จักรพรรดินีหม่า

สมเด็จพระจักรพรรดินีเซี่ยวฉือเกา (จีน: 孝慈高皇后; พินอิน: Xiàocí gāo huánghòu) หรือ หม่าหวงโฮ่ว (จีนตัวย่อ: 马皇后; จีนตัวเต็ม: 馬皇后; พินอิน: Mǎ huánghòu; ค.ศ. 1332 - ค.ศ. 1382) เป็นจักรพรรดินีพระองค์เดียว ในจักรพรรดิหมิงไท่จู่ แห่งราชวงศ์หมิง

เซี่ยวฉือเกาหวงโฮ่ว
สมเด็จพระจักรพรรดินี
จักรพรรดินีราชวงศ์หมิง
ดำรงพระยศค.ศ. 1368 - ค.ศ. 1382
ก่อนหน้าพระองค์แรกในราชวงศ์หมิง
ถัดไปจักรพรรดินีเหรินเซี่ยวเหวิน
จักรพรรดินีจีน
ดำรงพระยศค.ศ. 1368 - ค.ศ. 1382
ก่อนหน้าจักรพรรดินีคี
ถัดไปจักรพรรดินีเหรินเซี่ยวเหวิน
ข้อมูลส่วนพระองค์
พระราชอิสริยยศจักรพรรดินี
ฐานันดรศักดิ์พระอัครมเหสี
สถานะการสมรสพระภรรยาเจ้า
พระนามลำลองจักรพรรดินีเท้าโต
(大脚皇后)
จักรพรรดินีหม่าเท้าโต
(大脚马皇后)
พระราชสมภพ18 เดือน 7 ค.ศ.1332
สวรรคต23 เดือน 9 ค.ศ.1382
รัชศกหงอู่ปีที่ 15
(51 พรรษา)
นครอิ้งเทียน
มหาจักรวรรดิหมิง
ฝังพระบรมศพสุสานหลวงหมิงเซี่ยว
พระนามทั้งหมด
พระสมัญญานาม
"แบบสั้น"
เซี่ยวฉือเกาหวงโฮ่ว
孝慈高皇后
"แบบยาว"
เซี่ยวฉือเจินฮว่าเจ๋อซุ่นเหรินฮุยเฉิงเทียนอวี้เชิ่งจื้อเต๋อเกาหวงโฮ่ว
孝慈贞化哲顺仁徽成天育圣至德高皇后
พระราชสวามีไท่จู่เกาหวงตี้จูหยวนจาง
พระราชชนกสวีอ๋องหม่ากง (徐王马公)
พระราชชนนีสวีหวางเฟยเจิ้งเอ่า (徐王妃郑媪)
พระบิดาบุญธรรมฉูหยางอ๋องกัวจื่อซิ่ง (滁阳王郭子兴)
พระมารดาบุญธรรมท่านหญิงจาง (张氏)
พระราชโอรส
พระราชธิดา
  • เจ้าหญิงหนิงกั๋ว
  • เจ้าหญิงอันชิ่ง
ราชวงศ์ราชวงศ์หมิงโดยการอภิเษกสมรส
ตระกูลหม่า (马)

พระองค์เป็นพระราชชนนีของหวงไท่จื่อจูเปียว และจักรพรรดิหมิงเฉิงจู่ เป็นพระอัยยิกาฝ่ายพระราชชนกในจักรพรรดิหมิงฮุ่ยจง และจักรพรรดิหมิงเหรินจง

พระบรมราชประวัติ แก้

พระชนม์ชีพ แก้

จักรพรรดินีเซี่ยวฉือเกา ไม่มีบันทึกถึงพระนามเดิม[1] พระองค์เสด็จพระราชสมภพเมื่อ ค.ศ.1332 ในตระกูลหม่า เป็นพระราชธิดาในสวีอ๋องกับสวีหวางเฟย ก่อนที่พระราชชนก และพระราชชนนีจะเสด็จสวรรคต ทรงนำจักรพรรดินีเซี่ยวฉือเกาให้อยู่ในการอุปการะ เป็นพระราชธิดาบุญธรรมของฉูหยางอ๋องกัวจื่อซิ่ง ต่อมาเมื่อทรงเจริญพระชนมพรรษาขึ้น ได้อภิเษกสมรสกับจักรพรรดิหมิงไท่จู่[2]

