์จึงทรงปรึกษาหารือเรื่องการตกลงพระทัยหย่าของทั้ง 2 พระองค์

ระหว่างที่พระองค์เสด็จประพาสราชอาณาจักรกาลิเซียและโลโดมีเรีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศโปแลนด์ และประเทศยูเครน) เมื่อปีพ.ศ. 2430 พระองค์ทรงหลงรักกับท่านเค้านท์ชาวโปแลนด์คนหนึ่ง ซึ่งอีก 18 เดือนต่อมา พระองค์ก็ไม่ทรงปกปิดแก่พระสวามี โดยทรงยอมเลิกความสัมพันธ์กับเค้านท์ชาวโปแลนด์คนนั้น ซึ่งตรงกันข้าม พระสวามีทรงปกปิดความสัมพันธ์ลับระหว่างพระองค์และนางสนมได้อย่างมิดชิด แต่ก็ทรงเก็บเป็นความลับไม่นาน ก็ล่วงรู้ทั่วราชสำนัก

การสวรรคตชองพระสวามี แก้

เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2432 มกุฎราชกุมารรูดอล์ฟ พระสวามีเสด็จสวรรคต ณ คฤหาสน์ล่าสัตว์มาเยอร์ลิ่ง พร้อมด้วยบารอนเนสแมรี่ เว็ทเซร่า นางสนมลับของพระองค์ สาเหตุการสวรรคต เนื่องจากพระองค์ทรงใช้ปืนส่วนพระองค์ยิงบารอนเนสแมรี่ถึงแก่ความตาย จากนั้นก็ทรงใช้ปืนยิงพระองค์สวรรคตตาม การสวรรคตของพระองค์นี้ สร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่อาร์ชดัชเชสสเตฟานี่ พระชายาเป็นอย่างมาก เป็นการทำลายความหวังที่จะเริ่มต้นชีวิตคู่ครั้งใหม่ในอนาคต หลังจากการสวรรคตของพระสวามี ทำให้พระองค์ต้องประทับอยู่อย่างเดียวดาย ถึงแม้ว่าจะมีพระธิดาประทับด้วย แต่พระองค์ก็ยังทรงรู้สึกเดียวดาย ประกอบกับพระองค์ ทรงมีความขัดแย้งกับสมเด็จพระราชาธิบดีลีโอโพลด์ พระราชบิดาถึงการที่ทรงถอนพระองค์ออกจากลำดับการสืบสันตติวงศ์ราชบัลลงก์เบลเยียม พระองค์จึงได้ออกจากราชสำนักออสเตรีย โดยทรงแยกมาอยู่ในพระตำหนักส่วนพระองค์พร้อมด้วยพระธิดาตั้งแต่บัดนั้น เป็นต้นมา โดยพระองค์ทรงใช้พระยศใหม่ที่ทรงตั้งขึ้นมาเอง เช่น เค้านท์เตสลาโครมา (The Countess Lacroma) เค้านท์เตสเอ็พแพน (The Countess Eppan) เค้านท์เตสก๊อดเรคอร์ต (The Countess Godrecourt) หรือ เลดีบองเชิร์ช (The Lady Bonchurch) เป็นต้น

การอภิเษกสมรสครั้งใหม่ แก้

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2443 พระองค์ทรงได้อภิเษกสมรสครั้งใหม่กับ เค้านท์เอลแมร์ ลอนไย ซึ่งเป็นเค้านท์ชาวฮังการี โดยงานอภิเษกสมรสครั้งนี้ สมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 แห่งออสเตรียทรงมีส่วนร่วมด้วย โดยหลังจากอภิเษกสมรสแล้ว สมเด็จพระจักรพรรดิทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาเค้านท์เอลแมร์ เป็นเจ้าชายแห่งลอนไย (The Prince Lónyai, Fürst von Lónyai) ทั้ง 2 พระองค์ทรงไม่มีพระโอรสหรือพระธิดาด้วยกัน โดยทั้ง 2 พระองค์ทรงย้ายไปประทับอยู่ที่พระตำหนักออโรสวาร์ ทางตะวันตกของประเทศฮังการี

เมื่อปีพ.ศ. 2478 พระองค์ทรงเขียนหนังสือ และตีพิมพ์วางจำหน่ายตามที่ต่างๆ ยกเว้นออสเตรีย เรื่อง Ich Sollte Kaiserin Werden หรือ I Was To Be Empress

เจ้าหญิงสเตฟานี สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2488 รวมพระชันษาทั้งหมด 81 ชันษา

พระอิสริยยศ แก้

ราชตระกูล แก้

พระราชตระกูลในสามรุ่นของเจ้าหญิงสเตฟานี่แห่งเบลเยียม
เจ้าหญิงสเตฟานี่แห่งเบลเยียม พระชนก:
สมเด็จพระเจ้าเลออปอลที่ 2 แห่งเบลเยียม
พระอัยกาฝ่ายพระชนก:
พระเจ้าเลออปอลที่ 1 แห่งเบลเยียม
พระปัยกาฝ่ายพระชนก:
ฟรันซ์ ดยุกแห่งซัคเซิน-โคบวร์ค-ซาลเฟลด์
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก:
เจ้าหญิงออกัสต้าแห่งรอยส์-เอเบอร์สดอร์ฟ
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนก:
หลุยส์-มารีแห่งออร์เลอ็อง
พระปัยกาฝ่ายพระชนก:
หลุยส์ ฟิลิปที่ 2 ดยุกแห่งออร์เลอ็อง
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนก:
มารีอา อะเมเลียแห่งเนเปิลส์และซิซิลี
พระชนนี:
มารี เฮนรีทเทอแห่งออสเตรีย
พระอัยกาฝ่ายพระชนนี:
อาร์ชดยุกโจเซฟแห่งออสเตรีย สมุหนายกแห่งฮังการี
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี:
สมเด็จพระจักรพรรดิลีโอโพลด์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
เจ้าหญิงมาเรีย หลุยซ่าแห่งสเปน
พระอัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
ดัชเชสมาเรีย โดโรเธียแห่งวืร์ทเต็มเบิร์ก
พระปัยกาฝ่ายพระชนนี:
ดยุกหลุยส์แห่งวืร์ทเต็มเบิร์ก
พระปัยยิกาฝ่ายพระชนนี:
เจ้าหญิงเฮ็นเรียตแห่งนัสซอว์-ไวล์บูร์ก

อ้างอิง แก้

  • Stephanie von Lónyay: Ich sollte Kaiserin werden. Lebenserinnerungen der letzten Kronprinzessin von Österreich-Ungarn. Koehler und Amelang, Leipzig 1935
  • Irmgard Schiel: Stephanie - Kronprinzessin im Schatten von Mayerling. Deutsche Verlags-Anstalt, Stuttgart 1978
  • Helga Thoma: Ungeliebte Königin. Piper, München 2000

แหล่งข้อมูลอื่น แก้