พันธ์ หรือ แหล่ สายทอง (30 มีนาคม พ.ศ. 2508 - 21 มิถุนายน พ.ศ. 2542) เป็นผู้ต้องโทษประหารชีวิตคนที่ 283 ของประเทศไทยด้วยการยิงเป้า[1] เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2542 ในความผิดฐานข่มขืนและสังหารเด็กหญิงอายุ 5 ขวบในห้องน้ำของโรงเรียนเมื่อ พ.ศ. 2539 ซึ่งเขาถูกประหารชีวิตพร้อมกับนาย สำรวย โตสุข ในความผิดฐานใช้มีดสังหารเจ้าอาวาสเพื่อชิงทรัพย์ในจังหวัดสิงห์บุรีเมื่อ พ.ศ. 2537[2]

พันธ์ สายทอง
แหล่ สายทอง
เกิด30 มีนาคม พ.ศ. 2508
อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
เสียชีวิต21 มิถุนายน พ.ศ. 2542 (34 ปี)
เรือนจำกลางบางขวาง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ประเทศไทย
สาเหตุเสียชีวิตประหารชีวิตด้วยการยิง
สัญชาติไทย
อาชีพคนงานก่อสร้าง
มีชื่อเสียงจากการฆาตกรรมและข่มขืนเด็กหญิงอายุ 5 ขวบในห้องน้ำของโรงเรียน
สถานะทางคดีถูกประหารชีวิต
พิพากษาลงโทษฐาน
  • ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกินสิบสามปี มาตรา 277 วรรคสอง
  • ฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้ายหรือทรมานเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน มาตรา 289 (5) และ (7)
ข้อหาฆาตกรรมและข่มขืน
บทลงโทษประหารชีวิต (18 กรกฏาคม พ.ศ. 2539)
สถานะการจับกุม
ถูกจับกุม
รายละเอียด
ผู้เสียหายเด็กหญิง สุพรรณษา เชิดชู อายุ 5 ขวบ
วันที่5 กรกฏาคม พ.ศ. 2539
ประเทศประเทศไทย
รัฐกรุงเทพมหานคร
ตำแหน่งห้องน้ำของโรงเรียนวัดรวก ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด
ตาย1
วันที่ถูกจับ
6 กรกฏาคม พ.ศ. 2539
จำคุกที่เรือนจำกลางบางขวาง

ประวัติ แก้

ถิ่นที่อยู่เดิมของเขา เขาเป็นคนห้วยแถลง ต่อมาได้เขาย้ายตามครอบครัวมาอยู่ที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เขาถูกจับกุมครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2527 ในขณะที่เขาอายุ 19 ปี ในขณะที่เขาอยู่ในคุกเขาชอบอ่านหนังสือดาราภาพยนตร์ ทุกครั้งที่อ่านหนังสือดาราภาพยนตร์เขาจะเฝ้ามองแต่รูปนางเอกที่ชื่อว่าสุพรรษา เนื่องภิรมย์[3]เขาเคยถูกจับกุมและติดคุกในหลายข้อหาเช่นลักทรัพย์ ซ่องโจรและยาเสพติด โดยในคดีล่าสุดซึ่งเป็นคดียาเสพติดเขาได้รับอภัยโทษเนื่องในโอกาสการครบรอบ 50 ปีของการเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรทำให้เขาพ้นโทษออกจากเรือนจำในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2539[4][5]

การฆาตกรรม แก้

วันที่ 5 กรกฏาคม พ.ศ. 2539 ได้มีคนพบศพของเด็กหญิงสุพรรษณา เชิดชู อายุ 5 ขวบนักเรียนโรงเรียนอนุบาล ในห้องน้ำของโรงเรียนวัดรวกในสภาพช่วงล่างเปลือยเปล่าและคอถูกบีบจนเขียวช้ำโดยพบคราบอสุจิและขนเพชรติดอยู่และมีร่องรอยของการถูกข่มขืน[6][7][8]