รัชศกหงอู่ปีที่ 1 (ค.ศ. 1368) จักรพรรดิหมิงไท่จู่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติขึ้นเป็นจักรพรรดิ ประกาศสถาปนาจักรวรรดิต้าหมิง ตั้งอิ้งเทียนฝู่ขึ้นเป็นนครหลวง ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าสถาปนาจักรพรรดินีหม่าขึ้นที่พระอัครมเหสี และประกาศโปรดเกล้าสถาปนาจูเปียวในฐานะพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ ขึ้นเป็น "หวงไท่จื่อ" [3]

รัชศกหงอู่ปีที่ 2 (ค.ศ. 1369) จักรพรรดิหมิงไท่จู่มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าสถาปนา พระบรมราชบุพการีในจักรพรรดินีเซี่ยวฉือเกา ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาหม่ากง ขึ้นเป็น "สวีอ๋อง" และทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาเจิ้งเอ่า ขึ้นเป็น "สวีหวางเฟย"

พระราชจริยวัตร แก้

ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ พระองค์ทรงมีพระอุปนิสัยที่ดีงาม เฉลียวฉลาด มีสติปัญญาเลิศ ไม่ทรงโปรดความฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย ทรงใช้สอยเครื่องอุปโภคบริโภคอย่างประหยัด แม้พระภูษาจะชำรุดแต่พระองค์ก็ไม่โปรดให้ตัดเย็บขึ้นใหม่ แต่โปรดให้นำไปซ่อมแซมแทน แล้วนำพระภูษามาฉลองซ้ำแล้วซ้ำอีก ทรงใช้จ่ายพระราชทรัพย์อย่างประหยัด ทรงโปรดการสอนวิชาความรู้ให้ราษฎร อีกทั้งก่อนและหลังจักรพรรดิหมิงไท่จู่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติขึ้นเป็นจักรพรรดิ พระองค์ได้ให้ความช่วยเหลือแบ่งเบาพระราชภารกิจที่มากมายของจักรพรรดิหมิงไท่จู่

แม้ว่าจักรพรรดินีหม่าจะเป็นถึงพระอัครมเหสี แต่พระองค์ก็ยังคงดูแลมื้อพระกระยาหารของจักรพรรดิหมิงไท่จู่ด้วยพระองค์เองอยู่ทุกวัน พระองค์ยังดูแลมื้อพระกระยาหาร และพระภูษาของเหล่าพระราชโอรสธิดา และพระราชนัดดาด้วยพระองค์เอง โดยทรงใส่ใจในทุกรายละเอียด มีพระอุปนิสัยที่อ่อนโยนต่อนางกำนัลข้าหลวงในพระราชวัง และเหล่าขุนนางเสนาบดี เมื่อเหล่าสตรีในวังหลังมีปัญหา จักรพรรดินีหม่าทรงไกล่เกลี่ยด้วยความเมตตา[4]

เสด็จสวรรคต แก้

ในเดือนสิงหาคม รัชศกหงอู่ปีที่ 15 จักรพรรดินีเซี่ยวฉือเกาทรงพระประชวร เสด็จสวรรคต (ค.ศ. 1382) สิริพระชนมพรรษา 51 พรรษา จักรพรรดิหมิงไท่จู่ทรงพระโทมนัสยิ่ง ทรงไม่โปรดเกล้าสถาปนาพระมเหสีองค์ใดขึ้นเป็นจักรพรรดินีอีกตลอดรัชกาล ในเดือนกันยายนของปีเดียวกัน หีบพระบรมศพได้ประดิษฐานไว้ในสุสานหลวงหมิงเซี่ยว และจักรพรรดิหมิงไท่จู่มีพระบรมราชโองการให้ทรงเฉลิมพระสมัญญานามสมเด็จพระจักรพรรดินีหม่าขึ้นว่า "เซี่ยวฉือหวงโฮ่ว (孝慈皇后)"[5][6]

ในเดือนมิถุนายน รัชศกหย่งเล่อปีที่ 1 (ค.ศ. 1403) จักรพรรดิหมิงเฉิงจู่มีพระบรมราชโองการให้ทรงเฉลิมพระสมัญญานามขึ้นว่า "เซี่ยวฉือจาวเซี่ยนจื้อเหรินเหวินเต๋อเฉิงเทียนซุ่นเชิ่งเกาหวงโฮ่ว (孝慈昭宪至仁文德承天顺圣高皇后)"

ในรัชศกเจียจิ้งปีที่ 17 (ค.ศ. 1538) จักรพรรดิหมิงซื่อจงมีพระบรมราชโองการให้ทรงเฉลิมพระสมัญญานามขึ้นว่า "เซี่ยวฉือเจินฮว่าเจ๋อซุ่นเหรินฮุยเฉิงเทียนอวี้เชิ่งจื้อเต๋อเกาหวงโฮ่ว (孝慈贞化哲顺仁徽成天育圣至德高皇后)"

พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ แก้

 

พระเกียรติยศ แก้

พระราชอิสริยยศ แก้

พระองค์ทรงได้รับการสถาปนาและเฉลิมพระนามาภิไธย ดังนี้

  • รัชศกเหรินเซินปีที่ 3 (ค.ศ.1332) :
    • นางหม่า (馬氏)
  • รัชศกหงอู่ปีที่ 1 (ค.ศ. 1368) :
    • หวงโฮ่ว (皇后)
  • รัชศกหงอู่ปีที่ 15 (ค.ศ. 1382) :
    • เซี่ยวฉือหวงโฮ่ว (孝慈皇后)
  • รัชศกหย่งเล่อปีที่ 1 (ค.ศ. 1403) :
    • เซี่ยวฉือจาวเซี่ยนจื้อเหรินเหวินเต๋อเฉิงเทียนซุ่นเชิ่งเกาหวงโฮ่ว
      (孝慈昭宪至仁文德承天顺圣高皇后)
  • รัชศกเจียจิ้งปีที่ 17 (ค.ศ. 1538) :
    • เซี่ยวฉือเจินฮว่าเจ๋อซุ่นเหรินฮุยเฉิงเทียนอวี้เชิ่งจื้อเต๋อเกาหวงโฮ่ว
      (孝慈贞化哲顺仁徽成天育圣至德高皇后)

พระราชสันตติวงศ์ แก้

ลำดับ พระรูป พระนาม ประสูติ สิ้นพระชนม์ หมายเหตุ
1   หมิงซิงจงจูเปียว ค.ศ. 1355 ค.ศ. 1392 หวงไท่จื่อพระองค์แรกในราชวงศ์หมิง
2 ฉินหมินอ๋องจูชฺวัง ค.ศ. 1356 ค.ศ. 1395 อ๋องสายพระมาลาเหล็ก พระราชโอรสลำดับที่ 2 ในจักรพรรดิหมิงไท่จู่ ได้รับการกล่าวว่ามีอำนาจทางทหารมากที่สุดในบรรดาอ๋องทั้งหมด
3   จิ้งกงอ๋องจูกัง ค.ศ. 1358 ค.ศ. 1398 อ๋องสายพระมาลาเหล็ก
4   เฉิงจู่เหวินหวงตี้จูตี้ (โต้แย้ง) ค.ศ. 1360 ค.ศ. 1424 จักรพรรดิรัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์หมิง
5 โจวติ้งอ๋องจูซู่ ค.ศ. 1361 ค.ศ. 1425 อ๋องสายพระมาลาเหล็ก
6 เจ้าหญิงหนิงกั๋ว ค.ศ. 1364 ค.ศ. 1434 ในรัชศกหย่งเล่อปีที่ 22 ได้รับการสถาปนาเป็น "ต้าฉางกงจู่ (大长公主)"
6 เจ้าหญิงอันชิ่ง ไม่ทราบ ไม่ทราบ พระราชธิดาลำดับที่ 4 ในจักรพรรดิหมิงไท่จู่

