มหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ (ออสเตรเลีย)
มหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ (UNE) เป็น สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ใน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ได้ถูกก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1938 ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของออสเตรเลียที่ก่อตั้งขึ้นนอกเมืองหลวงของรัฐ[5] โดยมีวิทยาเขตหลักตั้งอยู่ในเมือง Armidale ในภูมิภาคกึ่งกลางระหว่างซิดนีย์และบริสเบน[6] ใน ค.ศ. 2021 มหาวิทยาลัยมีจำนวนนักศึกษาประมาณ 26,000 คน[7]
ชื่อเดิม | New England University College of the University of Sydney (1938–1954) | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
คติพจน์ | ละติน: Ex sapientia modus | ||||||
คติพจน์อังกฤษ | Out Of Wisdom Comes Moderation | ||||||
ประเภท | Public research university | ||||||
สถาปนา | มีนาคม 1938 | ||||||
ได้รับการรับรอง | TEQSA | ||||||
สังกัดวิชาการ | |||||||
อธิการบดี | James Harris[1] | ||||||
รองอธิการบดี | Chris Moran[1] | ||||||
อาจารย์ | 531 (2017)[2] | ||||||
เจ้าหน้าที่ | 719 (2017)[2] | ||||||
บุคลากรทั้งหมด | 1,282 (2017)[2] | ||||||
ผู้ศึกษา | 23,847 (2017)[2] | ||||||
ปริญญาตรี | 15,848 (2017)[2] | ||||||
บัณฑิตศึกษา | 6,101 coursework (2017) 729 research (2017)[2] | ||||||
ผู้ศึกษาอื่น | 1,169 non-award (2017)[2] | ||||||
ที่อยู่ | Elm Avenue , , , 2350 , 30°29′12″S 151°38′35″E / 30.4867°S 151.6430°E | ||||||
วิทยาเขต | Rural, 74 เฮกตาร์ (180 เอเคอร์)[3] | ||||||
สี | Gold, bottle green and black[4]
| ||||||
เว็บไซต์ | www |
ใน ค.ศ. 2019 UNE ได้มีการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษา ซึ่งได้รับคะแนนสูงเป็นอันดับ 6 เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียทั้งหมด และได้รับคะแนนความพึงพอใจของนักศึกษาสูงสุดจากมหาวิทยาลัยของรัฐทุกแห่งในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ด้วยคะแนนความพึงพอใจโดยรวมที่ 83.2[8][9] อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยยังจัดอยู่ในอันดับที่ค่อนข้างต่ำในเรื่องของด้านการวิจัยเมื่อเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นในออสเตรเลีย[10]
ประวัติศาสตร์
แก้การก่อตั้ง
แก้การเรียกร้องให้ขยายการศึกษาระดับอุดมศึกษาออกนอกเมืองซิดนีย์เริ่มขึ้นอย่างจริงจังหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1920 สมาชิกสภาท้องถิ่น David Drummond ได้นำคณะผู้แทนไปยังรัฐบาลของรัฐเพื่อผลักดันให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยในเมือง Armidale[11] คณะกรรมาธิการพิเศษแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ใน ค.ศ. 1924 ซึ่งมี John Jacob Cohen เป็นประธาน ได้เสนอแนะให้พิจารณาจัดตั้งมหาวิทยาลัยในชนบท และ Armidale Teachers' College ก็ได้ถูกจัดตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1928 การผลักดันอย่างเป็นระบบเพื่อจัดตั้งมหาวิทยาลัยในภูมิภาค New England เริ่มขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1930 ซึ่งตรงกับช่วงที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อให้ภูมิภาค New England แยกตัวออกจากรัฐ New South Wales และเข้าร่วมเป็นรัฐใหม่ของออสเตรเลีย ผู้สนับสนุนหลักในช่วงแรกๆ นอกเหนือจาก Drummond ได้แก่ Colin Sinclair, Earle Page และ Victor Thompson[12]
ใน ค.ศ. 1934 สภาชั่วคราวได้ระดมทุนสำหรับการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในภูมิภาคนิวอิงแลนด์และใน ค.ศ. 1938 New England University College ก็ได้รับการจัดตั้งขึ้นที่เมือง Armidale ในฐานะวิทยาลัยลูกของมหาวิทยาลัยซิดนีย์ โดยมี Earle Page เป็นประธานสภาที่ปรึกษาชุดแรกของวิทยาลัย[13] วิทยาลัยนี้ได้กลายเป็นมหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์อย่างสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1954 หลังจากพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ 1953 (NSW) มีผลบังคับใช้ มหาวิทยาลัยยังได้จัดตั้งคณะศึกษาศาสตร์ขึ้นใน ค.ศ. 1967[ต้องการอ้างอิง]
