พายุเฮอริเคนอีตา
พายุเฮอริเคนอีตา (อังกฤษ: Hurricane Eta) เป็นเฮอริเคนที่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักในพื้นที่หลายแห่งของอเมริกากลางในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เอตาเป็นพายุหมุนที่ได้รับการตั้งชื่อลูกที่ยี่สิบแปด และเฮอริเคนลูกที่สิบสอง และเฮอริเคนใหญ่ลูกที่ห้าของฤดูเฮอริเคนแอตแลนติก พ.ศ. 2563 ซึ่งมีพายุเกิดขึ้นชุกเป็นประวัติการณ์ อีตามีต้นกำเนิดจากคลื่นเขตร้อนกำลังแรงในทะเลแคริบเบียนด้านตะวันออกเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม จากนั้นก่อตัวขึ้นเป็นระบบพายุอย่างรวดเร็วในที่ขณะเคลื่อนตัวไปทางตะวันตก และในที่สุดพายุหมุนก็กลายเป็นเฮอริเคนระดับ 4 ในวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยมีความเร็วลมสูงสุด 150 ไมล์ต่อชั่วโมง (240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)[1] นับเป็นเฮอริเคนแอตแลนติกที่ก่อตัวในเดือนพฤศจิกายนที่รุนแรงที่สุดเป็นอันดับสามเท่าที่มีการบันทึกไว้ พายุอ่อนกำลังเล็กน้อยขณะขึ้นฝั่งใกล้เมืองปูเอร์โตกาเบซัสของนิการากัวในคืนวันเดียวกันนั้นเอง อีตาอ่อนกำลังลงเป็นดีเปรสชันเขตร้อนอย่างรวดเร็วขณะเคลื่อนตัวตวัดผ่านอเมริกากลางเป็นเวลาสองวันก่อนจะเคลื่อนตัวลงทะเลไปทางทิศเหนือ ต่อมาพายุก่อตัวเป็นระบบอีกครั้งในทะเลแคริบเบียนขณะมุ่งหน้าสู่คิวบาในวันที่ 7 พฤศจิกายน[2][3][4] ในอีกห้าวันถัดมา พายุเคลื่อนตัวอย่างผิดปกติจากบาฮามาสกลับมาทางอ่าวเม็กซิโกตอนล่างด้วยระดับความรุนแรงที่ผันผวนมาตลอดทาง หลังจากเพิ่มกำลังกลับเป็นเฮอริเคนในช่วงสั้น ๆ อีตาก็อ่อนกำลังลงอีกครั้งและเคลื่อนตัวผ่านภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐในวันที่ 12 พฤศจิกายน[5] ในไม่ช้ามันก็กลายเป็นพายุหมุนนอกเขตร้อนและสลายตัวนอกชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐในวันรุ่งขึ้น
พายุเฮอริเคนระดับ 5 (SSHWS) | ||
---|---|---|
พายุเฮอริเคนอีตาก่อนทวีความรุนแรงสูงสุดทางทิศตะวันออกของนิการากัวในเช้าวันที่ 3 พฤศจิกายน
| ||
ก่อตัว | 31 ตุลาคม 2563 | |
สลายตัว | 14 พฤศจิกายน 2563 | |
ความเร็วลม สูงสุด |
| |
ความกดอากาศต่ำสุด | 920 มิลลิบาร์ (เฮกโตปาสกาล 27.17 นิ้วปรอท) | |
ผู้เสียชีวิต | ทั้งหมด 189 คน; สูญหาย 112 คน | |
ความเสียหาย | ≥ 6.593 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ค่าเงินปี 2563) | |
พื้นที่ได้รับ ผลกระทบ |
||
ส่วนหนึ่งของ ฤดูพายุเฮอริเคนแอตแลนติก พ.ศ. 2563 |
มีการออกมาตรการเฝ้าระวังและคำเตือนเกี่ยวกับเฮอริเคนและพายุโซนร้อนตามแนวชายฝั่งของฮอนดูรัสและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของนิการากัวเมื่ออีตาเคลื่อนตัวเข้าใกล้ ผู้คนมากกว่า 10,000 คนต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงในปูเอร์โตกาเบซัสและหมู่บ้านรอบ ๆ[6] ในปูเอร์โตกาเบซัส ลมพายุได้ทำให้ต้นไม้หักโค่น สายไฟขาด หลังคาปลิวหรือเสียหาย ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้มีฝนตกหนักจนน้ำท่วม[7] โดยรวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากพายุอย่างน้อย 178 คนในอเมริกากลาง แบ่งเป็น 74 คนในฮอนดูรัส, 53 คนในกัวเตมาลา, 27 คนในเม็กซิโก, 19 คนในปานามา, 2 คนในนิการากัว, 2 คนในคอสตาริกา และ 1 คนในเอลซัลวาดอร์ เมื่อระบบพายุเริ่มก่อตัวอีกครั้งในทะเลแคริบเบียน มีการออกมาตรการเฝ้าระวังพายุโซนร้อนเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนในหมู่เกาะเคย์แมน[8] และมีการออกมาตรการเฝ้าระวังเพิ่มเติมในพื้นที่บางส่วนของคิวบา[9] ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของบาฮามาส[10] และภาคใต้ของฟลอริดา[11] อีตานำพาฝนปริมาณมากและลมกระโชกแรงมายังหมู่เกาะเคย์แมนและคิวบาซึ่งกำลังรับมือกับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งอยู่แล้ว[12] มีบันทึกฝนตกหนักและลมพายุโซนร้อนทั่วฟลอริดาคีส์รวมทั้งภาคใต้และภาคกลางตอนล่างของฟลอริดา ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมอย่างกว้างขวาง การเคลื่อนขึ้นฝั่งครั้งที่สามของอีตาทำให้เกิดน้ำขึ้นจากพายุและลมกระโชกแรงทางชายฝั่งตะวันตกของภาคกลางของฟลอริดา และทำให้มีฝนตกเพิ่มในภาคเหนือของฟลอริดา มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคนจากการถูกไฟฟ้าดูดในน้ำท่วมที่รัฐนี้[13][14] ความชื้นจากพายุยังรวมกับแนวปะทะอากาศเย็นทางเหนือก่อให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันในเซาท์แคโรไลนา นอร์ทแคโรไลนา และเวอร์จิเนีย คร่าชีวิตผู้คนอีก 5 คนในรัฐทั้งสาม โดยรวมแล้วมีผู้เสียชีวิต 11 คนเนื่องจากอีตาในสหรัฐ
