ภาษาเสาราษฏร์
ภาษาเสาราษฏร์ (อักษรเสาราษฏร์: ꢱꣃꢬꢵꢰ꣄ꢜ꣄ꢬ ꢩꢵꢰꢵ, อักษรทมิฬ: சௌராட்டிர மொழி, อักษรเทวนาครี: सौराष्ट्र भाषा) เป็นภาษากลุ่มอินโด-อารยันที่มีผู้พูดหลักเป็นชาวเสาราษฏร์ในอินเดียใต้
ภาษาเสาราษฏร์ | |
---|---|
ꢱꣃꢬꢵꢰ꣄ꢜ꣄ꢬ ꢩꢵꢰꢵ சௌராஷ்டிர மொழி సౌరాష్ట్ర భాష सौराष्ट्र भाषा ಸೌರಾಷ್ಟ್ರ ಭಾಷೆ | |
วลี "เสาราษฏร์" ในอักษรเสาราษฏร์ | |
ประเทศที่มีการพูด | อินเดีย |
ภูมิภาค | รัฐทมิฬนาฑู, รัฐอานธรประเทศ, รัฐกรณาฏกะ |
ชาติพันธุ์ | ชาวเสาราษฏร์ |
จำนวนผู้พูด | 247,702 (2011 census)[1] |
ตระกูลภาษา | |
รูปแบบก่อนหน้า | Sauraseni Prakrit
|
ภาษาถิ่น | ภาษาเสาราษฏร์ถิ่นเหนือ
ภาษาเสาราษฏร์ถิ่นใต้
|
ระบบการเขียน | อักษรเสาราษฏร์ (พราหมี) อักษรทมิฬ อักษรเตลูกู อักษรเทวนาครี อักษรละติน |
รหัสภาษา | |
ISO 639-3 | saz |
ครั้งหนึ่งภาษาเสาราษฏร์ ซึ่งเป็นภาษาที่แยกจาก Sauraseni Prakrit[2] มีผู้พูดในแคว้นเสาราษฏร์ในรัฐคุชราต ปัจจุบันมีผู้พูดทั่วรัฐทมิฬนาฑู[3]
ภาษานี้มีอักษรของตนเองที่มีชื่อเดียวกัน แต่บางส่วนยังเขียนด้วยอักษรทมิฬ, อักษรเตลูกู และอักษรเทวนาครี อักษรเสาราษฏร์สืบต้นตอจากอักษรพราหมี ที่มีต้นตอจากตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียน ซึ่งต่างจากภาษารอบ ๆ ที่มีต้นตอจากตระกูลภาษาดราวิเดียน ผู้พูดภาษานี้บางส่วนโต้เถียงว่าอักษรไหนเหมาะสำหรับภาษานี้มากที่สุด[4] สำมะโนอินเดียจัดให้ภาษานี้อยู่ในกลุ่มคุชราต โดยมีจำนวนผู้พูดภาษานี้อย่างเป็นทางการที่ 247,702 คน (สำมะโน ค.ศ. 2011)[5]
การแพร่กระจายทางภูมิศาสตร์
แก้ชาวเสาราษฏร์ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองมุนดาไร ทางใต้ของรัฐทมิฬนาฑูและมีแพร่กระจายอยู่ในเมืองอื่น ๆ ด้วย มีผู้พูดในรัฐอานธรประเทศซึ่งคาดว่าย้ายไปจากรัฐทมิฬนาฑู ภาษาของชาวเสาราษฏร์ในอานธรประเทศใกล้เคียงกับในทมิฬนาฑูเพียงแต่เพิ่มอิทธิพลของภาษาเตลูกูเข้ามา
ประวัติ
แก้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ชี้ให้เห็นว่าชาวเสาราษฏร์เดิมอยู่ในเขตเสาราษฏร์ รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดีย หลักฐานจากเพลงพื้นบ้านและงานวิจัยทางพันธุกรรมสนับสนุนข้อเสนอนี้ แต่ภาษาเสาราษฏร์มีความใกล้เคียงกับภาษามราฐีและภาษากอนกานีที่เป็นภาษากลุ่มอินโด-อารยันทางตะวันตกของอินเดียมากกว่าภาษาคุชราตที่เป็นภาษาหลักของรัฐคุชราตในปัจจุบัน นักภาษาศาสตร์อธิบายว่าทั้งภาษาเสาราษฏร์และภาษาคุชราตแตกกิ่งมาจากภาษาเดียวกันแต่มีพัฒนาการต่างกัน ภาษาคุชราตได้รับอิทธิพลจากภาษาฮินดี ภาษาเปอร์เซีย และภาษาอาหรับ ในขณะที่ผู้พูดภาษาเสาราษฏร์อพยพออกไปก่อนที่อิทธิพลของมุสลิมจะเข้ามาในคุชราต ได้รับอิทธิพลจากภาษากอนกานี ภาษามราฐี ภาษากันนาดา ภาษาทมิฬและภาษาเตลุกุ เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าภาษาเปอร์เซียและภาษาอาหรับมีอิทธิพลต่อภาษากอนกานีและภาษามราฐีน้อย ทำให้ทั้งสองภาษายังคงคำศัพท์และลักษณะทางไวยากรณ์จากภาษาสันสกฤตไว้ได้มาก
การอพยพลงใต้ของชาวเสาราษฏร์น่าจะได้รับอิทธิพลจากการรุกรานของมุสลิมแต่ไม่มีรายละเอียดว่าอพยพเมื่อใดและเป็นจำนวนเท่าใด พวกเขาเข้ามาในอาณาจักรวิชยนคร ซึ่งมีเมืองหลวงอยู่ในรัฐการณตกะในปัจจุบัน ที่นีมีภาษาเตลุกุและภาษากันนาดาเป็นภาษาหลัก และมีการใช้ภาษาสันสกฤตกับภาษาทมิฬด้วย ยุคนี้จึงเป็นยุคที่ภาษาเสาราษฏร์รับอิทธิพลจากภาษาเตลุกุและกันนาดา