การจับกุมและการสืบสวน แก้

เขาถูกจับกุมในข้อหาซ่องโจรในวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2539[9]โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจบางพลัดได้รับการประสานจากสถานีตำรวจชนะสงครามให้ไปดูตัวเขาซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีซ่องโจรเพราะสงสัยว่าเขาเป็นฆาตกรฆ่าข่มขืนเด็กหญิงสุพรรณษา เชิดชูซึ่งสถานีตำรวจบางพลัดต้องการตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจบางพลัดได้นำพยานมาชี้ตัวเขาซึ่งพยานสามารถชี้ตัวเขาได้ถูกต้องทุกคน[10]ในวันถัดมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำขนเพชรและอสุจิของเขาไปพิสูจน์ในการแพทย์ ในการสอบสวนครั้งแรกเขาได้ให้การปฎิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหาหลังจากการสอบสวนครั้งแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ชี้ตัวคนร้ายอีกครั้งต่อหน้านักข่าวซึ่งพยานก็สามารถชี้ตัวเขาได้ถูกต้องทุกคน จึงมาการสอบสวนเพิ่มเติมแต่เขาก็ให้การปฎิเสธ ในวันถัดมา (8 กรกฎาคม) เขาได้รับสารภาพว่าเขาคือคนร้าย โดยเขาได้ให้การว่าเขาได้ไปเข้าห้องน้ำของโรงเรียนที่เกิดเหตุแล้วเหลือบไปเห็นป้ายชื่อของเด็กหญิงสุพรรณษาที่เขียนว่าสุพรรษณาทำให้เขาเกิดอารมณ์ทางเพศ ก่อนข่มขืนพร้อมกับใช้มือขวากดที่ลำคอเพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้อง หลังจากเธอไม่มีเสียงร้องแล้ว เขาจึงเอามือออกจากลำคอ แต่มือกับเท้าของเธอยังขยับอยู่ จึงใช้มือวักน้ำจากอ่างน้ำในห้องน้ำมารดที่จมูกและปากจนเธอเสียชีวิต[11] ในวันถัดมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเขาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหลังจากทำแผนเสร็จ ผลการตรวจเปรียบเทียบพันธุกรรมออกมาว่าขนเพชรและน้ำอสุจิที่พบในตัวของศพตรงกับเขา[12]

การพิจารณาคดีและคำตัดสิน แก้

ศาลชั้นต้นได้ตัดสินประหารชีวิตเขาเมื่อวันที่ 18 กรกฏาคม พ.ศ. 2539 แล้วย้ายตัวเขาไปยังเรือนจำกลางบางขวาง[13]เขาได้ใช้สิทธิ์ขอยื่นอุทธรณ์ แต่ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนประหารชีวิตตามศาลชั้นต้น หลังจากนั้นเขาได้ใช้สิทธิ์ขอยื่นฎีกา แต่ศาลฎีกาได้พิพากษายืนประหารชีวิตตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เขาจึงถวายฎีกาทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ[14]กระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาหนังสือถวายฎีกาของเขา โดยมีความเห็นให้ยกฎีกาเนื่องจากได้รับอภัยโทษไม่นานก็กระทำความผิดซ้ำ[15]

การประหารชีวิต แก้

ในวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2542 เวลา 16.10 น. เจ้าหน้าได้เบิกตัวเขาจากห้องขังเพื่อนำตัวไปประหารชีวิตซึ่งเขาออกจากห้องขังโดยไม่มีการขัดขืน พี่เลี้ยงนักโทษประหารได้ถามเขาว่าได้ก่อคดีจริงไหมเขาได้ส่ายหัวปฎิเสธ หลังจากพิมพ์ลายนิ้วมือของสำรวย โตสุขเจ้าหน้าทีตำรวจที่พิมพ์ลายนิ้วมือเขาได้ถามว่าได้ก่อคดีจริงไหมเขาได้ว่าจริงแต่สักสักพักก็บอกว่าไม่จริง แล้วพี่เลี้ยงได้ถามว่าได้ก่อเหตุจริงไหมเขาได้พูดว่าจริงไม่จริง วนไปมา หลังจากนั้นพี่เลี้ยงได้ยกอาหารมื้อสุดท้ายซึ่งเป็นแกงเขียวหวานไก่ ข้าวเปล่า ส้มเขียวหวาน น้ำเปล่า และบุหรี่ ซึ่งเขากินไป 4 - 5 คำแล้ววางจึงช้อนลงแล้วหันมาพูดกับพี่เลี้ยงว่า "อยากกินแกงส้มกับเนื้อเค็มทอด" ซึ่งพี่เลี้ยงได้ถามพันธ์ไปว่าจะกินเลยไหม เดี๋ยวจัดหามาให้ แต่เขาได้บอกว่า "ยังไม่ต้อง อิ่มแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้" หลังจากนั้นพี่เลี้ยงได้นำเขาและสำรวยไปฟังเทศน์ หลังจากนั้นได้นำสำรวยไปประหารชีวิตโดยเพชรฆาต หลังจากการประหารชีวิตสำรวยเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงสองนายได้พูดคุยกันเสียงดังเกี่ยวกับการประหารชีวิตสำรวย หลังจากเขาได้ยินเขาก็มีอาการขัดขืนจะไม่ไปที่ห้องประหาร เมื่อมาถึงศาลาเย็นใจเขาได้ขัดขืนไม่ให้นำดอกไม้ธูปเทียนใส่มือและผูกผ้าปิดตา พี่เลี้ยงได้ใส่กุญแจมือเขาได้พยายามใช้ปากกัดและถ่มน้ำลายใส่เจ้าหน้าที่ เมื่อนำเขามาถึงห้องประหารเขาถูกตรึงกับหลักประหารชีวิตในหลักที่ 1 ซึ่งเป็นหลักที่ประหารชีวิตสำรวยและมีเลือดของสำรวยติดอยู่ ในขณะที่นำเขาไปมัดกับหลักประหารเขาได้นำผ้าปิดตาออกทำให้เห็นเลือดที่ติดอยู่กับหลักประหารทำให้เขาดิ้นขัดขืน เขาได้ถ่มน้ำลายใส่พี่เลี้ยงนำเขามัดกับหลักประหาร หลังจากมัดเขากับหลักประหารสำเร็จ เพชรฆาตได้เหนี่ยวไกปืนประหารชีวิตเมื่อเวลา 18.45 น. โดยใช้กระสุนจำนวน 9 นัด หลังการประหารชีวิตเขาได้ร้องเสียงครางเบา ๆ เป็นเวลา 1 นาทีหลังแล้วเงียบเสียงไป หลังจากการประหารชีวิต 3 นาทีพี่เลี้ยงและแพทย์ได้ตรวจสอบร่างของเขาและยืนยันว่าเขาเสียชีวิตก่อนปลดเขาออกจากหลักประหารแล้วนำศพของเขาคว่ำหน้าไว้ ก่อนนำศพของเขาไปพิมพ์ลายนิ้วมือ ในวันถัดมานักโทษซึ่งเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานได้ตัดตรวนที่ขาของเขากับสำรวยออกแล้วอาบน้ำกับเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ก่อนบรรจุลงไปในโลงศพ แล้วนำศพของทั้งสองออกไปทางประตูเเดงของวัดบางแพรกใต้ ก่อนนำศพของทั้งสองไปเก็บที่ช่องเก็บศพนักโทษประหาร แล้วโบกปูนและเขียนชื่อของนักโทษที่ถูกประหารชีวิตไว้ด้านหน้าของช่องเก็บศพ[16][17][18][19][20]