การเปลี่ยนผ่านสู่มหาวิทยาลัยเครือข่าย
แก้มหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ได้ผ่านการปรับโครงสร้างครั้งสำคัญใน ค.ศ. 1989 ภายใต้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย นิวอิงแลนด์ 1989 (NSW) โดยเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยเครือข่ายที่มีหลายวิทยาเขต ประกอบด้วยวิทยาเขตที่ Armidale ซึ่งรวมเอามหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์เดิมและ Armidale College of Advanced Education เข้าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังมีวิทยาเขตที่ Lismore ซึ่งผนวกวิทยาลัยการศึกษาขั้นสูง Northern Rivers College เข้าไว้เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย[ต้องการอ้างอิง]
ใน ค.ศ. 1990 วิทยาลัย Orange Agricultural College ก็ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายมหาวิทยาลัยนี้เช่นกัน นอกจากนี้ เครือข่ายยังรวมถึงศูนย์ UNE-Coffs Harbour ซึ่งให้บริการหลักสูตรจากคณะวิชาของวิทยาเขต Armidale และ Lismore[14]
การกลับสู่แบบวิทยาเขต
แก้ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1993 มหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ได้รับการจัดตั้งใหม่อีกครั้งตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย New England 1993 (NSW) และพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย Southern Cross 2536 (NSW) ที่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภา New South Wales กฎหมายฉบับนี้มีผลให้การดำเนินงานแบบเครือข่ายมหาวิทยาลัยถูกยกเลิก โดยตั้งแต่ ค.ศ. 1994 มหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ดำเนินการเพียงวิทยาเขตเดียวที่เมือง Armidale ในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัย Southern Cross ก็ได้รับการจัดตั้งขึ้นใหม่ โดยมีวิทยาเขตตั้งอยู่ที่เมือง Lismore และ Coffs Harbour ขณะที่วิทยาเขต Orange ได้ถูกควบรวมเข้ากับมหาวิทยาลัยซิดนีย์ [ต้องการอ้างอิง]
การควบรวมกิจการของ Armidale College of Advanced Education เสร็จสมบูรณ์ในช่วงเวลานี้ และในปีเดียวกันนั้นได้มีการก่อตั้งคณะนิติศาสตร์ขึ้น [ต้องการอ้างอิง]
คริสต์ทศวรรษ 2020
แก้ใน ค.ศ. 2020 มหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจาก การระบาดทั่วของโควิด-19 โดยในช่วงต้นปี มหาวิทยาลัยกลายเป็นสถานที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซึ่งทำให้นักศึกษาและบุคลากรต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัส[15] ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน มหาวิทยาลัยได้ประกาศแผนการปรับโครงสร้างบุคลากร เพื่อบรรลุเป้าหมายในการประหยัดค่าจ้างกว่า 20 ล้านดอลลาร์ต่อปี และเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสในอนาคต แผนการนี้ต้องแลกมาด้วยการสูญเสียตำแหน่งงานจำนวน 100 ตำแหน่ง[16]
วิทยาเขตมหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์
แก้มหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ตั้งอยู่บนพื้นที่หลายแห่งในเมือง Armidale โดยวิทยาเขตทางตอนเหนือห่างจากใจกลางเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร ท่ามกลางบรรยากาศชนบทที่เงียบสงบและป่าพรุ พื้นที่ส่วนหนึ่งของวิทยาเขตนี้มาจากที่ดินที่ T.R. Forster มอบให้กับมหาวิทยาลัยซิดนีย์เพื่อก่อตั้งมหาวิทยาลัย ที่ดินนี้รวมถึงเคหสถานเก่า "Booloominbah" พร้อมด้วยอาคารหลายหลังและที่ดินขนาด 74 เฮกตาร์ ตั้งแต่การบริจาคครั้งแรก ผู้อุปการะท่านอื่นได้มอบที่ดินเพิ่มเติมให้กับมหาวิทยาลัย ปัจจุบันที่ดินของมหาวิทยาลัยในเมือง Armidale มีพื้นที่รวมประมาณ 260 เฮกตาร์[17]
