สุดสาคร ส.กลิ่นมี

สุดสาคร ส.กลิ่นมี เกิดวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2529 เป็นนักมวยไทยชาวไทย และเป็นผู้ครองแชมป์โลกรายการเวิลด์คิกบ็อกซิ่งเน็ตเวิร์กมวยไทยรุ่นเวลเตอร์เวท[2] วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 สุดสาครเข้าแข่งขันรายการไทยไฟท์ 2012 โดยได้พบกับกุสตาโว เมนเดส ซึ่งเป็นนักมวยไทยชาวบราซิล และจากการแข่งขันครั้งนี้ สุดสาครเป็นฝ่ายชนะคะแนน[3]

สุดสาคร ส.กลิ่นมี
สม กลิ่นมี
สุดสาคร ส.กลิ่นมี
เกิดสม กลิ่นมี
(1986-08-25) สิงหาคม 25, 1986 (37 ปี)
เมืองพัทยา ประเทศไทย
ชื่อภาษาเกิดสม กลิ่นมี
ชื่ออื่นสุดสาคร ส.กลิ่นมี
สุดสาคร พยัพคำพันธุ์
« O »
สัญชาติไทย
ส่วนสูง1.82 เมตร (5 ฟุต 11 12 นิ้ว)
น้ำหนัก72.5 กิโลกรัม (160 ปอนด์)
รุ่นไลท์เวท
เวลเตอร์เวท
มิดเดิลเวท
รูปแบบมวยไทย, คิดบ็อกซิง
มาจากเมืองพัทยา ประเทศไทย
ทีมสุดสาครมวยไทยยิม
ผู้ฝึกสอนบูม (ประเทศไทย)
ช่วงปี18 (1993–ปัจจุบัน)
สถิติคิกบอกซิง/มวยไทย
คะแนนรวม351
ชนะ291
โดยการน็อก74
แพ้56
เสมอ4
ข้อมูลอื่น
ญาติที่มีชื่อเสียงแรมบ้า สมเดช (ลูกพี่ลูกน้อง)
นักเรียนเด่นนิลมังกร สุดสาครยิม[1]
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่: 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ประวัติ แก้

ประวัติ แก้

สุดสาครเป็นนักมวยไทยรุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย ไม่นานที่ผ่านมาเขาได้มีโอกาสเยือนที่ประเทศฝรั่งเศสโดยได้รับการต้อนรับจากผู้จัดการของเขาที่มีชื่อว่า นีโกลา ซูบีโล เขาหวังที่จะสร้างชื่อในทวีปยุโรปโดยการต่อสู้ให้ดีที่สุดในรุ่นของเขาซึ่งอยู่ในรุ่น 64 กก. - 70 กก.

ชื่อชกของเขาได้มาจากตัวละครในวรรณคดีไทยที่มีชื่อว่า สุดสาคร ซึ่งเป็นเด็กมหัศจรรย์ที่ถือกำเนิดมาจากมารดาผู้เป็นนางเงือก ผู้ซึ่งได้ส่งให้เขาไปตามหาพระบิดาที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พร้อมด้วยอาวุธเวทมนตร์ที่ได้รับมอบจากฤๅษีพร้อมด้วยม้านิลมังกรเป็นพาหนะคู่กาย สุดสาครได้ออกผจญภัยเป็นห้วงเวลาที่ยาวนาน และเต็มไปด้วยภยันตรายที่สุดแสนลี้ลับ

สุดสาครมีชื่อจริงคือ สม กลิ่นมี และมีชื่อเล่นคือ โอ เขาเริ่มฝึกมวยไทยเมื่อครั้งที่มีอายุ 6 ขวบ เขาเริ่มฝึกจากพ่อของเขา ยักษ์ กลิ่นมี กับลูกพี่ของเขา แรมบ้า สมเดช M-16

สุดสาครได้อาศัยและฝึกฝน ณ โตรีโน ประเทศอิตาลี ในช่วงเดือนแรกๆใน พ.ศ. 2554 และตั้งแต่มีนาคม พ.ศ. 2554 เขาได้อาศัยอยู่ที่พัทยา ประเทศไทย และฝึกฝนอยู่ที่ ส.กลิ่นมียิมในจังหวัดชลบุรี

อาชีพในช่วงแรก แก้

 
การพบกับคู่ชกกุสตาโว เมนเดส ซึ่งเป็นนักมวยไทยจากบราซิล

เมื่อมีอายุระหว่าง 10 และ 18 ปี เขาได้รับการฝึกจากผู้ฝึกสอนคนใหม่ ทัพยา กลิ่นมี แห่งค่ายมวยศิษย์ อ. ที่พัทยา จากนั้น เมื่อเขามีอายุ 18 ปี ก็ได้เผชิญกับนักสู้ชาวไอริชนามว่า เกรก โอ'ฟลิน ภายหลังจากการเปิดค่ายมวยที่พัทยา มีศิษย์ใจเพชรและผู้ฝึกสอนนักมวยหนุ่มเข้าร่วม ในช่วงเวลานี้ สุดสาครได้มีโอกาสเข้าแข่งขัน 4 ครั้งในประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์ เขาเป็นฝ่ายชนะโรเบิร์ต สโตเรย์ ผู้ซึ่งเป็นแชมป์สองรายการของอังกฤษใน พ.ศ. 2548 (เมื่อครั้งที่สุดสาครมีน้ำหนักตัวที่ 61 กก.) ในการแข่งขันนัดล้างตาที่ได้รับการออกอากาศทางช่องยูโรสปอร์ท โรเบิร์ต สโตเรย์ ถึงกับแขนหักในส่วนกลาง แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังประคองตัวได้จนถึงยก 5

