ลุกขึ้นใหม่ หัวใจมีเธอ
ลุกขึ้นใหม่ หัวใจมีเธอ (อังกฤษ: Silver Linings Playbook) เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวโรแมนติก คอมเมดี-ดรามา ที่ออกฉายในปี ค.ศ. 2012 เขียนบทภาพยนตร์และกำกับการแสดงโดย เดวิด โอ.รัสเซล ดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง The Silver Linings Playbook - ลุกขึ้นใหม่ หัวใจมีเธอ ที่แต่งโดยแมทธิว ควิก นำแสดงโดยแบรดลีย์ คูเปอร์และเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ร่วมด้วยนักแสดงชื่อดังอย่างรอเบิร์ต เดอ นิโร, แจ็คกี วีเวอร์, คริส ทักเกอร์ และ จูเลีย สไตลส์ ในบทบาทนักแสดงสมทบ
ลุกขึ้นใหม่ หัวใจมีเธอ | |
---|---|
กำกับ | เดวิด โอ.รัสเซล |
บทภาพยนตร์ | เดวิด โอ.รัสเซล |
สร้างจาก | The Silver Linings Playbook - ลุกขึ้นใหม่ หัวใจมีเธอ โดย (แมทธิว ควิก) |
อำนวยการสร้าง |
|
นักแสดงนำ | |
กำกับภาพ | มาซาโนบุ ทาคายานางิ |
ตัดต่อ | |
ดนตรีประกอบ | แดนนี เอลฟ์แมน |
บริษัทผู้สร้าง | |
ผู้จัดจำหน่าย | เดอะ ไวน์สตีน คอมปานี |
วันฉาย |
|
ความยาว | 122 นาที[1] |
ประเทศ | สหรัฐอเมริกา |
ภาษา | ภาษาอังกฤษ |
ทุนสร้าง | 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2] |
ทำเงิน | 236.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2] |
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อเรื่องเกิดขึ้นที่ริดลีย์ พาร์ก, รัฐเพนซิลเวเนีย โดย แบรดลีย์ คูเปอร์ รับบทเป็น แพทริก หรือ "แพท" โซลิตาโน จูเนียร์ ชายที่ป่วยเป็นโรคอารมณ์สองขั้ว (ไบโพลาร์) ซึ่งได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลจิตเวชและกลับมาอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ (แสดงโดย รอเบิร์ต เดอ นีโร และ แจ็คกี วีเวอร์) แพทมีความตั้งใจที่จะพิสูจน์ตัวเองและกลับไปคืนดีกับอดีตภรรยา จนเขาได้พบกับ ทิฟฟานี แม็กซ์เวล (นำแสดงโดย เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) แม่ม่ายสาวที่สามีเสียชีวิต ทำให้เธอมีภาวะซึมเศร้าและอารมณ์รุนแรง โดยเธอต้องกินยาหลายประเภทเช่นเดียวกันกับแพท ทิฟฟานีเสนอที่จะช่วยให้เขาได้คืนดีกับอดีตภรรยาหากเขาตกลงเข้าร่วมการแข่งขันเต้นรำทีมเดียวกันกับเธอ จากการใช้เวลาร่วมกันทำให้ทั้งสองได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันรวมถึงใกล้ชิดกันมากขึ้น และเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักระหว่างพ่อของเขาและทิฟฟานี
ลุกขึ้นใหม่ หัวใจมีเธอ ถูกนำออกฉายเป็นครั้งแรกที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต ครั้งที่ 37 ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 2012 โดยหลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในโรงภาพยนตร์ก็ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์มากมายและประสบความสำเร็จทางรายได้อย่างงดงามเมื่อทำรายได้มากถึง 236 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างเพียง 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากความสำเร็จทั้งคำวิจารณ์และรายได้ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 8 สาขา อันรวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม,สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม โดยนับเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกนับจากภาพยนตร์เรื่อง Reds ในปี ค.ศ. 1981 ที่มีนักแสดงในเรื่องถึง 4 คน ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 4 สาขา และเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกนับจาก Million Dollar Baby - เวทีแห่งฝัน วันแห่งศักดิ์ศรี ปี ค.ศ. 2004 ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ทั้ง 5 สาขารางวัลใหญ่ (บิ๊กไฟว์ออสการ์) โดยเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ผู้รับบท ทิฟฟานี แม็กซ์เวลล์ ได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีก 4 สาขา โดย เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประเภทภาพยนตร์เพลงหรือตลก เข้าชิงรางวัลแบฟตา 3 สาขา โดยเดวิด โอ.รัสเซล ผู้กำกับภาพยนตร์ได้รับรางวัลแบฟตาในสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ 4 สาขา, ได้รับรางวัลอินดิเพนเดนต์สปิริตอะวอดส์ 4 สาขา ได้แก่สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และสาขาการเขียนบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลภาพยนตร์แห่งปีของสถาบันภาพยนตร์อเมริกัน และได้รับรางวัลเอ็มทีวีมูวีแอนด์ทีวีอะวอดส์ อีก 3 สาขา
