ปอเฉียม
ปอเฉียม[b], หูเยียบ[c], อุเยียม[d] หรือ หูเหยียม[e] (เสียชีวิตช่วงปลาย ค.ศ. 263) มีชื่อในภาษาจีนกลางว่า ฟู่ เชียน (จีน: 傅僉; พินอิน: Fù Qiān) เป็นขุนพลของรัฐจ๊กก๊กในสามก๊กของจีน เป็นบุตรชายของเปาเตียว (傅肜 ฟู่ หรง)
ปอเฉียม (ฟู่ เชียน) | |
---|---|
傅僉 | |
ภาพวาดปอเฉียมสมัยราชวงศ์ชิง | |
แม่ทัพภูมิภาคกวนต๋ง (關中都督 กวานจงตูตู) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. ? – ค.ศ. 263 | |
กษัตริย์ | เล่าเสี้ยน |
ขุนพลราชองครักษ์ฝ่ายซ้าย (左中郎將 จั่วจงหลางเจี้ยง) | |
ดำรงตำแหน่ง ค.ศ. ? – ค.ศ. ? | |
กษัตริย์ | เล่าเสี้ยน |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | ไม่ทราบ[a] นครซิ่นหยาง มณฑลเหอหนาน |
เสียชีวิต | ค.ศ. 263 อำเภอหนิงเฉียง มณฑลฉ่านซี |
บุตร |
|
บุพการี |
|
อาชีพ | ขุนพล |
ประวัติ
แก้ปอเฉียมเป็นชาวเมืองงีหยง (義陽郡 อี้หยางจฺวิ้น) ซึ่งปัจจุบันคือนครซิ่นหยาง มณฑลเหอหนาน บิดาของปอเฉียมคือเปาเตียว ถูกสังหารในที่รบระหว่างยุทธการที่อิเหลงซึ่งรบกับทัพของซุนกวนในปี ค.ศ. 222 ปอเฉียมได้สืบทอดบรรดาศักดิ์ของบิดาและรับราชการกับจ๊กก๊กในตำแหน่งขุนพลราชองครักษ์ฝ่ายซ้าย (左中郎將 จั่วจงหลางเจี้ยง) ก่อนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพภูมิภาค (都督 ตูตู) ของภูมิภาคกวนต๋ง (關中 กวานจง)[11]
ปลายปี ค.ศ. 263 ระหว่างการรบระหว่างจ๊กก๊กและวุยก๊กที่เป็นรัฐอริ ปอเฉียมถูกส่งไปรบต้านข้าศึก ในเวลานั้นผู้คนจำนวนมากยกย่องปอเฉียมและบิดาว่าเป็น "ผู้ภักดีและเที่ยงธรรมมาหลายรุ่น" (奕世忠義 อี้ชื่อจงอี้)[12] ปอเฉียมได้รับมอบหมายให้ป้องกันด่านเองเปงก๋วน (陽平關 หยางผิงกวาน) ส่วนเจียวสี (蔣舒 เจี่ยง ชู) ถูกส่งไปรบกับข้าศึก แต่เจียวสียอมจำนนต่อข้าศึกโดยการเปิดประตูด่านและปล่อยให้ข้าศึกเข้ามา เฮาเหลก (胡烈 หู เลี่ย) ขุนพลวุยก๊กนำกำลังพลเข้าโจมตีที่ตั้งของปอเฉียม ในที่สุดปอเฉียมจึงถูกสังหารหลังพยายามขับไล่ข้าศึกแต่ไม่เป็นผล[13]
ครอบครัว
แก้บุตรชายปอเฉียมคือฟู่ จู้ (傅著) และฟู่ มู่ (傅募) ได้เข้ารับราชการกับราชวงศ์จิ้น หลังมีฎีกาที่เขียนโดยเหวิน ลี่ (文立) ทูลเสนอกับสุมาเอี๋ยนให้ปฏิบัติต่อทายาทของอดีตข้าราชการของจ๊กก๊กอย่างมีเมตตา
ในนิยายสามก๊ก
แก้ในนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ที่ประพันธ์ในคริสต์ศตวรรษ์ที่ 14 เรื่องสามก๊ก' (ซานกั๋วเหยี่ยนอี้) ปอเฉิยมเป็นขุนพลในสังกัดของเกียงอุยที่เกียงอุยไว้วางใจ หลังการโจมตีของทัพวุยก๊กที่ด่านเองเปงก๋วน ปอเฉียมป้องกันด่านอย่างสุดความสามารถ แต่ในที่สุดเจียวสี (蔣舒 เจี่ยง ชู) ที่เป็นนายทหารด้วยกันก็ยอมจำนนต่อข้าศึก ทำให้ปอเฉียมเสียชีวิตระหว่างการสู้รบ[14]
ดูเพิ่ม
แก้หมายเหตุ
แก้- ↑ ไม่มีการบันทึกปีเกิดของปอเฉียม ส่วนเปาเตียวบิดาของปอเฉียมเสียชีวิตในปี ค.ศ. 222 และไม่มีการบันทึกว่าปอเฉียมที่บุตรชายที่เกิดหลังการเสียชีวิตของเปาเตียว ปอเฉียมจึงควรเกิดในปี ค.ศ. 222 หรือก่อนปี ค.ศ. 222
- ↑ ชื่อที่ปรากฏในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 83[1][2][3][4] และตอนที่ 84[5][6][7]
- ↑ ชื่อที่ปรากฏในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 84[8]
- ↑ ชื่อที่ปรากฏในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 85[9]
- ↑ ชื่อที่ปรากฏในสามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ตอนที่ 85[10]
อ้างอิง
แก้- ↑ ("เกียงอุยได้ฟังดังนั้นก็โกรธ ว่าท่านเจรจาดังนี้ไม่ชอบ เสียทีเกิดมาให้หนักแผ่นดินเสียเปล่า ตัวเรานี้พระเจ้าเล่าเสี้ยนชุบเลี้ยงมีพระคุณต่อเราเปนอันมาก เราจะทำราชการสนองพระคุณกว่าจะสิ้นชีวิต แล้วก็ทำเรื่องราวเข้ากราบทูลพระเจ้าเล่าเสี้ยน จัดแจงทหารให้ปอเฉียมกับเจียวฉีเปนทัพหน้า แล้วปรึกษาว่า เราจะไปทำการครั้งนี้จะตีเอาเมืองใดก่อนดี ปอเฉียมจึงว่า ขอให้ท่านยกไปเนินซินเฉียตีเมืองเตียงเสียตัดเอาสะเบียงสุมาเจียวเสียก่อน จึงรีบยกไปตีเอาเมืองจิวฉวนให้ได้ เมืองลกเอี๋ยงก็จะได้โดยง่าย") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๓". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 26, 2024.
- ↑ ("ปอเฉียมเห็นดังนั้นก็ชักม้าออกรบกับอองจิ๋นได้สามเพลง ปอเฉียมทำแพ้ชักม้าหนี อองจิ๋นควบม้าไล่ตามจะใกล้ทันก็เอาทวนพุ่งไป ปอเฉียมหลบแล้วกลับม้ามารวบจับตัวอองจิ๋นได้ ลิเพงเห็นดังนั้นก็โกรธ ควบม้าออกมาจะแก้อองจิ๋น ปอเฉียมเห็นลิเพงควบม้ามาถึง ก็เอาอองจิ๋นฟาดลงกับดิน แล้วควบม้าเข้าไปเอากระบองเหล็กตีลิเพงตกม้าตาย") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๓". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 26, 2024.
- ↑ ("ปอเฉียมจึงว่าแก่เกียงอุยว่า ข้าพเจ้าเห็นเตงงายจะลวงทำกลอุบายเปนมั่นคง หวังจะคอยทัพสุมาเจียวมาจึงจะรบตีเราเปนสามด้าน จำเราจะให้ทหารถือหนังสือไปเมืองกังตั๋ง ให้ซุนหลิมออกสกัดทางรบสุมาเจียวไว้ ") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๓". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 26, 2024.
- ↑ ("เกียงอุยก็จัดแจงกองทัพให้เลียวฮัวกับเตียวเอ๊กเปนกองหน้า ให้อองหำกับเจียวปินเปนปีกขวา ให้เจียวฉีกับปอเฉียมเปนปีกซ้าย ให้ออเจ๊กกับหัวสิบเปนกองหลัง ตัวเกียงอุยกับแฮหัวป๋าคุมทหารยี่สิบหมื่นเปนทัพหลวง") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๓". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 26, 2024.
- ↑ ("เกียงอุยเอาทหารสองพันมอบให้ปอเฉียมว่ากล่าว") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๔". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 26, 2024.
- ↑ ("เกียงอุยจึงให้ปอเฉียมคุมทหารสองพันเอาเกวียนร้อยเล่มบันทุกฟืนแลเชื้อเพลิงไปซุ่มอยู่ในหุบเขานั้น") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๔". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 26, 2024.
- ↑ ("ปอเฉียมก็ถือทวนควบม้าออกมาร้องว่า มึงแพ้รู้นายกูแล้วจะหนีไปไหนเล่า เร่งมาหาโดยดีกูจะมัดไปให้เกียงอุย") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๔". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 26, 2024.
- ↑ ("ครั้นเวลาเช้าเกียงอุยจึงให้หาขุนนางมาพร้อมกันว่า ซึ่งเตงงายยกกองทัพมาคืนนี้หาตั้งใจมารบเราไม่ แกล้งจะทำให้เราไว้ใจ บัดนี้ไปณค่ายเขากิสานแล้ว เราจะยกตามไปช่วยเตียวเอ๊กจึงจะได้ จึงสั่งหูเยียบให้คุมทหารอยู่รักษาค่าย ") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๔". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 26, 2024.
- ↑ ("เกียงอุยรับสั่งแล้วก็ลาไปเมืองฮันต๋ง จึงให้หาขุนนางทหารมาพร้อมกันแล้วว่า บัดนี้พระเจ้าเล่าเสี้ยนโปรดให้เรายกไปตั้งอยู่ตำบลหลงเส ให้ทำไร่นาฝึกสอนทหารให้ชำนาญ จงตระเตรียมตัวให้พร้อมกันแล้วเราจะยกไป ครั้นบอกทหารทั้งปวงแล้ว จึงให้เอาเจ้ไปอยู่รักษาเมืองเซียวเส ให้องเสียไปอยู่รักษาเมืองก๊กเสีย เจียวปีนไปอยู่รักษาเมืองฮั่นเสีย แล้วให้เอียวสีกับอุเยียมคุมทหารไปเปนกองตะเวนด่านทางทุกตำบล") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๕". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 26, 2024.
- ↑ ("ฝ่านหูเหยียมนายด่านแฮเบงก๋วน ครั้นรู้ข่าวว่ากองทัพยกมาจึงปรึกษาเจียวสีว่า ครั้งนี้เราจะคิดอ่านทำการต่อสู้กับข้าศึกอย่างไรจึงจะดี เจียวสีจึงว่า กองทัพเมืองวุยก๊กมาครั้งนี้เปนทัพใหญ่ ซึ่งจะออกต่อรบด้วยเขานั้นเห็นไม่ได้ จงตั้งมั่นรักษาตัวเราอยู่แต่ในค่ายเถิด 'หูเหยียมจึงว่า ซึ่งท่านจะให้ตั้งมั่นอยู่ในด่าน ข้าศึกจะมิรุกรานไปตีเอาเมืองฮันเสียแลเมืองก๊กเสียทั้งสองหัวเมืองนี้ได้หรือ ซึ่งท่านคิดนี้เราหาเห็นด้วยไม่ เจียวสีได้ฟังดังนั้นก็นิ่งอยู่มิได้ตอบคำ ขณะเมื่อหูเหยียมกับเจียวสีพูดกันอยู่นั้น พอทหารกองตะเวนมาบอกว่า บัดนี้กองทัพเมืองวุยก๊กตีมาถึงริมด่านแล้ว
หูเหยียมได้ยินดังนั้นก็ตกใจ จึงพาเจียวสีขึ้นไปดูบนหอรบ เห็นจงโฮยผู้แม่ทัพขี่ม้ายืนชี้แซ่ร้องมาว่า ให้ชาวด่านเร่งออกมาอยู่ด้วยเราเถิด เราจะเลี้ยงไว้เปนทหารปูนบำเหน็จจงมาก ถ้าขัดแขงมิออกมาเราตีด่านได้แล้ว จะตัดสีสะชาวด่านทั้งปวงเสีย หูเหยียมมีความโกรธนักจึงให้เจียวสีอยู่ในด่าน ส่วนตัวหูเหยียมนั้นคุมทหารสามพันโห่ร้องไล่ตีทัพจงโฮยออกมา ฝ่ายจงโฮยครั้นเห็นชาวด่านรุกออกมาดังนั้น จึงให้ทหารทั้งปวงรายกันออกเปนกอง ๆ แกล้งทำเปนแตกหนี หูเหยียมเห็นดังนั้นก็ดีใจเร่งยกทหารตีออกมา จงโฮยเห็นได้ทีก็โบกธงให้ทหารเข้าตีกระหนาบพร้อมกัน หูเหยียมมิอาจที่จะสู้ได้ก็แตกหนีเข้าในด่าน
ฝ่ายเจียวสีเห็นหูเหยียมแตกกลับมาดังนั้นจึงให้ปิดประตูด่านเสีย แล้วร้องว่ากับหูเหยียมออกไปว่า บัดนี้เราเข้าแก่ข้าศึกแล้ว ท่านอย่ากลับเข้ามาอยู่ในด่านกับเราเลย หูเหยียมเห็นเจียวสีให้ปิดประตูด่านไว้แล้วร้องว่าออกมาดังนั้นก็โกรธ จึงร้องด่าเข้าไปว่าอ้ายขบถไม่คิดถึงคุณเจ้าแผ่นดิน มึงหาเปนชาติทหารไม่ ว่าแล้วก็กลับทหารเข้าต่อสู้กับจงโฮย ครั้นเห็นทหารอิดโรยจึงทอดใจใหญ่แล้วว่า เมื่อเรามีชีวิตอยู่ได้เปนข้าพระเจ้าเล่าเสี้ยน ถ้าเราหาชีวิตไม่แล้วจะขอเปนผีอยู่ในเมืองพระเจ้าเล่าเสี้ยน ครั้นว่าดังนั้นแล้วก็เอาทวนแทงตัวเข้าตาย") "สามก๊ก ตอนที่ ๘๕". วัชรญาณ. สืบค้นเมื่อ August 26, 2024. - ↑ (拜子僉為左中郎,後為關中都督) สามก๊กจี่ เล่มที่ 45
- ↑ (景耀六年,又臨危授命。論者嘉其父子奕世忠義。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 45
- ↑ (鐘會攻圍漢、樂二城,遣別將進攻關口,蔣舒開城出降,傅僉格鬥而死。) สามก๊กจี่ เล่มที่ 44
- ↑ สามก๊ก ตอนที่ 112-116.