ดูเพิ่ม แก้

อ้างอิง แก้

  1. "พันธุ์-สายทอง-ผู้มีนางเอกในดวงใจ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-25. สืบค้นเมื่อ 2022-10-25.
  2. ON JUNE 21, PHAN SAITHONG, 34, AND SAMRUAY TOSUK, 41,...
  3. "พันธ์ สายทองผู้มีนางเอกในดวงใจ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-25. สืบค้นเมื่อ 2022-10-25.
  4. Thai convict to die for schoolgirl killing
  5. ย้อนรอย 5 นักโทษประหาร คดีข่มขืน-ฆ่า
  6. โทษประหารจากมีดบั่นคอ ปืนยิง สู่ฉีดยาให้ตาย นักโทษคนที่ 7
  7. Only five rapists executed in recent Thai history
  8. พลิกแฟ้ม5นักโทษประหารคดีฆ่าข่มขืน
  9. สะเทือนใจ! ข่มขืนฆ่า4ขวบ คาห้องน้ำโรงเรียน | เปิดแฟ้มคดีดัง
  10. เปิดแฟ้ม 5 คดี ฆาตกามโฉด ‘ฆ่า-ข่มขืน’ สะเทือนสังคม
  11. Thai convict to die for schoolgirl killing
  12. "พันธุ์ สายทองผู้มีนางเอกในดวงใจ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-25. สืบค้นเมื่อ 2022-10-25.
  13. Thai convict to die for schoolgirl killing
  14. "พันธุ์ สายทองผู้มีนางเอกในดวงใจ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-25. สืบค้นเมื่อ 2022-10-25.
  15. 5 คดี ฆาตกามโฉด ‘ฆ่า-ข่มขืน’ สะเทือนสังคม
  16. "พันธุ์ สายทองผู้มีนางเอกในดวงใจ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-10-25. สืบค้นเมื่อ 2022-10-25.
  17. 5 คดี ฆาตกามโฉด ‘ฆ่า-ข่มขืน’ สะเทือนสังคม
  18. สะเทือนใจ! ข่มขืนฆ่า4ขวบ คาห้องน้ำโรงเรียน | เปิดแฟ้มคดีดัง
  19. ON JUNE 21, PHAN SAITHONG, 34, AND SAMRUAY TOSUK, 41,...
  20. Two Thais executed by machine gun fire
ก่อนหน้า
สมศักดิ์ พรนารายณ์ หรือ
ศักดิ์สิทธิ์ คำใส
บุคคลที่ถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าในประเทศไทย
สำรวย โตสุข และ พันธ์ สายทอง
ถัดไป
เดชา สุวรรณสุก