เคหสถานเก่า Booloominbah และบ้านพักรองอธิการบดี Trevenna ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง John Horbury Hunt
วิทยาเขต Newling ประกอบด้วย Newling Centre ซึ่งเป็นที่ตั้งของ New England Conservatorium of Music และอาคารอื่นๆ ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของ Armidale College of Advanced Education
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังมีที่ดินชนบทใกล้เคียงซึ่งใช้เป็นพื้นที่สำหรับการสอนและการวิจัย รวมถึงที่ดินวิจัย "Tullimba" ที่ตั้งอยู่ในคิงส์ทาวน์และสถานีวิจัยชนบท Douglas McMaster ที่เมืองวาริอัลดา[17]
มหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ยังมีระบบวิทยาลัยประจำที่ครอบคลุมมากที่สุดแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย โดยมีนักศึกษา UNE ประมาณครึ่งหนึ่งที่พักอาศัยในวิทยาลัยของมหาวิทยาลัย[18]
มหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์มีวิทยาเขตในเขตเมืองที่มีความคึกคัก โดย UNE Sydney ตั้งอยู่ในตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ในใจกลางย่านธุรกิจ Parramatta ตามที่ระบุในเว็บไซต์ วิทยาเขตแห่งนี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการเรียนรู้และการสนับสนุนนักศึกษาที่เรียนออนไลน์ในเขตเมืองเป็นหลัก รวมถึงนักศึกษาต่างชาติในหลักสูตรที่เลือก[19]
ใน ค.ศ. 2020 มหาวิทยาลัยประกาศแผนการสร้างวิทยาเขตใหม่ในเมืองแทมเวิร์ธภายใน ค.ศ. 2031[20] ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมีศูนย์การศึกษาใน Tamworth และ Taree ซึ่งรู้จักกันในชื่อ UNE Tamworth และ UNE Taree นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายศูนย์การศึกษาระดับภูมิภาคในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของ New South Wales และในนิวอิงแลนด์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขยายการเข้าถึงการศึกษาให้ครอบคลุมชุมชนระดับภูมิภาค
งานวิจัย
แก้มหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ (UNE) ดำเนินงานวิจัยทั้งในด้านพื้นฐานและประยุกต์ในหลากหลายสาขาวิชา นักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ของ UNE ได้สร้างชื่อเสียงระดับนานาชาติผ่านผลงานในด้านต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ชนบท เศรษฐศาสตร์การเกษตร การบริหารการศึกษา ภาษาศาสตร์ และโบราณคดี นอกจากนี้ UNE ยังมีความร่วมมือกับสถาบันวิจัยอื่นๆ เช่น CSIRO และศูนย์วิจัยร่วมระดับสูง (Cooperative Research Centres) ด้วยความมุ่งมั่นในการวิจัย มหาวิทยาลัยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของออสเตรเลีย รวมถึงการพัฒนาทักษะขั้นสูงสำหรับนักศึกษาในระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษา[21]
งานวิจัยหลักของ UNE คือด้านพันธุศาสตร์สัตว์และการปรับปรุงพันธุ์ปศุสัตว์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหน่วยพันธุศาสตร์และการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ (Animal Genetics and Breeding Unit - AGBU) และนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ผ่านสถาบันวิจัยธุรกิจการเกษตร (Agricultural Business Research Institute - ABRI)[22]
นอกจากนี้ งานวิจัยที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ด้านการศึกษาชนบท ซึ่งดำเนินการโดยศูนย์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เทคโนโลยีสารสนเทศ และคณิตศาสตร์ศึกษาเพื่อชนบทและภูมิภาคออสเตรเลีย (SiMERR)[23] รวมถึงงานวิจัยด้านชุมชนชนบท ภูมิทัศน์ และการปฏิบัติต่างๆ ที่นำโดยสถาบันอนาคตชนบท (Institute for Rural Futures - IRF)[24] สาขาวิจัยเป้าหมายอื่นๆ ได้แก่[21]
- การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมและการเกษตร: การปรับตัวและการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, ความหลากหลายทางชีวภาพในทะเลและน้ำจืด, ความหลากหลายทางชีวภาพทางบก, การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ, อนาคตชนบท, สัตว์พื้นถิ่นของออสเตรเลีย, การวิจัยพืชพรรณ, การเกษตรที่ยั่งยืน, พันธุศาสตร์ทางการเกษตร, การวิจัยสัตว์
- อนามัยชนบท: การแพทย์ชนบท, การบริหารงานบริการสุขภาพ, วัสดุชีวภาพที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพ, จิตวิทยาสุขภาพ,สุขภาพและเพศวิถีศึกษา
- การศึกษาในชนบทและภูมิภาค: การศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์, การศึกษาภาษาอังกฤษ, การศึกษาพิเศษ
- เศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะ: เศรษฐศาสตร์การเกษตร, เศรษฐศาสตร์ประยุกต์และนโยบาย, รัฐบาลท้องถิ่น, ธุรกิจและการจัดการ, การบริหารจัดการและนโยบายการศึกษาในระดับสูง
- ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก: รัฐล้มเหลว – รัฐที่กำลังเติบโต, การเสริมสร้างศักยภาพของประชาชน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน, ความขัดแย้งและการปกครอง, การศึกษาสันติภาพ, การย้ายถิ่นฐาน
- พรมแดนและขอบเขต: พรมแดนภูมิภาคของออสเตรเลีย, ศิลปะ สื่อ วัฒนธรรมและสังคม, สังคมโบราณ, ภาษาและการรับรู้, ความเชื่อและการคิด, คณิตศาสตร์ การวิเคราะห์เชิงซ้อน
- กฎหมาย: กฎหมายทรัพยากรธรรมชาติและนโยบาย, กฎหมายและการจัดการสถาบันสำหรับชุมชนชนบท
- ความมั่นคง: อาชญากรรม อาชญาวิทยา และความยุติธรรม, ความมั่นคงทางชีวภาพ, ความมั่นคงทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ
- มุมมองด้านน้ำ: ประวัติศาสตร์น้ำ, นโยบายเกี่ยวกับน้ำ, ทรัพยากรน้ำ
คณะวิชา
แก้คณาจารย์ด้านการวิจัยและการสอนของมหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ประเทศออสเตรเลีย แบ่งออกเป็น 3 คณะ ซึ่งรวมกันเป็น 9 คณะวิชาสหสาขาวิชา โดยทางมหาวิทยาลัยได้มีการเปิดสอนหลักสูตรมากกว่า 200 หลักสูตร [25]
- คณะมนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ สังคมศาสตร์
- คณะศึกษาศาสตร์
- คณะเกษตรศาสตร์
- คณะวิทยาศาสตร์
- คณะนิติศาสตร์
- คณะบริหารธุระกิจ
- คณะสาธารณสุขศาสตร์
- คณะจิตวิทยา
- คณะแพทยศาสตร์
การบริหาร
แก้อธิการบดีคนปัจจุบันคือ James Harris FRSN ซึ่งสืบต่อจาก John Watkins ใน ค.ศ. 2014[26] Brigid Heywood สืบต่อจาก Annabelle Duncan ในตำแหน่งรองอธิการบดีในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2019 [27] อย่างไรก็ตาม Brigid Heywood ลาออกในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2022 หลังจากถูกตั้งข้อหาทางอาญา[28] รองอธิการบดีของ UNE ศาสตราจารย์ Simon Evans ทำหน้าที่เป็นรองอธิการบดีจนกระทั่งพบผู้สืบทอดที่เหมาะสม คือ Chris Moran ใน ค.ศ. 2023[29][30]
ศิษย์เก่า
แก้ใน ค.ศ. 2011 มีนักศึกษามากกว่า 106,000 คนที่ได้รับวุฒิการศึกษาจาก UNE โดยหลายคนดำรงตำแหน่งระดับสูงในออสเตรเลียและต่างประเทศ [31] มีเครือข่ายศิษย์เก่าที่กระตือรือร้นซึ่งมีส่วนสนับสนุนมหาวิทยาลัย ทำให้สถาบันสามารถขยายงานและข้อเสนอต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง[32]
ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง ได้แก่:
- Chris Minns นายกรัฐมนตรีของนิวเซาท์เวลส์ (ปริญญาตรีศิลปศาสตร์)
- Michele Bullock ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (ปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ (เกียรตินิยม))
- Bernie Fraser อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียและอดีตเลขาธิการกระทรวงการคลัง (ปริญญาตรีศิลปศาสตร์ (เศรษฐศาสตร์))
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 "Council Members".
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 2.5 2.6 "UNE Overview". University of New England. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 April 2019. สืบค้นเมื่อ 4 August 2017.
- ↑ "UNE Armidale".
- ↑ https://www.une.edu.au/__data/assets/pdf_file/0005/9977/academic-dress.pdf [bare URL PDF]
- ↑ "UNE Origins". University of New England. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 November 2021. สืบค้นเมื่อ 11 October 2024.
- ↑ Armidale เก็บถาวร 16 กรกฎาคม 2016 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Retrieved 23 October 2010
- ↑ https://www.une.edu.au/__data/assets/pdf_file/0009/431478/2021-Narrative-Report.pdf [bare URL PDF]
- ↑ "2019 Student Experience Survey" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 18 April 2020. สืบค้นเมื่อ 19 June 2020.
- ↑ Baker, Jordan (10 March 2020). "UNSW students least satisfied in the country, survey shows". The Sydney Morning Herald. Fairfax Media. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 June 2020. สืบค้นเมื่อ 19 June 2020.
- ↑ "World University Rankings: Australia". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 December 2021. สืบค้นเมื่อ 28 December 2020.
- ↑ Belshaw, James (1979). "David Henry Drummond, 1890 - 1930: the formative years". Armidale and District Historical Society: Journal and Proceedings. Vol. 22. pp. 18–42.
- ↑ Wilks, Stephen (2020). 'Now is the Psychological Moment': Earle Page and the Imagining of Australia (PDF). ANU Press. pp. 200–201. ISBN 9781760463687.
- ↑ Wilks, p. 202.
- ↑ "Amalgamation and its aftermath". University of New England. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 August 2017. สืบค้นเมื่อ 4 August 2017.
- ↑ Messenger, Andrew. "Coronavirus: UNE staff, students tested for COVID-19 as university prepares outbreak plan". Armidale Express. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 April 2020. สืบค้นเมื่อ 28 February 2021.
- ↑ Bernasconi, Amelia; Craig, Haley (24 September 2020). "Uni of New England slashes more than 100 jobs in restructure". ABC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 January 2021. สืบค้นเมื่อ 28 February 2021.
- ↑ 17.0 17.1 "History". University of New England. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 February 2011. สืบค้นเมื่อ 1 March 2011.
- ↑ "UNE Accommodation". University of New England. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 August 2017. สืบค้นเมื่อ 4 August 2017.
- ↑ "UNE Sydney".
- ↑ Furlong, Caitlin (21 August 2021). "University of New England unveils plans for Tamworth campus by 2031". ABC News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 March 2021. สืบค้นเมื่อ 28 February 2021.
- ↑ 21.0 21.1 "Research". University of New England. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 December 2017. สืบค้นเมื่อ 4 August 2017.
- ↑ "Animal Genetics and Breeding Unit". University of New England. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 July 2011. สืบค้นเมื่อ 4 August 2017.
- ↑ "SiMERR Home". SiMERR National Research Centre. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 August 2017. สืบค้นเมื่อ 4 August 2017.
- ↑ "The Institute for Rural Futures". University of New England. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 April 2013. สืบค้นเมื่อ 4 August 2017.
- ↑ "Browse Courses". University of New England. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 October 2013. สืบค้นเมื่อ 4 August 2017.
- ↑ "New England grazier James Harris named as UNE's new Chancellor". University of New England. 20 November 2014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 April 2018. สืบค้นเมื่อ 4 August 2017.
- ↑ "Professor Brigid Heywood appointed as next Vice Chancellor of UNE". University of New England. 18 April 2019. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 July 2019. สืบค้นเมื่อ 16 Jul 2019.
- ↑ "University of New England vice chancellor Brigid Heywood resigns after being charged with assault". MSN. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 August 2022. สืบค้นเมื่อ 5 August 2022.
- ↑ "University of New England vice chancellor resigns after schoolgirl assault charge". 5 August 2022. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 August 2022. สืบค้นเมื่อ 8 August 2022.
- ↑ "Professor Chris Moran appointed next Vice- Chancellor and CEO".
- ↑ "Alumni of Distinction and Award Winners". University of New England. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 December 2017. สืบค้นเมื่อ 2 August 2017.
- ↑ "Alumni and Giving". University of New England. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 February 2022. สืบค้นเมื่อ 2 August 2017.
Further reading
แก้- Margaret Ann Franklin, The New England Experience: Inside Stories of U.N.E., 1938 to 1988, Armidale, N.S.W.: U.N.E. Alumni Association, 1988.