นักแสดง
แก้- แบรดลีย์ คูเปอร์ แสดงเป็น แพทริก หรือ "แพท" โซลิตาโน จูเนียร์ อดีตอาจารย์ที่เป็นโรคไบโพลาร์ ต้องหาคดีอาญาฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นและเลิกกับภรรยา จนต้องเข้าบำบัดในโรงพยาบาลจิตเวชตามคำสั่งศาล[3][4][5]
- เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ แสดงเป็น ทิฟฟานี แม็กซ์เวลล์ แม่ม่ายสาวที่สามีถูกรถชนเสียชีวิตและตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า โมโหร้ายและบางครั้งไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ โดยทิฟฟานีเคยกินยาทางประสาทเช่นเดียวกับแพทและเพิ่งถูกไล่ออกจากงาน[6]
- รอเบิร์ต เดอ นิโร แสดงเป็น แพท โซลิตาโน ซีเนียร์ พ่อของแพทและเจค เป็นแฟนบอลของฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ผู้ยึดถือโชคลางและสิ่งนำโชคเป็นสิ่งสำคัญ นิยมการเล่นพนันและหารายได้หลักมาจากการแทงพนัน[4][5]
- แจ็คกี วีเวอร์ แสดงเป็น โดโรเรส โซลิตาโน แม่ของแพทและเจค[7]
- เชีย วิกแฮม แสดงเป็น เจค โซลิตาโน พี่ชายของแพท
- คริส ทักเกอร์ แสดงเป็น แดนนี แม็คดาเนียลส์ อดีตพนักงานห้องเอ็กซเรย์ มีอาการสมาธิสั้นและโรควิตกกังวล ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเดียวกับแพทจนกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน
- จูเลีย สไตลส์ แสดงเป็น เวโรนิกา แม็กซ์เวลล์ พี่สาวของทิฟฟานี[8]
- จอห์น ออร์ทิซ แสดงเป็น รอนนี เพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของแพท เป็นสามีของเวโรนิกาและพี่เขยของทิฟฟานี
- เชอรีล วิลเลียมส์ แสดงเป็น แม่ของแพทและเวโรนิกา
- บรีอา บี แสดงเป็น นิกกี อาจารย์ซึ่งเป็นอดีตภรรยาของแพท
การผลิตและถ่ายทำ
แก้การคัดเลือกนักแสดง
แก้เดิมที แอนน์ แฮททาเวย์ เป็นนักแสดงคนแรกที่ได้รับบทเป็นทิฟฟานี แม็กซ์เวลล์ นางเอกของเรื่องแต่เนื่องจากตารางเวลาในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ไปซ้อนกับตารางเวลาในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง แบทแมน อัศวินรัตติกาลผงาด ที่เธอกำลังถ่ายทำอยู่ก่อนหน้านี้ เธอจึงขอถอนตัวออกไปในที่สุด[3][9][10] หลังจากนั้นเดวิด โอรัสเซลล์ ได้มองหาผู้ที่จะมารับบทดังกล่าวโดยได้พิจารณานักแสดงชื่อดังอย่าง เอลิซาเบท แบงส์, เคียร์สเต็น ดันสต์, แอนเจลีนา โจลี, เบลค ไลฟ์ลีย์, รูนีย์ มารา, ราเชล แม็กอดัมส์, แอนเดรีย ไรส์โบโร และ โอลิเวีย ไวลด์[11][12][13][14][15]
ในขั้นแรก โอรัสเซลล์ ไม่คิดว่าเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ เหมาะสมที่จะรับบทแม่ม่ายซึ่งเป็นนางเอกของเรื่องเพราะตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 21 ปี ซึ่งอายุห่างกันมากจากแบรดลีย์ คูเปอร์ พระเอกของเรื่องที่อายุ 37 ปี[11][12] แต่ในการทดสอบเพื่อเข้ารับบทของเธอทำให้เขาเปลี่ยนใจ เมื่อเห็นการแสดงออกทางสีหน้าและแววตาที่เกินกว่าอายุ สำหรับการแต่งกายและลักษณะภายนอกของตัวละครทิฟฟานี แม็กซ์เวลล์ มีการออกแบบให้เป็นแฟชันแนวกอทิกร็อก โดยตอนแรกเธอต้องย้อมผมเป็นสีดำและมีการแต่งหน้าแบบกอทิกอย่างชัดเจน แต่ไม่ผ่านการเห็นชอบจากไวน์สตีน จึงได้ปรับเปลี่ยนในขั้นสุดท้ายโดยลดการแต่งหน้าเหลือเพียงการย้อมผมดำและการใช้เครื่องประดับที่มีกลิ่นอายของแฟชั่นแนวกอทิกอย่างไม้กางเขน[16]
สำหรับฉากที่ต้องมีการเต้นรำ เนื่องจากเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ และ แบรดลีย์ คูเปอร์ไม่มีประสบการณ์ในการเต้นรำมาก่อน ทีมงานจึงได้ให้ แมนดี้ มัวร์ นักออกแบบท่าเต้นของรายการ โซยูทิงก์ยูแคนดานซ์ มาสอนการเต้นให้พวกเขาโดยใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน โดย แมนดี มัวร์ กล่าวชื่นชมคูเปอร์ว่า "มีความสามารถในการเต้นตามธรรมชาติ" ส่วนลอว์เรนซ์กล่าวถึงฉากที่มีการเต้นรำในห้องบอลรูมว่า "ไม่มีการเต้นสด ไม่ใช่อย่างแน่นอน ฉันเป็นนักเต้นที่แย่มากดังนั้นฉันไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้เลย และเมื่อในที่สุดเราต้องมาเต้นร่วมกัน มันจึงทำให้ฉากเหล่านั้นดูสนุกอย่างที่รู้สึกจริง ๆ”