ความพยายามบรรเทาทุกข์ต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอีตาเป็นไปอย่างกว้างขวางและแพร่หลายโดยเกี่ยวข้องกับหลายประเทศ ประมาณ 2.5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากพายุ โดย 1.7 ล้านคนจากจำนวนนี้อยู่ในฮอนดูรัส[15] มีการวางแผนส่งหน่วยรับมือเหตุฉุกเฉินหลายหน่วยจากทั่วโลกเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ศูนย์ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศในปานามาส่งมอบอาหารและสิ่งของประมาณ 98 ตันให้แก่นิการากัวและฮอนดูรัส ผู้คนไร้บ้านถูกย้ายไปตามศูนย์พักพิงต่าง ๆ หลังจากพายุได้พัดผ่านไป มีการมอบเงินบริจาคมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ประเทศที่ได้รับผลกระทบเพื่อช่วยฟื้นฟูความเสียหาย อย่างไรก็ตาม อีกเพียงสองสัปดาห์ถัดมา เฮอริเคนไอโอตาก็เข้ามาเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อความพยายามเหล่านี้[16][17]
อ้างอิง แก้
- ↑ Stacy Stewart (November 3, 2020). Hurricane Eta Discussion Number 10 (Report). National Hurricane Center. สืบค้นเมื่อ November 3, 2020.; Doyle Rice (November 2, 2020). "Hurricane Eta gaining historic strength, may be Category 5 when it hits Central America. Deadly landslides, flooding possible". USA TODAY. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 3, 2020. สืบค้นเมื่อ November 3, 2020.
- ↑ "Tropical Depression Eta Advisory Number 25". www.nhc.noaa.gov. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Tropical Storm Eta Advisory Number 28". www.nhc.noaa.gov. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Tropical Storm Eta Discussion Number". www.nhc.noaa.gov. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Tropical Storm Eta Intermediate Advisory Number 49A". www.nhc.noaa.gov. November 12, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 15, 2020. สืบค้นเมื่อ 12 November 2020.
- ↑ Travis Fedschun (November 3, 2020). "Hurricane Eta roars toward Nicaragua as Category 4, 'extremely dangerous' storm". foxnews.com. Fox News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 3, 2020. สืบค้นเมื่อ November 3, 2020.
- ↑ "Hurricane Eta pounds Nicaragua as Category 4 storm". cnbc.com. CNBC. Reuters. November 3, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 3, 2020. สืบค้นเมื่อ November 3, 2020.; Anthony Harrup (November 3, 2020). "Hurricane Eta Edges Closer to Nicaragua as a Category 4". wsj.com. Wall Street Journal. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 3, 2020. สืบค้นเมื่อ November 3, 2020.
- ↑ "Eta Prompts Tropical Storm Warnings - WeatherNation". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 6, 2020.
- ↑ Radio América (November 2, 2020). "Huracán ETA amenaza Honduras y ahora es categoría 4". radioamerica.hn (ภาษาสเปน). Honduras. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 2, 2020. สืบค้นเมื่อ November 2, 2020.
- ↑ "Tropical Depression Eta Advisory Number 26". www.nhc.noaa.gov. November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์) - ↑ "Archived copy". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 7, 2020. สืบค้นเมื่อ November 7, 2020.
{{cite web}}
: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์) - ↑ "Eta Death Toll Climbs Over 130 in Central America as Search for Landslide Victims Continues | The Weather Channel - Articles from The Weather Channel | weather.com". The Weather Channel. สืบค้นเมื่อ 9 November 2020.
- ↑ Young, Mark (November 12, 2020). "Manatee dries out after Tropical Storm Eta delivers heavy rain and fatal storm surge". Bradenton Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 15, 2020. สืบค้นเมื่อ November 12, 2020.
- ↑ Kuizon, Kimberly (2020-11-11). "1 dead from electrocution, firefighter injured in Bradenton Beach as Eta floods coast". FOX 13 News (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 15, 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-11-12.
- ↑ "Red Cross launches massive, multi-country operation as horror of Hurricane Eta emerges". ReliefWeb. International Federation of Red Cross and Red Crescent Societies. November 10, 2020. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 15, 2020. สืบค้นเมื่อ November 10, 2020.
- ↑ Emily Shapiro, Max Golembo (November 17, 2020). "Record-breaking Hurricane Iota to bring dangerous flooding to Central America". abcnews.go.com. ABC News. สืบค้นเมื่อ November 17, 2020.
- ↑ "Hurricane IOTA". www.nhc.noaa.gov. สืบค้นเมื่อ 17 November 2020.