การประเมินทางประวัติศาสตร์ แก้

จักรพรรดินีเซี่ยวฉือเกา ทรงได้รับการยกย่องจากนักประวัติศาสตร์ ให้เป็นหนึ่งในจักรพรรดินีของจีน ผู้ทรงมากล้นด้วยคุณธรรม และพระเมตตา เป็นแบบอย่างแก่ชนรุ่นหลัง

แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม แก้

ข้อมูลอ้างอิง แก้

  1. 惠焕章 (2004). 明太祖朱元璋百谜. 陕西旅游出版社. ISBN 7-5418-2028-8.
  2. 《明史》(卷113):“太祖孝慈高皇后马氏,宿州人。父马公,母郑媪,早卒。马公素善郭子兴,遂以-{后}-托子兴。马公卒,子兴育之如己女。子兴奇太祖,以-{后}-归焉。”
  3. 《明史·卷一百十三·列传第一》:洪武元年正月,太祖即帝位,册为皇后。
  4. 明史》(卷113):“帝前殿决事,或震怒,-{后}-伺帝还宫,辄随事微谏。虽帝性严,然为缓刑戮者数矣。参军郭景祥守和州,人言其子持槊欲杀父,帝将诛之。-{后}-曰:“景祥-{只}-一子,人言或不实,杀之恐绝其-{後}-。”帝廉之,果枉。李文忠守严州,杨宪诬其不法,帝欲召还。-{后}-曰:“严,敌境也,轻易将不宜。且文忠素贤,宪言讵可信?”帝遂已。文忠-{後}-卒有功。学士宋濂坐孙慎罪,逮至,论死,-{后}-谏曰:“民家为子弟延师,尚以礼全终始,况天子乎?且濂家居,必不知情。”帝不听。会-{后}-侍帝食,不御酒肉。帝问故。对曰:“妾为宋先生作福事也。”帝恻然,投箸起。明日赦濂,安置茂州。吴兴富民沈秀者,助筑都城三之一,又请犒军。帝怒曰:“匹夫犒天子军,乱民也,宜诛。”-{后}-谏曰:“妾闻法者,诛不法也,非以诛不祥。民富敌国,民自不祥。不祥之民,天将灾之,陛下何诛焉!”乃释秀,戍云南。帝尝令重囚筑城。-{后}-曰:“赎罪罚役,国家至恩。但疲囚加役,恐仍不免死亡。”帝乃悉赦之。帝尝怒责宫人,-{后}-亦佯怒,令执付宫正司议罪。帝曰:“何为?”-{后}-曰:“帝王不以喜怒加刑赏。当陛下怒时,恐有畸重。付宫正,则酌其平矣。即陛下论人罪亦诏有司耳。””
  5. 《明史》卷一百十三 列传第一:帝欲访后族人官之,后谢曰:“爵禄私外家,非法。”力辞而止。然言及父母早卒,辄悲哀流涕。帝封马公徐王,郑媪为王夫人,修墓置庙焉。   洪武十五年八月寝疾。群臣请祷祀,求良医。后谓帝曰:“死生,命也,祷祀何益!且医何能活人!使服药不效,得毋以妾故而罪诸医乎?”疾亟,帝问所欲言。曰:“愿陛下求贤纳谏,慎终如始,子孙皆贤,臣民得所而已。”是月丙戌崩,年五十一。帝恸哭,遂不复立后。
  6. 《明史·卷一百十三·列传第一》:是月丙戌崩,年五十一。帝恸哭,遂不复立后。是年九月庚午葬孝陵,谥曰孝慈皇后。


ก่อนหน้า จักรพรรดินีหม่า ถัดไป
สมเด็จพระจักรพรรดินีฉี
(ราชวงศ์หยวน)
  จักรพรรดินีแห่งจีน
(ราชวงศ์หมิง)

  จักรพรรดินีเหรินเซี่ยวเหวิน