หนึ่งปีต่อมา ใน พ.ศ. 2549 สุดสาครเป็นผู้ชนะรายการชิงแชมป์โลกเข็มขัดเอสวันของสภามวยไทยโลก (รุ่น 64 กก.) ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วันที่ 5 ธันวาคม เมื่อครั้งที่พบกับชาวสโลวักอย่าง อีกอน เฮอร์ซิง

ความทรงจำที่เขาประทับใจ คือการชิงเข็มขัดสหพันธ์มวยไทยอาชีพโลก กับนักมวยชาวไทยใน พ.ศ. 2549

ด้านความสำเร็จครั้งสำคัญของเขา คือการเป็นฝ่ายชนะขาวสนิท ส.พรานไพร โดยเป็นแชมป์มวยไทย 7 สี ที่จัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ที่กรุงเทพมหานคร และเป็นแชมป์ 3 เวทีมวยติดต่อกันทั้งราชดำเนิน, ลุมพินี และอ้อมน้อย

ส่วนการต่อสู้ที่ยากที่สุดของเขา คือการเอาชนะก้องฟ้าในการชิงเข็มขัดแฟร์เท็กซ์ เทพประสิทธิ์ พ.ศ. 2550

เขาได้พบกับคู่ชกอย่างมีกาเอล ปิซซีเตลโล ในศึก THAI FIGHT เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555 ซึ่งจัดขึ้น ณ ลียง ประเทศฝรั่งเศส และสุดสาครเป็นฝ่ายแพ้ทีเคโอในยกที่สอง[4][5]

เขาสู้กับเซดริก คัซตักนา ในรายการทีเคเวิลด์แมกซ์ 2012 ที่จัดขึ้น ณ มาร์แซย์ ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555 [6] และเป็นฝ่ายชนะจากการตัดสินของกรรมการ[7]

ในการแข่งครั้งพิเศษ เขาได้เข้าแข่งขันรายการ ไทยไฟท์ 2012: คิงออฟมวยไทยทัวร์นาเมนท์เซคันด์ราวด์ ที่จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย ในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ซึ่งสุดสาครเป็นฝ่ายชนะน็อคโมฮัมหมัด โฮสเซน โดรูเดียน จากการฟันศอกในยกสอง[8]

เขาเป็นฝ่ายชนะกุสตาโว เมนเดส ในคู่พิเศษของรายการ ไทยไฟท์: คิงออฟมวยไทยทัวร์นาเมนท์ไฟนอล ที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 [9][10]

รายการที่ชนะ แก้

  • พ.ศ. 2554 รองชนะเลิศ ไฟท์โค้ดดราก้อนซีรีส์ รอบรองชนะเลิศ (-72.5 กก.)
  • พ.ศ. 2553 แชมป์เวิลด์คิกบ็อกซิ่งเน็ตเวิร์ก (ดับเบิลยูเคเอ็น) เวิลด์กรังด์ปรีซ์บิ๊ก-8 ไฟนอล ณ ประเทศเบลารุส (-66.7 กก.)
  • พ.ศ. 2553 แชมป์ดับเบิลยูเคเอ็นมวยไทยเวิลด์ รุ่นเวลเตอร์เวท (-66.7 กก.)
  • พ.ศ. 2550 แชมป์มวยไทยแฟร์เท็กซ์ เทพประสิทธิ์
  • พ.ศ. 2549 แชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ไลท์เวท รายการมวยไทยอาชีพชิงแชมป์โลก ของสหพันธ์มวยไทยอาชีพโลก (-63.5 กก.)
  • พ.ศ. 2549 แชมป์โลกเอสวันของสภามวยไทยโลก - เอสวันทรงชัยสภามวยไทยโลก (-64 กก.)
  • พ.ศ. 2547-2548 ผู้เข้าแข่งขันรอบสุดท้าย โตโยต้า 4X4 เวทีมวยราชดำเนิน

ระเบียงภาพ แก้

อ้างอิง แก้

  1. Aung Mint Sein (22 May 2017). "Muaythai Champion Nilmungkorn Sudsakorngym Challenging The Lethwei Throne". Lethwei World.
  2. "Sudsakorn Sor Klinmee profile". k-1fans.com. สืบค้นเมื่อ 2010-09-13.[ลิงก์เสีย]
  3. "บัวขาวคว้าแชมป์ไทยไฟท์ 2012 คมชัดลึก : กีฬา : ข่าวทั่วไป". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-24. สืบค้นเมื่อ 2021-11-03.
  4. Thai Fight On Wednesday Features Saiyok vs. Pinca, Sudsakorn, Aikpracha, More
  5. Thai Fight Lyon: Saiyok, Aikpracha, Bennoui Win, Sudsakorn Loses
  6. TK2 On Saturday: Sudsakorn, Thomas Adamandopoulos In Action
  7. TK2 Results: Sudsakorn, Adamandapoulos Victorious In Marseilles
  8. Thai Fight Results: Buakaw, Singmanee, Kulebin, Gurkov move on to finals
  9. Thai Fight Adds Heavyweight Tournament, Sudsakorn, Ikuysang To Final On December 16
  10. Thai Fight Results: Buakaw, Singmanee Win Tournaments

ดูเพิ่ม แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้