การเผยแพร่จัดจำหน่าย
แก้โฮม มีเดีย
แก้ลุกขึ้นใหม่ หัวใจมีเธอ ออกวางจำหน่ายในรูปแบบดีวีดีและบลูเรย์ระดับภาพ Full-HD ในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนเมษายน 2013 และให้รับชมผ่านทางระบบวีดีโอออนดีมานด์และสตรีมมิงเช่น อเมซอน ไพรม์ วีดีโอ, แอปเปิลทีวี+, เน็ตฟลิกซ์
ส่วนในประเทศไทยมีการจัดจำหน่ายทั้งรูปแบบดีวีดี ระบบเสียงไทย ดอลบี 5.1 และแบบบลูเรย์ ระดับความคมชัดสูง (Full-HD) เสียงไทย ดีทีเอส เอชดี มาสเตอร์ ออดิโอ 5.1 โดยบริษัทยูไนเต็ด โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ในเดือนพฤษภาคม 2013 และให้รับชมผ่านระบบสตรีมมิงแบบมีคำบรรยายไทยทางเน็ตฟลิกซ์
อ้างอิง
แก้- ↑ "Silver Linings Playbook". BBFC. November 11, 2012. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 9, 2012. สืบค้นเมื่อ December 27, 2012.
- ↑ 2.0 2.1 "Silver Linings Playbook". Box Office Mojo. IMDb. 2012. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 3, 2016. สืบค้นเมื่อ May 3, 2013.
- ↑ 3.0 3.1 Wales, George (August 2, 2011). "Bradley Cooper joining the Silver Linings Playbook?". TotalFilm.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 12, 2013. สืบค้นเมื่อ October 23, 2011.
- ↑ 4.0 4.1 Anderton, Ethan (August 2, 2011). "Bradley Cooper Back on Silver Linings Playbook with Robert De Niro". FirstShowing.net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 17, 2020. สืบค้นเมื่อ October 23, 2011.
- ↑ 5.0 5.1 Fleming, Mike (August 1, 2011). "Bradley Cooper Back In Silver Linings Playbook Talks, Robert DeNiro Too". Deadline.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 16, 2014. สืบค้นเมื่อ October 23, 2011.
- ↑ "Jennifer Lawrence to Star in the Silver Linings Playbook". Zimbio.com. พฤศจิกายน 21, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ ธันวาคม 2, 2013. สืบค้นเมื่อ ตุลาคม 23, 2011.
- ↑ Kit, Borys (September 26, 2011). "Oscar-Nominated 'Animal Kingdom' Actress in Talks to Join 'Silver Lining Playbook'". The Hollywood Reporter. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 17, 2020. สืบค้นเมื่อ November 19, 2011.
- ↑ Dew, Blake (October 6, 2011). "Julia Stiles Joins David O. Russell's Silver Linings Playbook". WeGotThisCovered.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 17, 2020. สืบค้นเมื่อ October 23, 2011.
- ↑ Sieczkowski, Cavan (16 January 2014). "Jennifer Lawrence Was Not The First Choice For 'Silver Linings Playbook'". HuffPost. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 22, 2019. สืบค้นเมื่อ June 7, 2020.
- ↑ "Anne Hathaway & Mark Wahlberg Bailed on Silver Linings Playbook". E! Online. 2014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 7, 2020. สืบค้นเมื่อ June 7, 2020.
- ↑ 11.0 11.1 Chris Willman (November 30, 2012). "Silver Linings David O. Russell on How Jennifer Lawrence Skyped Her Way to Oscar Front-Runner". The Wrap. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 7, 2020. สืบค้นเมื่อ September 9, 2019.
- ↑ 12.0 12.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อStarPulse
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อCollider-Wahlberg
- ↑ Meriah Doty (September 10, 2012). "How Jennifer Lawrence stole her Silver Linings Playbook role". Yahoo.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 16, 2014. สืบค้นเมื่อ January 15, 2017.
- ↑ Jennifer Vineyard (December 20, 2012). "Party Lines Slideshow: David O. Russell Tells Us Who Else Auditioned for Silver Linings Playbook". Vulture.com. New York magazine. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 30, 2020. สืบค้นเมื่อ December 27, 2012.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อNYTimes