วัดนิกรชนาราม
วัดนิกรชนาราม เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี มีเนื้อที่ 6 ไร่ 1 งาน 34.2 ตารางวา
วัดนิกรชนาราม | |
---|---|
ชื่อสามัญ | วัดนิกรชนาราม, วัดหัวตลาด |
ที่ตั้ง | ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี |
ประเภท | วัดราษฎร์ |
นิกาย | มหานิกาย |
เจ้าอาวาส | พระครูถาวรธรรมารักษ์ (เคี้ยง ถาวโร) |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา |
วัดนิกรชนาราม ชาวบ้านนิยมเรียกว่า วัดหัวตลาด ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2477 สืบเนื่องจากพระธรรมวโรดม (เซ่ง อุตฺตโม) วัดราชาธิวาส เจ้าคณะมณฑลนครศรีธรรมราชมาตรวจการคณะสงฆ์ ได้มาพำนักที่วัดตานีนรสโมสร พระธรรมวโรดมมีความประสงค์จะสร้างวัดในเมืองปัตตานีเพิ่มอีกหนึ่งวัด เนื่องจากในเมืองปัตตานีมีวัดอยู่เพียงสองวัด คือ วัดตานีนรสโมสรกับวัดนพวงศาราม ท่านได้เดินทางเพื่อหาที่สร้างวัดหลายแห่ง จนพบที่ดินที่เป็นป่าช้าแห่งหนึ่ง จึงได้ขอที่ดินแปลงนี้ต่อพระบริรักษ์ภูธร ข้าหลวงประจำจังหวัด และขุนชูปรีชาวุฒิ นายอำเภอสะบารัง ข้าหลวงประจำจังหวัดและนายอำเภอไม่ขัดข้อง เพราะเห็นว่าในบริเวณดังกล่าวมีชุมชนชาวจีนอาศัยอยู่หนาแน่น สามารถที่จะดูแลอุปฐากพระสงฆ์ได้ไม่อัตคัด เริ่มแรกสร้างเป็นสำนักสงฆ์หัวตลาด มีการสร้างกุฏิที่พักสงฆ์ จำนวน 9 หลัง ได้สร้างเสนาสนะต่าง ๆ ฉลองสมโภชในปี พ.ศ. 2481 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2517[1] เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 15 เมตร ยาว 45 เมตร
สมัยพระครูวิโรจน์ธรรมาภรณ์ (เมือง ชุตินฺธโร) ท่านได้ดำเนินการสร้างอุโบสถเมื่อ พ.ศ. 2519 สร้างศาลาการเปรียญคอนกรีตเสริมเหล็กเมื่อ พ.ศ. 2534 สร้างหอฉันและหอระฆังเมื่อ พ.ศ. 2538 ปูชนียวัตถุที่สำคัญ ได้แก่ พระประธานในศาลาการเปรียญ เป็นพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 1 เมตร 35 เซนติเมตร มีฐานสิงห์สูง 50 เซนติเมตร หล่อติดกับองค์พระ และพระพุทธรูปสร้างด้วยเกสรดอกไม้ ปางมารวิชัย หนักตักกว้าง 1 ศอก นางยกเฮี้ยว เลขะกุล สร้างถวาย[2]
รายนามเจ้าอาวาส แก้
- พระครูสโมสรสิทธิการ (แก้ว) พ.ศ. 2478–
- พระครูโสภณธรรมจารี
- พระชื่น ฐิตกุโล
- พระครูวิโรจน์ธรรมาภรณ์ (เมือง ชุตินฺธโร) พ.ศ. 2516–2542
- พระครูถาวรธรรมารักษ์ (เคี้ยง ถาวโร) พ.ศ. 2543–
อ้างอิง แก้
- ↑ "วัดนิกรชนาราม". สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
- ↑ "วัดนิกรชนาราม (วัดหัวตลาด)". โครงการการพัฒนาเศรษฐกิจฐานวัฒนธรรมเชิงพื้นที่วงแหวนพหุวัฒนธรรมเมืองปัตตานี.