เมื่อวิชยนครแผ่อำนาจลงใต้ยึดเมืองมุนดาไรและ ฐันชวุระเข้ารวมกับอาณาจักรได้จึงจัดให้ชาวเสาราษฏร์บางส่วนลงไปในบริเวณดังกล่าว อีก 200 ปีต่อมา อาณาจักรวิชยนครเสื่อมสลายไปเมื่อ พ.ศ. 2103 หลังจากสุลต่านแห่งเดคคันชนะสงครามตาลิโกตา เปิดอินเดียใต้เข้ารับการติดต่อกับมุสลิม
เมื่อเปลี่ยนศูนย์อำนาจการปกครองใหม่ทำให้ชาวเสาราษฏร์อพยพลงใต้อีกครั้ง ทำให้ภาษาของพวกเขาได้รับอิทธิพลจากภาษาทมิฬจนกลายเป็นภาษาในปัจจุบัน มีผู้พูดภาษามราฐีกลุ่มหนึ่งในฐันชวุระ ซึ่งไม่ใช่ชาวเสาราษฏร์
ระบบการเขียน
แก้ภาษาเสาราษฏร์มีอักษรเป็นของตนเองมานานกว่า 100 เรียกว่าอักษรเสาราษฏร์ ภาษานี้มีการใช้เป็นภาษาพูดมากกว่า ผู้พูดภาษานี้ใช้ภาษาเตลุกุหรือภาษาทมิฬเป็นภาษาที่สองและมักใช้ภาษาที่สองเป็นภาษาเขียน ปัจจุบันมีการเขียนภาษาเสาราษฏร์สี่ระบบคือ
- อักษรทมิฬโดยเพิ่มเครื่องหมายแสดงเสียงที่ไม่มีในภาษาทมิฬ
- อักษรเทวนาครี เหมาะกับเสียงในภาษาเสาราษฏร์ แต่มีคนใช้น้อย
- อักษรเสาราษฏร์ มีความพยายามฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเลิกใช้ไปเป็นเวลานาน
- อักษรละติน นิยมใช้ในคนรุ่นใหม่เพราะใช้แทนเสียงได้ครบ แต่ยังมีความรู้สึกแปลกแยกว่าเป็นอักษรของต่างชาติ
อักษรเสาราษฏร์
แก้ในอดีต ภาษาเสาราษฏร์เคยเป็นภาษาที่ถ่ายทอดด้วยการพูด และไม่มีอักษรเป็นของตนเอง ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึง 18 มีบางส่วนพยายามเขียนด้วยอักษรเตลูกู จากนั้นจึงมีการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ต่อมาในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีความพยายามที่จะฟื้นฟูอักษรด้วยการตัดตัวเชื่อมที่ซับซ้อนส่วนใหญ่ทิ้ง[6]
สระ
แก้พยัญชนะ
แก้คำประสม
แก้ตัวเลข
แก้อักษรเทวนาครี
แก้ปัจจุบัน ชาวเสาราษฏร์เริ่มนำอักษรเทวนาครีมาใช้งานแล้ว[7] ตารางอักษรประกอบด้วยสระ, พยัญชนะ และคำประสมในอักษรเทวนาครีดังนี้:
อ้างอิง
แก้- ↑ "Statement 1: Abstract of speakers' strength of languages and mother tongues – 2011". www.censusindia.gov.in. Office of the Registrar General & Census Commissioner, India. สืบค้นเมื่อ 7 July 2018.
- ↑ Paul John, Vijaysinh Parmar (2016). "Gujaratis who settled in Madurai centuries ago brought with them a unique language – Times of India". The Times of India. สืบค้นเมื่อ 15 April 2018.
- ↑ "Saurashtra". Ethnologue (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 8 June 2018.
- ↑ "Script Description [Saurashtra]". ScriptSource. สืบค้นเมื่อ 16 April 2018. Material was copied from this source, which is available under a Creative Commons Attribution-ShareAlike 3.0 Unported license.
- ↑ "Statement 1: Abstract of speakers' strength of languages and mother tongues – 2011". www.censusindia.gov.in. Office of the Registrar General & Census Commissioner, India. สืบค้นเมื่อ 7 July 2018.
- ↑ R. V, SOWLEE (2003). "The Hindu : Saurashtra dictionary". www.thehindu.com. สืบค้นเมื่อ 11 June 2018.
- ↑ Venkatesh, Karthik (10 June 2017). "Of little-known Indian languages and scripts". Livemint. สืบค้นเมื่อ 27 September 2018.
แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- Sourashtra World เก็บถาวร 2022-02-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน