ภาสกร บุญญลักษม์

ภาสกร บุญญลักษม์ (เกิด 11 ตุลาคม พ.ศ. 2510) เป็นข้าราชการพลเรือนชาวไทย ดำรงตำแหน่งสำคัญ ๆ เช่น อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี[2] ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย

ภาสกร บุญญลักษม์
อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
เริ่มดำรงตำแหน่ง
17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
ก่อนหน้าไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี
ดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม พ.ศ. 2566 – 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
ก่อนหน้าณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร
ถัดไปสมคิด จันทมฤก
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่
ดำรงตำแหน่ง
2 ธันวาคม พ.ศ. 2565 – 30 กันยายน พ.ศ. 2566
ก่อนหน้าพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์
ถัดไปสมชาย หาญภักดีปฏิมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
ดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 – 1 ธันวาคม พ.ศ. 2565
ก่อนหน้าประจญ ปรัชญ์สกุล
ถัดไปพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด11 ตุลาคม พ.ศ. 2510 (57 ปี)
จังหวัดพระนคร ประเทศไทย
คู่สมรสบุษบา แสนทวีสุข (สมรส 2539)
บุตร2 คน
บุพการี
  • พันตำรวจเอก ประภัทร์ บุญญลักษม์ (บิดา)
  • คิโยโก๊ะ บุญญลักษม์ (มารดา)
ความสัมพันธ์พลตำรวจตรี ภาณุมาศ บุญญลักษม์ (พี่ชาย)
การศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อาชีพข้าราชการพลเรือน
ทรัพย์สินสุทธิ40 ล้านบาท
(พ.ศ. 2567)[1]
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ ไทย
สังกัด กองอาสารักษาดินแดน
ประจำการพ.ศ. 2536 – ปัจจุบัน
ยศ นายกองเอก
บังคับบัญชากองอาสารักษาดินแดนจังหวัดปทุมธานี
กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดกระบี่
กองอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงราย

ประวัติ

แก้

ภาสกร บุญญลักษม์ เป็นชาวกรุงเทพมหานคร เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2510 จบการศึกษาจากระดับปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[3]

รับราชการ

แก้

ภาสกรเริ่มต้นรับราชการในตำแหน่งนายอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี จากนั้นมาเป็นนายอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ตามด้วยรักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองนนทบุรี ก่อนจะได้รับแต่งตั้งเป็นนายอำเภอเมืองนนทบุรี ในปี 2554 ตามด้วยตำแหน่งนายอำเภอเมืองพิษณุโลกและได้รับรางวัล ครุฑทองคำ จากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเมื่อปี 2558 จากผลงานการจับกุมพ่อค้ายาเสพติดได้อย่างต่อเนื่องจนขยายผลเข้าไปถึงในเรือนจำ[4] ต่อมาในปีเดียวกัน ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นปลัดจังหวัดกำแพงเพชร[5]

จากนั้นในปี 2560 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย[6] ในยุคที่นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด และได้ร่วมในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยถ้ำหลวง[7] กระทั่งวันที่ 1 ตุลาคม 2563 จึงได้รับโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย[8][9] ต่อมาในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แทนประจญ ปรัชญ์สกุล ที่ขยับไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่[10][11]

แต่ดำรงตำแหน่งได้เพียงปีเดียว ก็ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ สลับกับพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์[12] และจากการโยกย้ายในครั้งนี้ส่งผลให้อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชื่อดังและศิลปินแห่งชาติถึงกับหลั่งน้ำตาโดยให้เหตุผลว่าภาสกรเป็นคนมุ่งมั่นในการทำงาน[13] ในวันที่ 18 กันยายน 2566 ในการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ประชุมมีมติให้ภาสกร มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีสืบต่อจากณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร หรือผู้ว่าหมูป่าที่เสียชีวิตไป[14]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

แก้

อ้างอิง

แก้
  1. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ, บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กรณีดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี, สืบค้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2568
  2. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 140 ตอนพิเศษ 245 ง หน้า 3 วันที่ 2 ตุลาคม 2566
  3. ภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าฯเชียงราย สลับคุมกระบี่
  4. เปิดใจ 1 ใน 4 ขรก.ดีเด่นเมืองสองแคว จับยาไม่กี่เม็ดขยายผลทลายแก๊งถึงเรือนจำ
  5. ปลัดจังหวัดใหม่
  6. รอง ผวจ.ใหม่
  7. ไม่ต้องกังวล!ทีมหมูป่ากินอาหารมื้อแรกในรอบ 9 วันแล้ว ทีมแพทย์ซีลประกบในถ้ำ
  8. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
  9. จับตา"มหาดไทย"ย้ายใหญ่!
  10. กรุแตก! 11 ผู้ตรวจราชการ กระจายนั่ง 'ผู้ว่าฯ' คุมจังหวัดใหญ่ เชียงราย-ร้อยเอ็ด-สกลนคร
  11. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
  12. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
  13. เปิดประวัติ ภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าฯเชียงราย คนที่ อ.เฉลิมชัย ไม่อยากให้ย้าย
  14. มท. โยกย้าย ขรก.ระดับสูง 24 ตำแหน่ง “อรรษิษฐ์” ผงาดนั่งอธิบดีกรมการปกครอง
  15. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๔, เล่ม ๑๓๙ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๑๑๕, ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
  16. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๗, เล่ม ๑๓๑ ตอนที่ ๒๗ ข หน้า ๔๗, ๓ ธันวาคม ๒๕๕๗
  17. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๑๑๒ ตอนที่ ๒๐ ข หน้า ๒๙, ๒๙ ธันวาคม ๒๕๓๘
  18. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญราชการชายแดน, เล่ม ๑๑๒ ตอนที่ ๑๙ ข หน้า ๑๙๓, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๓๘
  19. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์, เล่ม ๑๒๓ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๑๙, ๒๕ ธันวาคม ๒๕๔๙
  20. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา ประจำปี ๒๕๖๓, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๓ ข หน้า ๓, ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔
  21. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ และเหรียญลูกเสือสดุดี ประจำปี ๒๕๖๒, เล่ม ๑๔๐ ตอนที่ ๓๐ ข หน้า ๕, ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๖